ทำไมธุรกิจดารา ถึงไปไม่รอด? (เบื้องลึก) 

กระชับ ฉับไว เข้าเนื้อหาทันที ไม่เวิ้นเว้อ ไม่ขายของ ไม่ขายครอส เนื้อๆ ไม่น้ำ รายละเอียดชัดเจน ไม่นอกเรื่อง ไม่ติดเล่น เข้าใจง่าย คอนเท้นคุณภาพ

จริงครับ รวมถึงคนรวยๆ บางคน จ้างเรามาทำตามคำสั่งเท่านั้น ห้ามแย้ง ถ้าแย้งก็ไล่ไปตั้งบริษัทเอง สุดท้ายก็เละ

เพราะไม่มีเวลามาคลุกคลีกับร้าน จ้างคนมาดูแทน ร้อยทั้งร้อยไม่รอด จะทำธุรกิจอะไร ต้องเป็นสิ่งที่เป็นตัวตนของเราด้วย ความรักความชอบ ไม่ใช่กระแสอย่างเดียว

ผมมีความเชื่ออยู่อย่างหนึ่งคือ ดาราหลายคนเชื่อตัวเองมากเกินไป ใช้คำว่าหลงตัวเอง ก็ไม่น่าจะผิด แต่ไม่ทุกคน ดาราก็คือคน คนหนึ่งเท่านั้น.

นึกถึง rihana เลย ชีวิตดาราหรือคนดังไม่ค่อยเอื้อต่อการทำธุรกิจเพราะต้องคอยบริหารเอง แต่พวกดาราเขาต้องไปออกอีเว้นท์ ไปนู่นไปนี่ ไม่มีเวลาบริหารเอง จ้างคนอื่น เลยไม่ค่อยเข้าใจตลาดจริงๆ ถึงว่าทำไมแม่ rihana ทำธุรกิจเครื่องสำอางแล้วถึงไม่กลับมาร้องเพลง555

ธุรกิจดาราที่ผมมองว่าประสบความสำเร็จสุดคือ หมูกรอบคุณชาย เพราะคุณอาร์ตเป็นคนลงมือทำเอง ใส่ใจกับลูกน้อง และจริงใจกับลูกค้าสุดๆ ผมชื่นชมแกมากๆครับ👍

นี่สังเกตอย่างนึงค่ะ คือธุรกิจของดารามักจะขาดเอกลักษณ์ อย่างถ้าทำครีม,อาหารเสริมก็จะใช้ส่วนผสมที่หาได้จากแบรนด์อื่นเหมือนกัน เขาอาศัยแค่ชื่อเสียงของตัวเองในการทำให้แบรนด์ตัวเองเป็นที่รู้จัก คนที่ซื้อเลยมักจะมีแต่แฟนคลับซะส่วนใหญ่ แต่มันขาดความยั่งยืนในระยะยาว เพราะตัวสินค้าไม่ได้โดดเด่น ยังตีตลาดผู้บริโภคทั่วไปที่ไม่ใช่แฟนคลับได้ไม่กว้าง ถ้าวันนึงชื่อเสียงหมดไปก็เสี่ยงขายยากอีก ซึ่งถ้าวันนั้นมาถึงจะเหลือ loyal customer กี่คนก็ยังไม่รู้ อีดิทเพิ่มเผื่อใครผ่านมาเห็นนะคะ ในลำไส้คนเราเนี่ยสามารถมีอุจจาระสะสมได้มากถึง10กิโล พวกอาหารเสริมลดความอ้วนที่เราเคยเห็นเนี่ย จะใส่สารที่กระตุ้นการขับถ่าย ถ้าคุณมีปัญหาเรื่องท้องผูกบ่อยมันจะขับอุจจาระออกมาจนเห็นผลเลยว่าหน้าท้องคุณยุบและน้ำหนักลง แต่ถ้าคุณอ้วนเพราะไขมันเนี่ยไม่ได้ผลหรอกนะคะ เพราะในปัจจุบันไม่มียาตัวไหนกินแล้วขับไขมันหรอก คุณต้องออกกำลังกายค่ะ (ถ้ามีเงินหน่อยก็ไปเข้าคอร์สใช้เครื่องสลายไขมันได้ค่ะ) และถ้าคุณออกกำลังกายจนมีกล้ามเนื้อมากพอ ระบบเผาผลาญคุณจะดีขึ้นและไม่อ้วนง่ายค่ะ (ปล.เราเคยสมัครไปทำงานเป็นแอดมินขายของแต่ไม่รู้ว่าเขาขายอะไร พอไปถึง ถึงได้รู้ว่าขายกาแฟลดความอ้วน เซลล์รูปร่างใหญ่ไปครึ่งออฟฟิศ และเท่าที่เราทดลองงานอยู่อาทิตย์นึงก็พอจะทราบได้ว่าไม่มีใครกินกาแฟที่ตัวเองขายค่ะ เพราะฉะนั้นถ้าใครจะกินอาหารเสริมลดความอ้วนก็ลองพิจารณาดูนะคะ)

