บุกพิพิธภัณฑ์ราชทัณฑ์ ย้อนดูเบื้องหลังการลงทัณฑ์ที่มีมานานหลายสิบปี!! | DJ MATOOM 

ไม่ได้หรอก😂

นู้นกกีมจที่ได้เห็นพี้ตลอดนี้ละพี่มพตูมน่าระกมนนด

จากการฆ่าเพื่อล้างแค้น ต่อมาเมื่อสังคมมีวิวัฒนาการ การประหารชีวิตถูกจัดขึ้นในที่แจ้ง และเปิดต่อสาธารณะเพื่อเป็นแนวคิดในการสร้างตัวอย่าง ป้องปรามไม่ให้คนในสังคมกระทำตาม คำถามคือ โทษประหารชีวิตยังมีประโยชน์แค่ไหน ในแง่ใช้เพื่อป้องปรามไม่ให้มีการกระทำผิดตาม? งานวิจัยของ เดวิด ที จอห์นสันในปี ค.ศ. 2010 ซึ่งเก็บข้อมูลเป็นเวลาสามทศวรรษด้วยกัน พบว่า ในช่วงทศวรรษ 1950 ที่ญี่ปุ่นมีการใช้โทษประหารชีวิตสูงถึงปีละ 25 ราย ก่อนที่ช่วงทศวรรษ 1980 จะลดลงมาเหลือเพียง 1.5 รายต่อปี ในช่วงสามทศวรรษนี้จำนวนคดีฆาตกรรมกลับลดลงอย่างต่อเนื่อง หมายความว่าการบังคับใช้โทษประหารอย่างสม่ำเสมออาจไม่ส่งผลอะไรกับการลดลงของอาชญากรรมในญี่ปุ่น ขณะที่เกาหลีใต้ จุดแบ่งระหว่างการใช้โทษประหารคือการประหารชีวิตนักโทษ 23 รายในรอบหลายปีในปี ค.ศ. 1997 ผลปรากฎว่าก่อนและหลังการประหารชีวิตครั้งนั้น ไม่มีผลใดต่อตัวเลขการฆาตกรรมที่เกิดขึ้น สองตัวอย่างนี้แม้จะมีคำถามอยู่บ้าง เช่น การที่ตัวเลขฆาตกรรมที่ญี่ปุ่นน้อยลงอาจมาจากปัจจัยอื่น เป็นต้น แต่ก็แสดงให้เห็นได้ดีว่าการใช้โทษประหารชีวิตไม่ได้การันตีว่าอาชญากรรมจะลดลงแต่อย่างใด เกาหลีใต้มีการประหารชีวิตครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษในปี ค.ศ. 1997 แต่ไม่ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่ออัตราการถูกฆ่าตายภายในเกาหลีใต้ในช่วงเวลาก่อนและหลังแต่อย่างใด นอกจากนี้ ยังเคยมีงานวิจัยในปี ค.ศ. 1996 สอบถามความเห็นของนักอาชญวิทยา ของสหรัฐอเมริกา ว่ามองผลของโทษประหารได้ผลหรือไม่ นักอาชญวิทยาในงานวิจัยนี้ให้ความเห็นสรุปได้ว่า ผลของโทษประหารไม่ต่างอะไรกับผลของการลงโทษสูงสุดอื่น ๆ และนักอาชญวิทยาส่วนใหญ่ มองว่าโทษประหารเป็นวาทกรรมที่ถูกทำให้เป็นสินค้า นำมาใช้หาเสียงเรียกคะแนนนิยมเท่านั้น หลากหลายงานวิจัยทางวิชาการที่สั่งสมมาหลายสิบปีไม่สามารถพิสูจน์ประโยชน์ที่แท้จริงของโทษประหารในเชิงประจักษ์ได้แต่อย่างใด

จริงนะพอมันเริ่มเปลี่ยนไป คนทำผิดเยอะกว่าสมัยก่อนไม่เกรงกลัวด้วยซ้ำ

สวัสดีครับ รบกวน INBOX PAGE FACEBOOK ของช่อง DJMATOOM เนื่องจากคอมเมนต์ได้รับเลือกเป็นผู้โชคดีครับ

*สนับสนุนรายการดีๆนะคะ*

สวัสดีครับ รบกวน INBOX PAGE FACEBOOK ของช่อง DJMATOOM เนื่องจากคอมเมนต์ได้รับเลือกเป็นผู้โชคดีครับ