ทำไมออกแบบปลั๊กไฟแบบนี้ (เต้ารับ-เต้าเสียบ) 

ออกแบบถูกแล้ว เขาให้เสียบได้แค่ ปล๊กเดียวครับ เพราะปลักแบบนี้ ดึงไฟได้ 10 A ถ้าเสียบ 2 ปลัก ไฟไหม้บ้านได้ครับ เพราะดึงไฟเกินที่ 20A

ยังไม่เคลียร์ ประเด็นแรก เหตุผลแค่ว่าพานาโซนิคทำเต้าสองช่องออกมานาน ก่อนที่จะมีมอก.ให้มีขากราวนด์ เป็นตัวกำหนดให้วางlay outช่องเสียบแบบแนวขวาง ผมว่ามันยังไม่มีน้ำหนักมากพอ ส่วนเหตุผลที่ว่าป้องกันการเสียบผิดข้ามช่อง ถ้าทำlay out แนวตั้ง(นาที4.18) ผมว่าไม่น่าจะใช่ เพราะใครๆก็ดูออกว่าควรจะเสียบแบบไหน

แบบงอ ส่วนใหญ่จะใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินกระแสสูง และมีฉนวนป้องกันที่ค่อนข้างใหญ่ เต้ารับคู่ที่ออกแบบไม่ให้เต้าเสียบแบบนี่้ใช้คู่ด้วยกันได้ ก็ถูกแล้วครับ เป็นการป้องกันการจ่ายกระแสสูงภายใน node เดียว ทำให้เกิดความร้อนสะสมจนเกิดเพลิงไหม้ได้ แยกจุดกันเสียบหนะดีแล้วครับ ไม่ต้องหัวหมอหาวิธีแปลง

เขาออกแบบเต้าเสียบ 90องศาอาจเป็นเพราะว่าผู้ใช้บางคนถอดปลักไม่จับที่เต้าเสียบแต่จับสายไฟกระตุกเอา

ออกแบบแนวนี้ ดีแล้ว เวลาใช้งาน สายจะได้ไม่ชน กัน ส่วน คนที่จะเสียบ ปลั๊ก แล้วไม่คิด ดู เลย ก็ ........... หมดคำบรรยาย นอกจากอันตรายแล้ว เสียบแบบนี้ มัน ดู ..... ง มาก

ผมว่าเจ้าของคลิปมารีวิวแบบขาดความรู้นะครับ อย่างปลั๊กไฟ และสายไฟเชื่อมเป็นรูปตัว L เขาป้องกันไม่ให้สายไฟหลุดเวลาใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่างที่มีการเคลื่อนไหว เช่นเครื่องดูดฝุ่น

มาตตราฐานในการวัดเกจขนาดของทองแดงที่ใช้ในสายไฟ ลวดอาบน้ำยาที่ใช้พันมอเตอร์ ส่วนผสมที่ใช้สร้างเต้าเสียบ อุปกรณ์ไฟฟ้า ของโรงงานในประเทศไทย ไม่เหมือนกัน ผมเคยซื้ออุปกรณ์เหล่านี้มาจากเอมริกา เยอรมันนี ญี่ปุ่น (ที่ผลิตในญี่ปุ่นจริงๆไม่ใช่ตีตราแต่ผลิตในจีน) เอาเข้ามาเปรียบเทียบ สะสม ในรอบ ๕๐ ปีที่ผ่านมา เห็นชัดเลขว่าต่างกันมากในเรื่องคุณภาพความคงทน รวมทั้งความปลอดถัยด้วย (เพราะของผลิตในไทยเช่นเต้าเสียบมีรอยไหม้กรอบเวลาใช้งาน)

ความจริง บ๊อกจะต้องตั้งขี้นทางยาวครับ แบบ fs box เมืองไทยเอามาขวาง

ออกแบบได้ดี เพราะว่าคนเคยเสียบจะได้เสียบง่ายขึ้น เสียบยังไงก็ได้

ใช้ปรักไฟที่ถูกกฎหมาย จะบอกอะไรให้ครับใครใช้ลองสังเกตุดู เต้ารับเต้าเสียบจะร้อนมาก แต่ต้องไม่ใช่ของที่ใช้ครับแรกหรือใหม่ๆ ใครจะตอบควรคิดถึงเวลาใช้จริง ปรักใหม่ผมว่าเสี่ยงต่อไฟใหม้อย่างมาก