มีดาราคนหนึ่ง ทำข้าวมันไก่ ได้ออกรายการหนึ่ง ตอนนั้นผมดู รู้เลยว่า กรรมการ มองการไกลมากๆ และ ก็เกิดขึ้นจริง ซึ่งที่ในรายการให้ผ่าน คือ กรรมการช่วยมากๆ (แอบมองว่าค่อนข้างไม่เห็นด้วยกับเทปนั้นเลย เพราะกรรมการ ใช้ใจมากกว่าเหตุผลในการตัดสิน) สิ่งที่สร้างความล้มเหลวของธุรกิจนั้น คือ ญาติเเท้ๆของเค้า รักพี่น้องเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้ามีหน้าเรา บนสินค้า ขอให้มองจุดนี้เยอะๆ เพราะคนที่โดนสุดท้ายคือ เรา เอง

เห็นด้วยครับคุณโจ้ ส่วนมากถ้าสังเกตดีๆ ดารามักจะทำธุรกิจเดิมๆตามกันมา เครื่องสำอางค์ อาหารเสริม (ขายกันจนเกร่อ) จะแบบผงแบบเม็ดแบบขวด ขายกันล้นตลาด หรืออาหารสำเร็จรูป น้ำพริก อะไรต่างๆ ถ้ามีความชอบในสิ่งนั้นแล้วศึกษาค้นคว้าจริงจัง ก็โอเคนะ ถือเป็นการเอาชื่อเสียงและเงินทุนเป็นแต้มต่อในการต่อยอดธุรกิจตัวเอง ส่วนที่ไม่ได้สนใจในสิ่งที่ตัวเองขายอยู่เลย อยากได้กำไรอย่างเดียว อย่างนี้ก็ไม่แปลกใจที่จะไปไม่รอดครับ

และข้อสังเกตอีกอย่างของพวกดารา และ ดาราตลกก็คือ พอมีปัญหาเกิดขึ้นไม่ว่า ในตัวธุรกิจ หรือ ปัญหาส่วนตัว แทนที่จะรู้และแก้ไข กลับไปปรึกษาหมอดู หรืออะไรมูๆๆ อันนี้ก็อยู่คู่วงการดาราเหมือนกัน 😂😂

นึกถึงสมัยเรียนหอการค้า มีดาราเปิดร้านอาหาร ผัดกระเพรา4จานรอ2ชั่วโมง แม่มเอ้ยจำจนตายเลยร้านดารา

นี่มีพี่เป็นคนค่อนข้างดังในคณะ ตอนช่วงโควิดแกอยากทำธุรกิจน้ำสกัดเย็น แรกๆ ก็ขายพวกเพื่อนรุ่นพี่รุ่นน้องได้เยอะ แต่ในระยะยาวคือก็ขายได้แค่คนวงนี้ แถมคนวงนี้ก็ไม่ใช่จะอยากกินน้ำสกัดเย็นทุกวัน มันเลยกลายเป็นเข้าเนื้อแทน

จริง พอดารา ไม่ประสบผล สำเร็จในธุรกิจ และหน้าที่การงาน แทนที่จะเรียนรุ้และคอยปรับแก้กลยุทธ์ แต่กลับไป ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซะงั้น

