กฎข้อห้ามของคริสเตียน!!! I รีวิวไบเบิ้ล Ep.59 

อยู่ที่คุณพบพระแบบไหน และคุณมีทัศนะใดต่อพระ

@@bheeradhevrungkhunakorn873 ถูกแล้ว

ตามหลักพุทธแล้ว พระห้มผ้าเหลืองถ้าหาผลประโยชน์ส่วนตนไม่นับว่าเป็นพระ ต้องมีคุณธรรมละดับโสดาบันเป็นอย่างต่ำถึงเรียกว่าสาวกพระพุทธเจ้า.

เคยดูคลิปนี้เหมือนกันค่ะ

พระโสดาบันคือใครคะ เค้าเคร่งอะไรบ้างนอกจากน้ำร้อน???? 😮😮

อย่าเอา ศาสนามาเล่นกันเลยครับ ดีดีทั้งนั้น ขึ้นอยู่ที่ คน

ตาม The Oldtesment ก็ไม่ไหวเที่ยวไปตีเมืองคนอื่นเขาของและคนเขามาฆ่าคนยึดเมืองเขาขี้โกงชัดๆทุกวันนี้ คนที่เขียนในแบ้งค์ดอลล่าห์ เราเชื่อในพระเจ้า.นั่นแหละตัวดี5-60ประเทศรุมฆ่าประเทศเดียวอยู่ตอนนี้สุนัขยังส่ายหน้า..จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวเราเอง..อ่านรู้ดีแต่ไม่เคยทำตาม🤔🍷

พระเยซู บอกให้เราแบกกางเขนและเดินตามพระองค์ ถึงจะพบความรอด ส่วนการประพฤติดีพระเจ้าก็ให้ทำ เพียงแต่การตีความหมายของความดีของมนุษย์ นั้นแตกต่างกัน ขอบคุณพระเจ้า ในพระนามพระเยซูสรรเสริญพระนามพระองค์ ฮาเลลูยา

เขาอ่านแต่คัมภีร์เก่าไม่ได้อ่านคัมภีร์ใหม่ครับ😅

ตอนเขารบ เขารบเพื่อผลประโยชน์ของศาสนา หรือเพื่อผลประโยชน์ของประเทศเขา หรือเพื่อตัวเขา ใช่ว่าไทยทุกคนจะเป็นพุทธ ใช่ว่าฝรั่งทุกคนจะเป็นคริสต์ ในทางกลับกัน คนที่เสียผลประโยชน์เขาจะบอกว่าแทรกแซง คนที่ได้ผลประโยชน์ เขาจะบอกว่าเป็นการช่วยเหลือ เช่นยูเครนบอกสหรัฐช่วยเหลือ รัสเซียบอก สหรัฐแทรกแซง ทั้งสองประเทศที่ตีกันเนี้ย คริสทั้งคู่ งั้นศาสนาไม่ใช่ประเด็นในการรบ ไม่ควรนำไปโยง

พระเจ้าสอนใว้ดี แต่มนุษย์ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเชื่อฟัง แต่คนที่ไม่เชื่อฟังเขาจะได้รับผลแห่งการกระทำของเขาเอง เพราะวันหนึ่งต้องถูกพิพากษาในชีวิตหลังความตาย

คุณมักง่ายกว่าอีก ด่าเหมารวม ฝรั่งทุกคนไม่ได้เป็นคริสเตียนค่ะ เปิดสมองแล้วไปค้นคว้าสักนิดว่าพวกผู้นำเมกามันนับถืออะไร พวกผู้นำเมกานับถือซาตาน เขาไม่มาประกาศออกไมค์ว่าบูชาซาตาน แต่มันซ่อนไว้รอบตัวเขา(ไม่ให้มนุษย์ที่ไม่สนไรอย่างคุณรู้หรอก) ดูคำด่ามักง่ายก็รู้ว่าเป็นศาสนา….มีแต่ศาสนานี้ที่ชอบด่าคริสเตียนแบบไม่สนไรเลย ก่อนจะด่าไปเติมอะไรให้สมองหน่อยนะ อย่าให้สวนกลับว่าลุงตู่ที่ชอบเอาลัดเอาเปรียบชาวบ้านนี่ศาสนาอะไร

ได้ค่ะ

อะไรที่สักไปแล้วมันก็ล่วงเลยไปครับผมไม่ได้มีค่าอะไรการเข้ามาในคริสเตียนก็ล้วนเป็นชีวิตใหม่ทั้งนั้นครับผม😊 หนุนใจให้มาโบสถ์นะครับ

