ดร.วิทย์เผย พูดอย่างไรให้รู้เรื่อง เทคนิคง่าย ๆ แค่รู้สิ่งนี้! 

ตอนเด็กๆเรียนภาษาไทย มี 2 ทักษะที่จำขึ้นใจมาจนทุกวันนี้คือ อ.ให้อ่านเรื่องๆหนึ่ง แล้วย่อให้ได้ใจความสำคัญของเรื่องให้เข้าใจง่าย สั้นที่สุด กับให้เราอ่านเรื่องๆ หนึ่งแล้วสรุปว่าเรื่องนี้สอนอะไรเราบ้าง ชอบมากๆค่ะ ทำให้เกิดทักษะเชื่อมโยงถึงการพูดและสื่อสารได้ดี และคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ในเรื่องนั้นได้ค่ะ❤❤

คนที่พูดให้คนอื่นเข้าใจ ยอมรับครับว่าเก่ง ผมมองเหมือนคุณวิทย์ครับ

แกเก่งนะคนนี้ ดูอินเนอร์รู้เลย ความรู้ลึกพอสมควรครับ

🙏 เฮียวิทย์ มี Subtitle เพราะข้อมูลของคุณ สำคัญ ที่จะนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ยูทูปคนดูได้ทั่วโลก ป้าไม่เหนื่อย ต้องมาแปลให้ลุงแกฟัง😀🇸🇪

จริง ๆ ที่เฮียพูดมันคือ Pedagogical Content Knowledge: PCK แต่เฮียพูดให้คนฟังรู้เรื่องแบบไม่ต้องรู้จักศาสตร์นี้ด้วยซ้ำ นับถือออ

