เข้าถึงธาตุรู้ครังแรกยังเห็นว่าเรารู้ แท้จริงแล้วรู้ไม่ใช่เรารู้ แท้จริงแค่รู้

สวัดดีครับอาจารย์

สาธุ สาธุ สาธุอนุโมทนาในธรรม อาตมาพึ่งมาเจอคลิปโยมหลังจากศึกษามาสองสามปี ก็มีโยมนี่แหละที่อธิบายธรรมได้เข้าใจง่ายขึ้น ขอให้เจริญในธรรม เป็นแก้วรัตนะ5ต่อไปเพื่อผู้มืดบอดจะได้สว่างในธรรม สาธุ

กราบสาธุครับผม

ชัดเจนจริงหนอแจ่มแจ้งจริงหนอกราบสาธุๆ

กราบสาธุครับ🙏🙏🙏

ชัดเจนจริงหนอแจ่มแจ้งจริงหนอกราบสาธุๆ

🙏🙏🙏ครับ

ชัดเจนจริงหนอแจ่มแจ้งจริงหนอกราบสาธุๆ

ชัดเจนจริงหนอแจ่มแจ้งจริงหนอกราบสาธุๆ

ชัดเจนหนอแจ่มแจ้งหนอ กราบสาธุๆ

กราบสาธุๆชัดเจนหนอแต่มแจ้งจริงหนอสาธุๆ

ขอบพระคุณอาจารย์มากๆเลยค่ะ😊😊😊

🙏กราบสวัสดี อาจารย์ค่ะ 🌹

ดูอาจารย์แล้วเพิ่งรู้สึกว่าศาสนามีจริงมีการเรียนรู้จริง รู้ลึก สมควรค่าแก่การนับถือเพิ่มขึ้นจริงๆค่ะ ก่อนหน้านี้รู้สึกว่า ศาสนาฌดยเฉพาะพุทธเป็นช่องว่างให้คนบางกลุ่มมาหลอกแดกข้าวชาวบ้านฟรีกับมั่วผู้หญิง สูบยา บางคนติดคดีความก็มากองเกาะอยู่กับศาสนา ใส่ชุดขาวหลอกคน เต็มที่ก อวดรวยทำบุญ เอาสลิปคอยโชว์ถ่ายรูปอวดแสดง มาเชิดใส่เจ้าของเงิน ทำฟอร์มเป็นคนดี ทั้งที่จริงๆพวกมันก็คือมิจฉาชีพ ดีๆนี่เอง แล้วชาวบ้านที่สุจริตไม่รู้เรื่องนอกจากต้องไหว้มันแล้วยังเอาเงินใส่ซอง ให้มันด้วย ดูหนังเน็ตฟลิกเรื่อง สาธุ จะเข้าใจ

