ประวัติพระสุก จ.ยโสธร 

พระศุกร์องค์จริงอยู่จมน้ำอยู่ที่แถวบ้านหนองกุ้งจังหวัดหนองคายแล้วอีกองค์อยู่วัดศรีคนเมืองอายุเกือบถึง 120 ปีแล้วสวยงามมาก

ขอกราบนมัสการ​ พระสุก พระใส พระเสริม ขอบารมี​ของพระพุทธ​องค์ ขอให้ชีวิตข้าพเจ้า​ดีขึ้น ไม่เจ็บ ไม่จน สาธุ 🙏🙏🙏

กราบนมัสการ พระสุก ขอบารมีพระสุก จงดนบรรดานให้แม่ของเข้าพเจ้า หายป่วย มีสุขภาพที่แข็งแรงด้วยเถอะ สาธุๆๆๆครับ

องค์จริงพระสุขยังจมยุในโขงจร้า บ้านหนูอยู่ อ.รัตนวาปี บ้านเวินสุข เวินแท่น หนูกะรู้ คนหนองคาย อ.โพนพิสัย รัตนวาปี แถบตะลิ่งโขงจะรุ้ว่าเพิ่นจมอยู่ใส สิบกว่าปีผ่านมา ปีนั้น เศียรพระสุขเพิ่นโผล่น้ำมาไห้เหนไทบ้านได้พากันเอดบุญร้อยมื่อ ยังบ่ทันมีไผเอาเพิ่นขึ้นมาได้น้าตามว่า เกิดได้ไหมญ่มากะรับรุ้ประวัติเพื่นมาแบบนี้ คนเขียนกะเอาความจริงมาเว่าแนเด้อจร้า

ในหอพริตะพันธุ์พระราชวังเจ้าสว่างวัฒนาหลวงพะบางได้บันทึกว่า พระเจ้าเสริม พะเจ้าใส เป็นพระฐานดอกบัวแต่พระสุกอ้ายหมู่ลักษณะฐานสิเป็นสามชั้นฐานสูงของล้านช้างห่มขาวเก่าสิบ่มีลายฐานเมฆถ้าเป็นลายเมฆกะแสดงว่าสร้างสมัยเจ้าคำแสนหรือพระเจ้าแสนสามหมื่น เพราะมีพระจมไต้น้ำโขง2องค์คือ พระสุก กับพระเจ้าแสนสิมที่จังหวัดหนองคาย

สาธุ ลูกหลาน ขอบารมีหลวงพ่อพระสุกปกป้องคุ้มครองลูกหลานและครอบครัวให้ร่มเย็นเป็นสุขโชคดีมีชัยตลอดไป บ่อว่าประวัติหลวงพ่อพระสุกเป็นมาจั่งใด๋ลูกหลานเป็นคนยโสธรลูกอิสานโดยกำเนิดขอบารมีหลวงพ่อพระสุกคุ้มครองพี่น้องคนไทยและคนลาวเช่นเดียวกันสาธุ

สาธุสาธุขอให้เจอปฏิหารสาธุ ขอให้สมปราถนาทุกๆเรื่องสาธุคะ

สาธุๆๆ พระพุทธรูปทุกองค์ เป็นตัวแทนพระพุทธเจ้า เคารพกราบไหว้ระลึกถึงพระองค์ท่าน ก็มีอานิสงส์มหาศาลแล้ว อย่าลังเลสงสัยกันเลย

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ ขอพระบารมีหลวงพ่อพระสุกจงปกปักรักษาคุ้มครองแผ่นดินอีสานและสาธุชนที่มากราบไว้ด้วยเถิด สาธุ🙏🏻🙏🏻🙏🏻

แค่ สาธุๆๆกับจิตใจที่ระลึกถึงและบริสุทธิ์ ก็สุดจะบรรยายแล้วจ้า🙏🏼🙏🏼🙏🏼

สาธุ สาธุ สาธุ ลูกคนยโสธร ปลื้มใจเหลือเกิน น้ำตาไหล จะกลับมากราบไหว้สักครั้งให้ได้ค่ะ

ผมเป็นคนยโสธรแท้ๆๆผมเพิ่งรู้ครับ สาธุ ว่าวัดศีรธรรมนอกจาก หลวงตาแล้ว ยังมีพระศุก สาธุ