ถ้าชนคน คือมาจากมารซาตานแล้ว ไม่มช่มาจากพระเจ้าแน่นอน

คุณยังไม่เข้าใจความรักที่คริสเตียนพูด อยากให้คุณเข้ามาศึกษา

@@user-di4hv3wi7n ถ้าหากจะบอกว่าความรักนั้นคือความเมตตาที่ศาสนาพุทธแปลความหมายคำว่าเมตตาว่าคืออยากให้ผู้อื่นมีความสุข หรือถ้าจะแปลว่าอยากให้ผู้อื่นพ้นจากความทุกข์ที่ศาสนาพุทธเรียกว่าความกรุณาหรือเกิดความยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นได้ดีที่ชาวพุทธใช้คำว่ามุทิตาจะเห็นว่าศาสนาพุทธแยกย่อยความหมายไว้ชัดเจนละเอียดกว่าที่พระเจ้าสอนทุกเรื่องถ้าคุณได้ศึกษาศาสนาพุทธคุณจะเปรียบเทียบได้อย่างชัดเจนว่าศาสดาท่านใดที่มีความลึกซึ้งและตอบปัญหาได้ครอบคลุมละเอียดชัดเจนมากกว่ากัน นั่นแสดงให้เห็นปัญญาที่ต่างกันแบบฟ้ากับเหว และการที่พระเจ้าสร้างทุกสิ่งขึ้นมานั้นนั่นแหละเป็นสาเหตุที่ทำให้ความทุกข์เกิดขึ้น จะดีกว่าไหมถ้าจะไม่สร้างอะไรขึ้นมาเลย จะเห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนว่าความเชื่อเรื่องพระเจ้านั้นขัดแย้งกับคำสอนในศาสนาพุทธดังนั้นถ้ามีคำสอนบางอย่างที่สอนต่างกันไปคนละทางก็ย่อมต้องมีอย่างใดอย่างนึงที่สอนผิดดังนั้นเมื่อมาดูเหตุผลในถึงความเป็นจริงแล้ว เช่นถ้าบอกว่าพระเจ้าสร้างทุกสิ่งที่เกิดขึ้น แต่พระพุทธเจ้าสอนว่าการเกิดเป็นทุกข์ความแก่เป็นทุกข์ความเจ็บไข้เป็นทุกข์ความตายเป็นทุกข์ ความพลัดพรากเป็นทุกข์ ความที่เมื่อปราถนาสิ่งใดแล้วไม่ได้สิ่งนั้นนั่นก็เป็นทุกข์ คุณเห็นว่าสิ่งเหล่านี้ที่ผมพูดมาทั้งหมดเป็นทุกข์หรือเป็นสุขครับ นั่นแหละถ้าคุณบอกว่าพระเจ้าสร้างทุกสิ่งขึ้นมานั่นก็เท่ากับพระเจ้าสร้างความทุข์ทั้งหมดขึ้นมาด้วย และทุกวันนี้พระเจ้าของคุณก็ยังไม่หยุดสร้าง อยากถามว่าระหว่างสร้างกับไม่สร้างอย่างไหนที่ทำให้ความทุกข์ทั้งหลายเกิดขึ้นครับ และตรงกันข้ามกันนั้นคือพระพุทธเจ้าบอกว่าการปล่อยวางความพอใจทั้งหลายปล่อยว่างความยึดติดความในทุกสิ่งได้นั้นจะทำให้ไม่มีการเกิดอีกต่อไป นั่นคือความดับความรู้สึกในทุกสิ่งได้คือดับวิญญาณความรับรู้นั่นเอง คนนึงขอบคุณที่พระเจ้าสร้างแต่อีกคนบอกว่าการที่พระเจ้าสร้างนั้นเป็นเหตุให้ความทุกข์เกิดขึ้น คุณว่าใครพูดจริงครับพิจารณากันเองครับ และถึงแม้สิ่งที่คุณคิดว่าคือความสุขสุดท้ายความสุขก็ไม่ตั้งอยู่ได้ตลอดเพราะความสุขก็ต้องมีวันจางคลายและดับไปไม่สามารถคงตัวอยู่ได้ตลอดเช่นกันเพราะจริงๆแล้วสิ่งที่คุณเรียกว่าความสุขก็เป็นเพียงสารเคมีที่สมองสร้างขึ้นเท่านั้นมันไม่ใช่ของจริงเลยสักอย่าง ซึ่งตรงกับคำสอนของพระพุทธเจ้าอีกเช่นเคย