ความคิด ผม 1.ไม่มีความชำนาญในการค้า หรือ มันไม่ใช่ อาชีพหลัก เขาอาจใส่ใจน้อย โดยให้คนอื่นดูแลแทน 2.กลุ่ม ลูกค้า ร้านดารา จะเป็นกลุ่ม รายได้ สูงพอควร 3.ของที่ขาย อาจจะเปิดกันเยอะ แล้วค่อยมาเปิด เช่น ชา ไข่มุก 4.ต้นทุน ส่วนใหญ่น่าจะมาจาก ค่าเช่า สถานที่ เช่น สยาม ห้างใหญ่ๆดัง ค่าเช่าที่สูง

3:19 😂😂คิดเหมือนกันเลยค่ะ คนชาวบ้านธรรมดาทั่วไป กว่าจะเติบโตล้มแล้วล้มอีก ขาดทุนไม่รู้กี่ครั้งก็ไม่เคยหลงตัวเอง ดาราใช้ชื่อเป็นใบเบิกทาง จะมาให้ความจริงใจ แถมโน้นนี้ให้ไม่มีหรอก คิดแต่จะเอากำไร แถมชี้มือ ไม่สนใจหน้างาน พวกเขาถึงอยู่ได้กันไม่นาน คนดีๆที่อยู่นานๆ ที่ทำอะไรก็อยู่รอดก็มีค่ะ เพราะเขาจริงใจ ขยัน และไม่เกินตัว มีบ้างได้กำไรน้อยเพราะเขาหยวนๆกับผู้บริโภค

รู้สึกแปลกทุกครั้งที่เห็นดาราออกหน้าเป็นเจ้าของโปรดักส์ เราคิดตรงกันข้ามเลย คือ มันไม่น่าเชื่อถือ แล้วก็ทำให้ไม่น่าซื้อ คือ มันดูไม่โปรอ่ะ เป็นดาราจะมาบอกว่าปรุงสูตรนั่นนี่ แปลก ไม่เคยรู้สึกว่าน่าซื้อเลย ไม่น่าเชื่อถือ

เอาง่ายๆคับ ดาราไม่ได้เป็นคนมีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง มีความสวยหล่อ ไว้ทำงาน.

ทำงานกับดารามาหลายคนพบว่า ชื่อเสียงไม่ค่อยช่วย เท่าปัจจัยด้านอื่นๆ อย่างที่คุณโจ้บอก เอาชื่อเสียงมาอย่างเดียว บางคนก็ดื้อ บางคนก็มั่นอกมั่นใจ จนไม่สนใจกลยุทธ์ที่ถูกต้อง บางคนฟังคนอื่น มากกว่านักการตลาดด้วย

ชอบคลิปพี่มากครับ ได้ความรู้เน้นๆ ไม่มีไตเติ้ล อินโทรล เปิดรายการมาเข้าเนื้อหาเลย เปิดฟังตอนกินข้าวเพลิน มากๆ และทุกอย่างที่พี่พูดมา คือจริงทุกอย่าง อีโก้ ของหลายคนทำพังมาหลายรอบแล้ว

ขอบคุณครับคุณโจ้ ไม่ว่าจะทำงานหรือทำธุรกิจ คงต้องเริ่มจากสิ่งที่รู้และเข้าใจ ถ้ายังไม่รู้ไม่เข้าใจถ่องแท้ก็ต้องศึกษาในระดับนึงก่อน การเป็นดารามีชื่อเสียงอาจทำให้เปิดประตูได้ง่ายกว่าคนทั่วไป แต่หนทางหลังจากผ่านประตูไปก็คงจะเท่าๆกับคนอื่น มีสำเร็จมีล้มเหลวได้

ชัดเจนคับ คุณโจ้ การเริ่มต้นธุรกิจไม่ยาก การพัฒนาและรักษาไว้ยาวมากกว่าคับ

ดาราส่วนใหญ่จะทำแต่พวกครีมและอาหารเสริม แล้วส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่สินค้ามีคุณภาพ เพราะผิวดีด้วยมือหมออยู่ดี การตลาดตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้วจริงไปสุดท้ายลูกค้าอย่างเราก็เลือกคุณภาพสินค้า😅

ไม่ได้มีอะไรมากก็แค่ไม่ได้ทำการตลาดมาดีพอ ใจไม่ได้ใส่ใจ เห็นเขาทำก็ํเฮตามกันไปเรื่อย

