เป็นโอกาสที่ดีของผมที่ได้รับชมคลิปนี้ของท่านหลวงพ่อชา​ ศิษย์​พระอาจารย์​มั่นที่ผมเคารพ​เป็นอย่างสูง​ รวมทั้งศิษย์​สายของพระอาจารย์​มั่นทุกองค์​ครับ ❤

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

Love it❤

Human being are difference by cultures but not for souls and core of needs .Cultivate virtues. Should not laugh at the masters ..deciples of buddha who found noble truths.. When "EGO" gone those who think of this is funny will see real happiness in their minds.not nice to look down like that..❤ pls respect and stay peace amongs the differences be lucky ❤❤😊

กราบสาธุ สาธุ สาธุค่ะ

งดงามมาก

กราบนมัสการพระอาจารย์ทุกรูปคะเป็นที่สวยงามมากคะที่ม่เห็นมาก่อนเลยค่ะ

เมืองไทยก็มีวัดฝรั่งนะแต่เราก็ไม่ไปต่อต้านเราอยู่รวมกันได้

สาธุ

❤ love 💕

หลวงพ่อชา.ท่านทำให้พระยุโรป..มาปฏิบัติธรรมะ..อย่างมีความสุข.ต่อโลกนี้.ครับท่าน

กราบสาธุเจ้าค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

ผมได้มาเจอคลิปนี้ เพราะค้นหาภาพวีดีตัวจริงของหลวงพ่อชา และผมได้เห็นหลายๆคอมเม้นมีความเข้าใจธรรมมะในพระพุทธศาสนา ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อความดับทุกข์ หรือทำให้ทุกข์น้อยลง

ผมนิตามรอยเลย😂

บอกว่าศาสนาตัวเองถูกต้อง ตามพระเจ้าอย่างนู้นอย่างนี้ แล้วไปว่าศาสนาอื่นว่าของปลอม จึงแล้วก็ไปหาเขากะไปเผยแผ่ซำ้อีก คุณเป็นบาทหลวงในศาสนาที่ดีมากๆเลย

สาธุครับผม 🙏

กราบสาธุหลวงพ่อชา สาธสาธุสาธุ🙏🙏🙏

กว่าจะได้ดีจนถึงวันนี้เหน็ดเหนื่อยมาตั้งขนาดไหนในการบุกเบิกกราบสาธุพระอาจารย์ชาและคณะสงฆ์ที่ฝ่าฟันความยากลำบากในการเผยแพร่พุทธศาสนาเป็นรากฐานสืบต่อไปสาธุฯฯคับ

การฟังธรรมการเรียนรู้ธรรมะ คล้ายกับการปลูกต้นแอปเปิ้ล การนั่งสมาธิ เดินจงกรม สวดมนต์เหมือนการใส่ปุ๋ยเพื่อให้เกิดผล ให้เราได้กิน

ดีมากเลยครับ ที่ได้พบเห็นคลิปนี้

สาธุสาธุค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

พระธรรมะสร้างชีวิตให้คนพ้นทุกข์ได้ธรรม?ดีชั่วอยู่ที่ตัวเอง?เป็นเหตุแห่งทุกข์?และสุข ?มาจากกรรมการทำทั้งสิ้น?เหตุผลของกรรม?

