การเลี้ยงปลาบู่ธรรมชาติสร้างรายได้ดี 

การเลี้ยงปลาบู่ธรรมชาติสร้างรายได้ดี
การเลี้ยงปลาบู่ทราย หรือปลาบู่ทอง นับเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สร้างรายได้ดี เพราะปลาบู่เป็นปลาเศรษฐกิจที่สามารถทำราย เป็นกอบเป็นกำให้กับครอบครัว อย่างเช่น นายณรงค์ เรียนรอบกิจ อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/8 หมู่ 5 ตำบลวัดละมุด อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม (เกษตรกรดีเด่นปี 2543) ณ ท่าจีนฟาร์มปลาบู่ ที่ช่วงนี้ได้ทำการเลี้ยงปลาบู่ในกระชัง เป็นรายได้เสริมให้กับครอบครัว เนื่องจากในขณะนี้ปลาบู่ เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก และราคาค่อนข้างสูงทีเดียว ทั้งนี้ก็เพราะเป็นปลาที่หาอยาก มีการเพาะเลี้ยงที่น้อยมาก อีกทั้งการหาซื้อลูกพันธุ์ปลามาเพาะเลี้ยง เหมือนปลาทั่วไปก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด มีทางเดียวก็คือการใช้อุปกรณ์ไปดักเอาลูกปลา ตามแหล่งธรรมชาติมาเพาะเลี้ยงอนุบาล และทำการขุนจนได้ขนาดตามที่ตลาดต้องการ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ราคาปลาบู่จึงแพง และกลายเป็นปลาเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ดีอยู่ในขณะนี้ สำหรับระยะเวลาทำการเพาะเลี้ยงใช้เวลาประมาณ 15-18 เดือน ก็จะได้น้ำหนักอยู่ที่ 8 ขีด ถึง 1 กก. ราคาส่งขายกันในช่วงนี้ตกกิโลกรัมละ 500-550 บาท ปลาไซร์นี้เป็นปลาที่เอเย่นต้องการเป็นอย่างมาก เพื่อกระจายส่งไปยังโรงแรม และร้านอาหารใหญ่ๆทั่วไป ซึ่งก็ไม่เพียงพอของความต้องการ สำหรับปลาบู่ทราย หรือ ปลาบู่ทอง เป็นปลาน้ำจืดที่มีตัวยาวได้ประมาณ 30 ซม. และอาจยาวได้ถึง 60 ซม. มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า “ออกซีลีโอทริส มาร์โมราดา” (Oxyeleotris marmorata) เป็นปลาที่มีลักษณะลำตัวกลมยาว หัวค่อนข้างโต ด้านบนหัวแบนราบ หัวมีจุดสีดำประปราย ปากกว้าง ครีบหูและครีบหางมีลักษณะกลมมนใหญ่ มีลวดลายดำและสลับขาว ลำตัวสีน้ำตาลเหลือง มีรอยปื้นสีดำกระจายไปทั่วตัว ในบางตัวสีอาจกลายเป็นสีเหลืองทองได้ จึงทำให้ได้ชื่ออีกชื่อหนึ่งว่า “ปลาบู่ทอง” โดยปลาบู่ทราย เป็นปลาที่พบได้ทั่วไปในน้ำจืด และน้ำกร่อยอ่อนๆ ในหลายประเทศ โดยในประเทศไทย จะพบปลาบู่อยู่ทั่วไป ตามแม่น้ำลำคลอง และสาขาทั่วทุกภาคตามหนองบึง และอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ เช่น แม่น้ำเจ้าพระยา ปากน้ำโพ บึงบอระเพชร แม่น้ำลพบุรี แม่น้ำท่าจีน เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เขื่อนลำตะคอง จังหวัดนครราชสีมา เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ อ่างเก็บน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี เขื่อนบางลาง จังหวัดละยา และทะเลน้อย ทะเลสาบสงขลา ฯลฯ และอาจได้เจอพวกมันในบ่อเลี้ยงปลา เลี้ยงกุ้งได้เช่นกัน ปลาบู่ทรายเป็นปลาที่ผูกพันกับวิถีชีวิตคนไทย เป็นปลาเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยนิยมบริโภคกันมานาน ราคาส่งขายกันในช่วงนี้ตกกิโลกรัมละ 500-550 บาท ปัจจุบันนิยมเพาะเลี้ยงเป็นปลาเนื้อ
ที่ผ่านมาในอดีตคนส่วนใหญ่จะไม่กินปลาบู่กัน ก็เพราะมีที่ไปที่มาก็คือ “นิทานปลาบู่ทอง” เลยทำให้คนไม่กินปลาบู่กัน อีกทั้งคนโบราณบอกว่า เพราะก้างของปลาบู่ทองเหมือนกระดูกสันหลังของคนอีกด้วย เลยทำให้คนไม่กินปลาบู่กัน แต่สมัยนี้ปลาบู่เป็นที่นิยมบริโภคกันอย่างแพร่หลาย ด้วยเนื้อที่ขาวดูสะอาด และเวลากินจะมีรสชาติออกหวานอร่อยอีกด้วย สรุปคือปลาบู่ทองเป็นปลาเศรษฐกิจที่มีราคาแพง และหากินค่อนข้างยากอีกด้วย สิ่งหนึ่งที่คนไม่ได้กิน ไม่ใช่เพราะไม่อยากกิน แต่เพราะหากินไม่ได้ง่ายนั่นเอง นั่นเพราะปลาธรรมชาติมีน้อยลง ปลาที่เลี้ยงส่วนใหญ่ก็ส่งออกต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้จึงยากที่จะพบปลาบู่ขายในตลาดทั่วไป