ขอบคุณมากๆ ครับสำหรับข้อมูล และบทวิเคราะห์ดีๆ ที่นำมาแชร์

เน้นสาระเข้าใจง่ายดี

ขอบคุณมากครับ คุณโจ้ เนื้อหา เต็มไปด้วยคุณภาพ และ แง่คิด สามารถไปปรับใช้ได้ แม้จะไม่ได้เป็นดารา หรือแม้กระทั่ง พนักงานประจำก็นำไปปรับใช้ได้ กุญแจสำคัญ คือ เราต้องมีความรู้ในสิ่งที่เราทำจริงๆ เสียก่อน รู้จักวางแผนสำรอง ทดลองทำก่อน อย่าเพิ่งทุ่มสุดตัว ขอบคุณอีกครั้งครับผม

Very nice 👍ยอดเยี่ยมมากค่ะ🙏🙂🥳🙂🎉😊🎉😊🎉 🙏

ช่วยวิเคราะห์ธุรกิจขายเนื้อของบังโต ซิลิฟูลหน่อยครับ เห็นว่ากำลังจะ IPO

อันนี้ผมเข้าใจอย่างนึงคือ ดาราที่ลงมาทำธุรกิจเพราะ มันมีเรื่องภาษี มาเกี่ยวข้องด้วยครับ

อันนี้กระชับ สั้น คม ลึกและชัดเจนมากๆครับ คุณโจ้นี่โคตรเก่งเลย

...หลายๆคนพังเพราะเลือกสีเสื้อผิดก็มีเยอะนะ ประมาณว่าอาหารอร่อยราคาเอื้อมถึงทำเลแจ่มโปรโมทเพียบ แต่คนคิดต่างไม่เข้าร้าน และหลายๆคนรสชาติก็ไม่ได้โดดเด่นมากมายราคาก็เอาเรื่องกินเยอะมีกระเป๋าฉีกทำเลจัดว่าค่อนข้างใกล แต่ fc เพียบ ไม่ขอเอ่ยชื่อนะครับ....

สำหรับผม ดาราก็คือดารานักเเสดง มันไม่ใช่ภาพลักษณ์ของการขายของอ่ะ ถ้าจะขายของก็ขายไปเลยตั้งเเต่เเรกไม่ต้องเป็นดาราเเต่เเรก เเต่พอคนรู้จักเเล้วเขามองเเบบเป็นนักเเสดงนักร้องศิลปิน ไม่ใช่คนขายของ.. อย่างเป็นยูทูปเบอร์ก็เหมือนกัน ผมว่ามันไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ.. ไม่ใช่ทำไม่ได้เพียงเเต่สำหรับผมๆอยากรู้เกี่ยวกับข่าวที่ออกดารามากกว่าที่นำเสนอเอง

มุมมองของลูกค้า ดาราก็แค่คนๆหนึ่ง ไม่ได้มีความรู้ความสามารถอะไรมากกว่าใคร ขายครีมนี่ยิ่งน่ากลัว ขายหน้าตาจะมามีความรู้เรื่องครีมได้ไง นี่ละเหตุผลที่ไม่เคยซื้ออะไรจากคนกลุ่มนี้ ถ้าขายพวกอาหารหรือขนมอันนี้อาจพอได้

ส่วนตัวผมจะรู้สึกไม่มั่นใจในสินค้ากลุ่มครีมบำรุงต่างๆจากดารา เพราะรู้ว่าดาราสวยหล่อไม่ได้มาจากแค่ใช้สินค้าตัวเองแน่ๆ

จริงและตรงประเด็นมากครับผม

เรื่องจริงครับเคยอยู่จุดนั้น วันนี้ทำเองได้ทุกอย่างครับไม่ต้องพึ่งคนอื่น😊

ขอบคุณคุณโจ้ที่แนะนำ และปรับใช้ได้จริง❤

ฟังแล้วนึกถึงคุณอาร์ตคุณชายหมูกรอบ มีพวกปากหมาใจแคบไปหาว่าคุณอาร์ตขายดีเพราะใช้หน้าตาใช้ชื่อเสียง จริงอยู่ที่ความเป็นดาราสามารถดึงดูดลูกค้าได้ แต่ถ้าสินค้าไม่มีคุณภาพ รสชาติไม่ได้เรื่อง เขาก็ขายได้แค่ครั้งเดียว อยากให้ลองกินหมูกรอบของเขาดูก่อน ทำอร่อยเลย ราคาก็ไม่ได้แพงกว่าร้านทั่วไป ถ้าขืนอาศัยแค่หน้าตาแล้วขายของห่วยๆ เจ๊งไปนานแล้ว เราชื่นชมที่เขาจริงจังกับการทำธุรกิจ ไปออกบูธเอง ยืนทอดหมูเอง ตอนพักเหนื่อยก็มายืนเรียกลูกค้า ใครเห็นก็อยากซื้อ พ่อค้าหล่อ หมูกรอบก็เด็ด ไม่แปลกใจเลยที่เขาประสบความสำเร็จ