พระท่านต้องใช้ขันติอย่างสูงมากๆถึงผ่านมาจนปัจจุบันที่มีคนต่างชาติมากมายยอมนรับ

สาธุๆ

บุญกับทานอันใหนใหญ่กว่ากันครับ

กราบสาธุๆๆๆครับ

กราบสาธุ สาธุ สาธุ

เทปวีดีโอนี้ ก่อนเราเกิดอีก กราบหลวงปู่ชา สุภัทโท ค่ะ

สาธุๆๆ

สาธุๆๆ

ສາທຸ

สาธุๆเจ้าข้า❤❤

สาธุๆๆ

😊

สาธุครับ

สุดยอดจริงๆ

กราบแทบเท้าหลวงปู่ชาเจ้าข้า

กราบสาธุค่ะ

ประทุม ทองบำรุงโมทนาสาธุ รุ่งอรุณ ทองบำรุงโมทนาสาธุสาธุสาธุ ปิยเมธ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ปิยเรศ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ประทุม ทองบำรุงโมทนาสาธุ รุ่งอรุณ ทองบำรุงโมทนาสาธุสาธุสาธุ ปิยเมธ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ปิยเรศ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ประทุม ทองบำรุงโมทนาสาธุ รุ่งอรุณ ทองบำรุงโมทนาสาธุสาธุสาธุ ปิยเมธ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ปิยเรศ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ประทุม ทองบำรุงโมทนาสาธุ รุ่งอรุณ ทองบำรุงโมทนาสาธุสาธุสาธุ ปิยเมธ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ปิยเรศ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ประทุม ทองบำรุงโมทนาสาธุ รุ่งอรุณ ทองบำรุงโมทนาสาธุสาธุสาธุ ปิยเมธ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ปิยเรศ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ประทุม ทองบำรุงโมทนาสาธุ รุ่งอรุณ ทองบำรุงโมทนาสาธุสาธุสาธุ ปิยเมธ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ปิยเรศ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ประทุม ทองบำรุงโมทนาสาธุ รุ่งอรุณ ทองบำรุงโมทนาสาธุสาธุสาธุ ปิยเมธ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ปิยเรศ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ประทุม ทองบำรุงโมทนาสาธุ รุ่งอรุณ ทองบำรุงโมทนาสาธุสาธุสาธุ ปิยเมธ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ปิยเรศ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ประทุม ทองบำรุงโมทนาสาธุ รุ่งอรุณ ทองบำรุงโมทนาสาธุสาธุสาธุ ปิยเมธ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ปิยเรศ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ประทุม ทองบำรุงโมทนาสาธุ รุ่งอรุณ ทองบำรุงโมทนาสาธุสาธุสาธุ ปิยเมธ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ปิยเรศ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ประทุม ทองบำรุงโมทนาสาธุ รุ่งอรุณ ทองบำรุงโมทนาสาธุสาธุสาธุ ปิยเมธ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ปิยเรศ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ประทุม ทองบำรุงโมทนาสาธุ รุ่งอรุณ ทองบำรุงโมทนาสาธุสาธุสาธุ ปิยเมธ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ปิยเรศ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ประทุม ทองบำรุงโมทนาสาธุ รุ่งอรุณ ทองบำรุงโมทนาสาธุสาธุสาธุ ปิยเมธ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ปิยเรศ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ประทุม ทองบำรุงโมทนาสาธุ รุ่งอรุณ ทองบำรุงโมทนาสาธุสาธุสาธุ ปิยเมธ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ปิยเรศ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ประทุม ทองบำรุงโมทนาสาธุ รุ่งอรุณ ทองบำรุงโมทนาสาธุสาธุสาธุ ปิยเมธ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ปิยเรศ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ประทุม ทองบำรุงโมทนาสาธุ รุ่งอรุณ ทองบำรุงโมทนาสาธุสาธุสาธุ ปิยเมธ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ปิยเรศ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ประทุม ทองบำรุงโมทนาสาธุ รุ่งอรุณ ทองบำรุงโมทนาสาธุสาธุสาธุ ปิยเมธ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ปิยเรศ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ประทุม ทองบำรุงโมทนาสาธุ รุ่งอรุณ ทองบำรุงโมทนาสาธุสาธุสาธุ ปิยเมธ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ปิยเรศ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ประทุม ทองบำรุงโมทนาสาธุ รุ่งอรุณ ทองบำรุงโมทนาสาธุสาธุสาธุ ปิยเมธ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ปิยเรศ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ประทุม ทองบำรุงโมทนาสาธุ รุ่งอรุณ ทองบำรุงโมทนาสาธุสาธุสาธุ ปิยเมธ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ปิยเรศ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ประทุม ทองบำรุงโมทนาสาธุ รุ่งอรุณ ทองบำรุงโมทนาสาธุสาธุสาธุ ปิยเมธ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ปิยเรศ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ประทุม ทองบำรุงโมทนาสาธุ รุ่งอรุณ ทองบำรุงโมทนาสาธุสาธุสาธุ ปิยเมธ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ปิยเรศ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ประทุม ทองบำรุงโมทนาสาธุ รุ่งอรุณ ทองบำรุงโมทนาสาธุสาธุสาธุ ปิยเมธ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ปิยเรศ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ประทุม ทองบำรุงโมทนาสาธุ รุ่งอรุณ ทองบำรุงโมทนาสาธุสาธุสาธุ ปิยเมธ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ปิยเรศ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ประทุม ทองบำรุงโมทนาสาธุ รุ่งอรุณ ทองบำรุงโมทนาสาธุสาธุสาธุ ปิยเมธ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ปิยเรศ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ประทุม ทองบำรุงโมทนาสาธุ รุ่งอรุณ ทองบำรุงโมทนาสาธุสาธุสาธุ ปิยเมธ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ปิยเรศ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ประทุม ทองบำรุงโมทนาสาธุ รุ่งอรุณ ทองบำรุงโมทนาสาธุสาธุสาธุ ปิยเมธ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ปิยเรศ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ประทุม ทองบำรุงโมทนาสาธุ รุ่งอรุณ ทองบำรุงโมทนาสาธุสาธุสาธุ ปิยเมธ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ปิยเรศ ทองบำรุงโมทนาสาธุ ธนัฏฐา ทองบำรุง สาธุ