กฎเกณฑ์ของพระเจ้าไม่เคยบังคับแต่ถ้าคุณรักพระเจ้าสุดจิตสุดใจควรฟังคำสอนของพระองค์ด้วยใจทำด้วยใจพระคำของพระองค์ห้ามสิ่งใดควรทำตามด้วยใจซื่อสัตย์

จริงค่ะ เราเป็นคริส ซึ่งคนที่ทำงานรับใช้ในโบสถ์ยังโกงเงินถวาย แถมมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม คนแก่ๆบางคนใช้คำสอนในคำภีร์แอบอ้างในการด่าแซะคนอื่น ซึ่งเราไม่ชอบสังคมแบบนี้เลย ไม่เข้าโบสถ์มากลายปีแล้ว ซึ่งเราก็เต็บโตในโบสถ์นี้แต่รู้สึกสังคมคนรับใช้ในโบสถ์และผู้คนบางกลุ่มมันเน่าแฟะ เหมือนมช้ศาสนาในการหากิน คนรับใช้ที่ทำงานตำแหน่งสำคัญๆในโบสถ์ก็เป็นเครือญาติเดียวกันหมด กินเงินเป็นว่าเล่น เห็นแล้วไม่สบายใจเลยไใ่เข้าโบสถ์อีกเลย

@@choomi7895โบสถ์บางที่ๆมารซาตานแทรกแซงก็จะเป็นแบบนี้ค่ะ แนะนำย้ายไปโบสถ์ที่ ผู้นำรักพระเจ้ามากกว่าชีวิตค่ะ จะไม่มีการโกง เช่น โบสถ์ไบรท์โรแมนซ์แสงสว่างแห่งรักที่แท้จริง โบสถ์นี้เอาจริงเอาจริงเอาจังกับพระเจ้ามากค่ะ

แนะนำย้ายโบสถ์ได้ค่ะแต่ย้ายไปโบสถ์ที่เขาเอาจริงเอาจังกับพระเจ้า แต่อย่าไปเข้าคาทอลิกค่ะ เพราะนิกายนี้เขาจะประนีประนอมต่อบาป ปี2030 อีก6ปีข้างหน้าการฝังชิปมา เขาก็จะบอกว่าฝังชิปได้ไม่เป็นไร หมายถึงเขาบอกคุณว่าให้รับเครื่องหมายสัตว์ร้ายค่ะ ให้ดูผู้นำสูงสุดของนิกายนี้ค่ะว่าจริงๆเขาอยู่ข้าง….

​@@rrsgfghh9542ผมว่าคริสเตียนเป็นสิ่งที่ถูกล่อลวงครับ

พี่รับกุศลมาเเร้วเลิกใด้ใหมยังไม่ฟรอ้ม

ห้ามดูดวง อย่ารักพระอื่นใดนอกจากพระองค์ ขณะนั้นคือการทดสอบความเชื่อ เหมือนดาเนียลแม้จะโดนเผาไฟแต่ไม่ก้มกราบกษัตริย์ คริสเตียน ไม่ดูดวง ร่างทรงหมอผี ก้อเช่นกัน ทุกคนจะรอดเข้าสวรรค์ได้เพราะเชื่อให้ถึงที่สุดแต่จะรอดและมีชีวิตในพระคริสต์ ความรักเป็นข้อใหญ่สุด

@@wattanaprasit1263 อย่างแรกเลย ต้องไม่ช่วยตัวเองตลอดชีวิต ถึงจะมัน 55555 (ไม่ใช่ทุกคนจะมีคู่อยู่แล้ว มีคู่ก็แล้วไป)