Type o แบบงอ เวลาเรา เตะ ไปโดนสาย หรือกระชาก จะหลุดยา่ก กว่าครับ

ที่รูสายดินตะแคงอยู่ด้านข้างไม่ไปอยู่ข้างบนเพราะว่าเขาป้องกันอุบัติเหตุ กรณีเต้ารับรูสายดินอยู่ข้างบน ให้ลองนึกถึงปลั๊กขาแบนเป็นโลหะทั้งขาไม่มีฉนวนหุ้ม ถ้าเสียบไม่แน่นแล้วเด็กเอาเหล็กฟุตหรือโลหะไปวางพาดขาทั้งสองข้าง ( L G ) หรือบังเอิญทำอะไรตกใส่ก็จะเกิดไฟช็อต ทีนี้ลองเปลี่ยนมาเป็นเต้ารับที่รูสายดินอยู่ด้านข้าง ถ้าเสียบปลั๊กขาแบนไม่แน่น เหล็กฟุตตกใส่มันก็โดนแค่ขาเดียว แล้วถ้าโดนแย้งกลับว่าทำไมเต้ารับของอังกฤษ type g ก็ออกแบบให้รูขาดินอยู่ข้างบน เขาไม่กลัวเหล็กฟุตพาดเหรอ ต้องเข้าใจก่อนว่าเขาตั้งมาตรฐานปลอดภัยกว่าไทยมานานมากแล้ว และขาบนตัวปลั๊กมีฉนวนหุ้มตรงโคนขา จะเป็นโลหะแค่ส่วนปลายเท่านั้น ถ้าเสียบไม่แน่นสิ่งที่โผล่ออกมาก็ยังเป็นฉนวนไม่ใช่ตัวโลหะ ซึ่งผิดกับบ้านเราที่ปลั๊กขาแบนไม่มีข้อบังคับเรื่องการหุ้มฉนวนที่โคนขาแบน คำถามต่อมาคือก็ในเมื่อปลั๊กไทยมาตรฐานใหม่ type o มี 3 ขาแล้วเวลาเหล็กฟุตหล่นใส่มันก็โดนขาที่ 3 ( N ) อยู่ดีไม่ได้พาดที่ขา L และ G อย่าลืมว่าคนไทยยังมีการหักขาที่ 3 ของ type b ทิ้งเวลาเจอเต้ารับ 2 ขา และปลั๊ก type b ก็ยังมีใช้อยู่ในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก แต่ปลั๊กของอังกฤษไม่สามารถหักขาที่ 3 ทิ้งได้เลย มันเหมือนถูกหลอมมาเป็นชิ้นเดียวกัน คุณลองทำคลิปอีกคลิปตามที่ผมอธิบายไว้สิครับจะได้เห็นภาพ ถ้าอยากได้ปลั๊ก type g ของอังกฤษแต่หาไม่ได้บอกมานะครับเดี๋ยวส่งไปให้ลองหักดู

หลอดled(หลอดยาวใช้แทนหลอดนิออน,) ทำไมต้องทำมาสองแบบคืบางยี่ห้อขั้วบวก ชั่วลบอยู่คนละฝั่งแต่บางยี่ห่อบวกกับลบอยู่ฝั่งเดียวกันชื่อมาเปลี่ยนผิดแบบละก็ช๊อตชะงั้นอย่างงี้ผู้บริโภคสับสนตายห่า

เลือกหามาใช้ให้เหมาะกับงานครับ จะไม่มีปัญหา ปลั้กเต้าเสียบแบบพานาทำใช้กันทั่วโลก ขายตัวละเป็นหมื่นก็มี เช่นของ wattgate คนไทยก็ใข้กันเค้าก็ไม่มีปัญหาการใช้งาน หาตัวเสียบที่เข้ากันมาใช้ด้วยกันมันก็จบแล้วไม่ว่าจะเป็นปลั้กแบบไหน

โดยส่วนตัวเข้าใจว่าเต้ารับพวกพานาที่ทำเป็นแนวนอน เพื่อบังคับใช้ปลั๊ก90องศาให้เสียบได้อันเดียวกันโหลดเกิน(เหมือนจะเห็นพวกเครื่องซักผ้า ตู้เย็นหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟเยอะๆจะเป็น90ซะส่วนมากนะ) เคยไปติดกล้องบ้านน้า เจอสายเมน0.5บางจุดด้วย หัวจะปวด😄😄

