ปฐมกาล บทที่ 1 พระเจ้าทรงเนรมิต สร้างโลกและมนุษย์ 

มีด้วยหรอพระ อะไร เยอะแยะ ไปหมด พระเยซูก็เพียงพอแล้วจ้า

บ้านรถโรงงานกระเป๋าหนังสือสมุดทุกอย่าง ต้องมีผู้สร้างครับคิดเอาเอง!!

แต่ความทุกข์นั่นสามารถกำจัดได้อย่างหมดจด​โดยพระเจ้าเหลือแต่สันติสุขและความชื่นชมยินดี​ ผมไม่ทราบว่าคุณมีทุกข์หนักหนาเพียงใด​ แต่ผมขอบอกข่าวประเสริฐ​ให้คุณ​ คือถ่อมใจว่าเราเกิดมามีทุกข์​เพราะว่า​เรามีบาปและไม่สามารถ​ชำระบาปเองได้ จึงขอเชื่อว่าพระเยซู​ช่วยรับเอาบาปของเราไปตรึงกับพระองค์​บนไม้กางเขน​แทนเรา​ เมื่อพระองค์​สิ้นพระชนม์​เรานั่นก็ตายด้วยกับพระองค์​ด้วยแล้วพระองค์​เป็น​ขึ้น​มาจากความตายอีกเราก็เป็นขึ้นมาพร้อมกับพระองค์​อีกครั้งมีชีวิตใหม่ในพระเยซู​ นี่คือวิธีของพระเจ้าที่จะช่วยคนทุกข์.... ผมไม่เคยเชื่อว่าจะมีใครรับบาปแทนผมใด้ แต่เมื่อรู้จักพระเยซู​จึงเข้าใจ​ ทุกวันนี้ผมไม่มีทุกข์​เพราะผมยกให้พระเยซูหมดแล้ว​ ขอพระเจ้าอวยพรน่ะครับ​ ขอพระเจ้าประทานความเชื่อให้คุณ​ จะได้หลุดพ้นจากทุกข์​ทั้งหลายเถิด​ อาเมน

ทางออกอยู่ที่พระเยซูครับ

​@@leeyong-ju ปัญญาอ่อน

พระเจ้าทำอะไรได้​โดยไม่จำเป็นต้องอธิบายเหตุผลให้ทราบ​ พระองค์​คือผู้สร้าง​ ช่างปั้นหม้อที่นั่นย่อมมีเหตุผล​ที่ปั้น​ แต่ไม่จำเป็นต้องบอกหม้อว่าปั้นเขามาทำไม​ ที่ว่าไม่เห็นตัวพระองค์​นั่น​ คุณต้องมาศึกษาทำความรู้จัก​ดู​ ถ้าคุณเชื่อพระองค์​จะสำแดงให้คุณเห็นเองครับ​ พระเจ้าอวยพร​ในนามพระเยซู​ครับ​ อาเมน

