ถือศีล 5 ของคนกับควายต่างกันยังไง? 

ทาน จนจิตเป็นผู้ให้... ศีล ก็เกิดโดยอัตโนมัติ ภาวนา จิตก็สงบรวมเป็นปัจจุบันได้ง่าย เข้าถึงธรรม เป็น ปัจจัตตัง รู้ไว้เฉพาะตน สาธุ สาธุ สาธุ

ฟังคุณลุง มานาน ทราบว่าคุณลุงมีความรู้ธรรมมะมาก แต่ไม่เคยฟังธรรมมะ จากคุณลุงเลย วันนี้ ได้ฟัง ลึกซื้งมากครับ สาธุ ครับ สาธุ ...!!

ถึงวัวควายจะทำได้ แต่คนบางคนก็ยังทำไม่ได้เลยนะ ฉะนั้นการรักษาศีลห้าได้จึงถือว่าดีแล้ว ควายมันเป็นสัตว์มันจึงไม่มีเรื่องราววุ่นวายพบเจอสิ่งเย้ายวนใจเหมือนคน ฉะนั้นคนที่รักษาศีลห้าได้จึงเป็นคนดีโดยสมบูรเช่นกัน พูดแบบนี้มันก็ไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่ ดูแล้วลุงน่าจะรู้จากการศึกษาไม่ใช่จากการปฏิบัติ

คนพูดคนเดวกัน คำพูดคำอธิบายแบบเดวกัน แต่ต่างคนฟัง ต่างเข้าใจ ลึกซึ้งมากน้อย ตามภูมิจิต ภูมิธรรม ของบุคคล ผู้นั้น สาธุๆๆๆ

อนุโมทนาสาธุกับธรรมทานของคุณลุงด้วยครับ พึ่งเริ่มต้นพยายามปฏิบัติ ทาน ศีล ภาวนา มาได้ช่วงหนึ่ง แต่ไม่เคยคิดเลยว่าสามส่วนนี้จะสอดคล้องหนุนเนื่องกันเหมือนที่คุณลุงได้กรุณาอธิบายให้ฟังจนเห็นภาพเลย งดงามจริง ๆ ฟังแล้วปลื้มมาก ๆ ครับ

ครั้งนี้ได้รู้จักรลุงโฉลกลึกซึ้งมากขึ้นอีกชั้นหนึ่ง ดีใจที่ได้รู้จักรครับ ขอให้ลุงโฉลกสุขภาพแข็งแรง อยู่ให้ความรู้กับลูกหลาน เพื่อนฝูงต่อไปนานๆครับ