หากเป็นองค์ปลอมก็ดีทำให้คนนึกถึงเรื่องราวขององค์ท่าน และหากเป็นองค์จริง ก็คงเป็นบุญของคนที่คิดว่าเป็นองค์ปลอมบุญไม่ถึงตัวท่านเลยตำนิ วิจารย์ตามความคิดของตัวเอง เหมือนบัวใต้ตมที่ไม่มีวันเห็นแสงสว่าง

🏵มาจากใจใส เป็น บูญแน่เลย ใจใสใจบูญ ใจดีพามี ร่มเย็น🏵รอบคอบทางดี พานำชีวิตดี 🏵

ยินดีที่ได้ยินเรื่อราวเกี่ยวกับท่านพระสุกนะครับ อยากจะกดเก็บไว้ดูและฟังแบบออฟไลน์ ...ไม่ทราบว่าจะปิดกั้นการโหลดเก็บดูทำไมอ่ะครับ (ผมก็คนยโสธรเด้อ) ...กะสิคั๊กแน่แท้ (ผมกะอยากให้ยอดเข้าชมหลายๆเด้อ)

จะจริงหรือปลอมไม่มีใครรู้ ทุกอย่างอยู่ที่จิตใจ การที่เราพูดไปโดยที่ไม่รู้อะไรจะเป็นปาบเสียมากกว่า สิ่งที่เราควรทำคือ สาธุ เพราะไม่ว่าพระพุทธรูปท่านจะอยู่ ณ ที่แห่งใดท่านจะคุ้มครองคนดีที่มีจิตที่เป็นธรรม สาธุ

ใช้คำว่ากบฎเจ้าอนุวงค์เวียงจันทร์มันทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีกับพี่น้องฝั่งซ้าย ควรที่จะศึกษาประวัติศาสตรให้ถูกต้องและเป็นกลางก่อนนำเสนอจะทำให้เกิดความรักสามัคคีกันครับ ประวัติศาสตร์แก้ไม่ได้แต่หากนำเสนอแบบไม่ถูกต้องและไม่คำนึงถึงความรู้สึกของชนอีกกลุ่มหนึ่งมันก็ไม่เป็นประโยชน์และสร้างความบาดหมางในจิตใจของกลุ่มชนนั้น รักกันไว้ประชาคมอาเซี่ยน

ขอโมทนาบุญใหญ่ กับชาวยโสธรด้วยนะ สะบายๆ..จำเริญๆ

ที่แปลกใจมากกว่าคือพระสุกองค์เดียวกับที่จมน้ำหรือ พระเสริมและพระใสท่านสร้างจากทองสีแสดมาจากเตาหลอมเดียวกันซึ่งมีส่วนผสมของทองคำมากถึง60% (ข้อมูลจากกรมศิลป์) องค์ท่านจึงเหลืองทองอร่ามสดใสไม่เหมือนโลหะเนื้ออื่นพวกทองเหลืองหรือสัมฤทธิ์ ถ้าองค์นี้เป็นพระสุกจากสามธิดาจริงไม่น่าต่างกันมากนะ หรืออาจจะเป็นองค์จำลองเพราะจากที่สังเกตุในหลายๆจุดท่านมีความต่างจากอีกสององค์ที่มีที่มาชัดเจน แต่ถึงองค์นี้จะใช่หรือไม่ใช่ผมก็เชื่อว่าท่านได้ผ่านการเบิกเนตรมาแล้วก็ศักดิ์สิทธิ์เหมือนกัน

สาธุ ข่อให้พระสุขให้คุนคองลูกหลานยุดีมีสุขเถีด สาธุ สาธุ สาธุ

ໜ້າພູມໃຈບ່ອນໃດປຸ້ນເອົາຂອງຄົນອື່ນມາແລ້ວວ່າເຂົາເປັນກະບົດ ສະຍາມນະບໍ່ມີປັນຍາສ້າງຈິ່ງຫາປຸ້ນເອົາຂອງຄົນອື່ນ ພະແກ້ວມໍລະກົດຄືກັນເປັນຂອງລາວດັ່ງເດີມກໍ່ເປັນຂອງລາວ ປ່ານນັ້ນເອີ້ນພະຄູ່ບ້ານຄູ່ເມືອງບໍ່ອາຍບໍ ສົມພໍມັນຈິ່ງບໍ່ມີຄວາມສະງົບນຳເຂົາຈັກເທື່ອຍ້ອນບັນພະບູລຸດມັນເຮັດຊົ່ວໄວ້ຈົນນັບບໍ່ໄດ້ ບ້ານກູເຂົາເອີ້ນໝາຄົນບໍ່ມີຢາງອາຍແບບນີ້