พานาผลิตในมาตฐานNECราคาแพงกว่ายี่ห้ออื่นคุณภาพเขาก็โอเคนะคับ

ขอบคุณพิ่งเข้าใจเหตุผล

ผมว่าปลัีกแบบ I (ที่ใช้ใน Argentina, Australia, New Zealand, Papua New Guinea, China, and other Pacific Island countries) มาแรง ควรให้ความสำคัญ

เต้าเสียบtype-a,b,c,dมันคือมาตรฐานIEC หรือBSหรือDINที่สมอ.ไปแปลมาตรฐานเขามาใช้งานโดยไทยเป็นสมาชิกขององค์การมาตรสากลครับ

แบบแบนแน่นที่สุดแล้วจากการใช้งานจริงและเป็นช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าจะพบว่าเต้าเสียบที่เป็นแบบแบนจะไม่ค่อยไหม้หรือหลอมละลายความเห็นส่วนตัวครับ

เน้นการใช้งานตามสภาพพื้นที่ ถ้ามีชั้นแคบๆใช้แบบเเนวตั้ง(ด้ายซ้าย)หรือความสะดวก

แบบงอ เพื่อป้องกันสายหักคอไง.และยังรับน.นถ่วงได้มากกว่าปลั๊กไม่หลุดง่าย

เอาจริง ๆ ลาว กัมพูชา ควรเปลี่ยนมา เป็น Type-O เพราะต่อให้ทางการปกติใช้ E/F หรือ G แต่ในทางปฏิบัติ ประเทศเพื่อนบ้านเราซื้อรางปลั๊กไทย (Type-O) มาเสียบต่อใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าไทยอยู่ดี

พูดเหมือน type o ผิด คนใช้ก็ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสม (ผมดูคลิปจบ)

เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินกระแสสูงทางผู้ผลิตตั้งแต่ออกแบบให้งอ 90 เพื่อป้องกันการเสียบพร้อมกัน 2 ตัวในเต้ารับเดียวกัน ยังจะมีพวกรู้มากมาสงสัยอีกเขาก็ต้องการให้ใช้อันเดียวก็เสียบอันเดียวมันยากอะไรกับการที่ไปเสี่ยบอีกอันนึง

ได้ความรู้ครับ ระบบบ้านเราปวดหัว มีมากแบบเกิน

ผมใช้มานานแล้วแบบแนวนอนคู่ กราวด์ตั้ง เพราะเจอพวกปลั๊กหัวงอประจำโดยเฉพาะเครื่องซักผ้าครับ ไมโครเวฟ ตู้เย็นบางยี่ห้อ ตู้แช่ และก็หลายๆอย่าง รวมๆคือผมชอบ

ต่อเข้าสายถูกต้องก็ไม่มีปัญหา panaso... ราคาแพงกว่ายี่ห้ออื่นสามเท่า เต้ารับปลั๊กแนวต้ังสะดวกใช้งานที่สุด

การออกแบบมาตรฐานเต้ารับทุกวันนี้ไม่เข้าใจเหมือนกันครับแล้วแต่บริษัทหรือเปล่าแต่ก่อนจะออกมาจำหน่ายต้องได้รับการตรวจสอบคุณภาพข้อดีข้อเสียและความแลอดภัย มอก อยู่แล้วครับแต่ตามที่เคยใช้งานมาเต้ารับที่ใช้เป็นแบบตัวล็อคเต้ารับส่วนมากพอเสียบปลั๊กเข้าไปมันจะลุ๊บเข้าไปด้านในนี้คือข้อเสียของเต้ารับที่เป็นแบบตัวล๊อคแบบนี้ครับ

อีกปัญหานึงครับ ของช่องเสียบแนวนอน คือ ถ้าช่างไฟปกติ ต่อสาย N L ถูก ไม่มีปัญหา คิดสภาพ N N ยังพอได้ไฟไม่ติด ถ้าแต่ L L ชิบหายปะครับ

มาตรฐานการนับขา ต้องนับตามเข็ม ต้องดูจากด้านล่างที่ขาต่อสายเสมอ (อเมริกาออกกฏมาแต่แรกแล้วครับ) ไม่ว่จะเป็น ขา 123… หรือ LNG ก็ตาม

