นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบสิ่งมีชีวิตที่อาจสร้างจักรวาลได้ 

ใช่ครับเรื่องแบบบนนี่มันเป็นเรื่องอจินไตย

​@@user-hr3jf6so5gในการลงความเห็นในช่องนี้คือค้นหาทุกข์ให้เจอครับ และเรากำลังได้รู้ว่าทุกข์เกิดจากการเกิดดวงดาว เกิดเทหวัตถุฟ้าฟ้า หรือลงลึกไปในจักรวาลอันมืดมิด เย็นยะเยือก นิ่งสนิท ในอุณหภูมิที่ต่ำมากๆเป็นตัวทุกข์ของจักรวาล จักรวาลต้องการแสงสว่าง มีการเคลื่อนไหว มีสรรพสำเนียงแม้เพียงน้อยนิดก็เอา แล้วใครจะปลดทุกข์ให้จักรวาล ก็อะตอมที่มีอยู่ในจักรวาลเป็นผู้ทำหน้าที่แก้ปัญหา จึงทำให้จักรวาลเกิดสี เกิดแสง เกิดเทหวัตถุฟากฟ้า เกิดธาตุ เกิดพืช เกิดสัตว์ สัตว์มนุษย์จึงต้องผจญปัญหาที่ต้องมีขึ้นบนโลกใบนี้ เรารับรู้ทุกข์เพราะโลกนี้มีธาตุทั้งสี่ เราใช้ธาตุทั้งสี่สร้างตัวเรา เพื่อเราเป็นผู้ที่อนุรักษ์โลกใบนี้ ผู้ปกป้องโลกตัวตรงคือพืชที่ช่วยชลอการเคลื่อนที่ที่รุนแรงของดิน น้ำ ลม ไฟ นี่คือสิ่งที่ผมได้รู้มาครับ

จิตเล็กกว่าควอนตั้มซะอีกน่ะ

ผมก็เข้าใจว่าเป็นแบบนั้นครับ มิติที่อยู่ในจักรวาลนี้มันทับซ้อนกันนับเป็นอเนกอนันต์อนุภาคควอนตัมจำจองเหตุการณ์ความน่าจะเป็นทุกเหตุการณ์ไว้หมดแล้วแต่อยู่กันคนละมิติ

อนุภาคควันตั้มคุณหามันพบแล้วเหรอ

มันไม่หรอกเวียนไหว้ตายเกิดอย่างมงาย

เวียนว่ายตายเกิด สมัยก่อนมนุษย์มีไม่กี่ล้านคน เเล้วมันเพิ่มมาจากไหนหลายพันล้านคนครับ ชาติเเรกไม่มีกรรมหรือความดี เเล้วมนุษย์เกิดมาได้ยังไง มันย้อนเเย้งน่ะ หรือจะบอกว่าเเบคทีเลีย กลับชาติมาเกิดเป็นมนุษย์

ไม่สมมุติถ้าสมมุติแล้วมีไปเพื่ออะไร

เวียนว่ายตายเกิดถ้านับย้อนหล้ง ไปชาติที่ 1 จะใช้กรรมอะไรมาเป็นชาติที่ 1 เพราะแต่ละชาติ ต้องอาศัยกรรมจากชาติที่แล้ว

@@panupholtanngampon4921 เป็นคำถามที่ดีครับ แต่อย่าลืมไปว่าจักรวาลที่มีเคหะวัตถุ สสารและพลังงานเกิดจากการระเบิดของบิ๊กแบงที่ทำให้เกิดดาวฤกษ์ดาวเคราะห์รวมตัวกันเป็นกาแล็คซี่ต่างๆ มนุษย์ถ้าไม่มีสัตว์เซลเดียวเกิดขึ้นก็จะไม่มีการพัฒนาการเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อย่างเดียวกันกับการที่จะอ่านออกเขียนได้ก็จะต้องฝึกท่องพยัญชนะและสระ ซึ่งก็ไม่ต้องสงสัยว่าก่อนเกิดบิ๊กแบงมีอะไร ก่อนจะถ่อง ก ไก่ มีพยัญชนะตัวไหนและก่อนจะมีสระ อะ มีสระอะไร เป็นการสร้างความเข้าใจว่าชาติที่แล้วมีหรือไม่นั้นไม่สำคัญ สำคัญที่ว่าชาตินี้ทำดีแล้วหรือยัง เพื่อการพินิจวิเคราะห์ได้ในตนเองที่มีการเกิดจากการผสมพันธุ์กันสืบทอดกันไปนั้น ที่แท้จริงแล้วมันก็แค่เพียงเศษเสี้ยวของดิน น้ำ ลม ไฟ ที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นมาในขณะที่หายใจอยู่แสดงถึงการบ่งบอกถึงการหมุนเวียนว่าก่อนหน้านั้นสิ่งเหล่านี้มิเคยได้มีโอกาสได้หายใจมาแล้วนั้นเอง