ในอนาคตจะได้เห็นแน่นอน พระเยซูกำลังจะเสด็จกลับมา ในอดีต ก็เสด็จลงมาแล้ว ในสภาพพูดมนุษย์ เพียงแต่เราตอนนั้นเรายังไม่เกิด เดิมทีการทรงสร้างของพระเจ้านั้นสมบูรณ์และดีพร้อม เริ่มแรกนั้น มนุษย์คู่แรกได้เห็นพระเจ้าพระผู้สร้าง หลังจากมนุษย์คู่แรกนำบาปเข้ามา สู่โลกอดีตจนถึงปัจจุบัน บรรพบุรุษคนแรกเราเป็นแบบไหน เรารุ่นหลังก็เป็นแบบนั้น กันอิจฉาการฆ่าฟันกันมีมาตั้งแต่มนุษย์คู่แรกแล้ว จนถึงปัจจุบัน ฉะนั้นพระเยซูจึงเสด็จมาในสภาพบุตรมนุษย์สภาพมนุษย์สภาพเหลือหนังเหมือนกันกับเราในพระองค์นั้นไม่มีบาปเลยแต่พระองค์ทรงยอม สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อที่ตัวบาปคนบาปในสภาพมนุษย์เนื้อหนังจะได้ทุกข์ตึงร่วมกับพระองค์ด้วยพระองค์ได้แบกรับความผิดบาปของเราจึงร่วมกับพระองค์ที่กางแขน ในวันที่ 3 พระองค์พระเยซูฟื้นขึ้นมาจากตายเราผู้ที่เชื่อในพระเยซูนั้นก็พ้นจากบาป ก็คือสิ้นสุดเผ่าพันธุ์ มนุษย์คู่แรก มนุษย์คู่แรกทำบาปอย่างไรเราก็เป็นคนบาปอย่างนั้นแต่พระเยซูเป็นผู้ชอบธรรมถูกโบยตี ถูกเฆี่ยนตีในที่สุดพระองค์สิ้นพระชนม์ ทั้งที่พระองค์ไม่มีความผิดบาปอะไรเลย แต่ในวันที่ 3 นั้นพระองค์ฟื้นขึ้นจากตาย เราที่เชื่อในพระเยซูนั้นก็มีชีวิตใหม่เป็นคนใหม่ชอบทำแล้วโดยความเชื่อด้วยความเชื่อในความเชื่อ ทำไมดวงดาวถึงชนกัน เมื่อเราดูไม่ว่าจะเป็นสารคดีหรือนาซ่าดวงดาวมีเกิดขึ้นมากมาย ดาว เกิดใหม่ดาวดับสูญ มีอะไรเกิดใหม่ๆทุกๆวันในดาราจักร หรือจักรวาลเพียงแต่เรามองไม่เห็นและไม่รู้ ผู้สร้างมีจุดประสงค์เช่นนั้น เพราะพระองค์ผู้ทรงเป็นสถาปนิก ทรงรอบรู้เกินกว่าที่เราจะเข้าใจ มนุษย์คู่แรกที่สุดสร้างมา ก่อนที่จะนำบาปเข้ามาความรอบรู้และชาญฉลาดเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ หลังจากที่บาปครอบงำมนุษย์นั้น ความฉลาดของมนุษย์เหลือแค่ 10-20% มากสุดก็ 20% อย่างนักวิทยาศาสตร์ชื่ออัลเบิร์ตไอน์สไตน์ นั่นคือผู้ที่ฉลาดที่สุด

หากคุณอยากเห็นสิ่งเหล่านั้นรอบรู้สิ่งเหล่านั้น คุณแค่กลับใจและถ่อมใจ ยอมรับในพระเยซู และคุณก็จะได้รับการเซอร์ไพรส์เมื่อพระองค์เสด็จกลับมาทุกสรรพสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสร้างนั้น คุณก็จะได้เข้าใจ ในยุคนี้เป็นไปไม่ได้ แต่ยุคหน้า จะสำเร็จแน่นอนตามที่พระองค์ได้ทรงสัญญาไว้ผ่าน ไบเบิล

@@ภาภา-ฬ2ฤ ตอบแบบนี้แหละศาสนาถึงมีแววจะสูญพันธุ์ ไม่มีเหตุผลเหมือนเดิม อยากเจอต้องเชื่อก่อน ทำไมให้สมองมาแค่นี้เอง

@@nightfire7328 เหมือนคนสร้างบ้านหละคับ เวลา ขายบ้าน ส่วนใหญ่ พนักงานขายบ้าน(เซลล์ขายบ้าน) ไม่ได้บอกว่าใครสร้าง! ใครเป็นคนผสมปูน! แต่จะบอกว่า ราคากี่บาท คุณจะผ่อนหรือคุณจะซื้อสด! มีกี่ห้องนอนกี่ห้องน้ำ! (ไม่จำเป็นต้องอธิบายคับผม) ถ้าอธิบายไปคุณไม่ซื้อก็เหมือนเดิมเพราะมันอยู่ที่คุณด้วย!