สาธุเจ้าค่ะ ขอบคุณสำหรับความรู้นะคะ พึ่งรู้เลยค่ะ ความรู้สู่การส่งต่อ

ชอบฟังแนวนี้มากเลยค่ะ กล่อมนอนดีนักแล

จักละเด้อประวัตเป็นมาจังได่..แต่บ้านผมอยุ่คุ่ม."หอก่อง"หลังบ้านผมกะอยุ่ติดกำแพงวัดโพธิ์ชัยอีก..วัดหอก่องคือวัดที่พักเกวียน.พระใส-พระเสริม.ก่อนสิ่ชักเกวียนไปกรุงเทพฯแต่เพิ่ลบ่ไป..ต่อจากนั้นกะไปหาขอมูลเอาคับ...

ส่วนตัวผมเชื่อว่าเป็นพระสุกองค์จริงครับการงมพระสุกถ้างมหน้าแล้งที่น้ำลด มีความเป็นไปได้ครับ คงไม่มีใครบ้าไปงมตอนหน้าฝนที่น้ำโขงล้นตลิ่ง อีกทั้งการใช้นักโทษประหาร8คนงม ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีคนหลายสิบคนช่วยฉุดขึ้นเรือที่ลอยอยู่บนน้ำ และการเป็นเจ้าเมืองในสมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของพระยาอุดรธานีศรีโขมสาครเขตต์ การสั่งให้ปกปิดหรือห้ามชาวบ้านแพร่งพรายเรื่องการงมพระสุกมาไว้เป็นสมบัติส่วนตัวซึ่งต่อมาท่านได้มอบไว้ที่วัดศรีธรรมรามที่ยโสธรบ้านเกิดท่านนั้น เป็นไปได้อยู่แล้ว ส่วนพระเสริมนั้นปัจจุบันประดิษฐานที่วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร ข้างสยามพารากอน วัดนี้มีเจ้าอาวาสคือพระธรรมธัชมุนี เป็นคนอ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร แปลกและบังเอิญไหมครับ พระสุกอยู่ยโสธร พระเสริมอยู่วัดปทุมวนารามที่มีเจ้าอาวาสเป็นคนยโสธรเป็นผู้ดูแล แถมเจ้าอาวาสองค์หนึ่งในสมัยก่อนของวัดปทุมวนารามในอดีตก็เคยมีที่เป็นคนยโสธรเช่นกันคือพระราชมุนี หรือเจ้าคุณโฮม โสภโณ ลูกศิษย์หลวงปู่มั่น เป็นคน อ.มหาชนะชัยเช่นเดียวกับเจ้าอาวาสวัดปทุมท่านปัจจุบัน ด้วยความเป็นคนยโสธรส่วนตัวผมเชื่อว่าเป็นพระสุกองค์จริงครับ

หลวงตาพวงสุดยอดเเห่งเกจิยโสธร ขนาดหลวงพ่อคูณยังนับถือท่านเลย

ความรู้คะ ขอบคุณมากคะที่ถ่ายทอดเรื่องราว

ตั้งแต่ผมเกิด นี้ พระสุก ยังไม่มีใคร เอาขึ้นมาได้ จากลำน้ำโขง ตรงเวินพระสุก ที่โพนพิสัย หนองคาย องค์ที่ อยู่ ยโสธร น่าจะเป็น องค์จำลองครับ

