นายกฯ สมาคมค้าทองคำ ชี้อยู่มา 69 ปีไม่เคยเห็น ปรากฏการณ์ทองพุ่งแตะ 4 หมื่น 

ราคาทองประเทศไทย วันที่ 1 เม.ย. 67 มีการปรับขึ้น-ลง 7 ครั้ง รวม +350 บาท
ทองคำแท่ง : รับซื้อ 38,750.00 ขายออก 38,850
ทองรูปพรรณ : รับซื้อ 38,051.60 ขายออก 39,350
ราคาทองคำโลกทำสถิติใหม่ สาเหตุจากนักลงทุนเก็งกันว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย จึงพากันเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยในช่วงดอกเบี้ยขาลง ทำให้ราคาทองโลก มีดังนี้
โดยในช่วงการซื้อขาย วานนี้ (1 เม.ย. 67) ราคาทองคำ สปอต โกลด์ (Spot Gold) ได้พุ่งขึ้นไปที่ 2,265.49 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้นทำสถิต่ิใหม่สูงสุดตลอดกาล ในระหว่างช่วงการซื้อ-ขาย ช่วงแรก ๆ ในสหรัฐฯ
ส่วน ราคาทองคำ โกลด์ ฟิวเจอร์ (โคเม็กซ์) ปรับขึ้น 0.9% ปิดที่ 2,236.50 ดอลลาร์/ออนซ์
นายธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง ได้บอกว่า ราคาทองคำทั้งตลาดโลก และตลาดไทย ทำสถิติออลไทม์ไฮ ซึ่งปีนี้ราคาทองคำทำสถิติใหม่มาแล้ว 20 ครั้ง
ทองคำโลกเดือนมีนาคมได้ปรับขึ้น 9.28% ส่วนทองคำไทยปรับขึ้น 11.42% ซึ่งปัจจัยมาจากเงินเฟ้อสหรัฐฯ แบงก์ชาติทั่วโลกเข้าซื้อทองคำจำนวนมาก
วานนี้ (1 เม.ย. 67) นายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า
เมื่อวานนี้ (1 เม.ย. 67) ราคาทองคำในประเทศปรับขึ้นอีก 400 บาท ส่งผลให้ทองแท่งขายออกขึ้นมาที่ 38,950 บาท และทองรูปพรรณขึ้นมาที่ 39,450 บาทแล้ว ซึ่งเชื่อว่าราคายังไปต่อได้ จนถึง 40,000 บาท เนื่องจากธนาคารกลางหลายแห่งในโลก มีการซื้อทองคำตุนกันจำนวนมาก ทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่ตนเองอยู่ในวงการมา 69 ปี ก็ไม่เคยเห็น เพราะปกติทองจะขึ้นเวลามีข่าวไม่ดี แล้วเป็นคนซื้อไว้เก็งกำไร พอราคาขึ้นมาก ๆ ก็จะขายทำกำไร ราคาทองก็จะลง แต่ขณะนี้ ราคาขึ้นตลอด เดือนมีนาคมเดือนเดียวขึ้นไปกว่า 4,000 บาท หรือ ขึ้นมากกว่า 10% ดังนั้น ราคา 40,000 บาท เป็นไปได้ไม่ยากแล้ว เพราะราคาขึ้นเร็วมาก
ราคาน้ำมันโลกขึ้นมากกว่า 0.5% สาเหตุมาจากนักลงทุนมองว่าการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจีน จะเติบโต และส่งผลต่อการใช้น้ำมัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันโลก มีดังนี้
ตลาดไนเม็กซ์ นิวยอร์ก เพิ่มขึ้น 0.54 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 83.71 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล
ตลาดเบรนท์ ลอนดอน เพิ่มขึ้น 0.42 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 87.42 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล
น้ำมันกลั่นสำเร็จรูป สิงคโปร์ ลดลง 1.52 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 92.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีที่กระทรวงพลังงาน เสนอให้กระทรวงการคลัง ขยายเวลาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ออกไปก่อน ว่า
กระทรวงการคลังคำนึงถึงคือเรื่องการจัดเก็บรายได้ การลดภาษีดีเซลลิตรละ 1 บาท ไม่ได้มาก แต่อยากให้กองทุนน้ำมันช่วยดูแล
ส่วนที่กระทรวงพลังงานจะของบกลางมาดูแลราคาดีเซลนั้น ต้องดูว่าจะใช้ได้หรือไม่ และจะเป็นแหล่งเงินใด อย่างไร
ส่วนการจัดเก็บรายได้ช่วง 5 เดือน (ต.ค. 66 - ก.พ. 67) ที่ 981,902 ล้านบาทนั้น ต่ำกว่า 25,144 ล้านบาท จากที่ประมาณการ 1.054 ล้านล้านบาท แต่เชื่อว่า ทั้งปีงบประมาณ 66 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 2.78 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ การที่รัฐบาลได้ตรึงดีเซลให้ไม่เกินลิตรละ 30 บาท ด้วยการลดภาษีน้ำมันดีเซลลิตรละ 1 บาท รวม 9 ครั้ง คิดเป็นเงิน 178,000 ล้านบาท และจะสิ้นสุดวันที่ 19 เม.ย. นี้ จากปัจจุบันจัดเก็บที่ลิตรละ 5.44 บาท โดยการลดภาษีดีเซลลิตรละ 1 บาท ทำให้รัฐเสียการเก็บรายได้ถึงเดือนละ 2,000 ล้านบาท
ส่วนภาษีเบนซิน ไม่ได้ลดภาษีให้อีกหลังจากสิ้นสุดมาตรการไปเมื่อปี 66 อีกทั้ง ยังตรึงราคาก๊าซหุงต้ม รวมแล้วรัฐใช้เงินตรึงราคาพลังงานเกือบ 300,000 ล้านบาท
4 ทางรอด กองทุนน้ำมันฯ ที่ปัจจุบัน ติดลบ 99,821 ล้านบาท
1. ต่อมาตรการลดภาษีดีเซล 1-2 บาท/ลิตร รวม 3 เดือน (ลด 1 บาท/ลิตร รัฐเสียรายได้ 6,000 ล้านบาท)
2. ขออนุมัติงบกลาง เพื่อชวยลดภาระกองทุนน้ำมันฯ ในการอุดหนุนราคาดีเซล และก๊าซหุงต้ม
3. ลดการชดเชยราคาดีเซล เพื่อเพิ่มเพดานราคาให้สูงเกิน 30 บาท/ลิตร โดยทยอยปรับขึ้นตามกลไกตลาด เป็น 31 - 32 บาท/ลิตร
4. ขออนุมัติวงเงินกู้เพิ่ม เพื่อเสริมสภาพคล่องกองทุนน้ำมันฯ
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : ch3plus.com/ne...
-------------------------
#เรื่องเล่าเช้านี้ (Morning News)
วันที่ 2 เมษายน 2567
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus : ch3plus.com/ne...
facebook : / morningnewstv3
Twitter : / morningnewstv3
RU-vid : cutt.ly/Mornin...
Tiktok : / morningnewsch3
#3PlusNews #ข่าวช่อง3 #สรุยทธ #ไบรท์