จิตใจที่สกปรกของชาวตะวันตก ที่มีแต่รุกราน แสดงออกมาทางคำพูด วันนึงพวกคุณจะฉลาดขึ้น ทางจิตใจ

สาธุ

สาธุๆๆค่ะ

ลูกขอกราบลูกพระตถาคตเจ้าค่า

สาธุ ในบุญกุศล ที่เกิดขึ้น จากคลิปนี้ ทุกๆ ประการ ค่ะ

I appreciate all his teachings.

แนวคิดที่ว่า เกิดมาแล้วมีทุกข์ ต้องหาวิธีดับทุกข์ การเวียนว่ายตายเกิด การไปสู่นิพพานซึ่งก็คือการที่ไม่ต้องกลับมาเกิด ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิด ที่ผ่านมาการอธิบายแนวคิดนี้ในทางวิทยาศาสตร์ก็กระทำโดยนักควอนตัมฟิสิกซ์ บางครั้งก็ไปเชื่อมโยงกับเรื่องหลุมดำ แต่ถ้าให้นักคอมพิวเตอร์อธิบายแนวคิดนี้ก็อาจเข้าใจง่ายกว่า นั่นก็คือ การไปสู่นิพพานก็คือการล้างคอมพิวเตอร์ลบล้างข้อมูลโปรแกรมทั้งหมดที่มีอยู่ในคอมพิวเตอร์และที่มีอยู่ในไซเบอร์ใน Cloud และก็ Shutdown ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อที่จะทำให้เมื่อเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นมาใหม่จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเราอีกแล้ว นั่นก็คือเราไม่ได้กลับมาเกิดอีก แล้วแนวคิดนี้ในทางจิตวิญญาณของมนุษย์จะทำได้อย่างไร นั่นก็คือเหตุผลที่เราต้องปล่อยวางตัดทุกอย่าง (ถ้าเป็นคอมพิวเตอร์ก็คือการเริ่มปิดโปรแกรมที่ใช้ทำงาน ตามด้วยการลบโปรแกรมและลบข้อมูล) แต่การลบล้างสิ่งต่างๆ ที่จิตวิญญาณของมนุษย์ได้กระทำมาไม่สามารถกระทำได้ง่าย จึงมีการใช้วิปัสสนากรรมฐานเป็นกลไกวิธีการในการสะกดจิตและลบล้างสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในจิต ก่อนจะดับขันธ์ไปสู่นิพพาน (ไม่กลับมาเกิดอีก) แน่นอนถ้ามนุษย์ยังไปสู่นิพพานไม่ได้ มนุษย์ก็จำเป็นต้องมีพลังมาหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณของมนุษย์เพื่อให้จิตวิญญาณดำรงอยู่ได้ เช่น พลังสร้างสรรค์อย่างความรัก พลังทำลายล้างอย่างความโกรธแค้น โดยมีกิเลสตัณหาเป็นตัวบั่นทอนความแรงของพลังสร้างสรรค์หรือพลังทำลายล้าง ศาสนาก็จะมีการให้พลัง เช่น ความรัก มาหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณของมนุษย์ และแน่นอนพลังเหล่านี้ก็ต้องมีแหล่งกำเนิดหรือบ่อเกิดของพลัง เช่น ศาสนาคริสต์ก็มีพระเจ้าหรือพระเยซู ศาสนาอิสลามก็มีพระเจ้าหรือมูฮัมหมัด เป็นต้น ถ้าเราไม่ชอบหรือไม่ยอมรับแหล่งกำเนิดหรือบ่อเกิดของพลังของศาสนาเหล่านี้ จึงเป็นการดีที่จะเอาแนวคิดเรื่องนิพพาน (ซึ่งไม่มีแหล่งกำเนิดหรือบ่อเกิดของพลัง) ไปผนวกผสมกับศาสนาที่เราชอบ จึงเกิดศาสนาพุทธแบบไทยที่เอาศาสนาพรามหณ์ศาสนาฮินดูมาผนวกมาผสมเพื่อจะได้มีแหล่งกำเนิดหรือบ่อเกิดของพลังต่างๆ นั่นก็คือเหตุผลที่เรายังมีการกราบไหว้บูชาเทพเจ้า พระ สิ่งมงคลต่างๆ หรือศาสนาพุทธแบบจีนที่ผนวกแนวคิดเต๋า เป็นต้น