ศิล5ข้อที่กล่าวถึงกัน จริงๆแล้ว คือกฏธรรมชาติ เป็นเหตุเป็นผล ซึ่งกันและกัน มีอยู่คู่โลกตาม ธรรมชาติตลอดเวลา ปุถุชนคน ธรรมดาไม่รู้ ไม่เข้าใจ ชาวพุทธเรานึกว่า นี่คือคำสอน ของพระพุทธเจ้า เรื่องหนึ่งในหลายๆเรื่อง คิดว่านำมาปฏิบัติ ตามแล้วจะทำให้ สังคมมวลมนุษย์ สงบสุข มองเผินๆ รวมๆก็จริง ถ้ามนุษย์โลก ปฏิบัติตามได้ งดเว้นการทำผิด ทั้ง5ข้อได้ การ อยู่ร่วมกันในสังคมชาวโลก ย่อมเป็นสุขไม่ว่า จะชนชาติไหน เชื้อชาติไหน นับถือหรือไม่นับถืออะไร หรือศาสนาใดๆ ก็ตาม เป็นสัจจะ ความจริงตลอดกาล นี่มองในโลก ขณะมีชีวิต บนโลกนี้ก็มีความสุขทั่วหน้า แล้ว แต่ในความ เป็นจริง กฏธรรม ชาตินี้(ศิล5) ยังผูกโยงไปถึง ภพหน้าชาติหน้า อีกด้วย คือผลที่ สร้างเหตุงดเว้น จากการทำผิด 5ประการนอกจาก มีชีวิต สงบสุขแล้ว ผลที่สร้างไว้นี้ ยังตามส่งผลถึง ภพชาติหน้าด้วย (ชาติหน้ามีตามคำสอนของพระพุทธเจ้า) ดังนั้นสร้างเหตุ ครั้งเดียวได้ผล 2ต่อ ทางกลับกัน ถ้าระเมิดทำผิดศิลทั้ง5ข้อก็จะต้องรับผลตรงกันข้าม2ต่อเหมือนกัน คือทั้งชาตินี้ และชาติหน้า 5ข้อนี้จะถือว่า เป็นหลักสากล ก็ว่าได้ เพราะ ถ้าสร้างเหตุ เหมือนกันก็จะได้ รับผลเหมือนกัน ทุกคน ย้ำว่า ทุกคน ไม่เกี่ยงว่า จะสังคมชนชั้น วรรณะ เชื่อชาติ เผ่าพันธุ์ ใดๆ เพราะเป็นสัจจะ ความจริง ของกฏธรรมชาติอย่างนี้ ตลอดกาล พระพุทธเจ้าทรง ตรัสถึง ผลในภพ หน้าไว้ด้วยตามที่พระองค์ทรง ตรัสรู้ คือศิลทั้ง 5ข้อ หรือทำผิด ข้อใดข้อหนึ่ง เป็นประจำผลคือ ได้ไปเกิดในนรก กำเนิดเดรัจฉาน เปรตวิสัย ถ้าทำ ไม่มากไม่บ่อย เช่นข้อ1ผลจะ ทำให้อายุสั้น เป็นต้น(ข้ออื่น ลองค้นหาดูได้ ในพระไตรปกฏก ว่าโทษสถานเบาของข้อ อื่นๆเป็นอย่างไรบ้าง)สรุปคือศิล5 มีผลกับทุกคนทั้ง โลกปัจจุบัน และโลกหน้า ชาติหน้าแน่นอน ความนี้มาพูดถึง ว่าจะรักษาได้อย่าง ศิลควบคุม พฤติกรรมทางกายและทางวาจา กาย วาจา จะทำผิดได้เกิดมาจากการบงการสั่งการ ของจิต ผัสสะ กระทบจิตรับรู้ ปรุง แล้วสั่งกาย ให้พูดและทำ ก่อนพูด ทำจะคิดก่อนเสมอ ดังนั้นมีสติ คอยรู้ทันจิตควบคุมความคิด ได้ การทำผิดศิล ข้อใดๆก็จะไม่มี แต่ก็ไม่ง่ายเพราะจิตปรุง เร็วมากๆ จึงต้อง อาศัยการฝึก มีสติรู้ทันความคิดไว้เนืองๆ ใหม่หลุดบ้าง ก็ปล่อยไปฝึก ใหม่เรื่อยๆ จะ ดีขึ้น รู้ทันจิต รู้ทันความคิด ได้เร็วขึ้น ลองพิจารณาดู นะครับ ว่าเป็น จริงตามนี้มั๊ยครับ เจริญธรรม สาธุ

ปลื้มเข้าไปอีก เป็นตัวอย่างครอบครัวที่ดีมากเลยค่ะ ที่คุณพ่อสอนลูกและเป็นต้นแบบในการดำเนินชีวิตที่ดีทั้งทางโลก(การงาน) และทางธรรม สาธุในธรรมที่แชร์แก่นักลงทุนค่ะ 🙏😇

คือการพัฒนาไปเรื่อยๆของจิต ทำได้ระดับนึงแล้วรู้สึกดีเลยอยากพัฒนาไปให้ได้สูงขึ้นๆๆ อยากเข้าใจให้มากขึ้นๆๆ แต่สำหรับบางคนปัจจัยยังไม่พร้อม (ด้านฐานะ ปัญญา อะไรก็แล้วแต่)ก็เป็นการลดการทำกรรมดำลงไปและเพิ่มกรรมขาวให้มากขึ้น เพื่อให้พร้อมสำหรับการพัฒนาไปขั้นต่อไป อย่างที่บอกไปว่าปัจจัยหรือนิสัยแต่ละบุคคลต่างกัน ผมเชื่อว่ามีวิธีการที่หลากหลายในการไปสู่ปลายทางเดียวกันนั้น เสน่ห์ของพุทธคือตรงนี้แหละครับ

ทาน ศีล ภาวนา อธิบายเข้าใจแจ่มแจ้งครับ

เช้านี้เปิดมาเจอสิ่งดีๆ วันนี้ทั้งวันผมได้กำไลชีวิตแล้ว ขอบคุณครับ

ชอบฟังคุณลุงค่ะ ฟังแล้วเกิดปัญญา

น้อมกราบอนุโมทนาสาธุครับครับคุณลุง ฟังธรรมมะแต่เช้าชื่นใจครับ

เปิดมาเจอคลิปนี้พอดีเลย ดีใจจัง เพราะสงสัยมานานแล้วๆคิดไปเองว่า ควายมันก็มีศีลเหมือนคนนะ มารู้คำตอบก็คลิปนี้ ไขข้อข้องใจข้อสงสัย และได้รับความรู้เพิ่มละเอียดเพิ่มค่ะ สาธุๆๆอนุโมทามิค่ะ❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤😂😂😂🎉🎉🎉