นึกถึงดาราตลกท่านหนึ่งทำอะไรก็เจ๊ง และ เจ๊งเพราะญาติ แต่บางคนกระแสดี แต่ว่าเจอปัญหาโกงหุ้นส่วนและบริหารไม่ดี

Bearhug ถือว่าไปรอดมั้ยครับ ผมว่าชาเขาอร่อยดีนะแต่มีข่าวว่าขาดทุน ตอนนี้ไม่รู้เป็นไงบ้าง

เห็นมีกระแต อาร์สยามที่ทำธุรกิจ เครื่องสำอางค์ ทำหลายปีละ แล้วปังจริง ผลิตออกมาเรื่อยๆ ราคาจับต้องได้

เวลาลูกค้าเดินเข้าร้าน​ บางคนมาตั้งแต่คนเดียว​ จนมีคนจับมือกันมา มาสร้างให้ร้านมีชีวิตในแบบของร้านที่มีปฏิสัมพันธ์กันในรูปแบบต่างๆ​ ของลูกค้า​แต่ละคน​ แต่ละกลุ่ม​ ส่วนหนึ่งของเรา​อาจเป็นบางส่วนเล็กๆที่ผ่านมาแล้วผ่านไป​ เวลาหมุนเวียนจากรุ่นสู่รุ่น​ จนไม่แน่ใจว่าร้านเป็นของเราหรือเป็นที่รวมของของคนต้องการอะไรบางอย่าง​ ที่มากกว่ารสชาดอาหาร​ที่คุ้นชิน​ ที่มีเสียงทั้งที่คุ้นเคย​ ผ่านการเวลา​ และเสียงอีกมากมายที่มากับเสียงที่เราคุ้นเคย​ วนอย่างนี้ไป​ และก็มีเสียงบางเสียงที่เคยมา แต่ตอนนี้และอีกต่อไปคงมาไม่ได้​

คนธรรมดาก็เจ็งบ่อยคับ ผมทำธุรกิจมา8อย่า ที่อยู่รอดตอนนี้แค่3 ส่วนใหญ่ไปไม่รอด

พูดดีมากสุดยอด ครับ

Thanks from 🇱🇦

ส่วนหนึ่งมาจาก ความมั่นใจในตัวเอง ที่มากเกินไปครับ ไม่ฟังใคร มักจะเชื่อว่า ตัวเองดีที่สุด

เรียน แอดมินโจ้ๆๆๆ อยากให้ทำคลิป เกี่ยวกับ "ธุรกิจ AI" ว่ามีแนวโน้มยังไง 🎉🎉🎉 (เห็น AI กำลังมาแรงในหลายๆๆ วงการ 😂😂😂)

สนใจเบื้องลึกธุรกิจ โอมากาเสะครับคุณโจ้ การบริหารธุรกิจ กำไร คอส การตลาด การแข่งขัน แนวโน้มระยะยาว ขอบคุณครับ

อาจเพราะดาราเค้าจะอยู่คนละโลกกับเราด้วย เท่าที่เห็นมาส่วนใหญ่สินค้าหลายๆอย่างที่ดาราทำจะราคาสูงกว่าตลาดปกติพอควรเลย แบบราคาเท่านี้เค้ามองว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับเค้า แต่บุคคลธรรมดาทั่วไปกลายเป็นว่าไม่สามารถเอื้อมถึงได้ ทำให้ไม่สามารถจับต้องได้ง่ายกว่าของแมสโปรดักทั่วไป

อยากให้คุณโจ้วิเคราะห์พวกธุรกิจที่เกี่ยวกับศิลปะ งานฝีมือ การวาดรูปค่ะว่าจะอยู่รอดได้ยังไงในยุคที่ใครๆก็สามารถทำได้เหมือนกันแถมมีสอนฟรีในเว็บต่างๆด้วย ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณคะคุณโจ้