🤔🤔🤨🤨🤨🤨🤨🤪🤪😜😜😝😝😛😛

คับท่านศาสตราจารย์

ยกตัวอย่างแสง

เป็นส่วนหนึ่งของสรรพสิ่งหรือเปล่าครับ

พระเจ้าสร้าง

ช่างสังเกตครับ😊อาจเป็นไปได้นะครับไทยไม่ได้แก้ปัญหาแต่ให้คำตอบ รัฐกันชนรึก็เป็นเมืองขึ้นอยู่ดีมันมีบ้างอย่าง😊😊โชคดีในชีวิตครับ😊😊

555จริงรึ

แป่ว

มนุษย์ต้องคิดเยอะยุแล้วครับ คิดให้สมกับที่มีเซลล์ในสมองมากมาย ทฤษฎีทุกอย่างที่ได้คิดค้นขึ้นมามากมาย อย่าง GPS ที่เราใช้กัน ก็ใช้ ทฤษฎีสัมพันธภาพ ช่วยแก้เรื่อง time diration หรือแม้แต่ การที่เราบินได้ทั้งที่เครื่องบินหนักเป็นพันๆตัน ก็เกิดจากทฤษฎีแรงโน้มถ่วงหรือ Gravitational Space และ ทฤษฎีมากมายเอามาประกอบกัน การที่ชิปของมือถือ หรือแม้แต่การสัมผัสหน้าจอมือถือให้ตอบสนองตามที่เราต้องการ ก็ใช้หลักทฤษฎีกลศาสตร์ควอนตัมมาช่วย โดยเฉพาะ super computer ที่ลงทุนสร้างขึ้นมาด้วยงบมากมายที่สามารถกว้านซื้อบ้านคุณได้มากกว่าหลายร้อยหลัง เพียงเพื่อจะเอามาคำนวนการเบิดของ อนุภาคควอนตัม ชีวิตที่เราทำทุกอย่างได้ง่ายดายโดยมีเครื่องทุ่นแรงสารพัดรูปแบบ ก็ใช้ทฤษฎีต่างๆในการประดิษฐ์ทั้งสิ้น

gpsใช้การส่งสัญญาณโต้ตอบระหว่างจุดมากกว่า2จุด เพื่อกำหนดตำแหน่ง ไม่ได้เกี่ยวกับสัมพัทธภาพ เครื่องบินลำใหญ่ใช้แรงกดอากาศที่มีความต่างระหว่างด้านบนกับด้านล่างของปีก ไม่เกี่ยวกับแรงโน้มถ่วง หน้าจอสัมผัสใช้ไฟฟ้าสถิตย์ที่มือระบุตำแหน่งบนหน้าจอ ไม่เกี่ยวกับควอมตั้ม

@@user-pn1wi3hg7m การที่ GPS รู้ว่าเราอยู่ที่ไหนในแผนที่ ใช้อ้างอิงจากการรับรู้มือถือผ่านดาวเทียมหลายๆจุด มือถือเราอยู่ใกล้ดาวเทียมจุดไหน แสดงว่าเราอยู่ตรงนั้นของโลก แต่ทำไมมือถือถึงรู้ว่ามันใกล้จุดนึงมากกว่าจุดนึง เพราะมันมีการส่งสัญญาณของดาวเทียม ลงมาสู่มือถือ ตัวไหนส่งมาถึงก่อน ก็แสดงว่าอยู่ใกล้กว่า แต่มือถือดันไม่ได้อ้างอิงจากตัวมันเองว่ามันรับรู้ดาวเทียมดวงไหนก่อน แต่เป็นดาวเทียมที่ต้องบอกว่า ฉันส่งสัญญาณถึงมือถือในเวลาเท่านี้นะ ฉะนั้นจึงหาตำแหน่งของมือถือได้โดยคำนวน (ตำแหน่ง = เวลา*ความเร็วแสง) ฉะนั้นเราจึงต้องมีนาฬิกาความแม่นยำสูงติดอยู่ที่ดาวเทียม แต่ปัญหาที่ตามมาคือ (Gravitational time dilation) ซึ่งเวลาที่อยู่บนพื้นผิวโลก กับสภาพแรงโน้มถ่วงต่ำคือจุดที่ใกล้ๆเส้น คาร์ม่า ไปนั้น เวลาในดาวเทียมจะเดินช้ากว่าเวลาของโลก ช้าในระดับ microsecond แต่ก็ส่งผลเสียอย่างมาก ทำให้เกิดการหาสาเหตุว่าทำไมเวลาถึงเดินช้ากว่าโลก จึงใช้หลัก Time dilation เข้ามาแก้ไข คือ Gravitational Time Dilation(GTD) และ Velocity Time Dilation(VTD)