เดี๋ยวนี้ใช้พิมมากกว่าพูด เวลาจะสื่อสารบางทีต้องคิดนาน5555

ขอบคุณครับ

ขอบคุณมากครับ

มีประโยชน์มากค่ะ ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณค่ะ

สุดยอดครับ

ขอบคุณเฮียวิทย์ครับ

ยอดเยี่ยมมาก ขอบคุณมากครับ🙏 เฮียวิทย์

อันนี้ถ้าใช้ทั่วไปก็น่าจะดี แต่การสื่อสารกับคนบางคนหรือบางกลุ่มถูกจำกัดด้วยปัจจัย เช่น 1. เวลา ยิ่งถ้าฟังเรื่องกฎหมาย กว่าจะปูพื้นหลักยิ่งใช้เวลา แต่คนพูดพยายามเตรียมคำพูดมาแล้ว แต่สุดท้ายมันก็เป็นเรื่องที่ยากอยู่ดี เพราะถ้าพูดและให้เข้าใจได้ง่ายเลย เป็นเรื่องไม่ใช่ หรือ ไม่จริง หรือ ไม่ได้แปลแบบนั้นแน่นอน มันจึงต้องใช้เวลาพูดหลักการก่อนแล้วค่อยเข้าเรื่อง ใช้เวลา 2. คนฟัง เป็นคนที่คิดว่าตนเองรู้แล้ว เพราะเป็นผู้บริหาร และจะคิดว่าตนเองไม่รู้ก็ไม่ได้ เช่น ตอนฟังถ้าคนพูดจะอธิบายหลักการก่อนเข้าประเด็น คนฟังจะบอกว่าพูดมาเลย ตามนั้น แต่พอได้ไปจุดการต่อในเรื่องนั้น คนฟังกลับทำผิด ไปสื่อสารผิดต่อ แล้วคนฟังคนนั้นก็จะกลับมาพูดกับคนพูดว่า ทีหลังให้อธิบายให้เข้าใจก่อน ผมไม่ใช่นักกฎหมาย ผมจะไปเข้าใจง่ายๆได้ยังไง 3. องค์กรในฝ่ายที่ต้องใช้ทักษะในงานฝ่ายนั้นเป็นวิชาชีพเฉพาะ ไม่ได้เอาคนที่เรียนมาโดยตรงมาทำงานในฝ่ายนั้น แต่เอาคนที่คิดว่าน่าจะทำได้มาทำ และ เจ้านายก็เชื่อว่าคนนั้นรู้เรื่องและทำได้ พอเข้ามาทำ ฟังก็ยากอยู่แล้ว หากลงมือทำก็ผิดซ้ำซากบ่อย และบางทีถึงขั้นเป็นหัวหน้างานเลย พอคนพูดจะเอาผิด เจ้านายก็บอกว่า เขาไม่รู้กฎหมาย จะให้เขารับผิดก็คงจะไม่ยุติธรรมกับเขา แต่ขอให้เขาได้ทำงานที่เดิมต่อ และก็ทำผิดซ้ำซากจนปีที่ 6 มีเกือบทุกวัน 4. การเติบโตแบบก้าวกระโดดขององค์กร ที่ฐานเรื่องการวางตำแหน่งคน ความรู้เหมาะสมในตำแหน่ง และ การมองนิสัยคนยังมองไม่ออก เพราะไม่ได้ศึกษาพฤติกรรมมนุษย์มาโดยตรง พูดแบบนี้เป็นแบบไหน พูดจริง พูดไม่จริง โกง ไม่โกง เช่น พนักงานคนนึงมีคดีทุจริตลักทรัพย์นายจ้างจากที่อื่น (หน้าที่หลักเรา) เราบอกนายจ้าง บอกhr. ยังไงเขาก็ไม่เชื่อว่าพนักงานคนนั้นจะยังทำเหมือนเดิม ผ่านมาแค่ 2 เดือน สร้างความเสียหายตามที่เราบอกไว้ และมากกว่าที่เดิม เจ้านายจึงบอกว่า ให้เราแก้ไขให้หน่อย ทำยังไงได้บ้าง และเป็นแบบนี้วนเวียนมาตลอด 6 ปี ในเรื่องที่เราพูดให้เจ้านายรีบทราบเรื่องจริงไปแล้ว ผ่านมาไม่นานก็จะเป็นแบบที่เราพูดทั้งหมด การสื่อสารไม่ได้ช่วยอะไรเรา ความเชื่อและความไว้ใจในที่แห่งนี้มาก่อน บางทีเราเข้าประชุมเห็นโปรเจ็กฟังแล้วมันไม่ใช่ แต่พูดข้อดีให้ผู้บริหารอย่างเดียว เราเตือนว่าไม่ใช่ ถ้ามันดีแบบนั้นจริง ที่อื่นเขาก็รับเงื่อนไขได้เหมือนกัน ไม่ต่างอะไรกับ ซื้อเข้า 5 บาท ขาย 7 บาท แข่งในตลาดได้ แต่ความจริงซื้อเข้า 7 บาท สะสม 5 ปี โดนวางบิลส่วนต่างมากมาย และเราพูดให้คนฟังเสมอว่า คนพูดจาดูดี กับคนพูดจาจริงๆ มักต่างกันเสมอ พยายามหานิสัยพฤติกรรมคนอ่านคดีเกี่ยวกับคน พฤติกรรมคนเยอะๆ จะได้ไม่เราว่าลบ แต่ที่เรายังอยู่ได้ทั้งที่มีคนไม่ชอบเราก็เพราะว่า ที่เราบอกเตือนไว้ หรือที่เราโดนด่าไปว่าคนนั้นนี่นั่น สุดท้ายต่อมายังเป็นเรื่องจริงเสมออยู่ และคนแก้ปัญหาในสิ่งที่เขาไม่เชื่อเราก็คือ เราเอง และก็จะวนไปแบบนี้ 4. สรุปโดยส่วนตัว คิดว่าอยู่ที่วัฒนธรรมองค์กร กับ คน และ เรื่องความรู้ในงานที่ทำประกอบกัน คล้ายๆกับคนที่พอเกิดปัญหาแล้ว ให้คิดบวก หรือ ความจริงแล้วรับความจริงไม่ได้ เพราะคนบางคนสร้างความไว้วางใจให้กับเจ้านายไปเยอะ ทั้งที่ใช้คนทำงานเป็น แต่ได้รู้เรื่องเฉพาะที่ยากจริงๆ 5. สรุปโดยส่วนตัว เกิดจากปัจจัยหลายอย่างทั้งคนพูดคือใคร คนฟังคือใคร ยิ่งถ้าเจ้านายจับคนพูดให้พูดเรื่องเฉพาะกับคนฟังที่ไม่มีทักษะ ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ พอให้มาฟังและเข้าใจยาก เจ้านายจะโทษคนพูดว่า เขาไม่ได้เรียนมาโดยตรง จะให้เขาเข้าใจจริงๆคงจะไม่ได้ แต่เจ้านายจะให้ทำงานร่วมกัน ฝ่ายเดียวกัน 6. ปัจจัยเสริมอีกอย่างนึง คือ เสือ หมา ควาย ถ้าองค์กรไหน ใช้หมาเป็นหัวหน้างาน วัฒนธรรมองค์กรก็จะเป็นอย่างที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ซึ่งไม่เกี่ยวกับกำไร หรือรายได้สุทธิ แต่พูดถึงความเห็นเฉพาะเราในเรื่อง คน