🌹พานำชีวิตถูกทางดี ก็ นำสูขสู่ครอบครัว🌹

กราบสาธุครับ

อนุโมทนาบุญครับ สาธุสาธุสาธุ

"อนุโมทนาบุญ" กราบ สาธุ สาธุ สาธุ เจ้าค่ะ 😊😊😊😊

ลูกศิษวัดศรีธรรมมาราม จ.ยโสธร สาธุคับ

พระพุทธทะรูบสักสิดแห่งปะเทดไทส่วนหลายแม่นของลาว พะแก้วมอละกด พะสุก พะไส พะเสีม ของสปปลาวทั้งน้น

ผมคนยโสธร. เห็นแล้วงามคักคับพระองค์นี้

เผ่าพันธุ์รึลาวกลายพันธุ์กะต้องเข้าใจเผ่าพีนธ์ตัวเองประเพณีนี้อันดีงามของเฮากะต้องช้อยกันสืบสานเอาไว้ให้ดั.​การศึกษาสามารถเรียนทันกันได้... สูงสุดกะด.ร.ท้อนั้น.. ผมย้อเคยลืมเชื้อชาตเผ่าพันธุ์ประเพณีอันดีงามของเฮากะสิช้อยเว้าให้ลูกให้หบานทราบต่อไป.. แต่บางอย่างกะเว้าบ้อได้.. คงสิฮู้.. คืออิหยั้ง... บ้านเฮาไปไสกะเอิ้นกันกินข้าวเลยจากโครชไปทันบ้อเอิ้นเฮากินดอก.. นี้แหบะคือประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของเฮาละ...

สาธุสาธุสาธุครับ

กราบสาธุ สาธุ สาธุพระสุกครับ

ມັນປູ້ນມາແລ້ວມັນວ່າອັນເຊີນມັນຕໍແຫລ ຈາກນັ້ນມັນກໍວ່າພະຍະໂສທອນມີແຕ່ຕໍແຫລ ການທີ່ມີອິດທິລິດສັກສິດບໍ່ຍອມໄປ ການທີ່ຢູ່ຫນອງຄາຍກໍ່ຄົນລາວອິສານໃດ້ກາບໃຫວ້ ສວ່ນພະເສີມກໍມີຄົນລາວທີ່ໄທກວດຕ້ອນຢູ່ກຸງເທບໄດ້ກາບໃຫວ້

ใครทำสิ่งได้ไว้ ก็จะได้รับสิ่งนั้น บาปกำมีจริง สาธุ

ไหนบอกว่าจมอยู่ที่แม่น้ำโขงตรงเวินสุก แล้วมาโผล่ที่ยะโสธรได้เช่นไรเหตุไดจึงไม่กล่าวถึงท่านมาประทับในยะโสธรได้เช่นไรทำไมกล่าวถึงท่านมาได้เช่นไร หรือเป็นองค์ที่สร้าวขึ้นใหม่มาทดแทน ขาดรายละเอียด น่าจะรู้ที่มาของท่านมากกว่านี้

พระสุขจมในแม่นํ้าโขงเด้อหนองคาย

คนยโสธรค่ะ... เชื่อค่ะ...ด้วยสัญชาติญาณ...ใครจะว่าอย่างไรก็ไม่สามารถบิดเบือนความจริงได้ ความจริงอยู่ในจารึกและอยู่ในใจไม่ต้องอธิบายให้ใครเขาเชื่อหรือรับรู้ความจริงใดๆเหมือนที่บรรพบุรุตท่านทรงกระทำมาไม่อยากเปิดเผยใดๆให้เป็นความลับเพราะท่านคงรู้ดีว่าเรื่องเปิดเผยก็จะเกิดการวิภาควิจารย์ต่างๆนาๆ... คมเม้นใช้คำที่ทำให้อ่านแล้วรู้สึกน้อยใจมากๆ ขอให้เรื่องนี้เป็นความลับต่อไปลูกหลานคนยโสธรอย่างเราเชื่อในสิ่งที่มีที่จารึกในประวัติถ้าหากจะมีการมาทวงคืนพระสุกไปจากยโสธรเราก็ขอให้ทุกคนคิดซะว่าเป็นเรื่องไม่จริงเป็นองค์จำลองจะได้สบายใจเพราะเราไม่อยากให้ใครมาลบหลู่หรือขัดแย้งกันเพราะเรื่องขององค์พระสุกท่านและไม่อยากให้ใครเอาท่านไปใหนขอให้คิดซะว่าเป็นแค่เรื่องเล่าเป็นองค์จำลองค่ะ