สาธุ ครับ.😊😊😊 ❤❤❤🎉🎉

❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤😂😢😮😅😊

สาธุ ครับ

ขอบคุณค่ะอาจารย์

จะพบจิตได้อย่างไรคะ

ไม่มีอะไร บรรลุอะไร อ.อริยเจ้า

การสร้างบารมีขึ้นอยู่กับจิตเราปรารถนาจะไปเป็นอะไร คือเป็นพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพระพุทธเจ้า อัครสาวกซ้ายขวา หรือพระมหาสาวก หรือสาวกธรรมดาที่เอาแค่ตัวเองหลุดพ้น..ไปเท่านั้นไม่ต้องมีอภิญญาปฏิสัมภิทาไตรวิชชาอะไรเลยหลุดพ้นด้วยตนเองเฉยๆสั่งสอนใครก็ไม่ได้..และระยะเวลาการสร้างถ้าคิดจะเป็นพระพุทธเจ้าต้องสร้างเริ่มตั้งแต่4 สงไขย-16อสงไขยแสนกัลป์ถ้าอยากเป็นแค่พระปัจเจกพระพุทธเจ้าก็สร้างบารมีแค่2อสงไขยแสนกัลป์ถ้าอยากเป็นอัครสาวกมหาสาวกบารีเต็มก็สร้างเวลาเท่ากับพระปัจเจกพระพุทธเจ้า และถ้าเป็นสาวกธรรมดาๆก็สร้างบารมีแค่แสนกัลป์ บารมี 10 ที่ต้องสร้างให้ครบคือ1ทาน 2ศีล 3เนกขัมมะ 4ปัญญา 5วิริยะ 6ขันติ 7สัจจะ 8อธิฐาน 9เมตตา 10อุเบกขา แล้วต้องสร้างให้ครบกำหนดเวลาด้วยจึงจะหลุดพ้นได้จากวัฎฏะวนนี้และก็เป็นลำดับๆของปารสร้างคือปัญญาธิกะ สัทธาธิกะ และวิริยาธิกะ..ตามต้องการมันไม่ใช่แค่ฟังๆธรรมแล้วไปปฏิบัติมันจะหลุดพ้นได้เร็ววันเหมือนที่สอนๆกันเหมือนในปัจจุบันที่สอนกันดาษดื่นนี้..ซึ่งจะบอกว่าศาสนาพุทธไม่มีคำว่าทางลัด..ใดๆ..แต่ศาสนาพุทธสอนให้ถึงนิพพานลัดสุดยอดแล้วแต่ต้องตามเวลาที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้เท่านั้น..ไม่มีทางอื่นเลย..และต้องเรียนและเพียรสร้างตามลำดับๆให้เต็มด้วยมิฉะนั้นหลงทางเสียเวลา..อย่าเชื่อ...ใครง่ายๆ..เรียนรู้อ่านพระไตรปิฎกให้ได้ครบทุกหัวข้อ..ถ้าสงสัยอะไรไปหาครูอาจารย์ที่ท่านมีความรู้ครบ คืออภิญญา ไตรวิชชา ปฏิสัมภิทา..ให้ความรู้เราได้อย่างกรเจ่างแจ้งทุกหัวข้อที่เราสงสัย..ปัญหานั้น..ท่านจะตอบแบบเราจนมุมหมดคำถามทุกประการ..แล้วมาย้อนดูตัวเองว่าแค่บารมีข้อแรกยังไม่ผ่านเลย..ชาตินี้คงได้แค่นี้แหละเรื่องทานไง...วันนี้ท่านสามารถสละอะไรแบบสุดๆหรือยัง..ก็ดูตย.พระเวสสันดร..พระชาติสุดท้ายต้องสละทุกสิ่งอย่าง..แล้วเราหละสละอะไรได้บ้าง..ดูตย.ในยุคปัจจุบันแม้พวกภิกษุสมัยนี้เอาก็ได้..สละบวช..แต่หาข้าวของมาให้รกเต็มวัด...แล้วสอนโยมให้สละเยอะๆ...บ้ากันหมดประเทศแล้วชาวพุทธ.....เพราะฉะนั้นศึกษาคำสอนให้ไดเยอะที่สุดแล้วพิจารณาเอาเอง..ว่าสิ่งไหนถูกผิดควรหรือไม่ควร..อย่าเชื่อใครถ้าไม่ได้สัมผัสด้วยตนเองจะปลอดภัยไปอึกหนึ่งชาติ..จะหาหนทางพ้นทุกข์..ไม่มีทางเพราะทุกข์นั้นอยู่กับเราตลอดเวลาแต่เราจะอยู่กับทุกข์อย่างไรให้เป็นสุขได้เท่านั้นเองก็วางทุกข์เราก็สุขแล้วไงงงง

มีและไม่มีก็คือสิ่งเดียวกัน สังคตและอสังคตธรรม ก็เหรียญสองด้าน มีอยู่เกิดดับหมุนเวียนด้วยกันตลอด แต่ไม่ปนกัน interdependent ตาม condition สาธุค่ะะ

กราบสวัสดีท่านอาจารย์ครับ ได้ค้ความรู้มากมายไม่ต้องไปหาที่ไหนอีกแล้วครับสำหรับผู้ที่สนใจทางนี้ครับ

กราบสวัสดีค่ะ ท่านอาจารย์ ทวีศักดิ์ 🙏🙏🙏

สาธุค่ะ

ภาพประกอบ 1 facebook.com/photo.php?fbid=805786628333007&set=p.805786628333007&type=3 ..... ภาพประกอบ 2 facebook.com/photo.php?fbid=805786858332984&set=p.805786858332984&type=3

❤🙏🌈ขอบพระคุณคะอาจารย์ฟังอาจารยแล้วละเอียดมากผสมผสานรากศัพยที่เข้าใจท่องแท้คะ😊

ขอขอบคุณ

กราบขอบพระคุณด้วยใจที่เคารพยิ่ง 🙏🙏🙏 อาจารย์เป็นผู้ที่รู้แจ้งและรู้จริง เป็นผู้ที่เห็นธรรมอย่างแท้จริง