@@user-pn1wi3hg7m การที่เราคิดว่าเครื่องจักรบางอย่างที่มีน้ำหนักเยอะ สามารถบินขึ้นบนท้องฟ้าได้ ก็ต้องใช้ความรู้เรื่องความกดอากาศ แรงโน้มถ่วง ความดันอากาศ วิจัยอีกมากมายก่อนจะมาเป็นเครื่องบิน ใช่อยู่ที่คนแรกสร้าง เขาไม่ได้รู้เรื่องนี้นัก เพราะยุคสมัยนั้นความรู้เข้าถึงยาก แต่ในเครื่องบินที่มีมูลค่าสูง และต้องขนสิ่งบางสิ่งที่มีชีวิต จำเป็นต้องคิดให้มากๆถึงความปลอดภัย จึงต้องใช้หลักทฤษฎีมากมาย มาเพื่อคำนวนว่าเครื่องบินน้ำหนักมากกว่า 100 กิโล วิวัฒนาการจนไปถึง 1,000+ กิโล สามารถ"บินได้" หรือป่าว และ สามารถบินได้ด้วยความปลอดภัยมั้ย

@@user-pn1wi3hg7m การที่เราสามารถสร้างมือถือขึ้นมาว่ายากแล้ว แต่การที่ทำให้มันรับรู้สัญญาณนั้นยากกว่า ทฤษฎีในวิทยาศาสตร์ ก็เข้ามาช่วยในเรื่องนี้หลายๆอย่าง การที่มือถือรับรู้ถึงไฟฟ้าสถิตได้ เราต้องรู้ก่อนว่าตัวเรามีไฟ้าได้ไง เราก็รู้กันมาตั้งแต่เริ่มใช้มือถือจอสัมผัสแล้วว่ามันใช้ไฟฟ้าสถิต แต่การที่จะให้มันทำงานได้ และมีประสิทธิภาพขนาดนี้ ล้วนต้องใช้ทฤษฎีมากมาย ซึ่งผมก็ไม่รู้ ณ ตรงนี้ว่ามีอะไรบ้าง แต่มันไม่ใช่ความบังเอิญที่อยู่ๆคนคิดค้นก็เอามาประกอบกันแล้วเล่นได้เลยแน่นอน

ุอยากรู้เลยคับ

@@user-iw7ow2bm8q ไม่สามารถส่งข้อมูลได้ เครื่องไม่แมชต์กันสำหรับข้อมูลที่มากๆครับท่าน ผมพิมพ์ข้อมูลอยู่ 2ชั่วโมง พอส่งมีปัญหา กับเครื่องของท่าน ผมพยายามทำมาหลายครั้งแล้ว ครั้งใดได้ก็แสนจะโล่งใจ มิใช่หลบเลี่ยงครับ จะลองลงใหม่อีกครั้ง