คนพูดนี้ก็เอาความดีจิงๆๆถ้าพูดตรงๆคืเอาดีใส่ประเทศตัวเองครับเท่าที่สึกสามาในประหวัดว่าแต่ก่อนที่ไทยจะเอาพระทั้ง3องมาคืลาวถูกรุกรานและไทยก็บอกว่าเดียวสตรูจะเอาพระรูปปั้นไปแล้วถ้าเสร็จสงครามจะเอามาคืนก็เลยเอามาทีละองพอถึงองที่3เรือก็เลยร่มพระสุกก็จมน้ำไปแล้วพอได้เพียง2องมาพอเสร็จสงครามอยู่ลาวที่ว่าจะเอาพระมาส่งเถิงตอนนั้นไทยเอาไปแล้วไม่เอามาส่งครับ

ผมก็เป็นลูกศิษย์คนหนึ่งของหลวงตาพวงครับท่านเป็นพระเกจิที่ใจดีมีเมตราธรรมบารมีญานสูงมากครับไม่แปลกใจเลยทำไมหลวงพ่อพระสุกถึงยอมขึ้นจากลำน้ำโขงมาที่วัดศรีธรรมมารามได้เพราะบารมีหลววตาพวงเกจิอริยะสงค์ผู้ใฝ่ในธรรมโดยแท้ครับ มีเรื่องเหล่ากันว่าท่านเดินข้ามลำน้ำชีไปบิธบาตได้เลยครับ

คนทำคลิปไปศึกษาประวัติมาให้ดีๆนะคับ เพราะคลิปประวัติที่ทำมาเป็นของจังหวัดหนองคายนะ พระสุก พระเสริม พระใส เป็นพระที่ศักสิทธิ์มาก

เริสเนาะ สร้างสตอรี่ได้ดีมากๆ

ขึ้นตอนไหนด้วยวิธีไหน ในขณะนั้นต้องถือเป็นความลับเพราะเหตุการณ์ยังไม่สงบ และถือเป็นความลับระหว่างเจ้าเมืองอุดรกับยโสธร คนยโสธรรุ่นเก่าๆจะรู้กันและกล่าวขานกันมานานมากแล้ว ถ้าประกาศให้เป็นข่าวก็จะมีปัญหาการขอคืนในสมัยนั้น

เกิดมาเห็นหลวงพ่อพระใสแล้ว

ขอบคุณมากมายครับผม

คนที่จะนำขึ้นมาได้ต้องเป็นลูกหลายเชื้อสายพระราชวงศ์เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์อัญเชิญได้ เช่น คราวที่อัญเชิญพระเสริมมากรุงเทพ แต่องค์จริงยังอยู่ใต้น้ำคะ

ขอบคุณที่มาเล่าไห้ฟังคัะ

สาธุสาธุสาธุ

พระสุก จมน้ำเพราะท่านไม่อยากไป...เพราะเราไป...อธินนาทาน...ของเขามา

อยู่ในแม่น้ำงืมประเทศลาวไม่ใช่หรือ แม่น้ำงืม เป็นสายน้ำที่ไหลลงสู่น้ำโขง น้ำในบริเวณจะไหลเชี่ยวมาก และบริเวณที่องค์จมลง ชาวบ้านจะเรียกว่า เวินพระสุก และยังมี เวินแท่นพระสุก คือฐานรององค์พระ ที่จมลงไม่ห่างกันมากนัก ชาวลาวทุกๆปีจะมีการป่วงสร่วง เวินพระสุก และ เวินแท่นพระสุก บริเวณที่องค์พระจมลงในน้ำงืม ห่างจากน้ำโขงมา50-60-กิโลประมารนี้ ไม่แน่ใจ ก่อนน้ำงืมจะไหลลงสู้น้ำโขง ผมก็ยัง งงๆ ว่าองค์พระสุก จะมาตกอยู่ที่ยโสธรได้ยังไง อีกอย่างนะ องค์พระไม่ได้จมในแม่น้ำโขงอย่างที่คนไทยเข้าใจ ผมก็เคยไปเห็น ไปทำบุญไหว้ที่ลาวมาบ่อยๆคับ

