นิทานก้อม โยโย่ผู้กัดหาง ใครหางยังดีระวังหางไว้ 

นิทานก้อม เรื่อง โยโย่ ผุ้กัดหางช้าง เติมไข่ใส่หอมโดยนานาต่างๆ
บนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีช้างพลายวัยหนุ่มฉกรรจ นามว่าโยโย่ รุ่นราวคราวเดียวกับพลายงาทองผู้เป็นช้างป่าดาราเขาใหญ่ แต่โยโย่ รับบทเป็นผู้ร้าย
วันหนึ่งโยโย่ กำลังตกมัน ออกเดินทางตามหาโขลงช้างตัวเมีย พบโขลงช้างที่มีแม่พังอยู่ไม่ไกล ความดีใจที่พบพังสาว โยโย่ รีบจ้ำอ้าวเข้าไปหา
โขลงช้างเห็นโยโย่ ปรีเข้ามา ก็พากันตกใจ แม่แปรก รีบส่งเสียงแจ้งเตือนลูกโขลงให้พาลูกเล็กเด็กแดงเผ่นหนีก้นฝุ่นตลบทุ่งเลยทีเดียว
ทำเอาโยโย่ผู้ตั้งใจจะมาหาสาวๆ ยืนงุนงงในดงหญ้าคา วิ่งหนีเราทำไมกันหว่า โยโย่ยังไม่ลดละ ออกเดินตามโขลงไปอีก แต่โขลงนั้น พาลูกหลานเตลิดเปิดเปิงไปไกลลิบแล้ว
สร้างความหงุดหงิดแก่โยโย่เป็นอย่างมาก แต่ก็พาร่างอันตกมัน ออกเดินตามรอยโขลงไป ไม่ไกลจากจากโยโย่เท่าใดนัก พลายเบี่ยงเล็ก ช้างหนุ่มฉกรรจ์รุ่นราวคราวเดี่ยวกัน กำลังจะตกมัน ได้กลิ่นโขลงช้างอยู่ไม่ไกลจึงออกเดินหา
ก็มาจะเอ๋กับโยโย่เข้าพอดี โยโย่ผู้หงุดหงิดอยู่แต่เดิม ก็ไม่พอใจ จึงปรีเข้าหาเบี่ยงเล็ก พ่อเบี่ยงเล็กผู้ไม่รู้จักโยโย่แบดบอย ก็หันหน้าเข้าปะทะกัน เบี่ยงเล็กเห็นท่าไม่ดี ทำท่าจะสู้งาสั้นๆนี้ไม่ไหว รีบถอยฉากหลบ
แต่โยโย่ผู้ไม่เคยปราณีใคร ก็ไม่ยอมให้หนี เอางวงคว้าหางเบี่ยงเล็กใส่ปาก แต่เบี่ยงเล็กสบัดหางทันก่อนที่ฟันกรามจะบดลงบนปลายหาง แต่ทำให้ขนหางเบี่ยงเล็กหลุดหายไปทั้งยวงแล้วรีบโกยแน๊บเข้าป่าไป ทิ้งไว้แต่ขนหางเต็มปากโยโย่
หลายเดือนต่อมาขนหางเบี่ยงเล็กก็งอกออกมาใหม่อีกครั้ง แต่เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด โยโย่กับเบี่ยงเล็กตกมันไล่ๆกันอีกและมาเจอกันอีกครั้ง เบี่ยงเล็ก ไม่ได้วิ่งหนี แต่หันหน้าสู้โยโย่อีกสักตั้ง งาเบี่ยงๆ และยาวกว่า กลับไม่ได้เปรียบ เบี่ยงเล็กดูเชิงแล้วก็คงจะสู้โยโย่ไม่ได้
จึงถอยแล้วกลับตัวหนี คราวนี้โยโย่รู้ทัน ไอ้นี่จะหนีอีกแล้ว ก็พุ่งตาม เบียงเล็กยังไม่ทันจะกลับตัวดีนัก โยโย่ก็เอางวงคว้าโคนหางเบี่ยงเล็กได้เต็ม ๆ จังหวะนั้น เบี่ยงเล็กก็กำลังพุ่งตัวหนี โยโย่ก็กำลังออกแรงดีง แรงหนีบวกแรงดีง
มหาศาลของช้างทำให้เส้นประสาทหางเบี่ยงเล็กขาดจากกัน ห้อยต่องแต่ง แม้จะสบัดหลุดไปได้ก็สร้างความเจ็บปวดแก่เบี่ยงเล็กเป็นอันมาก
จนเจ้าหน้าที่ได้พบว่าเบี่ยงเล็กบาดเจ็บจึงเข้าช่วยเหลือ และเห็นว่าหางไม่สามารถรักษาได้ จึงจำเป็นต้องตัดทิ้งและใส่ปลอกคอติดตามตัวเพื่อให้ยากรักษา จนหายดี จากชื่อพลายเบี่ยงเล็ก ก็เลยได้ชื่อเป็นเบี่ยงกุดตั้งแต่นั้น