เป็นอธิศีลนั่นเองครับ พระที่อธิบายได้เข้าใจง่ายๆคือพระสิ้นคิดครับ ท่านบอกให้หยุดอกุศลมโนกรรม เหมือนพระถือศีล 227 เป็นแค่กายกรรม กับวจีกรรม แต่ใจยังไปชอบเมียชาวบ้าน ถ้าหยุดคิดปรุงแต่งไม่ได้ ก็ยากที่จิตจะเป็นอธิศีลครับ พอฟังลุงโฉลกก็จะได้รายละเอียดที่เพิ่มขึ้น สาธุด้วยครับ

ขอบคุณมากๆนะคะ 🙏 กำลังพยายามฝึกให้ตัวเองมีสีลานุสติ พอดูคลิปนี้เข้าใจ และเห็นภาพมากๆขึ้นเลยค่ะ

เรียบเรียงด้วยปัญญาได้อย่างสวยงาม สาธุอนุโมธนาครับ

กรณีควายนั้นเรียกว่า มีศีล ไม่ใช่ รักษาศีล มันต่างกัน มีศีล เช่น ไม่ชอบฆ่าสัตว์ไม่ชอบขโมยของใครไม่ชอบผิดลูกเมียใครไม่ชอบโกหกไม่ชอบกินเหล้า แต่ไม่ได้ประกาศตนรักษาศีล รักษาศีล คือ ต้องประกาศตนว่าจะรักษาศีล กี่วันๆ หรือ ตลอดชีวิต เมื่อประกาศแล้วต้อง ถือศีล รักษาให้ได้ตามสัจจะนั้น มีศีล กับ รักษาศีล(ถือศีล) มันต่างกัน 😊

ในหลายๆครั้งที่หนูทำบุญ/ทำทาน ขนหัวลุก ขนแขนลุก เลยค่ะ และะหนูพยายามจะคิดดีทำดีเสมอ ทุกครั้งที่มีโอกาสไปไหว้พระไหว้เจ้า จะขอให้เรามีสติปัญญาในการแก้ไขปัญหา ขอให้มีสติในการดึงตัวเองกลับมาจากสิ่งที่คิด/ปฏิบัติไม่ดี ขอบพระคุณ คุณลุงค่ะ ที่ให้ความรู้ทั้งการลงทุนและะธรรมะเสมอมาก 🙏🙏🙏

ส่วนตัวก็ถือศิลห้า มันเป็นโดยธรรมชาติของเรา ความเมตตาทานก็ยอมเกิดขึ้นในใจเสมอ ไม่ได้ยึดในข้อปฏิบัติใดๆ เพราะสิ่งที่เราจะทำมันมองเห็นผลที่จะตามมา เรื่องใดที่จะทำให้เดือนร้อนกับผู้อื่นเราก็ละผ่านไป สิ่งที่ชอบทำมากสุดก็คือการช่วยชีวิตสัคว์แม้แต่ไส้เดือนที่ดิ้นอยู่บนพื้นปูนร้อนๆเพราะเรารู้ว่าผลของมัน ก็คือตายแน่ๆ สิ่งที่ควรทำก็คืือช่วยให้พ้นจากความตาย

ชอบฟังครับ ธรรมะแบบนี้ ไม่คิดว่าจะมีใครมาอธิบายให้เข้าใจได้ง่ายแบบคุณลุง...นับถือครับ❤❤

ผู้หลักผู้ใหญ่ ที่ไม่แก่ไปเฉยๆ 🙏

สาธุครับ ลุงโฉลก❤ วัฏสงสารนี้มีเเต่ทุกข์ จะสุขก็หลงไปยึดจนกลายเป็นทุกข์อยู่ดี หากปฏิบัติถึงผมไม่ต้องการมาเกิดอีกเเล้ว🙏

ธรรมะ อุบาสก ก็สาธยาย ได้ และเข้าใจง่ายๆ ก็มีอีกหลายท่าน คุณลุงก็เป็นท่านหนึ่ง ขอบคุณที่ชี้ทางจนเห็นธรรม สาธุ สาธุ สาธุ...

