ทำไมพระอนาคามี จึงมาเกิดในครรภ์ไม่ได้ | หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณ 

อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ โชคดีมากๆเลยค่ะ

เพราะถ้ามีจิตใฝ่ชื่อเสียงลาภสักการะมีจิตปรุงเเต่งมันจะถูกโมหะมาครอบงำจนพาหลงไปไกล ไม่เป็นไปเพื่อศรัทธาไม่เป็นไปเพื่อการหลุดพ้น การแสดงธรรมกลายเป็นอาชีพเป็นเครื่องมือเนื้อหาก็ไม่ตรงกับหลักสัจธรรมความจริง

ยังไม่ถูกต้องมากนักครับ!!เรื่องที่ว่าพระอนาคามีที่ไม่มาเกิดในครรภ์เพราะดับวิญญาณไม่มีหญิงมีชาย !! ช่วยฟังครับ พระอนาคามีจะไปอยู่ชั้นสุทธาวาส ซึ่งสูงกว่าชั้นเท้ามหาพรม ซึ่งท่านจะถอยลงมาชั้นพรหมที่ต่ำกว่าไม่ได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นพรมชั้นใหนก็ไม่มีเพศและไม่มีครรภ์ครับ!!!

ต้องเอาออกมาให้ปชชเกิดขึ้นตะดีกส่านะคะ

​​​@@nirunp.837ขอโทษนะครับ หลวงปู่มั่น ท่านพาปฎิบัติไว้เป็นแบบอย่าง ถ้าผู้ใดต้องการพ้นทุกข์จริงต้องปฎิบัติแบบนั้นเลยทีเดียวครับผม

แสดงปฏิปทาทางดำเนินดัวยมีแต่ผล​@@อธิบายพุทธวจนะ

ตามพระไตรปิฎก พระอนาคามี คือระดับของการบรรลุธรรมของพระทึ่บวช โดยเมือตายแล้วจะไปเกิดเป็นพรหมชั้นสูงสุด แล้วต่อไปคือไปนิพพาน จะไม่มาเวียนมาเกิดระดับล่างแล้ว

ยังไม่ถูกต้องมากนักครับ!!เรื่องที่ว่าพระอนาคามีที่ไม่มาเกิดในครรภ์เพราะดับวิญญาณไม่มีหญิงมีชาย !! ช่วยฟังครับ พระอนาคามีจะไปอยู่ชั้นสุทธาวาส ซึ่งสูงกว่าชั้นเท้ามหาพรม ซึ่งท่านจะถอยลงมาชั้นพรหมที่ต่ำกว่าไม่ได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นพรมชั้นใหนก็ไม่มีเพศและไม่มีครรภ์ครับ!!!

เป็นการเข้าใจที่ถูกต้องลองทำดูเลยครับ.

อธิบายได้เข้าใจง่ายดีค่ะ

​@@user-br1fx9vw3rใช่ครับ แต่ทางธรรมท่านอาจจะอธิบายเหตุปัจจัยเกิดผลที่เกิดจากเหตุครับ อนุโมทนาครับ

ระวังมารจะเกิด.ใจเย็นๆเข้าไว้.

ใช่ ไม่มีกาม ก็ไม่เกิดในกามภูมิ

​@@penpornchunkonghom1899ความคิดนี้ถูกต้องครับผม

สงสัยครับ ถ้าไม่มาเกิดในกายมนุษย์แล้วจะไปเกิดใน กายอะไร "ธรรมกาย" หรือ? แล้วจะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ได้อย่างไร ข้าน้อยสับสน เคย รับฟังอัตชีวประวัติของหลวง พ่อจรัญ ฐิตธัมโม ท่านกล่าว ถึงสมเด็จพระเจ้าตากสินและ สมเด็จโตว่าท่านทั้งสองยังวน เวียนอยู่ในร่างของ "วิสุทธิเทพ" หลวงพ่อจรัญเคยพบ และร่วมสนทนาธรรมและได้ รับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในสมัยพระเจ้าตากอีกด้วย ถ้าพระอนาคามีไม่กลับมาเกิด แล้วท่านจะอยู่ในสถานะวิสุทธิเทพหรือไงครับ

เฮ้อ ! ไม่เข่าใจปฏิจจสมุปบาท แต่ออกมาอธิบายเป็นคุ้งเป็นแคว ...ในกระแสปฏิจจสมุปบาทนั้น มันเป็นเพียงกระแสของความรู้สึก-นึก-คิด ที่มี"อวิชชา" เป็นตัวบงการ ...มันมิได้มีตัวสัตว์ ตัวบุคคล ที่เป็นตัวพระ ตัวฆราวาส.../พอเกิดผัสสะ เกิดเวทนา เกิดตัณหา คืออยากมีอยากเป็น จากนั้นก็หลงเข้าไปมี"นันทิ" หรือเพลินในความอยากอย่างโง่ๆ นั้น พอหลงเพลินหรือหลงยึดติด ก็เกิด "ภพ" คือความรู้สึกว่า "มีตัวตน" จากนั้นอวิชชาก็จัดการให่ เกิดความรู้สึกว่า "มีตัวกู ผู้เป็นพระ เป็นฆราวาส เป็นหญิง เป็นชาย เป็นคนรวย คนจน...ตรงนี้พระพุทธเจ้าเรียกว่า "ช่าติ" ...นี่คือการเกิดในกระแสปฏิจจสมุปบาท" มันเป็นการเกิดทางใจ เกิดเป็นขณะๆ ตามเหตุปัจจัยคือ ผัสสะที่ประกอบด้วยอวิชชา .../ แต่นี่ ไม่รู้อะไร อธิบายไปให้มีวิญญาณ ออกจากร่างไปเข้าในมดลูก ..แค่นั้นยังไม่พอ ยังให้วิญญาณ ขึ้นไปเกิดเป็นพรหมบนสวรรค์อีก เตลิดกันไปใหญ่เลย ...,,,/ การบรรลุ "อนาคามี" นั้น แท้จริงคือจิตที่ ข้ามกาม ข้ามปฏิฆะ ความคับแค้นขุ่นเคือง ได้...เมือข้ามไปแล้วก็ไม่กลับมาหามันอีกเพราะเอือมระอา และขยะแขยง... จากนั้นพัฒนาต่อไปอีกกระทั่ง สติ-สมาธิ-ปัญญา-สมบูรณ์เต็มที่ พอเกิดผัสสะ เกิดเวทนา... ปัญญา ก็จะตีแสกหน้าอวิชชา.. สติ ก็จะตบบ้องหูตัณหา..และสมาธิ ก็จะกระทืบอุปาทาน ทำให้ภพ-ชาติ อันตรธานทันที.. จากนั้น"ทิฏฐธรรมนิพพาน" คือความดับสนิทแห่งทุกข์ในปัจจุบัน ก็ปรากฏที่ใจทันที่ ที่นั่น เดี๋ยวนั้น ...//พระพุทธเจ้าและพุทธสาวกท่านอธิบายแบบนี้ มิใช่ลากยาวไปหลายภพ หลายชาติ ซึงดับทุกข์ แก้ปัญหาในชีวิตประจำวันอะไรไม่ได้เลย ...ที่น่ากลัวก็คือ ลูกศิษย์ที่ไม่รู้ ก็คอยแต่สาธุๆๆๆ ...เฮ้อ !