ชัดเจนครับ

มาตราฐานของเราเอง ปัญหาเยอะกว่าสากล ในระยะยาว

ผมว่านคิดไม่ได้ใช้คนใข้ไม่ได้คืดนะ55

เหตุผลไม่มีอะไรมากครับ วางlayoutแบบสามแถวมันง่ายในการออกแบบ สามารถแผ่นโลหะมาแถบจะตรงๆได้เลยประหยัดต้นทุน ปลั๊กทรงมี้มาจากมาตรฐานNEMA 5-15ของเมกา ส่วนปลั๊กขากลมมันหลวมง่ายกว่าขาแบน ผู้ผลิตมักจะออกแบบมาให้หัวมันงอเพื่อลดพื้นที่ๆยื่นออกมา ปลายสายจะได้ไม่ถ่วงน้ำหนักมาก ปลั๊กแบบนี้ยุโรปชอบใช้

ต้องเลือกใช้และตัดแปลงให้เหมาะสมเพื่อความสะดวกและปลอดภัยครับ

แบบงอ คือทำเพื่อให้สายไฟเลียบไปกับผนัง แค่นั้นเอง ถ้าหางยื่นออกมาตรงๆจะเกะกะ

ทวนเข็มนาฬิกา ผมนึกว่าเป็นมาตรฐาน เพราะเห็นว่า ตัว socket tester ที่เคยใช้ 3 ยี่ห้อ ล้วนแต่เรียงลำดับการตรวจสอบตามนี้ทั้งนั้น ซึ่งการที่มันบอกเราว่า Incorrect โดย N และ L สลับกัน แปลว่า มันต้องมีมาตรฐานอยู่ ซึ่งอาจเป็นในระดับโลกก็ได้ ไม่งั้น เวลาเราซื้อตัว Socket tester เราก็ต้องเลือกด้วยสิ ว่าจะเอาแบบทวนเข็ม หรือตามเข็มนาฬิกา แต่ในการเลือก มีให้เลือกแค่ว่า ไฟ เป็นแบบ 110 หรือ 240 หรือผมเข้าใจผิดครับ

หาเรื่องให้ได้เปลี่ยนจนได้ ของเดิมมันก็ดีอยู่แล้ว และมันก็ไม่เคยก่อปัญหาไดๆ ตามความคิดผมส่วนตัวนะครับ “ขาแบนดีที่สุด” รองลงมาคือขากลม แย่ที่สุดคือท้าย O มาตรฐานไทย แต่อนาคตอันยาวไดล อาจจะดีก็ได้

เลือกใช้มาตรฐานที่มีอยู่ก็ได้ ไม่รู้จะสร้างมาตรฐานขึ้นมาใหม่ทำไม

ไครเป็นคนออกแบบถึงได้โง่ขนาดนี้5555เสียบได้อันเดียว

พานาเขาผลิตตามมาครฐานประเทศญี่ปุ่นครับ

ความเห็นส่วนตัวนะครับ ปลั๊ก Type O มีประเทศไทยใช้ประเทศเดียว ผู้ผลิตในไทยเห็นปัญหาเลยหมุนเต้ารับ90องศา แต่ Panasonic เขาอาจจะทำเต้ารับขายประเทศอื่นด้วย อาจจะไม่คุ้มที่จะหมุน90 ให้ไทยประเทศเดียว

ชอบแบบใหนก็ใช้แบบนั่นครับแล้วแต่คนส่วนตัวผมชอบแนวตั้ง😅😅😅

ถ้าเป็นมาตรฐาน มอก.ต้องมีม่านนิรภัย ทำให้เสียบคร่อมไม่ได้นะ เพราะจะเสียบไม่เข้า

เรื่องปลั๊กไฟฟ้า มันมี 2 มาตรฐาน คือ มาตรฐานสากล ก็พวกฝรั่งทั้งหลาย ในหลายประเทศผลิตออกมา มีตรา รับรอง อีกมาตรฐานหนึ่งคือ จีน จีนจะผลิตออกมาใช้มาตรฐานตัวเอง ไม่ตามใคร แล้วถ้า 2 มาตรฐานมาใช้ร่วม กัน จะเกิดการ หลวม คับ เข้ากันไม่ได้ มีคนผลิตคิดค้นตัวแปลง หัวแปลงเสียบ เพื่อให้ใช้ด้วยกันได้ ใครมีปัญหาควรจะคิดในเรื่องนี้ก่อน ส่วน ผลิตในไทย หรือ จีน หรือ...ตัวชิ้น พลาสติค มักจะ แตกหักง่าย ละลายง่าย แล้วไม่คิดแก้ไขกัน แต่จะมีผู้ผลิตส่วนน้อย ที่แก้ไขเรื่องความร้อน ละลาย แตกหัก แต่ ขายแพงมาก เมื่อนำตัวถูกกับแพงมาเทียบ กันจะรู้ว่า เนื้อพลาสติคมันต่างกันจริง อีกเรื่องคือ ตัวรางโลหะเสียบไฟ จะหลวม หัวเสียบเมื่อเสียบจะหลวมจนเกิดประกาย ไฟขึ้น เวลาซื้อ คุณต้องเลือกให้ดี เพราะ เมื่อซื้อไปแล้วจะพบปัญหาน่าโมโห