เย็นพอ ว่างพอ อ.อริยเจ้า❤

กราบสาธุๆ

❤

ถามเก่ง😂

จะเข้าถึงสุญญตาได้ต้องเจริญสติ ข้อสังเกตเกี่ยวกับคำว่า“สติ” 1 คำแปลของสติคือ“การระลึกรู้” 2 ผู้ที่ระลึกรู้คือ“จิตผู้รู้” 3 สิ่งที่เราระลึกรู้ได้มีสามประการคือ 3.1รู้วัตถุนอกตัวเรา เมื่อระลึกรู้แล้ว จะรู้จักว่าอะไรเป็นอะไรตามความสำคัญมั่นหมายของสังคม ช่วยให้การดำเนินชีวิตราบรื่น เป็นไปตามความต้องการของเรา(ส่วนใหญ่คือรู้ทางตา) 3.2รู้ตัวเอง เมื่อรู้ตัวเองแล้วจะเกิดความรู้สึกตัว หรือสัมปชัญญะ ซึ่งมีน้อยคนที่จะรู้จักสติรู้ตัวเอง ส่วนใหญ่จะรู้ข้อ3.1 ซึ่งเพียงพอต่อการดำเนินชีวิตแล้ว เมื่อรู้ตัวเองบ่อยๆจิตผู้รู้จะกลับเข้าในตัวเองเป็นรู้ตัวทั่วพร้อมตลอดเวลา จะตั้งใจลืมตัวเองไม่ได้เลย แต่ก็มีเผลอได้บ้าง 3.3รู้ใจหรือรู้หทัยวัตถุ คือจุดศูนย์รวมของอารมณ์ปรุงแต่งความรู้สึกต่างๆ 4 คนทั่วไปจะรู้จักข้อ3.1มาตลอดชีวิตจึงไม่สนใจที่จะรู้3.2 และบางทีก็คิดว่าตนเองรู้ข้อ3.2เพราะใช้ตามองตัวเอง แล้วคิดว่าตัวเองรู้เห็นตัวเอง ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ใช่ เพราะการรู้ข้อ3.2ต้องรู้ด้วย“จิตผู้รู้” 5 พระท่านสอนให้มีสติ คนทั่วไปก็จะเข้าใจได้เพียงข้อ3.1 6 หลวงปู่ดูลย์ อตุโลสอนว่า“อย่าส่งจิตออกนอก” แสดงว่า“จิตผู้รู้”ต้องอยู่นอกตัวเรา 7หลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ สอน“กระพริบตารู้สึกตัว” “ทำความรู้สึกตัว” “เคลื่อนไหวไปมาให้รู้สึก” “ให้ตื่นตัวเอง”คือให้เข้าถึงข้อ3.2 8เมื่อเข้าถึงข้อ3.2 ข้อ3.3จะตามมา ในระหว่างทางของการเจริญสติ ก็จะเห็นพฤติกรรมของจิตเป็นครั้งคราวแล้วแต่มันจะแสดงให้เห็นมันเป็นไปเอง แล้วแต่ละบุคคล ต่อไปก็ทำได้เพียง รู้ตัวทั่วพร้อมกับรู้ลงที่ใจหทัยวัตถุ(กลางอก) รู้ไปเรื่อยๆ จนจบกิจ 羅坤泉เรียบเรียง 6มีนาคม2567

🙏กราบขอบพระคุณ อจ. ค่ะ... ฟังแล้วเข้าใจง่าย จะพยายามเรียน ศึกษาไปเรื่อยๆ ค่ะ

อนัตตา = ไม่ใช่ตัวตน มีอยู่ รู้สึกอยู่ แต่ไม่ใช่ตัวตน เหมือนธาตุน้ำมีอยู่ เห็นอยู่ เป็นแต่เพียงธาตุ๒ชนิด H2Oถึงพร้อมกันอยู่ด้วยกฎของธรรมชาติจึงเกิดเป็นของเหลวชนิดหนึ่งเรียกว่าน้ำ ความจริงน้ำนั้นไปมี เช่นเดียวกับ คนหรือมนุษย์ เรายึดถือว่าเป็นอัตตาแต่ความจริงมันไม่ใช่อัตตาเพราะมันเปลี่ยนแปลงอยู่ด้วยธาตุ๒ธาตุคือรูปธาตุและนามธาตุ(จิตธาตุ)ที่ถึงพร้อมกันอยู่และเกิดดับอยู่ตลอดเวลา ท่านจึงกล่าวว่าอนัตตาไม่ใช่ตัวตนที่เที่ยงแท้ไม่เปลี่ยนแปลงไม่ควรยึดถือเอาเพราะมันมีการแปรปรวนเปลี่ยนแปลง......

สาธุครับ

กราบสวัสดีค่ะ

กราบสาธุๆ

ต้องคนมีบุญเท่านั้น ที่มาเข้าใจความตรงไปตรงมาของสัจธรรมที่อาจารย์นำมาแบ่งปันให้ร่วมรู้ครับ

สุดยอดครับอาจารย์

ขออนุโมทนา...ในการบรรยาย...พระธรรมค่ะ...สาธุ..สาธุ .

เข้าใจว่าการมีชีวิตคือ... การมีองค์ประกอบหลายๆอย่างมารวมกันไม่ว่าจะเป็นกาย​ หรือ​ จิตก็ตาม

🙏🙏🙏

ความหมายของคำว่าสุญญตานั้นมนุษย์ตีความหมายยังไงอันนั้นไม่ขอแย้ง แล้วเราจะตอบให้มันง่ายมากหากเราเข้าใจความหมายของคำว่าสัจจะธรรมคือความเป็นจริงดังนั้นคำว่าสุญญตาที่มนุษย์เรียกมันมีความหมายอย่างนี้คือความหายสงสัยไม่มีความสงสัยในวัฏสงสาร ในวัฏจักร ในการดำรงชีวิต ในธรรมชาติของโลก หายสงสัยในทุกสิ่งทุกอย่างมันแค่นั้น#พิฆเณ จะ สังกัจจะสะโป