สร้างที่เวียงจันทน์ ทำมาโผล่ที่ ยโสธร น่าจะอัญเชิญกลับคืนให้ทางเวียงจันทน์นะ

รู้ทุกเรื่องเเต่บ่อยากเว้าเรื่องจิงบ่อจิงอยุ่ในใจนิระขอระอย่าหาตั๋วคนส่ะมันบาปหนาเด้อ(สวยรูอันเชิญพุ้นติคูบา)อย่าให้คนอื่นเว่าว่าจนเถาะ)หยุดสร้างเรื่องเถอะ)คิด+เสมอ

รู้แต่ว่าพระสามพี่น้องพระสุก.พระเสรีม.พระใส.เป็นลูกสาวของพระเจ้าไชยเสษฎา (กะษัทลาว)เชีณได้แต่สองพระองค์พระเสรีม.พระใส.ส่วมพระสุกแม่นจรมลงน้ำโขงจนทุกวันนี้ยังหาไม่เจอ. คำว่าเจ้าไชยเสษฎากะบดอะนี้ไม่ใช้ความจริง เกีดสงครามก็เพราะสยาม(ไทย)ไปรุกรานแผ่นดินลาว เมื่อก่อนแผ่นดินลาวนับแต่โคราชพากอีสานทุกพากแม่นของลาวหมด ประชาชนที่อยู่ก็คนลาวแต่ดั้งเดีม แต่สยามปกครอง เมื่อก่อนสยามแรกคนอีสานว่าลาว ปกครองคนอีสานใช้แทนคำว่าลาวปกครองด้วยสยามอันนี้เป็นเรื้องจริง จนถึงทุกวันนี้คนอีสานส่วนใหญ่จะชอบดูถูกคนลาว ลาว/อีสานก็เป็นพี่น้องกัน ส่วนใหญ่คนลาวไม่เคยนับญาติกับไทยเลยที่นับญาติก็เฉพาะแต่คนอีสาน (แต่คนไทยพากกลางใช้คำว่าลาวเป็นน้องแต่ลาวไม่เคยนับญาติเลย) ที่ลาวนับญาติเฉพาะแต่พากอีสานทุกพาก

ผมเป็นคนหนองคาย ในประวัติศาสตร์เล่ามาว่ายังไม่เคยมีใครงมหลวงพ่อพระสุกขึ้นมาได้นะ

สาธุ สาธุ สาธุ

สาธุสาธุสาธุสาธุสาธุ

เอาของมาพูดให้ว่าอัญเชิญ​ผมเสียใจ​แทนคนลาว

ผมคนยโสครับ ถ้าจะว่ากันจริงๆผมเชื่อว่ายังจมอยู่ใต้บาดาลตรงบริเวณที่จมมันลึกกว่าอีก2องค์ ส่วนที่อยู่ในยโสนั่นน่าจะเป็นของจำลอง

ນອ້ມກຮາບສາທຸ ສາທຸ ສາທຸ

ประวัติเป็นเรื่องละเอียดอ่อนคนอย่างเราไม่รู้หรอกครับเพราะเราเป็นแค่สามัญคนธรรมดา เพราะตอนนี้บางคนยังคิดในสมัยเรียนที่ครูบาอาจารย์ท่านเล่า ทางผมนำคลิปมาเปิดเผยนี้เพื่อให้คนได้ศึกษาหาความรู้ต่อไป

สาธุๆๆครับ

ปลอมละชิ พระสุกจริงใหญ่ และ สวยกว่า น้องทังสององ ดูรูปที่ว่านี้ยังไม่สู้พระใสเลย ทำไมคนไทยรู้ทั้งรู้ว่าเอาของเขามา ทำไมไม่ส่งคืนน้อ คนที่สั่งให้เอามา ก็ได้รับกรรมไปตามๆกันจนถึงลูกหลานไม่สิ้นสุด อย่างที่เห็น

ไม่ว่างองค์ไหนจะจริงหรือไม่จริง ผมว่าพระสุกที่ยโสธรคนละองค์ กับพระสุกในตำนานพระสามพี่น้อง เพราะพุทธลักษณะ พุทธศิลป์ ขนาดองค์พระ เนื้อพระ คนละอย่างกับพระใสพระเสริม และพระสุกที่ยโสธรองค์เล็ก ทั้งที่ในตำนานต้ององค์ใหญ่สุด