ที่ทำให้งอ เก้าสิบองศา ป้องกันการสับสนเวลาเสียบ เพราะขากลมทั้งสามขาเลย

ในความคิดผม ผมว่าtype H กับtype I ดีสุด (ความคิดเห็นส่วนตัว)

ที่บ้านใช้เต้าเสียบแนวตั้งแบบในคลิปครับ แต่เป็นมี "ม่านนิรภัย" ก็ไม่มีปัญหาแบบในคลิปนะครับ

อันนั้จริงครับ

เอาง่ายๆกฎหมายไทยมันแปลกคือห้ามใช้ปลั๊กแบนแต่ผลิตปลั๊กแบนขายอยู่

ดูอยู่ดีๆพอเข้าประเด็นที่2ให้เราไปหาเงินออนไลน์ซะงั้น

แบบแนวตั้งออกแบบได้เหมาสมที่สุดแล้วครับ ประเทศไทยควรจะเลิกใช้ขาแบนแบบไม่มีฉนวนกันนานแล้ว

สวัสดืปืใหม่ครับผม

เต้ารับออกแบบมาถูกแล้ว ปัญหามันอยู่ที่ปลั๊กเสียบหัวงอ ทางผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าทำปลั๊กหัวงอเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เวลาถอดปลั๊กไม่จับที่หัวปลั๊กชอบดึงที่สายไฟทำให้ชนวนที่หุ้มสายทองแดงยืดออกมาทำให้เกิดกันลัดวงจรที่หัวปล๊๊กได้ หัวปลั๊กแบบตรงเห็นคนถอดปลั๊กชอบดึงที่สายไฟมันผิดวิธีมันอันตราย

ผมหาชื้อแบบช้ายมือ

ไปบังคับให้ผู้ผลิตเต้าเสียบเลิกทำให้งอ90' หรือไปเอาเต้ารับแบบกราวด์อยู่บน ตอนนี้มีหลายเจ้าผลิตแล้ว

ขากลมแบบสองขา ปลั้กหลวมตลอด เกลียดปลั้กแบบนี้มาก

ตอนผมติดตั้งผมจะแนะนำเจ้าของบ้านตลอดว่าจะเอาแบบใหนดี

Inter national code?

ปลั๊กจีนเสีบเต้าเสียบของเราได้ด้วยนะ

งานนี้เข้ามาดูเพราะไอ้รูปขากลมเสียบผิดนี่แหละแล้วเข้า N L มันเลยใช้ได้ด้วยนะ อย่างฮา🤣🤣🤣

ขอวิธี แยก ไฟ3 เฟส มาใช้เป็น 1 เฟส 2 สายหน่อยครับ

ปลั๊กหม้อหุงข้าวขากลม 3 ด้าน เสียบทีต้องระวังมาก แหย่ผิด บึ้มได้

ถูกแล้วครับ มันผิดที่ผู้ผลิตออกแบบปลั๊กตัวผู้งอ 90 ตั้งแต่ต้น งอ 90 มันมีปัญหามาช้านานแล้วครับ แม้จะใช้แค่เต้ารับ 2 ขาก็ตามครับ จากนี้ก็เหมือนบังคับผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ากลายๆว่า.. มึงอย่าทำงอ 90 น่ะเว้ย สำหรับผมไม่เป็นไรหรอก Vena เค้าทำปลั๊กตัวผู้ 3 ขากลมขายแล้ว ผมตัดเปลี่ยนปลั๊กเองได้ ที่ต้องดูให้ดีคือสีของสายไฟมากกว่า มาตราฐานปัจจุบัน L= น้ำตาล N=ฟ้า รู้สึกมันสลับกันกับเมื่อก่อนถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ

มันเป็นปัญหากับผมจริงเวลาไปติดให้ลูกค้า ว่าจะเลือกแบบไหนดีใจอยากได้แบบสายGอยู่ด้านบน กลัวลูกค้าไม่คุ้นชิน