ผมชอบคุณนะ คุณตั้งคำถามเป็นเหตุเป็นผล ถึงแม้การสื่อสารจะตั้งแง่ก็ตาม และผมก็อยากแลกเปลี่ยนความคิดกับคุณนะ 1) เรื่องของการดูดวง การทำนายทายทัก ในพระคำภีรก็ระบุไว้ชัด และมีจริงๆ เช่นพวกโหฬาจารย์ ดูดาวและตามดาวมาหาพระเยซู เป็นต้น แต่ที่เราไม่ดูเพราะ เราให้เกียรติพระเจ้า เพราะเราเชื่อและไว้วางใจในพระเจ้า ว่าพระองค์จะเป็นผู้ดูแลชีวิตเรานับตั้งแต่เราเอ่ยปากเชื่อ จนถึงความตายและต่อไปหลังจากความตาย แต่ถ้าเราไปหาหมอดู ไปให้หมอดู ก็เหมือนลักษณะ ผมแต่งงานมีภรรยา เชื่อฟังภรรยา และให้เขาดูแลบ้าน และเขาก็ดูแลบ้านเป็นอย่างดี แต่พอดีผมไปคุยกับป้าข้างบ้าน มาเม้ามอย บ้านผมรกนะ ตรงนั้นตรงนี้ไม่ดี ความไว้เนื้อเชื่อใจผมก็คงลดลง และสอดส่อง จับผิด หรือถ้าแย่มากๆคงเรียกภรรยามาติ เตือน ทั้งๆที่ อีป้าข้างบ้านพูดจริง หรือเปล่า กลับมาที่เรื่องนางงาม ในวันนั้นผมว่า เขาเข้าร่วมกิจกรรมได้นะ ร่วมให้มันจบๆไป พอดูจบก็แถลงว่า หนูไม่เชื่อนะ พอดีหนูเป็นคริส บลาๆ อะไรก็ว่าไป แต่เพื่อความยุติธรรมมันก็คือสิทธิ์ส่วนบุคคล เขาทีสิทธิ์ปฏิเสธ และไม่ควรจะถูกประนามหรือเยาะเย้ยรุนแรงแบบนี้ 2)เรื่องการช่วยตัวเอง ช่วยตัวเองไม่ผิด มันเป็นการทำงานของฮอร์โมน มันไปสั่งสมองให้มีความอยาก กั้นมากๆถึงขั้นฝันเปียก (แมนๆคุยกัน) แต่ที่ผิดมันคือระหว่างช่วยตัวเอง คุณดูอะไร คุณคิดอะไร เพราะความบาปมันเกิดขึ้นตั้งแต่คุณคิดแล้ว ผมยอมรับ บางครั้งมีการตีความหมายพระคัมภีร์แบบตีหัวเข้าบ้าน แต่การตีความหมายพระคัมภีร์มันตีแค่ประโยคเดียวไม่ได้ ต้องดูทั้งบท ทั้งเล่ม หรือเชื่อมโยงไปเล่มอื่นๆ เพื่อหามุมมองให้ครบ ไม่ใช่เอาวัฒนธรรมท่องถิ่นมาร่วมจนเกินเหตุ เช่นพุทธบอกดื่มเหล้าบาป คริสก็เอาตามว่าดื่มไม่ได้ บาป ผมถามว่าทำไมจะดื่มไม่ได้ พระเยซูเปลี่ยนน้ำล้างตีนให้เป็นเหล้าองุ่น กินในงานเลี้ยง ละทำไมจะมาห้ามคนดื่ม อะไรที่เข้าไปไม่บาป แต่อะไรที่ออกมาหลังจากดื่มต่างหากที่บาป ดุด่าว่าร้าย ทะเลาะชกต่อย ฆ่าคน ข่มขืน ขับรถชนคนตาย นี่คือบาป ปล.ผมอาจจะเป็นคริสนอกคอก

การสําเร็จความไคร่เป็นที่น่าเกียจสําหรับพระเจ้าครับถ้าผู้ใดทนไม่ไหวก็จงหาภรรยาเพื่อไม่ให้ลงโทษ

@@user-im3hg3sv7d ไปหาภรรยาในวัยเรียนเหรอครับ? เขาทำกันตั้งแต่วัยรุ่นวัยเรียนแล้ว ช่วยตัวเองน่ะ

วันเสาร์คือวันสะบาโตครับ เป็นวันที่พระเจ้าตั้งไว้ ส่วนวันอาทิตย์เป็นวันที่พระเยซูฟื้นจากความตายครับ คริสเตียนบางส่วนเลยหันไปนมัสการวันอาทิตย์ ลองสังเกตปฏิทินสิ วันอาทิตย์คือวันต้นสัปดาห์ วันเสาร์คือวันสุดท้ายของสัปดาห์

ที่จริงเราต้องนมัสการพระเจ้าทุกวันนะครับ. ไม่ใช่แค่มาโบสถ์ในวันอาทิตย์ส่วนพี่น้องบางคนจะนมัสการวันอื่นเพราะอาจติดธุระจากวันอาทิตย์นั่นก็เข้าใจได้ครับไม่ได้เป็นปัญหาอะไร

ไม่ได้นะคะ