@@user-iw7ow2bm8q ครับกลัวเนื้อหาจะมาก เอาว่าตัดตอนว่า อะตอมคือผู้สร้าง ธาตุขึ้นมาทั้งหมด อะตอมสั่นไหวทำให้เกิดความร้อนและแสงสว่าง เมื่อธาตุกลุ่มใหนจับตัวกันแบบกระชับแน่น เราเรียกว่าธาตุดิน ส่วนธาตุน้ำบริสุทธิ์ก็เป็นการจับตัวของธาตุ 2 ธาตุ คือไฮโดรเจนกับอ๊อกซิเจน การจับตัวกระชับกันแต่มิได้แน่นหนาก็ยังมีในธาตุบริสุทธิ์ของธาตุนั้นๆมิใช่มีอยู่ในธาตุน้ำบริสุทธิ์เพียงอย่างเดียว เช่นโลหะปรอท ส่วนอากาศธาตุเป็นการจับตัวแบบหลวมๆ แต่ตัดขาดจากกันไม่ได้ เป็นที่รวมของธาตุแท้ ธาตุผสมที่อยู่ในรูปฟุ้งกระจายครอบคลุมโลกรวมอยู่ในธาตุน้ำและธาตุดิน ทั้งสามธาตุจึงคละเคล้ากัน ขาดกันไม่ได้ ทั้งสามธาตุมีปัญหากัน ธาตุดินถูกธาตุลมพัดพา ฟุ้งกระจาย เปลี่ยนที่กองหาหลักแหล่งไม่ได้ ธาตุน้ำนำพาธาตุดินกัดเซาะกัน พุ่งกระโจนลงสู่ที่ต่ำ อุณหภูมิทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของธาตุทั้งสามที่รักษาความสมดุลไม่ได้ ครับนี่คือทุกข์ หรือปัญหาที่มีอยู่แล้วก่อนมีมนุษย์บนโลกนี้ ปัญหานี้ผู้ที่ต้องรวมตัวกันมาแก้ปัญหานี้ ผมเล็งไปที่อะตอม อะตอมสร้างธาตุขึ้นมาเป็นธาตุดินได้อย่างมหาศาล มีแร่ธาตุจำนวนมาก อะตอมจึงรวมตัวกันจากอะตอมอิสระ อะตอมใหม่มาเป็นผู้สร้างแบบต้นพืช โดยอะตอมมารวมตัวกันทีละอะตอมเพิ่มอะตอมก็เพิ่มเซลล์ในพืช ตั่งแต่พืชเซลล์เดียวเรื่อยๆขึ้นไปจนถึงเต็มขั้น สมบูรณ์ในรูปลักษณ์เป็นต้นแบบของสายพันธุ์ การรสร้างต้นใหม่จึงบรรจุการขยายพันธ์โดยอาศัยเพศ สร้างเพศขึ้นมา ยังคงรักษาการแบ่งตัว แตกหน่อ สร้างสปอร์ และส่วนต่างของต้นไว้ขยายพันธุ์ ต้นพืชมีปัญหากันเองในเรื่องครอบครองพื้นที่ ลดอุณหภูมิที่ผิวโลกรุนแรงความสมดุลย์ในธาตุยังคุมไม่ได้ การก่อเกิดขึ้นของสัตว์มาแก้ปัญหาให้กับพืช อะตอมอิสระในจักรวาลก็ดำเนินการอย่างเดียวกับการก่อกำเนิดของพืช ใส่ระบบประสาทเพิ่มขึ้น ทำให้การเคลื่อนไหวตัวตน การรับรู้ การตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว กำหนดให้ใช้แร่ธาตุที่ปรุงแต่งแล้วมาเป็นอาหาร ก็หาได้จากพืชทั้งหมดทั้งมวล สร้างสัตว์มาหลายหลากสายพันธุ์ ทั้งสัตว์กินพืช สัตว์กินสัตว์ สัตว์ดินพืชกินสัตว์ มนุษย์เป็นสายพันธุ์สุดท้ายที่มาควบคุมความสมดุลให้กับโลกใบนี้ โลกใบนี้ก็ต้องการมนุษย์ ไม่ผิดศีลแต่ประการใดที่มนุษย์ต้องต่อชีวิตด้วยชีวิต พร้อมทั้งก่อให้เกิดการยกระดับจิตวิญญาณสู่การสมบูรณ์ในร่างกายสัตว์ที่ต้องมีจิตวิญญานรวมอยู่ในทุกร่าง และมนุษย์ก็ต้องเป็นอาหารให้กับสิ่งมีชีวิต ครับที่มาของพืชและสัตว์ ในความตระหนักของผม เรามีที่มาจากจักรวาล เช่นเดียวกันกับการมามีสรรพสิ่งไม่มีชีวิตที่เป็นโลกใบนี้ การให้รายละเอียดผมคงให้ได้ไม่มาก เพราะมันมีส่วนในการส่งข้อความและหน้าพิมพ์ ตรงใหนที่ท่านเคลือบแคลงยินดีชี้แจงในส่วนที่ได้รู้มา ท่านรับรู้เรื่องนี้ไว้เป็นข้อมํลลอยๆไว้ก่อน อย่าลงว่าเชื่อ อย่าเอาเป็นสิ่งที่สอนท่าน ท่านยังสามารถหาข้อมูลมาส่งเสริมหรือคัดค้านได้เต็มร้อย ส่วนผมได้แนวเชื่อแบบนี้ผมสบายใจมาก ทำให้ผมปรับสภาพชีวิตได้มากกว่ามาก เพราะการรู้เป็นการสะสมความรู้มาทั้งชีวิต จนมาตกผลึกความรู้แบบนี้ได้ ถึงไม่อยู่ในความเป็นสากล ผมก็คิดว่าดีที่สุดสำหรับผมครับท่าน