เค้าทำที่เสียบแบบงอ เพราะเมียชอบสะดุดสายไฟ😆

ง่ายๆได้ไหม ยิ่งยาวยิ่งยากไม่เข้าใจ

ไทยเเลน 3 in 1 ไม่ว่าจะกลมจะแบน2ตา3ตารับได้หมด

สายตรงมันหักไวครับ จึงทำออกมาให้งอ90

เกลียดปลั้กกลม มันหลวม

L กับ N ผมแยกตรงความยาวของรูเต้ารับที่เป็นเส้นตรง ยาวมากต่อ N สั้นกว่าต่อ L

อันซ้ายมืออ ออกแบบผิด

จดไว้แป๊บ..เผื่อออกข้อสอบ

อยู่ที่คนเสียบ มองสักหน่อย ก็เสียบถูก

ปัญหาปลั๊กไม่เข้ากัน เลยต้องหาตัวต่อเฉพาะ ยี่ห้อ ปลั๊กต่อทั่วไปก็เสียบไฟไม่เข้า

แล้วไมเค้าเสียบไม่เอารูสายดินมาชนกัน เสียบได้สองอุปกรณ์ไม่เกยกัน

เต้ารับแบบใหม่อาจดูแปลกๆ แต่ก็ใช้งานได้นี่ ดูจนจบคลิปเหมือนจะไม่ได้ความรู้อะไรเพิ่มเติมอ่ะ รึผมโง่เอง

ที่ออกแบบอย่างนี้ต้องการช่วยอุตหกรรมกรรมผลิตในประเทศด้วย(ผู้ผลิตปลั้กไฟฟ้า)

ท้ายคลิป พูดถึง ต้นทุนการผลิต ก็น่าจะสังเกตว่า ต้นทุนที่เพิ่มมากที่สุดในการเปลี่ยนปลักเป็น o คือ การผลิตปลักกลม ทั้งเต้ารับ และปลั๊กเสียบ ต้นทุนสูงกว่า ปลั๊กแบนมาก การรักษามาตรฐานความฟิตของแบบกลมก็ยากกว่า โอกาสเกิดปลั๊กกลมคุณภาพต่ำ น่าจะสูงกว่าแบบแบน

อ้าวผมนึกว่าใช้ type R 😁

ไม่ต้องมากมาย หาหัวแบบต่อสายเอง เครื่องเสียงทำกันมา ไม่ว่า2ขา 3ขา😆😆😆

อย่างฮาเลยเพิ่งรู้

ผมว่ามันเป็นเรื่องการผลิต แผ่นทองแดงข้างใน แนวมันตรงกัน ทำให้ การผลิตทำได้ง่าย คนไทยมันมักง่าย ไม่ทำตามมาตรฐานสากล

สุ่มทดสอบจริงหรือ ปลั๊กรางด้อยมาตรฐาน บ้านเราเยอะมาก

ใช้ของช้าง

🙏🙏🙏🇹🇭🇹🇭🇹🇭🇹🇭🇹🇭ตรงตามมอก.

ไม่รู้จริง คิดเอาเอง ก็อย่าเผยแผ่ผิดๆ

เสียบไม่ดูหรือเปล่า

ไรว่ะ❤😮😅😊????!!

ทำใ้ห้มันวุนวาย

สมอง

เรื่องปวดหัว ทำไมมันไม่ทำเหมือนกันทั่วโลกวะ หรือไม่ก็แยกแค่ 110 กับ 220 ก็พอ

ออกแบบไม่ดี

ขากลมไฟเดินดีกว่า โหลดต่ำกว่า แต่โคตรกๅก ไม่แน่น ไฟสปาร์ค และมันไม่แข็งแรงเลย บลาๆๆ หน่วยงานรัฐมันว่างงาน หานั้นนี่ทำ ของบ ข้าราชการไทยมันว่างเกินไป ภาระตกที่ชั้นผู้น้อย ทำงานงกๆ ไอ่ตัวใหญ่ๆก็ขยันหาเรื่องมาให้ปวดหัว

เต้ารับ ปลั๊กเสียบ

เอาเต้าพ่วงมาเพิ่ม จบ

แล้วเต้านมล่ะ

พูดจาเยิ่นเย้อ..เอาแบบสาระดีๆ อย่าใช้คำฟุ่มเฟือยมากนัก..สำเนียงอีสานชัดมาก

ผมว่าเกิดจากจากบริษัทออกแบบเองไม่ให้เหมือนคนอื่นเขาเหมือนว่าเอกสิทธิ์ของบริษัทแต่ไม่คำนึงถึงผู้ชายผู้บริโภค