ความคืบหน้าของคดี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อายุ 56 ปี จำเลยที่ 1 พร้อมพวก ก่อเหตุอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา ท่ามกลางกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.บรรยิน วางแผนเตรียมจะแหกคุก
เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัว พ.ต.ท บรรยิน มาขึ้นศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อตรวจพยาน โดยนำตัวพ.ต.ท บรรยินมาจากเรือนจำบางขวาง มีการจัดกำลังแน่นหนาคุ้มกัน ทั้งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ตำรวจกองปราบปรามชุดหนุมาน ตำรวจศาล และตำรวจพื้นที่ โดยช่วงเช้าที่เรือนจำบางขวาง มีพันตำรวจเอกณรัตน์ ศเวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑื มาดูแบลความเรียบร้อยในเรือนจำบางขวาง
จากนั้นเวลาประมาณ 9.00 น. พ.ต.ท.บรรยิน ก็เดินทางมาถึงที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง และเข้าห้องพิจรณาคดี ในเวลา 10.30 น. โดยระหว่างที่อยู่ในห้องพิจารณาคดี ทีมข่าวได้เข้าร่วมฟังการตรวจพยานคดีนี้ ผ่านระบบคอนเฟอเรนซ์ที่ทางศาลจัดให้สื่อมวลชนได้ตรวจสอบ
จากการสังเกตพบ พ.ต.ท.บรรยิน สวมชุดนักโทษ มือถือหน้ากากอนามัย เดินเข้ามาห้องพิจรณาคดี มีสีหน้ายิ้มแย้มท่าทางไม่มีความกังวลหรือเครียดแต่อย่างใด และได้เดินไปนั่งข้างทนายพร้อมกับหยิบหนังสือพิมพ์ของทนายมาอ่านอย่างสนใจ คาดอาจอ่านข่าวแหกคุกของตนเอง จากนั้นได้พูดคุยหารือกับทีมทนายความ
จากนั้น เวลา 10.45 ศาลได้ออกนั่งบังลังก์ ได้กล่าวว่า ทนายจำเลยที่ 1 คือ พ.ต.ท.บรรยิน ได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนตรวจพยานหลักฐานต่อศาล เนื่องจากยังเตรียมพยานเอกสาร พยานวัตถุไม่พร้อม และมีจำนวนเอกสารจำนวนมาก
โดย พ.ต.ท.บรรยิน ได้แถลงต่อศาล ว่า ตนไม่สามารถอ่านข้อเท็จจริงในเอกสารการตรวจพยานได้ เพราะมีเอกสาร หลายพันหน้า ไม่มีเวลา เพราะตั้งแต่ตนถุกคุมขังตลอดเวลากว่า 3 เดือน ก็ไม่มีเวลา และในเรือนจำก็ไม่มีที่เก็บเอกสารทางคดี อีกทั้งตนถูกย้ายอยู่เรือนจำบางขวาง ถูกใส่ตรวน ขังเดี่ยวกระทำกับตนเหมือนไม่ใช่คน ถูกกระทำเยี่ยงสัตว์ รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม ทำให้ไม่สามารถตรวจเอกสาร หลักฐานต่างๆ ได้
รวมถึงสถานที่เรือนจำไม่สะดวกต่อการอ่านตรวจเอกสารอีกด้วย และเวลามาขึ้นศาล ก็การวางกำลังป้องกันความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ที่เข้มงวดขนาดนี้ ตนไม่สามารถทำอะไรได้ หากตนได้รับประกันตัวเชื่อว่า ภายใน 10 วันจะมีเวลาในการตรวจดู เตรียมข้อมูลเอกสารทั้ง 10 แฟ้ม ได้มากกว่านี้ “หากจะให้ทนายทำให้ ตนก็จะเสียเปรียบ เพราะทนายไม่ได้ไปอุ้มกับตนด้วย”
รวมทั้งหลักฐานที่เป็นคลิปจากกล้องวงจรปิดที่ต้องใช้เครื่องมือตรวจสอบ ถ้าได้ประกันตัวตนรับได้ เนื่องจากตนต้องไปสืบพยานที่ศาลอาญาพระโขนงทุกสัปดาห์ (คดีฆ่านายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง) ตนต้องเตรียมต่อสู้คดีนั้น จนไม่ได้มาสนใจคดีนี้
นอกจากนี้ยังมีข่าวเรื่องตนจะแหกคุก ตนไม่รู้เรื่อง ตนอยู่ในเรือนจำ ถูกพันธนาการตลอดจนเครียดมากถึงขั้นผูกคอตาย แต่โชคดีผู้คุมช่วยทำจึงยังมาศาลได้ในวันนี้ และทนายที่ดูคดีนี้ไม่ได้เดินทางมาในวันนี้ด้วย พ.ต.ท.บรรยิน จึงขอศาลพิจารณาเลื่อนการตรวจพยานหลักฐานคดีนี้ออกไป หลังเสร็จสิ้นคดีฆ่าเสี่ยชูวงษ์ ที่ศาลจังหวัดพระโขนงได้หรือไม่ เนื่องจากตนอยู่ในภาวะไม่ปกติ ถูกควบคุมเข้มงวดเป็นพิเศษ
นอกจากนี้ พ.ต.ท.บรรยิน ยังขอต่อศาลให้ภรรยาและลูก ซึ่งอ้างว่า กำลังเรียนเป็นผู้ช่วยทนาย เข้ารับฟังในห้องพิจารณาคดี เพื่อตนจะได้ปรึกษาคดีนี้ด้วยนั้น ศาลชี้ว่าการพิจารณาตรวจพยานหลักฐานคดีนี้เป็นไปในทางลับ รวมถึงเป็นมาตราการรักษาความปลอดภัย ไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าในห้องพิจารณาอนุญาตเพียงคู่กรณีเท่านั้น
ศาลจึงพิจารณาอนุญาติให้เลื่อนการตรวจพยาน 60 วัน โดยให้ทนายความเขียนคำร้องมาตามขั้นตอน ส่วนจำเลยที่ 2-6 ไม่เลื่อนการตรวจพยานกำหนดเดิม 25 มิถุนายนนี้
จากนั้นศาลได้สอบถาม พ.ต.ท.บรรยิน ว่าจะให้การรับสารภาพ หรือปฏิเสธ พ.ต.ท.บรรยิน ก็ตอบว่าให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าวันเวลาที่เกิดเหตุ ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ถูกจำเลยที่ 2 ใส่ร้าย กลั่นแกล้ง
จากนั้นทางฝ่ายโจทก์ แจ้งว่า อดีตผู้พิพากษาอาญากรุงเทพใต้ ที่พี่ชายเสียชีวิต ได้เป็นขอโจกท์ร่วมด้วย ซึ่งไม่มีบุคคลใดคัดค้าน
รายละเอียดเพิ่มเติม ch3thailandnew...
-------------------------
#เรื่องเล่าเช้านี้ (Morning News) 23 มิถุนายน 2563
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารได้ก่อนใครได้ที่นี่
เรื่องเล่าเช้านี้.com : morning-news.b...
facebook : / morningnewstv3
Twitter : / morningnewstv3
Official LINE : @ruenglao
RU-vid : cutt.ly/Mornin...
29 сен 2024