แอบอ้างทั้งนั้น ศาสนาเพิ่งถือกำเนิด แล้วบอกพระเจ้าสร้าง งมงาย

มีแล้วไปอยู่ำหนมา ท่านบรรลุ11/9/59 ระดับ ปฏิสัมภิทาญาณ4+plus ด้วย ..หาได้ไม่ยากเย็น

​@@jcmb3825อธิบายเพิ่มได้มั้ยครับ หรือช่วยเล่าให้ฟัง

ว้าว555

แล้วใครสร้างธรรมชาติ

@@noeyphone8990 ธรรมชาติคือสิ่งที่เปลี่ยนไปตามสภาพหรือเรียกว่า อนัตตา ไม่มีจุดเริ่มและจุดจบ ไม่มีใครเป็นผู้สร้างหรือผู้ทำลายโดยเห็นชอบทางความรู้สึก เป็นแค่การสะสมของสนามพลังและการสูญสลายจากสิ่งหนึ่งเปลี่ยนไปเป็นสิ่งหนึ่งวนเวียนเป็นวัฏจักร ไม่มีสิ่งใดเกิดหรือตายไปอย่างแท้จริง ซึ่งต่างจากแนวคิดแบบ อัตตา ว่ามีผู้สร้างที่อยู่เหนือทุกสรรพสิ่งโดยที่คงอยู่เป็นอมตะได้โดยไม่มีความเปลี่ยนแปลง ไม่เสื่อมสลาย และไม่มีความไม่แน่นอน ในทางพุทธ คือ กฎไตรลักษณ์ 3 ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา ที่มีอยู่ในธรรมชาติของทุกสิ่งโดยไม่มีสิ่งใดเป็นอัตตา

​@@noeyphone8990ใครสร้างความว่างเปล่าละ ถ้าบอกมีพระเจ้า ความว่างเปล่าต้องมีก่อนพระเจ้าจริงไหม

​@@noeyphone8990ความว่างคือธรรมชาติอย่างหนึ่ง ที่รองรับ ทุกสิ่งไว้ แล้วพระเจ้าอยู่ภายใต้ความว่างเปล่า นะ หรือพระเจ้าเป็นผู้สร้างความว่างเปล่า

@@user-rf1vc1dm6n มึงเกิดทันเหรอ ถึงได้แสนรู้

กระบวนการคือ?

@@yaminlumbilsa6820 คำถามดีมากครับ ขอบคุณครับ...สรรพสิ่งก่อนนี้ไม่มีอะไร แต่เริ่มต้นมาจากกระบวนการสั่น (oscillator)ในระดับค่าคงที่พลังก์ ทำให้เกิดคลื่นพลังงาน ปรากฎการณ์ทั้งหมดจึงก่อตัวขึ้นมา อธิบายในรูปสมการ E=hf แล้วจึงเชื่อมต่อกับสมการไอน์สไตน์ เป็นดังนี้ E = hf ต่อมาจึงค่อยเป็น E=Mc'2

พรหมโลกต้นกำเนิดทุกสรรพสิ่ง

ความว่างเปล่ามาจากไหน😅😅😅

ผมเห็นด้วยครับกับคำว่าไม่รู้งัย แต่ก็อยากรู้ครับ เราจึงต้องมาช่วยกันออกความเห็นร่วมกันอยู่นี่ และโรงเรียนก็นำเสนอกับนักเรียนให้รู้เรื่องนี้เหมือนกัน ดูเหมือนจะเริ่มที่ชั้น ป. 4 เอาเสียด้วย ผมเห็นลูกนำมาสอบถามกับผม ผมเลยต้องขวนขวายหาคำตอบครับ

​@@noeyphone8990ความว่างเปล่าไม่ต้องมีที่มาครับ เพราะว่าง อาจจะว่างเพราะตามนุษย์มองไม่เห็นสิ่งที่มีอยู่ และุถ้าไม่มีแสงสว่าง ที่ว่างเปล่าก็เต็มไปด้วยความืดทมึนครับ