ทุกสิ่งพระเจ้าทรงสร้างมา ถ้าศึกษาตามหลักวิทยาศาสตร์ จะเข้าใจความซับซ้อนของน้ำ น้ำทะเลก็เป็นอีกอย่าง น้ำจืดก็เป็นอีกอย่าง น้ำที่ให้มนุษย์ดื่ม ก็เป็นอีกอย่าง ซึ่งประกอบไปด้วยแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์ และองค์ประกอบอื่นๆอีกมากมายอย่างนับไม่ถ้วน

ฤทธานุภาพของพระเจ้าก็ทรงปรากฎให้เห็นชัดแจ้งอยู่แล้ว ในสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง

เป็นวงกลมครับ ถ้าโลกแบน จะไม่มีแรงโน้มถ่วง มนุษย์ทั้งหลายที่เดินออกขอบโลก ก็จะล่องลอยไปในอวกาศและตายในที่สุด ถึงกระนั้นไม่มีมนุษย์สักคนเดียวที่จะรอด ผู้ทรงสร้างออกแบบอย่างชาญฉลาด ผู้ทรงเป็นสถาปนิก เกินกว่าที่เราจะเข้าใจได้

แล้วดวงจันทร์กับดวงอาทิตย์พระเจ้าก็สร้างด้วยหรือ

@@ปราโมทย์แช่มเงิน ครับ

เคลมทุกอย่าง เหมือนเขมร

อยู่เฉยๆเถอะไม่ต้องออกมาบูลี่

มันก็อันหนึ่งอันเดียวกันนั่นแหละครับ เพียงแต่ว่าในโลกที่พระเจ้าสร้างมาแล้วนั้น มีอยู่แห่งหนึ่งคือสวน สวนเอเดนก็อยู่ในโลกนี่แหละ สมมุติว่าคุณมีบ้าน และมีสวน อย่างเดียวกันครับสวนที่บ้านคุณ จะออกแบบจัดเนรมิตออกมาแบบไหนตามสติปัญญาของคุณ

พระเจ้าคือพระผู้สร้างสูงสุด พระองค์ทรงดำรงอยู่ก่อนแล้ว และไม่มีใครสร้างพระองค์ พระองค์ทรงดำรงอยู่ 3 พระภาคดั่งที่ตรัสไว้ในพระคัมภีร์ไบเบิล คือพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งพระบุตรก็เข้ามาในโลกแล้ว นั่นคือพระเยซูคริสต์ เพื่อนำโลกที่ทำผิดได้กลับคืนมาหาพระองค์

พระเจ้าไม่จำเป็นต้องมีผู้ให้กำเนิดพระองค์.เพราะพระองค์ทรงดำรงอยู่ก่อนทุกสิ่ง.ไม่มีพระไหนอยู่เหนือพระองค์.เพราะพระองค์คือพระผู้สร้าง.แล้วไม่ต้องถามนะว่าพระเจ้าหน้าตาเป็นอย่างไร.ผมเป็นชาวพุทธนะ ผมยังเชื่อเลยว่าพระเจ้ามีจริง คุณคิดดูสิ.ทุกสิ่งมันว่างเปล่าหมด.แล้วสิ่งที่ว่างเปล่าและที่มันว่างเปล่าอยู่.มันจะเกิดขึ้นม าเองได้อย่างไร.อย่าบอกนะว่าธรรมชาติสร้าง.แล้วธรรมชาติมาจากไหนถ้าไม่มีผู้อยู่เบื้องหลัง.ผมเป็นชาวพุทธนะที่ไม่เคยต่อต้านไม่เคยปฏิเสธพระองค์เพราะยังไงก็ต้องยอมรับว่ามีผู้สร้างอยู่ดี.เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมันให้เกิดขึ้นเองไม่ได้

@@หนึ่งทองคํา-ฎ9ห ในเมื่อทุกอย่างเกิดขึ้นเองไม่ใด้แล้วพระเจ้ามาจากไหนครับ อย่าบอกนะว่าพระเจ้าเกิดขึ้นเองเพราะมันย้อนแย้งกันเอง