ยโสธรกับเมืองแถบลุ่มน้ำโขงเกี่ยวพันธุกันแน่นอน ความเชื่อเรื่องพญานาค ตำนานพญาแถน จังหวัดยโสธรมีประเพณีบุญบั้งไฟสืบกันมาช้านาน เพื่อบนบาลขอฝนจากพญาแถน ชาวยโสธรและพื้นที่ต่อเขต อาจเป็นสายเดียวกันกับชาวหนองคาย หรือไม่ก้ชาวล้านช้าง #ภาษาพูดวิถีชีวิต ความเชื่อ บ่งบอกได้ชัดเจน ตำนานอาจมีเรื่องราวมากกว่าที่เล่าต่อกันมาจากฝ่ายเดียว บางครั้ง1เรื่องราว แต่มีคนรู้หลายคน และรู้ไม่เท่ากัน และรู้เรื่องที่เกิดขึ้นไม่หมด จึงเล่าต่อกันมาตามที่รุ้มา.

พระสุกองค์จิงยุ่ใต้น้ำนุ่น นี่องค์จำลอง คุนพูดถูกละให้ข้อมูลถูกแล้ว

ทำไมไม่เล่าตอนอันเชิญด้วย ว่าเอาขึ้นมาอยุ่ที่ยโสธรได้ยังไง. ใช้วิธีไหนเอาขึ้นมาได้ เพราะผมคนจังหวัดอื่นแต่อยากรู้เรื่องราวของพระสุก นี่ผมต้องมาอ่านคอมเม้นเอาถึงได้เข้าใจ ไม่งั้นคงอยากรุ้ไปอีกนาน. ควรเล่าให้เข้าใจกว่านี้ ไม่ใช่อยุ่ๆมาบอกแค่ว่าหลวงตาพวงเปนคนดูแล

สาธุๆๆดูไปน้ำตาก็ไหล่ไป😭

สาธุ

สาธุการครับ

แหกตา..ผมเป็นคนแทวบ้านหนองกุ้งแท้ ไม่เคยมีใครพ็ดถึงเลยวามีคนไปงมขึ้นมา ที่เอานักโทษ8คนไปงมขึ้นมา แหกตาชัดๆ😂😂😂

สาธุๆๆค่ะมีเกิดแต่เหตุ

องค์จริงอยู่วัดศรีธรรม จ.ยโสธร ครับ พระคู่บารมี หลวงตาพวง พระเกจิ แห่งลุ่มน้ำชี

จะบอกให้มีแต่คน ว่า ๆ กัน ทั้งนั้น คนที่เอามาให้เป็นเจ้าเมืองแต่ลูกศิษย์หลวงพ่อ พระสุกไม่ได้จมตั้งแต่แรก มีการเก็บรักษาไว้อย่างดี แต่ต้องให้พระสุกได้เปิดเผยเลยทำให้ต้องผิดใจผิดจิตก็ชั่งมัน เรื่องความคิดห้ามไม่ได้ ไปดูศิลป ว่าเหมือนกันไมก็น่าจะเอาได้ว่าหน้าตารูปทรง สามองค์นี้คลายกันไปก็พอ หลวงพ่อเป็นพระที่ดีกรุณาอย่าว่าท่าน แม้แต่หลวงพ่อคุณ ปริสุทโธ ยังยกย่องท่าน อย่าปรามาทท่าน ท่านบิณฑบาตร ทุกวันแม้ท่านยังชรา ท่านบอกว่าถ้าไม่บิณฑบาตร คนที่มารอกินจะได้กินอะไร คนพูดก็พูดไป กรรมใครกรรมมัน มันเก่งตอนนี้ตอนตายจะดูว่าจะเก่งได้เท่าไหร่ เค้าถึงบอกดวงยังไม่ตกปากเก่งไปเถอะคับ ความเจริญอยู่ที่ท่านเอง ความซวยก็อยู่ที่ท่านเอง ปราถนา สิ่งไหนก็เอา