⁠@@yoyonut2695 ชาติหน้ามีจริงไหม "คำตอบเพราะความไม่รู้ไง เสร็จกันมาตั้งแต่เกิดแล้ว" จึงเหมือนถูกขังเหมือนถูกจองจำ จะหนีไปไหนก็หนีไม่พ้น เมื่อถึงเวลาต้องชดใช้กัน [หนี้กรรม] ตายก็เกิดทันที

@@noeyphone8990ความว่างไม่น่าจะมาจากไหนได้นี่ครับ ในเมื่อความว่างมันว่างของมันอยู่แล้ว แล้วในทุกที่ก็มีความว่าง พอมีความว่างถึงจะก่อเกิดการมีอยู่ได้ พอการมีอยู่ดับสลายก็กลับสู่ว่าง

555 คลิปสาวกมาเคลมเอาเป็นเอาตายเยอะเลย

ru-vid.comNaO0lwyibkI?si=_-6fxYTqHaM5OsQ8

ท่านครับ คำอธิบายของผมเป็นแบบย่นย่อครับ ผมมิใช่เจ้าของช่อง ผมเป็นเพียงผู้แสวงหาความเป็นไป ถ้าท่านอ่านแล้วในคำว่าไม่มีนั้น เป็นการทำความเข้าใจกับมนุษย์ปัจจุบันนี้ว่า ถ้าเรามองย้อนไปในอดีตตอนต้นที่จักรวาลยังไม่มีมวลสารปรากฏขึ้นในจักรวาลและอากาศธาตุก็ยังไม่มี เรามนุษย์จึงเห็นว่าว่างเปล่า เพราะเรามองไม่เห็นอะตอม อะตอมเป็นวัตถุโปร่งใสครับ เฉกเช่นท่านไม่สามารเห็นอีเล็คทรอน ที่เป็นพลังงานไฟฟ้าวิ่งวนเข้าออกในเครื่องใช้ไฟฟ้าในทุกวันนี้ครับ ผมมั่วออกมาเป็นคำตอบได้ครับ

ขอภาพพระผู้สร้างหน่อยครับ อยากจะคุยด้วยต้องเก่ฃมากแน่ๆที่สร้างได้ขนาดนี้สร้างดาวหลายร้อยล้านดวงแต่กลับไม่โผล่มาให้เห็น 🤣