พอสะทีเถอะนะ นี่มันยุคไหนแล้ว จะอวยโง่ๆ แบบนี้ทำไม แก้ไขปรับปรุงได้แล้ว ทุกสิ่งที่มีถูกสร้างขึ้น แต่คนสร้างไม่มีที่มาที่ไป หาไม่เจอ เป็นใครมาจากไหน โผล่มาได้งัย

ขอบคุณพระเจ้า แล้ว พระพุทธจ้าว คัยเปนคนสร้าง.ขึ้นมาคะ.คัยรุ้ช่วยตอบที

คิดไปเองทั้งนั้น มันต่างกันแค่พระเจ้าในศาสนาเราถูกเรียกว่า ธรรมชาติในศาสนาท่าน ดูเหมือนสับสนตัวเอง ถามหาพระเจ้าแต่กล้าพูดว่าธรรมชาติ สิ่งไม่มีชีวิต ไม่มีสติปัญญาสร้างสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาไม่ได้ ก้อนหินสร้างมนุษย์ไม่ได้ และศาสดาของท่านก็สอนแล้ว ว่ามนุษย์ไม่จำเป็นต้องหาว่าใครสร้างพระเจ้า เพราะอายุไขน้อยเกินจะมานั่งคิดเรื่องแบบนี้ เอางี้เลยดีกว่า กล้าพอไหมที่จะเอาคำสอนของศาสนาท่านมาวาง แล้วใช้วิทยาศาสตร์กับชีวะวิทยาเทียบ เกี่ยวกับการสร้างโลกและจักรวาล บิ๊กแบง โลก สัตว์น้ำ สัตว์ปีก สัตว์บก และมนุษย์ถูกก้อปปี้มาจากพระเจ้าไม่ใช่ลิง อยากเจอพระเจ้าเดินไปส่องกระจก สิทธัตถะว่าไง โลกจักรวาล ลำดับยังไง เพราะพระวจนของพระเจ้าตรงกับชีวะวิทยา100% และมีเหตุผลมากดว่าวิทยาศาสตร์ซะอีก เรื่องที่มนุษย์คือร่างก้อปปี้ของพระเจ้า ไม่ใช่ลิง แน่นอนมนุษย์ในอนาคตจะสร้างโลกได้ เพราะถูกออกแบบมาจากพระฉายาของพระเจ้า แน่นอนว่าลิงทำไม่ได้ มาเอาคำสอนของมนุษย์ที่ชื่อสิทธัตถะมาวาง เกิดจากอะไร ดินน้ำลมไฟ อะไรเพ้อเจออีกตามเคย ใครงมงาย คนที่เชื่อคำสอนกำเนิดโลกและจักรวาลถูกต้อง หรือคนที่เชื่อคำสอนอะไรไม่รู้ที่ไม่ถูกต้อง แล้วมาว่าคนอื่นงมงาย เชื่อพระเจ้าเพราะคำพูดถูกต้อง มีน้ำหนัก น่าเชื่อถือ พิสูจได้ ถึงได้เชื่อ เปิดดูได้ปฐมกาลบทที่1 ตรงกับวิทยาศาสตร์เป๊ แค่จิตก็ไม่มีอยู่จริงแล้ว จะมาหาอะไรก่อน

@@satomijang6802 คำว่าพระเจ้าสร้างโลกแล้วใครสร้างพระเจ้าคำถามเหล่านี้มันเป็นคำถามของคนอิจฉาริษยา ก็คือพูดต่อต้านนั่นแหละ มันเป็นคำถามปากต่อปาก แต่ลึกๆในใจของเขา ผมเชื่ออย่างสุดใจว่าพวกเขายังมีความสงสัยอยู่แต่เพียงเพราะ เขาถูกปั่นหัว มีสิ่งหนึ่งบังตาฝ่ายวิญญาณของพวกเขาไว้