ดูหน้าปกเกือบจะเลื่อนผ่าน แต่พอได้ฟังแล้ว ต้องฟังจนจบ คุณลุงพูดได้มีเหตุผลดีมาก ชอบคำว่าอภัยทานในความหมายของลุงมาก มันดูใช่เลย

เห็นปกคลิป ต้องรีบเข้ามาฟังคุณลุงโฉลกเลยค่ะ..สาธุค่ะ🙏❤️🩷🩵💛💚💜

พูดได้ ไพเราะ กังวาน จากจิตใจ เปี่ยม สัจจะ หลั่งไหล ความดี สู่ผู้ฟัง ให้มีธาตุรู้ที่ รองรับได้ ตื่น เบิก บาน 13:02 บาร.มี ขออนุโมทนาบุญ สาธุ ๆ ฟังแล้ว สะดุดใจ ให้มันทะลุใจไปเลย

ฟังตอนเช้าๆๆเพลิน​มากค่ะ🎉

อธิบายได้ดีมาก

ทำไมต้องพูดให้มากความ ศีลก็คือเจตนาการ ละชั่ว ทำดี ทำจิตให้ผ่องใส นั่นแหละเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์

สาธุ🙏คุณลุงโฉลก แสดงธรรมได้งดงาม ทั้งเบื้องต้น ท่านกลาง และที่สุด...ที่ทิ้งท้ายไว้ ถ้าเล่าต่ออาจจะยาว เช่น ศึลเป็นบาทฐาน ต่อยอดไปภาวนา ในระดับสมถะ - วิปัสสนา ที่ไม่เรียกว่ากรรมขาว หรือกรรมดำ อาจจะเรียกว่า กรรมใสก็ได้ เป็นบุญที่สูงสุด เพราะทำให้หลุดพ้นจากวัฏฏะได้

ขอบคุณมากนะครับ เข้าใจในธรรมไดดีขึ้นมากอีกครับ

นึกถึงคำพูดของคุณหมอท่านหนึ่งที่ผมเคยฟังไว้ เรื่องบารมี 10 ผมเห็นด้วย และ สอดคล้องกับที่คุณลุงพูด ที่ว่า ทานบารมี จะเป็นปัจจัยเบื้องแรก (น่าจะเป็นเหตุด้วยหรือปล่าว ขอผู้รู้ช่วยตอบด้วย) สนับสนุนให้บารมีอื่นๆ พัฒนาขึ้น (เพิ่มพูนขึ้น) เป็นไปตามลำดับ

ขอบคุณครับ..เข้าใจแต่ละขั้นตอนการปฎิบัติ..สาธุครับ

ถ้าเข้าถึงความบริสุทธ์ของศิลแล้ว จะเป็นอัตโนมัติไม่ต้องถือเลย สาธุครับ

สุดยอดครับอาจารย์ ผมเรียนมา ฟังมาเยอะ แต่มาฟังอาจารย์เข้าใจแจ่มแจ้งดีมากครับ คุยเรื่องแบบนี้บ่อย ๆ นะครับ ขอบพระคุณมากครับ

การศึกษาธรรมะ มันมีระดับอย่างนี้มีพื้นฐานอันเกิดจากใจที่ต้องการ "ให้" หรือละความยึดมั่นใดๆทางโลกออกไป อันนี้เป็นพื้นฐานคือมาจาก ใจ เรานั่นเองว่าสิ่งๆต่างๆทางโลกล้วนแล้วแต่ไม่มีประโยชน์ที่จะหวงแหน การให้ทาน จึงเป็นสิ่งแรกๆที่จะนำพาคนเข้ามาสู่การปฏิบัติธรรมในขั้นต่อไปคือการถือศีล พื้นฐานไม่ใช่การปฏิบัติแต่มันจากจิต ตั้งแต่เริ่มนั่นเอง ฉนั้นเมื่อพื้นฐานดีการเข้าถึงธรรมจึงง่าย ศีลตรงนี้จะส่งเสริมความรู้สึกนึกคิด เสริมให้จิตใจละความยึดมั่นยึดถือทางโลกออกไป ระดับของศีลตรงนี้ก็จะไปเพิ่มให้มีความสมถะ ความมักน้อย ใช่ชีวิตตามความจำเป็นตามธรรมชาติ เกิดขึ้นมาให้ชัดเจนในใจมาก เมื่อความต้องการ กิเลส ตัณหา น้อยลง ทีนี้จึงต้องเรียนรู้การเข้าสู่สมาธิ ตามลำดับ. ตามหลักของไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ในระดับสูงท้ายที่สุดต้องจบที่การออกบวช เพียรปฏิบัติโดยมีพื้นฐานของธรรมมะที่ดี เลยจากขั้นสมาธิไปไม่คิดว่าจะมีใครเข้าใจตรงนี้แล้ว เพราะเป็นธรรมะที่เข้าถึงได้เฉพาะคนที่มีคุณธรรมพร้อมเท่านั้นเอง ยิ่งคุยเรื่องของปัญญาการรู้แจ้งเห็นจริงถึงสิ่งต่างๆบนโลก คุยกันเพราะจำมาอันนั้นคือแทบทั้งหมด ต้องเป็นคนที่พื้นฐานจิต ดี โดยมีศีลธรรมกำกับให้ชัดเจน มีครูบาอาจารย์ นำพาปฏิบัติถึงจุดนึงจึงจะสนทนาธรรมได้อย่างถ่องแท้ เลยขั้นสมาธิไปได้แต่พูดสอนกันคับ คนที่เข้าใจจริงๆนี่ไม่รู้ไปอยู่ใหน คงแล้วแต่บุญวาสนา ว่าจะได้พบเจอหรือไม่เท่านั้น. ขอบคุณที่ทำให้เข้าใจและเน้นชัดตรงนี้ อาจารย์ช่วยเติมเต็มคำตอบในใจของผมให้มั่นใจมากขึ้น เขาว่าธรรมมะ มันอยู่ในใจ เข้าถึงได้เป็นใครก็คือพูดได้ตรงกัน แม้ไม่ร่ำเรียนมา เป็นสิ่งอัศจรรย์อย่างนึงของพุทธศาสนาคับ สาธุ 🙏

ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ ทางช่อง ที่นำเสนอเรื่องราวดี ดี น้อมกราบคุณลุง คุรุผู้มีปัญญา ยิ่งนัก สาธุเจ้าค่ะ

ตีคำถามว่า ถือศิลด้วยปัญญา หรือ อย่างฉลาด ต้องเข้าใจก่อนว่า ศิล แปลว่า ปกติ ปกติจากอะไร ปกติจากการประพฤติผิด ทางกาย วาจา ใจ ถ้าอ.บอกให้แก้เหตุ ก็คือ ใจ ครับ พุทธศาสตร์ ของเราสุดท้ายจบที่ใจ ตัวเดียว ครูบาอาจาร์ต่างๆท่านก็สอนไว้ หลัก ไตรสิกขา ศิล สมาธิ ปัญญา ก็ไม่ได้เริ่มจาก ทาน แต่ ทาน เป็นตัวขัดเกลาจิตใจ ให้ใจมีความอ่อนน้อมลง มีเมตตา กรุณา ไม่แข็งกร้าว และเกิดอธิศิล ง่ายขึ้น ดังนั้น การถือศิลอย่างมีปัญญา ต้อง ถือศิลควบคู่ไปกับการทำทาน ถืออย่างไร แนะนำ พูดให้น้อย ปฏิบัติให้เยอะคู่กับการทำทาน จะเกิดปัญญารู้ทันกิเลสที่มากระทบอินทรีย์6 เร็วขึ้นๆ ภพชาติของมันจะสั้นลงๆ

อนุโมทนาสาธุค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ผู้ให้ธรรมะเป็นทาน ได้ชื่อว่าชนะการให้ทั้งปวง...

ศีล หมายถึง การประพฤติเป็นไปของจิต เจตสิก ขออนุโมทนาครับ

สรุปดีกับชั่วเลือกเอาครับ ทำแล้วสบายใจทำครับ แบบนี้ทุกศาสนา

ขอบพระคุณคุณลุงอย่างสูงนะคะ ขออนุโมทนาบุญอย่างยิ่งค่ะ❤

ลุงฟังแล้วเข้าใจง่ายมากเลย อยากศึกษาธรรมะต่อดูที่ไหนดีครับ

จากที่เป็นคนไม่ชอบฟังธรรมจากช่องการลงทุนของลุงโฉลกมากๆ ตอนนี้ชอบมาก สาธุ 🙏

อยากฟังแบบละเอียด ยาวๆค่ะชอบมากๆ

ใครหนอกำหนดชั่วดี ใครบทบัญญัติเอาไว้ ใจเป็นสุขทุกข์ไม่มีชั่วดีไม่เกิด

กราบอนุโมทนาบุญกับคุณลุงด้วยครับ สาธุสาธุสาธุ🙏🙏🙏

ศีลเป็นข้อปฏิบัติ ศีลไม่ใช่ข้อห้าม อ.ให้ความรู้ถูกต้อง แต่ปัญญาของมนุษย์ไม่เท่ากัน ลึกยิ่งลึกซึ้ง กลายเป็นไม่เข้าใจข้ามภพข้ามชาติ

อนุโมทนาสาธุครับ

ครับขอบคุณครับ สาธุอนุโมทนาบุญดว้ยนะครับ

ไม่อยากให้เปรียบเทียบกัน เพราะคนกับควายมันแตกต่างกัน ทุกอย่างอยู่ที่ ความตั้งใจ ทำแล้วไม่ละเมิดศีล ทุกคนมีแนวทางปฏิบัติต่างกันตามจริต เส้นทางของความหลุดพ้นแต่ละคนใช่จะเหมือนกัน กินข้าวใช่ใจจะสูงทั้งหมด และกินหญ้าใช่จะใจต่ำอย่างที่คิด..