@@sternny6054 ท่าน.ผมมิใช่ผู้เก่งกล้าอะไรทั้งนั้น ก็เป็นคนคนหนึ่งที่เหมือนคนทั่วๆไป เพียงแต่เราถูกบีปอัดกันมาคนละทาง โอกาสเข้าใจ เรียนรู้จึงตรงกันมิได้ ดูเหมือนท่านจะติดอยู่ในเทพเจ้า พระเจ้า ผมก็เคยเป็นมาอย่างท่าน แต่เป็นคนที่ระแวง สงสัย ต้องการคำตอบที่ม้นคลุมเคลือให้ชัดเจน เด่นชัดในความเป็นเรา ในชีวิตผมก็ผ่านสถานการณ์อาจจะมาก หรือน้อยกว่าท่านเราคงรู้กันไม่ได้ ผมพบว่ามีสิ่งที่เป็นปมปัญหามากๆในชีวิตมนุษย์ด้วยกัน นั้น นักปราชญ์ก็ตอบปัญหาแบบหลักลอย อ้างบุญ อ้างกรรม อ้างเทพเจ้า อ้างพระเจ้า วิญญาณฝ่ายดี วิญญาณฝ่ายร้าย บุญ บารมี แม้ตัวเราเองยังบอกว่าไม่ใช่ มารยา ภาพหลอน อวตาร ท่านก็คงรับมาเหมือนไปกับผม แต่ผมไม่รับเมื่อได้เข้าใกล้ชิดวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ได้ชี้ให้ผมเห็นว่า มนุษย์คือผู้มามีส่วนร่วมในห่วงโซ่อาหารโลก ส่วนตัวผมตระหนักเองว่า พืชและสัตว์เมื่อปรากฏตัวตนบนโลกนี้ เรามากินกันเอง เรามีชีวิตอยู่ได้เพราะเรากินพืชกินสัตว์ พืชและสัตว์ตายแล้วถูกพืชและสัตว์ย่อยสลายกลายเป็นอาหารให้พืชและสัตว์ มาถึงตรงนี้ได้ จึงทำให้เกิดปัญหาในใจว่า ต้นทางของพืชและสัตว์มีที่มาอย่างไร จนก้าวลึกไปถึงจิตวิญญาณ ต่อมาเราก็ได้รู้ถึงที่มาของจิตวิญญาณ ก็สรุปให้ท่านได้หายแคลงใจในตัวผม สิ่งที่ผมได้รู้ก็ยืนยันเหมือนเดิมที่ท่านอ่านข้อความผมในช่องนี้ จักรวาลเดิมที่เป็นที่ที่เปิดกว้างหาขอบเขตไม่ได้ และไม่มีมวลสารใดๆที่เป็นกลุ่มเป็นก้อน แสดงพลังงานให้เราเห็น ให้เรารู้ได้หลังจากมีดวงไฟขนาดมหืมาบังเกิดขึ้นเกือบทั้งจักรวาล เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในมโนของมนุษย์ในสมัยเราท่านนี้มีโอกาสย้อนรอยถอยหลังไปศึกษา ผู้ที่ทำให้เกิดสีแสงขึ้นก็คืออะตอม ท่านก็ทราบอยู่แล้วว่า อะตอมเป็นพลังที่โปร่งใส ไร้เงา มองเห็นด้วยดวงตามนุษย์ไม่ได้ จากตรงนี้จึงเป็นที่มาของดวงดาวทุกดวงในห้วงจักรวาล(ผมต้องพูดละไว้ในรายละเอียดบ้างเพราะถ้าลงรายละเอียดทุกอย่างต้องพิมพ์เป็น 100 หน้า) เมื่อดวงไฟดับลงเพราะ อุณหภูมิถูกกระจายออกไปโดยวิธีแผ่รังสีไปในที่ว่างในจักรวาล จึงปรากฏดวงดาวขึ้น และดวงใดที่ยังไม่ดับก็จะแสดงอำนาจแม่เหล็กที่มีพลังดึงดูดมากกว่าดาวดวงที่ดับแล้ว จึงเป็นระบบสุริยะจักรวาล ส่วนโลกเรามีสิ่งที่เป็นธาตุห่อหุ้มธาตุดินอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งสามธาตุนี้ก็มีได้อยู่นิ่ง.มีการกระทำกับธาตุดิน เกิดการเปลี่ยนแปลงพื้นผิวของธาตุดิน เพื่อลดอาการรุนแรงของสี่ธาตุ พลังงานอะตอมจึงรวมกันสร้างปรากฏการณ์ให้มีต้นพืช จากสร้างสัตว์ มาให้ปรับความสมดุลย์ให้กับธาตุทั้งสี่ นี่คือสิ่งที่ผมเข้าใจว่ามนุษย์มีที่มาอย่างนี้ เราหลงเชื่อในพลังสมองของคนอื่นว่ามีพลังอำนาจที่เหนือเราซ่อนเร้นอยู่ ตอนนี้ท่านต้องถามตัวท่านเองแล้วว่า ผมเป็นนักปลิ้นปล้อน นักโกหกพกลม หรือเป็นคนหนึ่งที่ได้เห็นที่มาของการมาเป็นมนุษย์ ท่านต้องชั่งใจตัวเองให้ได้ แล้วรายละเอียดที่ต้องมาเป็นที่มาก็ค่อยหาทางคุยกัน ตำราเล่มนี้ที่ผมได้เรียนรู้ใช่เวลานานมากในชีวิตผม ผมมั่นใจว่าเป็นสื่งที่ผมได้รู้และไม่ต้องไปยึดสิ่งใดมาเป็นพลังให้ชีวิตผม ผมเป็นตัวตนของผม ผมกล้าพอที่จะพูดออกไปด้วยความมั่นใจว่า มนุษย์ทุกคนเป็นไท (อิสระภาพ)ในตัวตนโดยตลอดครับ ในคำพูดของท่าน พระผู้สร้างของผมท่านก็รู้ว่าเป็นอะตอม เขาปรากฏตัวอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นพลังานแสงสว่างให้ท่าน เป็นพลังงานสร้างความสะดวกสบายให้กับมนุษย์ทุกคนที่ใช้พลังงานไฟฟ้ามาอำนวยความสะดวกกับชีวิต