@@leeyong-ju มันมีอยู่ตั้งแต่ต้น ไม่มีอะไรเกิดจาก0 มันมี1ก่อนอยู่แล้ว ก่อนจะเกิดบิกแบง โลกก่อนหน้านั้นคืออนันต์ ไม่มีมิติเวลา ไม่มีอายุไข นั่นคือหลักวิทยาศาสตร์ ตามทฤษฏีของฮอกกิ้ง และตามพระคำภีร์ไบเบิล และวันสุดท้ายของมนุษยชาติ คนที่ได้เข้าสวรรค์โดยพระโลหิตของพระเยซูโดยการสารภาพบาปและกลับใจ มีในวิวรณ์ 1.ไม่มีมิติเวลา 2.มีชีวิตนิรันดร์ 3.ไม่มีความเศร้าเสียใจอีกต่อไป 4.ไม่มีความตายอีกต่อไป 5.ไม่มีกลางคืน 6.ไม่มีทะเล คนทั่วไปก็เข้าได้ แต่ต้องรออีกพันปีต้องขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ถูกชำระจนบริสุทธิ์ 1,000ปีในความมืดมิด จนกว่าจะสะอาด และบริสุทธิ์ มันคือหนังสือประวัติศาสตร์ ที่ทำนายตั้งแต่วันแรกของจักรวาลและวันสุดท้ายของโลก เป็นหนังสือที่ทำนายที่แม่นยำที่สุดและมนุษย์ไม่สามารถแก้ไขได้ เพราะต่อให้เอาปืนมาจ่อหัวหรือฆ่าล้างโคตร ก็ยังคงบันทึกเหตุการณ์ตามความเป็นจริง เพราะความเชื่ออยู่เหนือความตาย การเมืองการปกครองไม่สามารถแก้ไขประวัติศาสตร์อะไรได้ และมีหนังสือในโลกนี้เพียง2 อัน ที่ไม่ถูกอำนาจของมนุษย์แก้ไข 1.ไบเบิล 2.กุราอาน แน่นอนว่าไตรปิฏกไม่ได้เป็นเช่นนั้น แค่ถูกข่มขู่ว่าจะฆ่านิดหน่อยก็สามารถบิดเบือนคำสอนได้สบายๆ และไม่มีใครยอมตายเพราะความเชื่อ แน่นอนว่าถูกสังคายนามานับครั้งไม่ถ้วนจนผิดไปจากเดิมมาก

@@satomijang6802 เอเมน

@@satomijang6802 พระพุทธเจ้าสอน อิทัปปัจจยตา เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้ย่อมมี ถ้าจะเรียกว่าอิทัปปัจจยตานี้เป็นพระเจ้าของศาสนาพุทธก็ได้ ธรรมชาติไม่ใช่พระเจ้าของศาสนาพุทธ และพุทธสอนเรื่องนามธรรม มันไม่ใช่วิทยาศาสตร์อยู่แล้ว เพราะวิทยาศาสตร์จะพูดถึงและยอมรับในสิ่งที่เป็นรูปธรรม โดยพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ มนุษย์มีสัมผัส 5 อย่าง โดยพื้นฐานทางพุทธ เรามีสัมผัส 6 อย่าง ที่เพิ่มมาจากของวิทยาศาสตร์คือ ใจ หรือที่สัมผัสได้ทางนามธรรม และพุทธเราให้ความสำคัญกับด้านนามธรรมนี้เป็นอันดับแรก ในทางคริสต์ก็คงเหมือนที่คุณรู้สึกว่าสัมผัสพระเจ้าได้ทางใจนั่นเอง ผมคิดว่ามันผิดฝาผิดตัวไปหน่อยที่จะบอกว่าระหว่างศาสนาของเรา อันไหนที่เป็นวิทยาศาสตร์มากกว่ากัน แม้ว่าหลักการของพุทธจะเป็น อิทัปปัจจยตา หรือหลักของเหตุปัจจัยก็ตามที แต่ก็เป็นเหตุและปัจจัยทางนามธรรมที่สำคัญต่อการพ้นทุกข์มากกว่าเหตุและผลทางรูปธรรมแบบวิทยาศาสตร์ครับ และพุทธไม่ได้อยากตอบคำถามเกี่ยวกับรากกำเนิดของสิ่งใดนอกไปจากว่าทำไมจึงทุกข์ และทำอย่างไรจึงพ้นทุกข์นั่นเอง