ขอบคุณคุณลุงมากๆครับ สำหรับความรู้ที่เมตตาครับ

อนุโมทนาสาธุ...ขอบคุณมากค่ะ

ทาน ศีล ภาวนา เป็นดั่งเก้าอี้สามขา ไม่สามารถขาดกันได้ แต่ภาวนานั้น คือฐานของการกระทำทั้งมวล ที่จิตเราจะบันทึกไว้ได้ บุญ บาป บันทึกที่จิตเรา ดังนั้นการภาวนาก็เหมือนกับการบริหารจิตให้มีกำลัง พอมีกำลังเเล้วนั้น การทำทานและถือศีลก็จะมีกำลังมากขึ้นตามไปด้วยนั้นเอง

ชัดเจนดีครับ

กระจ่างเลยครับ ชัดเจนมากๆครับ

ศีล มาจาก เจตนา เจตจิต สังวร สำรวม เริ่มต้น เหตุ ที่ทำให้มีศีล ทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ เหตุ ของ ศีลมาจากทาน = บุญ ปัจจัตตัง วัตถุทานให้บริสุทธิ์ ผู้รับทาน = นาบุญ มีศิล ผู้ให้ต้องมีศีล ทานจะบริสุทธิ์ มหาทาน การไหลมาแห่งบุญ ทานที่ยิ่งใหญ่ที่สุด 1. การให้ความไม่มีภัย คือ อภัยทาน 1.1 ไม่ทำร้ายใคร อภัยทาน เกิดจากความชื่นใจในทาน ศีล มาจากบริสุทธิ์แห่งทาน มหาทาน คือ ศีล 5 ข้อ ศีลประกอบด้วยเจตตนา ทานบารมี ไม่มีข้อเสีย ศีล ปราโมช ปิติ สมาธิ สุข = ศีลบารมี ศีลเมื่อเต็ม้ปี่ยม อยากปฏิบัติ พิจารณา = ศีลานุสติ สมถะกรรมฐาน 1 ใน 40 อารมณ์ดรรมฐาน สีลานุสตื เนกขำมะ ดังนั้น ทาน เป็นศีล / ศีล เนกขำมะ/เนกขำมะ ปัญญา/ ปัญญา กล้าหาญ,เพียรพยายาม/ความเพียร ขันติ/ ขันติ สัจจะ/สัจจะ อธิษฐาน/อธิษฐาน อธิษฐานบารมี/อธิษฐานบารมี เมตตาตาบารมี/เมตตาบารมี อุเบกขาบารมี/เมตตาบารมี 10 สำเร็จ/ เมตตา มาจากอธิษฐาน สัจจะ เมตตาทางโลก ทานบารมี สาธุ สาธุ สาธุค่ะ (กราบขอบพระคุณอย่างสูงนะคะ ถึงรากถึงแก่นของธรรม ลึกซึ้งแต่เข้าใจ ) อนุโลม ปติโลม ศีลประกอบด้วยปัญญา

ยอมรับเรื่องธรรมะของลุงเลยครับ ปกติฟังเรื่องการลงทุนแล้วนึกแย้งตลอด

เสียงอ่านพุทธวจน ===>> สุคตวินโย...ครับ🙇‍♂️🙇‍♂️🙇‍♂️

สาธุขอบคุณครับ🙏🙏🙏

ขอบคุณมากครับ

ลุงโฉลกสอนทั้งทางโลกและทางธรรม ชีวิตต้องมีทรัพย์สองด้าน อริยะทรัพย์ภายในและทรัพย์ทางโลก