นายส่งมาให้ เลยเข้ามาฟังครับ แนะนำได้ดีมากเลยครับ ขอบคุณครับ 🥰

สั้นๆแต่คุณภาพมากครับ 😊

พยายามจะทำความเข้าใจคนฟัง ก่อนพูด แต่รู้สึกว่าทำได้ยากมากเลย .. ไม่รู้ว่าเราเป็นผู้ฟังที่ไม่ดี หรือเป็นคนที่สรุปความไม่เก่งก็ไม่รู้

เสียง ดร. คมชัดมากครับ

ขอบคุณมากค่ะเฮียวิทย์ เรามีปัญหานี้มาก ๆ เหมือนกัน

มีสอนอีกมั้ยครับ

เฮียวิทย์คะ ดิชั้นชอบคุณค่ะ ...ชอบที่คุณสื่อสารชัดเจน ความรุ้เยอะ พลังงานเต็มดีมาก ดิชั้นจึงชอบคุณมากๆเพราะเหตุนี้ คุณคือคุณสนธิ2.....ขอขื่นชมจากใจจริง

ขอบคุณมากครับทนายแก้ว

รักเฮียวิท

เห็นด้วยครับ ขอบคุณครับ

ดีมากเลยค่ะ ...มีลูกสาวพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง

พูดเหมือนอาจารย์เป๊ะ ตอนนำเสนอ แกบอกแบบนี้ตลอด55555

ตอนแรกก็คิดว่าตัวเองพูดไม่รู้เรื่องครับ แต่พอเรียบเรียงตัวเอง จัดการตัวเองเรียบร้อยแล้ว อ้าวสรุปมันไม่ใช่เรานี่หว่า เราปรับนิดเดียวก็รู้เรื่องละ แต่อีกฝ่ายเขาไม่รู้เรื่อง สุดท้ายก็ไม่พูดละ ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่พูด

😊

เฮียมีความรู้ความสามารถอยู่แล้วครับ เฮียให้หัวใจไปด้วย❤❤ฟังเฮียแล้วเข้าใจง่ายกว่าอีกหลายท่านทั้งๆที่การเสนอเหมือนกัน😊😊😊😊

ชอบคนที่เขาจัดเรียงแล้วและจัดการเขาได้เพราะประสบผลสำเร็จในชีวิต

ขอบคุณครับ กำลังติดปัญหานี้อยู่พอดีเลยครับ555

หน้าน้องหญิงลอยมาเต็มๆ

ทำไมผมฟังพี่คนนี้พูดฟังยาก เหมือนพูดสำเนียงฝรั่ง

ขอบคุณที่ให้ขบวนการความคิดที่ใช้ได้จริง

บางคนไม่ได้พูดเพื่อสื่อสารครับ เขาแค่อยากแสดงความเหนือกว่าของสติปัญญา...

คนไม่ยอมรับ พูดยังไงก็ไม่ยอมรับ ฝรั่งบอก ให้ เลิกพุด แล้ว ออกห่าง

วัตถุดิบมี หมูกรอบ,กุ้ง,หมึก, ปรุงตามสั่งๆเลยครับ ต้ม,ผัด,แกง,ทอด,ยำ,ลาบ เช่น, ข้าวกะเพรา 40/50/60 บาท ใส่จาน ใส่ถุง ผัดกะเพรา 80/100 บาท ใส่จาน ,ใส่ถุง

ส่วนตัวชอบฟังสรุป ไม่ชอบฟังคนพูดยาวๆเลย

ไม่รู้ว่าเป็นปัญหาของประเทศไหมที่อาจารย์บางคนที่สอนเรา ก็พูดไม่รู้เรื่อง 😅

บ่อยครั้ง คนคุยกับเราจนจบ เราไม่รู้เรื่องตั้งแต่ต้น 😂😂😂

แกเก่งนะ ศึกษามาเยอะ แต่เล่าประวัติศาสตร์ทีไม่รู้เรื่องเลย มันไม่ไหลลื่น พาแวะจนงง ไม่เห็นภาพรวม ยิ่งเวลาจะพูดชื่อคนแต่ละทีแกก็จะใส่สำเนียงจนรู้สึกแบบเว่อร์เกินจิง ภาษาเยอรมันนี่เน้นหนักมาก ขูกขากมาเต็ม ฟังแล้วสะดุดหูมาก ยอมรับว่าแกรู้ละเอียดจริง แต่ทักษะการถ่ายทอดเรื่องราวคนละชั้นกับช่อง point of view เลย

ไม่ชอบเสียง..ฟังแล้วรุ้สึกเหนื่อย