ความเห็นส่วนตัวนะ เพราะเราคิดว่าคนที่เป็นดารา เอาแค่เชื่อเสียงมาขายของ แต่ลงมือทำจริงๆ จังๆ มั้ย ไม่เลย แต่ถ้าคนไหนลงมือทำจริงจัง และใส่ใจทุกอย่างทุกขั้นตอน จะประสบผลสำเร็จ

สินค้าดาราน่าจะใช้ของดี มีความพิเศษ ส่วนใหญ่มีราคาค่อนข้างสูงมากกว่าสินค้าแบบเดียวกัน แต่บางคนที่ทำเป็นก็จะรู้จักตั้งราคาให้เหมาะสม

ชอบช่องนี้มากครับ

สวัสดี ครั้งแรกที่คอมเม้นในยูทรุปค่ะ

ประสพการณ์สูง ก็ไม่ได้การันตีว่าประสพความสำเร็จ ไปทุกเรื่อง นึกถึงเคสก ไส้กรอกรสนมฮอกไกโด ออกไม่ถึงครึ่งปีก็เจ๊ง แต่ข้อดีคือเขากล้าลองผิดลองถูกนี่แหละ

สุดยอดค่ะ

ได้หุ้นส่วนไม่ต่ำกว่า50% แต่ให้ทำไรก็ไม่ทำจะเอาแต่กำไร แบบนี้ทำธุรกิจอะไรก็เจ๊งครับ ยังไม่นับบางคนต้องแบ่งหุ้นให้ผจก.ด้วยนะ ต้องขายได้กำไรเท่าไหร่ถึงจะพอแบ่งมาบริหารต้นทุนfixed costได้ 555

ตอนนี้ผมกับเพื่อน ทำธุรกิจหมูกระทะที่ถูกที่สุดครับ หัวละ 49 บาท ไม่จับเวลาด้วย แต่ก็ยังได้กำไร คือ ผมจะให้อิสระกับลูกค้า อยากกินอะไรก็ได้ แต่ต้องซื้อวัตถุดิบมาเอง เอากระทะมาเอง น้ำดื่มก็ต้องเอามาเอง เพียงแต่ทางร้านผมจะจัดเตรียมโต๊ะเก้าอี้ไว้แค่นั้น ตอนนี้เหมือนเสือนอนกิน ไม่ต้องทำอะไร เลย รอเก็บค่าบุฟเฟ่ หัวละ 49 บาท จุดแข็งของร้านผมคือ จ่ายแค่ 49 บาทก็มีสิทธ์ได้กินกุ้งย่าง หรือ ปูอลาสก้า ได้ ซึ่งร้านอื่นไม่มีให้แน่นอน แต่มีข้อแม้คือลูกค้าต้องซื้อมาเอง

ชั่วโมงนี้ค้องยกให้คุณชายหมูกรอบ ที่ทำแล้วน่าจะดีครับ😊

สังเกตเวลากับดาราไปออกบูธเค้าไม่ได้อยู่ในงานจนจบงานค่ะส่วนใหญ่มาแค่ 1 ชั่วโมงที่เหลือให้ลูกน้องดูแลในร้าน ถึงแม้ว่าจบการออกบูธแล้วจะมีร้านเป็นของตัวเองก็ตามแต่นั่นนานครั้งดาราเค้าจะเข้าไปดูร้านของตัวเองค่ะแล้วก็ให้ลูกน้องที่จ้างเฝ้าร้านต่อไปถ้าเจอลูกน้องที่ดีก็ดีไปแต่ถ้าเจอลูกน้องที่ขี้โกงไม่ต้องบอกก็รู้นะคะว่าเรื่องราวจะเป็นยังไง

จริงครับ เน้นสั่งเน้นจ้าง สร้างสตอรี่ ให้ดังเป็นพลุแตก … พอพลุแตกหมด = มันคือความมืดและเงียบ ครับ 😅

ควรคิดถึง#น้องแนท +ริมสระ บลาๆ มีโรดถัง ซั่มจังตั้วย ก๋า ..