สาธุครับคุณลุง

ทาน - ศีล - ปัญญา สิ่งเหล่านี้ เป็นเพียงเเค่เครื่องมือ ที่จะทำให้เรามีความเมตตา เกิดขึ้นภายในจิตใจของเรา .... เเต่ ความเมตตา เป็นสิ่งที่หาได้ยาก เพราะมัน คือ การปรารถณาให้ผู้อื่นเป็นสุข เพียงอย่างเดียว เเต่โดยธรรมชาติของมนุษย์เเล้ว เราจะต้องเป็นสุขก่อนอันดับเเรก เเล้วเราจะสุขได้อย่างไรล่ะ เราจะสุขได้ ก็ต่อเมื่อ เราดีกว่า เก่งกว่า รวยกว่า มีชื่อเสียงกว่า หรือถูกต้องกว่า ถ้าเเกไม่เชื่อ เเกจะได้เห็นดีกัน เเกจะต้องเสียใจกับสิ่งที่เเกคิด เเกทำ เราไม่ยอมให้ผู้อื่นเป็นสุข ทั้งๆที่ การที่เค้าเป็นสุข มันไม่ได้ทำให้เราสุขน้อยลงเลย การให้ คือ การปรารถณาให้ผู้อื่นเป็นสุข โดยไม่หวังผลตอบเเทน เเต่การให้ เเล้วหวังผลตอบเเทนมัน คือการเเลกเปลี่ยน 😱 ฉนั้น เมื่อไรที่จิตใจของเรามีความเมตตา มันจะทำให้เราวางจิตใจที่มีอยู่ได้ในทุกๆเรื่องยังไงล่ะ เเต่คนส่วนใหญ่ มีเเต่ปาก คือ ไม่มีจริง

ขอบคุณ ครับคุณลุงเป็นความรู้ที่เข้าใจง่ายครับ

สาธุ..ปัญญาเกิดคร้าบ😊

สาธุ..ขอบคุณค่ะ

เพิ่งทราบวันนี้เองว่า ศีลพัฒนามาจากทาน

เหมาะสมแล้วครับ

สาธุครับ

จะถือศีล อย่างไรก็ได้ ขอเพียงอย่าทำให้ผู้อื่นและตนเองเดือดร้อน

สาธุสาธุเจ้าค่ะ

ขอบคุณมากครับ 😊

ขอบคุณครับ

ขออนุญาติถาม ลุงโฉลกได้ทานเนื้อสัตว์ไหมครับ

สาธุธรรมครับ...

เวรกรรมของคนไทย ที่ดันมีความหมายของคำว่า "ทุกข์" ในแบบภาษาไทย คือมีความหมายประมาณว่า "สภาพที่ทนได้ยาก" แต่ความหมายของคำว่า "ทุกข์" ในความหมายของพระศาสดา มีความหมายประมาณว่า "ทุกข์ คือ การที่สิ่งสิ่งนั้น ไม่สามารถคงทนสภาพเดิมอยู่ได้ ต้องเปลี่ยนแปลงอยู่ร่ำไป" นี่ความหมายของคำว่า "ทุกข์" ในความหมายของพระศาสดา การปฏิบัติจนถึงที่สุดแห่งทุกข์ คือ เข้าถึงสภาพที่ไม่มีปัจจัยมาปรุ่งแต่งให้เปลี่ยนแปลง นิพพาน คือสภาพที่พ้นไปจากความทุกข์ คือสภาพที่ไม่เปลี่ยนแปลงแล้ว ประมาณแบบนี้ ทุกวันนี้ที่เถียงกัน แบ่งแยกนิกายกัน ไปกันคนละทาง เพราะใส่กระดุมผิดตั้งแต่เม็ดแรกแล้ว (นี่แค่อธิบายในแบบสมมติบัญญัตินะ..เฮ้อ.หลายชั้น..เห็นแล้วเหนื่อยแทน)

การที่คนเรายังหลงงมงายมากเพราะพระสงฆ์เวลาเทศน์ให้พวกเราเรื่องทานก็แน่นแต่ทำให้เงินเยอะๆก็จะได้บุญ รักษาศีลก็ง่ายๆ ฟังก็พูดแต่ อธิบายง่ายๆ พวกเราก็เลยหลงทางไปเลย

ขอยืมคำพูดของเด็กอุตริมาใช้คือ คุณลุงพูดระดับคนฟังที่จะเข้าใจ คือคนที่เคยศึกษาธรรมะมาก่อน ส่วนคนที่เอาุถุงคลุมหัวอยู่คงไม่เข้าใจหรอก ต้องให้น้องไนซ์และพระอ้าง หลอกเอาเงินก่อนถึงจะหันมาศึกษาธรรมมะซ๊ะที

สาธุ ๆ ครับ

สาธุค่ะ

สาธุค่ะ❤

ผัสสะครับ คำเดียว อยู่แค่รู้หรือไม่รู้ครับ มันเป็นแค่ snapshot จะหลุดหรือไม่หลุดมีแค่นั้นครับ เหมือนท่านเจ้าสรกานิศากยะ ขอบคุณคุณลุงที่อธิบาย