ครับท่านก็บอกว่าผมมั่ว ทั้งที่ผมคร่าวๆที่มาให้ท่านได้รู้ ส่วนพระเจ้าของท่าน ท่านยืนยัน 100 % แต่ท่านไม่บอกผมสักนิดว่าพระเจ้ากับท่านก่อกำเนิดมาเหมือนกับท่านหรือเปล่า ใช้พลังอำนาจใดที่ไปบังคับให้ทุกคนต้องเชื่อในพระเจ้าแทนมี่จะเชื่อในพลังงานสมองและกล้วมเนื้อตัวเองที่ดลบรรดาลให้ได้มีชีวิตเป็นของตัวเอง ช่วยกันปกป้องชีวิตทุกชีวิตให้ดำรงอยู่ ได้ปกป้องโลกใบนี้ในคนที่ตื่นรู้แล้วกระทำอยู่

ช่วยอธิบายวิธีการสร้างโลกของะระเจ้าให้ฟังด้วยครับ

อันนี้ผมก็แอบคิดครับ

ผมว่ามีความเป็นไปได้ครับ

ใช่ จักรวาลเราอาจอยู่ในรูตูดพยาธิที่อยู่ในรูตูดอูฐอีกทีก็เป็นได้

อาจจะไช่ก็ได้นะครับเพราะมันมีแกสและแร่ธาตุต่างๆไปเจือปนมากมาย555อีกทั้งวัฏรจักรการมีอยู่ของจักรวาลที่เรามองว่านานแสนนานอาจสั้นนิดเดียวสำหรับสิ่งมีชีวิตนั้นๆก็ได้ครับ

ท่านครับ ท่านกำลังบอกว่า เกิดจากการคละเคล้าของเทหวัตถุฟากฟ้าที่เกิดจากสร้างขึ้นมาใหม่ ถ้าการคละเคล้าครั้งแรกเกิดจากการระเบิดของเหตุการณ์บิ๊กแบ๊งค์ แล้วมีการมานำเอาเทหวัตถุมาสร้างเป็นระบบใหม่ ท่านก็ยังค้นไม่พบว่าเทหวัตถุที่ถูกระเบิดนั่นมีที่มาอย่างไร ท่านก็จะไม่ได้รู้ที่มาของเทหวัตถุ ถ้ารู้ที่มาของเทหวัตถุก็จะทำให้รู้ที่มาของพืช และสัตว์ มนุษย์อยู่ในกลุ่มสัตว์ครับ

ท่านครับ เมื่อก่อนความเชื่อ เดียวนี้ค้นหา ทดลอง พิสูจน์ บันทึก เก็บข้อมูล เชื่อมต่อ จัดวาง กำหนด ทดสอบเป็นรูปธรรมสัมผัสได้ครับ

@@yoyonut2695 ผมไม่ได้ว่าจะไม่เชื่อวิทย์นะ แต่แค่จักรวาลมันลึกลับกว้างใหญ่เกินกว่าที่เอาวิทยาศาสตร์มาตัดสิน

หมายถึงอะไรครับ

เราเป็นแค่โปรแกรมที่ถูกสร้าง😂😂😂

แค่ทฤษฎีครับ ยังไม่ใช่หลักฐาน อยู่ๆจะมามีบิ๊กแบง ต้องมีต้นเหตุอีก

พรหมโลกเกิดแรกสุด

แต่ยังมีข้อสงสัยว่ามวลสะสารธาตุต่างๆเกิดขึ้นใด้อย่างไร บิ๊กแบงเกิดจากสะสารธาตุมารวมตัวกันแล้วบีบอัดจนระเบิดออก แล้วสะสารธาตุมาจากไหน คงจะไม่เกิดจากความว่างเปล่าแน่ ทุกอย่างต้องมีเหตุผล

พลังงานไม่สามารถสร้างขึ้นเเละหายไปได้ มันเปลียนสถานะ เเสดงว่าพลังงานมีอยุ่เเล้วก่อนบิ๊กเเบง. เเล้วมันมาจากไหนล่ะ😂😂😂😂😂

ก็ไปฟังไอ้บิ๊กแบงมาแต่ฟังไม่หมดไม่ครบแถมฟังจากยูทูปแม่งก็มั่วไปเรื่อย แถมๆพลังงานเกิดจากกิจกรรมใดๆ มีเกิดมีหาย ผลักบอลกลิ้งตามพื้นไม่ไกลมันก็หยุด ง่ายๆ

แต่ตอนนี้ตามนุษย์อย่างผมกำลังเห็นอะไรบางอย่าง ❤

ru-vid.comNaO0lwyibkI?si=_-6fxYTqHaM5OsQ8