ใช่เลยค่า ธุรกิจดารา มักขาดเอกลักษณ์ ไม่ว่า ครีม เสื้อผ้า นอกจากดาราที่มีความรู้ทางการตลาด

ดาราทำธุรกิจชอบตั้งราคาที่สูงมากอ่ะสูงกว่าพวกสินค้าในตลาด แล้วธุรกิจเดิมๆเช่น อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ สกินแคร์ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ

ดาราส่วนใหญ่หลงตัวเองมั้งครับคิดว่าทำไรก็รุ่งทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้คลุกคลีกับผู้บริโภคหรือชาวบ้านจนรู้ความต้องการต่างจากอินฟูลที่พวกเขาคลุกคลีอยู่กับแฟนคลับมาตั้งแต่เนิ่นๆจนรู้ความต้องการลูกค้า

ดาราคู่กับการโดนโกง จริงๆก็มีโอกาสโดนทุกคนนั้นแหละ

ในความคิด จริงๆ แล้วจะขายของออนไลน์จะขายของได้หรือไม่ได้ขึ้นอยู่กับดารานะคะ อาจจะเป็นแค่ส่วนนึงเท่านั้นแต่ขึ้นอยู่กับสินค้ามากกว่าว่าใช้ดีจริงหรือไม่ค่ะ ถ้าดาราพรีเซนต์สินค้าที่ขายและได้ลองใช้แล้วได้ผลดีก็ไลฟ์สดไปเลยค่ะหรือไลฟ์สดเดี๋ยวนั้นกับสินค้าและรอดูผลว่าใช้ดีจริงหรือเปล่า ถ้าดีจริงก็น่าจะขายดีใช่ไหมคะ😊😊😊

เห็นด้วยค่ะ หลายๆ คนที่เปิดร้านหรือทำธุรกิจแทบจะไม่มีอะไรที่โดดเด่นเลยมันธรรมดาหาได้ทั่วไป ต่างกันแค่คนเปิดร้านมีชื่อเสียงเฉยๆ

ผมนึกถึง ป๋าเทพเลยครับ

ขยายร้านนี้ สาเหตุหลักเลย(เพราะมีเงินเยอะช่วงแรกๆ) ผมเห็น 3 เดือน มาละ สาขา 2 3 4 5

นึกถึงพี่เสกโลโซ กับบี้เดอะสกาเลย

ขอบคุณค่ะ

วิเคาะๆได้ดีมากค่ะ😊

ธุรกิจดาราเปิดตัวปังหลังๆเงียบกริบช่วงแรกเชิญแขกมางานอีเว้นจัดใหญ่ แต่ไม่มีเวลาใส่ใจระยะยาว ไม่ได้ขายสิ่งที่ตัวเองใช้ในชีวิตประจำวันเน้นรีวิวแล้วจบ มัวแต่รับรีวิวธุรกิจคนอื่นที่ขายทับทางตัวเองลดความน่าเชื่อถือ เน้นแต่จำนวนตัวแทนยอดจากตัวแทนขายไม่เน้นลูกค้าที่ซื้อใช้จริง เอาแค่นี้ทำกี่แบรนด์ก็ไปไม่รอดหรอก ขายให้ใครล่ะ ขนาดเจ้าของแบรนด์ยังมัวรีวิวให้คนอื่นอยู่เลย

คนทั่วไปก็เจ๊ง แต่แค่ไม่เป็นข่าว

เปิดร้านวันแรกแข่งกับเจ้าสัวเลย โหดจัด ๆ 🤣

ร้านอาหารดาราส่วนใหญ่ชอบตั้งราคาสูง ช่วงเปิดร้านแรกๆ แฟนคลับไปอุดหนุน แต่หลังจากนั้น เขาก็เลือกร้านที่สมเหตุสมผลมากกว่า

เคยสั่งเครื่องสำอางของแบรนด์ดารา บอกเลยไม่มีคุณภาพ กลับไปใช้แบรนด์ใหญ่ๆ เหมือนเดิม

ใช่เลย​ ธุรกิจ​ดาราจะมาเร็วไปเร็ว​ ช่วงแรกจะแรงมากแล้วจะค่อยๆแผ่วลง

ขอบคุณคับ❤❤

อย่างร้านอาหาร แรก ๆ คนก็อาจจะไปเพราะชื่อเสียง แต่ถ้าอาหารหรือบริการไม่ดี คนก็อาจจะไม่ไปอีก