สาธุ​สาธุ​สาธุ​🙏​

การให้ทานก็เป็นการละความตะหนี่เพื่อให้น้อมจิตเข้าสู่ทางธรรม เพื่อให้เกิดปัญญารู้ธรรมะ ที่เป็นส่วนในนามธรรมได้ - ทานจริงแล้วยังอยู่นอกองค์มรรค คนชาติไหน เผ่าพันธุ์ใด ก็อาศัยการให้ทานด้วยกันทั้งนั้น แต่ด้วยปัญญาในทางพุทธศาสนาจึงจำแนกออกมาอีกว่า การให้ทานกับบุคคลใดย่อมได้อานิสงค์มากที่สุด และการให้ธรรมะเป็นทานจึงเป็นการให้ที่สูงที่สุด

การสำรวม กาย วาจา ใจ ทาน ศีล ภาวนา สมาธิถึงฝั่งพ้นทุกข์ได้ด้วยปัญญา ฝึกฝน ฝึกฝน ฝึกฝน ลงมือปฎิบัติๆๆ

ผิดศีลทางตาหูจมูกไม่ได้มั๊ยอะ มันเป็นทางรับรู้อารมย์ที่มากระทบ ไม่ใช่ทางกระทำกรรม จะไปผิดศีลได้อย่างไรกัน ศีลเป็นข้อปฎิบัติเบื้องต้นที่ทำให้ไม่เบียดเบียนรบกวนกัน อยู่ร่วมกันอย่างปรกติสุข จะได้ไปต่อทางสติ(สมาธิ) และปัญญา

เวลาตาย สั่งญาติไว้ อย่าให้ไปนิมนต์พระ ไม่ต้องเอาไปสวด ไปประกอบพิธี ฌาปนกิจที่วัด

สาธุๆๆจ้าวคุณลุงขอบคุณมากๆที่มาเล่าเรื่องบุญทานเวรกรรมเปนดีกับคนที่ไม่เค้าใจในเรื่องธรรมะจ้าวแต่สํารับดิฉันคิดว่าทุกข์ยุที่ใจเราทุกๆคนก้อต้องแก้ที่ใจกอนจ้าวใจมีความสู่ขนั้นคึอบุญ่จ้าว

สาธุ

อันนี้แหละ มีค่า คุ้มค่ากว่าทองคำ และบิทคอยน์เยอะ ต่อให้ไม่นิพพาน ก็ยังมีค่ามาก แต่นิพพานไปเถอะ 😊

ถ้าแบบนี้เริ่มต้นจาก พรมวิหารสี่ ก็ได้ใช่มั้ยครับ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา 👉🏼ทาน ศีล ภาวนา 👉🏼บารมี10 เข้าใจผิดพลาดตรงไหนโปรดชี้แนะครับ🙏🏻

สาธุ 🙏🙏🙏

การอาบน้ำชำระร่างกายด้วยสบู่เป็นการฆ่าเชื้อโรคออกจากร่างกาย ผมเข้าใจว่าไม่บาป แต่ว่าแมลงสาบในบ้านละครับมันเยอะเหลือเกิน มันเป็นพาหะนำโรค ผมควรปฏิบัติอย่างไรครับ ผมคิดไม่ออกจริงๆ ขอคำอธิบายหน่อยครับ

ถ้าท่านดูหนังพระพุทธเจ้า จะมีคำนึงที่ได้ยินบ่อย คือ อธิบายไม่กี่คำ ก็เข้าใจง่ายลึกซึ้ง แต่พระและผู้รู้ในปัจจุบัน มักจะอธิบายให้ยาก และซับซ้อน

ผู้สอนธรรมไปผิดทางเมื่อตายแล้วย่อมดำดิ่งสู่โลกันตะมหานรกตามเจ้าลัทธิในพุทธกาลพระปัจเจกพุทธเจ้าจึงไม่สอนธรรมเพราะผู้ฟังไม่อาจทราบธรรมอันละเอียดได้ เมื่อรู้แล้วสอนแล้วไม่ตรงก็นิ่งเสียดีกว่า

ทานบารมี ศีลบารมี ยังไม่สุดนะลุง สูงสุดคือ การให้ทาน เพื่อละความตระหนี่ และรักษาศีลเพื่อให้ไม่เกิดอกุศล ให้ทานอย่างเดียววางจิตดีๆ ก็เข้าถึงนิพพานได้.

ใส่ความเห็นตัวเองมากไปป่าวลุง ฟังคำพระพุทธเจ้าเยอะๆ

ผมส่งสัย - คำว่าฆ่าสัตว์(เจตนา)แต่สัตว์นั้นเป็นปลวกกัดกินบ้าน เป็นบาปไหม ครับ