สำหรับมือใหม่ หรือใครที่เริ่มมาเล่นเทปอาจเคยส่งสัยไหมว่า เทปคาสเซ็ท มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ซึ่งอาจเห็นหน้าตาเหมือนๆกันแต่ ชนิด type ของเส้นเทปแต่ละชนิดมีการฉาบเคลือบสารแม่เหล็กลงบนแถบพลาสติกต่างกันซึ่งจะทำให้คุณภาพเสียงที่ได้แตกต่างกันไป เราลองมาดูว่าความต่างของ type I, type II, type III, type IV กันดูครับ
.
1. type I ชนิดนอร์มอล (Normal) เป็นเทปชนิดธรรมดาทั่งไปที่จะพบเห็นกันบ่อยสุดมากสุด พวกเทปเพลงมือสองส่วนมากก็ใช้เนื้อเทปชนิดนี้
เทปชนิดนี้มีต้นทุนราคาถูกที่สุด ค่ายเพลงในสมัยนั้นนิยมที่จะนำมาบันทึกเสียงซึ่งจะได้ทำราคาได้ไม่สูงมากนักประกอบกับเครื่องเล่นคุณภาพของผู้ฟังโดยทั่วไปยังไม่ดีพอ บริษัทเทปเพลงจึงผลิตออกมาตอบสนองตลาดของคนส่วนมาก
.
เทปชนิดนี้ใช้อ๊อกไซด์ของเหล็ก (Iron Oxide) เป็นส่วนประกอบสำคัญ หากเครื่องเล่นเทปมี Tape Selector (ปุ่มกดเลือกชนิดของเนื้อเทป)
ก็ให้เลือกไปที่ Normal หรือที่ตำแหน่ง 120 uSec หรือในเครื่องเล่นที่มีระบบเทปเซนเซอร์เนื้อเทป ก็จะเช็คชนิดของเทปจากตลับเองโดยอัตโนมัติ
.
2. type II โครมอ๊อกไซด์ (Chrome Oxide)
เป็นเทปที่เก็บความถี่สูงได้ดี เพราะเทป type I ชนิดนอร์มอล จะมีข้อเสียงทางด้านย่านความถี่สูงซึ่งตอบสนองได้ไม่ดีเท่าที่ควร
หากเล่นในเครื่องเล่นที่สามารถเลือกเนื้อเทปได้ให้เลือกไปที่ CrO2 หรือที่ตำแหน่งไบอัส 70 uSec type II โครมอ๊อกไซด์จะมีราคาสูงกว่าเทปชนิด type I ชนิดนอร์มอล ในบ้านเราสมัยก่อนค่ายเพลงแกรมมี่จะมีการบันทึกเทปชนิดนี้ออกมาจำหน่ายด้วย แต่จะมีราคาจะสูงกว่าเทปชนิดธรรมดา
.
3. type III ชนิดเฟอโรโครม (Ferro Chrome) เป็นเนื้อเทปที่โลกลืม ถูกผลิตขึ้นระหว่างกลางปี 1970 ถึงปี 1980 ปัจจุบันพบเห็นได้ยากเพราะทำออกมาไม่นานแล้วก็เลิกผลิตไปโดยแนวคิดหลักการ เป็นการเอาข้อดีของเทป type I กับ type II มารวมกัน เครื่องเล่นคุณภาพสูงในช่วงนั้น มีไม่กี่รุ่นที่มี Tape Selector (ปุ่มกดเลือกชนิดของเนื้อเทป) แต่ถ้ามีจะต้องเลือกไปที่ FeCr หรือ Fe2O2
.
สาเหตุของการสูญพันธ์ของเทปชนิดนี้ เพราะบริษัทที่ผลิตเครื่องเล่นยังลังเลอยู่ว่าจะใส่ปุ่มกดเลือกชนิดของเนื้อเทปในเครื่องแบรนด์ญี่ห้อของตัวเองดีไหมจึงทำให้มีน้อยรุ่นมากที่มีปุ่มเลือกเนื้อเทปชนิดนี้ และหากไม่ได้ฟังในเครื่องที่มีการเลือกชนิดของเทปชนิดนี้ได้ ก็แทบจะแยกความต่างของเสียงระหว่าว type III กับ type II ได้เลย
.
จนเมื่อเทปโลหะ Type IV มาถึงในปี 1979 ซึ่งได้มีการปรับปรุงให้มีคุณภาพเสียงที่ดีกว่า type I กับ type II และผู้ผลิตเครื่องเล่นเทปรายใหญ่ๆให้ความสนใจที่จะไปพัฒนาเทปโลหะ Type IV มากกว่า เทป type III จึงสูญพันธ์ไปอย่างช้าๆและจนเลิกผลิตไปในที่สุด (ใครมีก็เก็บสะสมไว้เลยครับเพราะหาดูตัวเป็นๆได้ยาก)
.
4. Type IV ชนิดเมทัล (Metal) เป็นเทปที่ให้คุณภาพเสียงดีที่สุดในบรรดาเทปคาสเซ็ทด้วยกัน ราคาแพงกว่าทุก type เพราะใช้ระบบการเคลือบสารแบบโลหะเมื่อนำมาเล่นกลับเก็บสัญญาณย่านเสียงต่ำและสูงไว้ได้ด้วยความละเอียดที่ดี เวลาเล่นเทปชนิดนี้จะต้องเลือกเนื้อเทปไปที่ Metal
หากเล่นในเครื่องเล่นเทปราคาแพงๆ ตัวเครื่องจะมีเซ็นเซอร์เนื้อเทป จากช่องบนสันตลับเทป ให้รู้ว่าเป็นเทปชนิดเมทัล
.
ระบบเสียงของเทป ตั้งแต่เริ่มจนถูกพัฒนามาจนถึงขีดสุดในยุคของมันก็ประมาณนี้ครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับมือใหม่ที่สนใจนะครับ
4 окт 2024