พี่โจ้รีวิว ธุรกิจตัวแทนประกันได้มั๊ยครับ🎉

จริง การขยายสาขาแทนที่จะกำไรเยอะขึ้น เพราะเงินที่ได้มาก็มาจ่ายไปกับการจัดการหลังบ้าน😢

ทำไม่เป็น คิดว่าชื่อตัวเองขายได้ โดยเฉพาะร้านอาหาร ถ้าเอาชื่อดารามาเป็นชื่อร้านอาหารผมไม่เข้าเลย เพราะที่ผ่านๆมาไม่อร่อยทั้งงั้น แนะนำดาราถ้าจะเปิดร้านอาหารเอาชื่ออื่นดีกว่า 😂

อยากทำธุรกิจ อย่างน้อยต้องเรียนบริหารมาหรือเปล่าครับ ถ้าไม่เรียนเราก็ต้องมีที่ปรึกษาด้านบริหารโดยตรงนะครับ ความคิดผมครับ

ติดตามเสมอนะครับ

ยกตัวอย่างใงดี คือถ้าคุณเปิดร้านเสริมสวย ถ้าลูกจ้าง แห่กันลาออก แล้วคุณไม่มีความรู้ คือเจ๊งครับ

ธุรกิจก็มีปัง/เจ้ง=เรื่องปกติ - เบียร์คาราบาว8,000 ล้าน - เครื่องดื่มLoso 100 ล้าน - O.Kcal กินแล้วผอม+หุ่นดี ปกติครับ

ถ้าทำเครื่องสำอาง อาหารเสริม ผมว่า ดารา น่าจะทำรอด ถ้าสินค้ามึคุณภาพพอ ก็ใช้ชื่อเสียง หน้าตา ช่วยโปรโมทได้ระยะแรก ทึีเหลืออยู่ทึ่คุณภาพแล้ว

ยิ่งดาราที่ทำธุรกิจอาหารเสริม ,เครื่องสำอางค์ บอสนั่น. บอสนี่ แล้วก็จบลงด้วยการรับสมัครตัวแทนจำหน่าย รับสมัครแม่ทีม ลูกทีม. มาเร็วไปเร็ว

ทำขายติ่ง ไม่ได้เน้นคุณภาพ สุดท้ายก็โดนเจ๊เล้งรวบ

อุ้ยจริงมาก เนเน่ที่ไปเป็นนักร้องในจีนก็ออกจากวงการไปก่อน ตอนนี้ร้านดังมากนิเห็นผ่านๅ

หลงว่าชื่อเสียงจะช่วยในการซื้อได้ คุณภาพความทุ่มเท ราคาไม่แรง นั่นละคนถึงจะสนใจ

ติดตามดูทุกคลิปเลยครับผมอายุ 27 ขอบคุณพี่มากๆครับฟังสนุกคอนเทนดีไม่น้ำ

เพราะดารา ไม่เข้าใจ ถึงธุรกิจ ดาราไม่เข้าใจถึงสิ่งที่เขาลงทุน จะมีดารากี่คนทำอาหาร เก่ง หรือ อร่อย แล้วเปิดร้านอาหาร จะมีดารา กี่คนที่เชี่ยวชาญ ด้านการตลาดพอ ที่จะเปิดธุรกิจบริการ จะมีดารา ซักกี่คนที่ รู้ว่าอะไร สมควร ไม่สมควรทำ ก่อนจะเปิดบริษัท แต่สิ่งที่ดารา มีคือ เงิน

อารมณ์เดียวกันกับธุรกิจร้านอาหาร เจอมาเยอะ เจ้าของมีแต่เงินทุนแต่อยากมาเปิดร้านอาหารแล้วเจ๊งมีเยอะแยะไป

ก็เค้าเกิดมาเพื่อเป็นดารา ไม่ใช่นักธุรกิจ เลยคิดว่าชื่อเสียงตัวเองอย่างเดียวจะขายได้ แท้จริงคือมันอยู่ที่คนมีความรู้จัดการระบบและคุณภาพด้วย

ดารามีแต่ความสวย ความหล่อ ธุรกิจที่ทำมันไม่มีคุณภาพ มันเลยไปไม่รอดไง ไม่ต้องคิดเยอะของแบบนี้

ล่าสุด เบนท์ - มิกส์ ไง