แนวคิดที่ว่า เกิดมาแล้วมีทุกข์ ต้องหาวิธีดับทุกข์ การเวียนว่ายตายเกิด การไปสู่นิพพานซึ่งก็คือการที่ไม่ต้องกลับมาเกิด ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิด ที่ผ่านมาการอธิบายแนวคิดนี้ในทางวิทยาศาสตร์ก็กระทำโดยนักควอนตัมฟิสิกซ์ บางครั้งก็ไปเชื่อมโยงกับเรื่องหลุมดำ แต่ถ้าให้นักคอมพิวเตอร์อธิบายแนวคิดนี้ก็อาจเข้าใจง่ายกว่า นั่นก็คือ การไปสู่นิพพานก็คือการล้างคอมพิวเตอร์ลบล้างข้อมูลโปรแกรมทั้งหมดที่มีอยู่ในคอมพิวเตอร์และที่มีอยู่ในไซเบอร์ใน Cloud และก็ Shutdown ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อที่จะทำให้เมื่อเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นมาใหม่จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเราอีกแล้ว นั่นก็คือเราไม่ได้กลับมาเกิดอีก แล้วแนวคิดนี้ในทางจิตวิญญาณของมนุษย์จะทำได้อย่างไร นั่นก็คือเหตุผลที่เราต้องปล่อยวางตัดทุกอย่าง (ถ้าเป็นคอมพิวเตอร์ก็คือการเริ่มปิดโปรแกรมที่ใช้ทำงาน ตามด้วยการลบโปรแกรมและลบข้อมูล) แต่การลบล้างสิ่งต่างๆ ที่จิตวิญญาณของมนุษย์ได้กระทำมาไม่สามารถกระทำได้ง่าย จึงมีการใช้วิปัสสนากรรมฐานเป็นกลไกวิธีการในการสะกดจิตและลบล้างสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในจิต ก่อนจะดับขันธ์ไปสู่นิพพาน (ไม่กลับมาเกิดอีก) แน่นอนถ้ามนุษย์ยังไปสู่นิพพานไม่ได้ มนุษย์ก็จำเป็นต้องมีพลังมาหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณของมนุษย์เพื่อให้จิตวิญญาณดำรงอยู่ได้ เช่น พลังสร้างสรรค์อย่างความรัก พลังทำลายล้างอย่างความโกรธแค้น โดยมีกิเลสตัณหาเป็นตัวบั่นทอนความแรงของพลังสร้างสรรค์หรือพลังทำลายล้าง ศาสนาก็จะมีการให้พลัง เช่น ความรัก มาหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณของมนุษย์ และแน่นอนพลังเหล่านี้ก็ต้องมีแหล่งกำเนิดหรือบ่อเกิดของพลัง เช่น ศาสนาคริสต์ก็มีพระเจ้าหรือพระเยซู ศาสนาอิสลามก็มีพระเจ้าหรือมูฮัมหมัด เป็นต้น ถ้าเราไม่ชอบหรือไม่ยอมรับแหล่งกำเนิดหรือบ่อเกิดของพลังของศาสนาเหล่านี้ จึงเป็นการดีที่จะเอาแนวคิดเรื่องนิพพาน (ซึ่งไม่มีแหล่งกำเนิดหรือบ่อเกิดของพลัง) ไปผนวกผสมกับศาสนาที่เราชอบ จึงเกิดศาสนาพุทธแบบไทยที่เอาศาสนาพรามหณ์ศาสนาฮินดูมาผนวกมาผสมเพื่อจะได้มีแหล่งกำเนิดหรือบ่อเกิดของพลังต่างๆ นั่นก็คือเหตุผลที่เรายังมีการกราบไหว้บูชาเทพเจ้า พระ สิ่งมงคลต่างๆ หรือศาสนาพุทธแบบจีนที่ผนวกแนวคิดเต๋า เป็นต้น

,ดีมากกค่ะ