ไม่ว่าจะจริงหรือไม่จริง เราก็อ้างอิงจากประวัติศาตร์ ถ้าหากว่า ถ้างมขึ้นมาได้ ทำไมถึงไม่บอกกล่าวให้คนพื้นที่ภาคอีสานรับรู้ โดยเฉพาะ คนหนองคาย เพราะบางท่านนับแต่โบราณกาลมาแบบรุ่นต่อรุ่น ท่านก็ยังบอกไว้เสมอว่า พระสุก ท่านยังจมอยู่ใต้แม่น้ำโขงไม่มีใคร เอาขึ้นมาได้เนื่องจาก แม่น้ำโขงมันไหลเชี่ยว และการดำน้ำค้นหา ถ้าสมัยร้อยปีที่แล้ว ลงไปงมได้อย่างไร ถ้าว่าพระสุกได้ถูกงมขี้นมา งั้นตำนานและคำบอกเล่าก็คงต้องมาแก้กันใหม่ ให้คนหนองคายได้เข้าใจว่า พระท่านได้ถูกงมขึ้นมา การได้มีพระ3พี่น้องมาอยู่ประจำที่ไทยก็ถือว่าดีครับ แต่เรื่องบางเรื่องจะปกปิดไว้เพื่ออะไร หรือเกรงว่า จะเกิดความขัดแย้งกันเรื่องตำนาน ว่าใครผิดใครถูก

ทำไมผมได้ยินแต่ละที่ไม่เหมือนกันเลยประวัติเนี่ย พระสุกพระเสริมพระใสหล่อด้วยทองไม่ใช่หรอครับ พระศพจมน้ำพระใสอยู่หนองคาย องค์จริงอยู่ในโบสถ์ ส่วน พระเสริม มาอยู่กรุงเทพ ไม่รู้วัดไหน

ฝันว่าได้กราบที่ตักพระพุทธรูปองค์สีเหลืองทอง ลักษณะเหมือนพระทางลาว ในฝันมีคนบอกว่าท่านมีชื่อว่าพระสุกใส

วัดศรีธรรมาราม พระอารามหลวง เดิมชื่อ วัดท่าชี, วัดนอก, วัดท่าแขก สร้างครั้งแรก ราว พ.ศ. 2395 ในสมัยรัชกาลที่ 4 จากนั้นได้มีการเปลี่ยนชื่อวัดอีกหลายครั้ง คือ วัดศรีธรรมหายโศก เมื่อ พระสุนทรราชวงศา (เหม็น) ได้บูรณะวัด พ.ศ. 2416 วัดอโศการาม คราที่สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้เสด็จมาที่วัด วัดสร่างโศกเกษมสันต์ (สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส โปรดประทานเปลี่ยนชื่อให้) วัดศรีธรรมาราม คราบูรณะวัด พร้อมตั้งโรงเรียนศรีธรรมวิทยา พ.ศ.2500 ครั้งพระครูพิศาลศีลคุณ (บุญสิงห์ สีหนาโท) เป็นเจ้าอาวาส มูลเหตุของการสร้างวัดศรีธรรมาราม มาจากการสิ้นชีวิตของครอบครัว เจ้าอุปฮาดบุตร และเจ้าคำม่วน ซึ่งเป็นญาติของพระสุนทรราชวงศา (เจ้าฝ่ายบุตร) เจ้าเมื่องยโสธรลำดับที่ 3 จาการถูกประหารในคุกเพลิง ด้วยความอาลัย รันทด สยดสยองในวิบากกรรมของท่านทั้งหลายนั้น ท่านเจ้าเมืองจึงได้สร้างวัดนี้ไว้เพื่อเป็นที่ระลึกถึง และได้สร้างพระอุโบสถครอบสถานที่ที่ทำการประหาร และชื่อวัด จึงบอกถึงความหมายและความเป็นมาของวัดแห่งนี้ paragraphparagraph__110_129นอกจากความเป็นมาของวัดที่น่าสนใจแล้ว วัดศรีธรรมาราม ยังเป็นวัดที่เกจิอาจารย์ชื่อดังของภาคอิสานเคยจำพรรษาอยู่ นั่นก็คือ หลวงตาพวง ซึ่งท่านได้มรณะภาพไปหลายปีแล้ว หลวงตา เป็นบุตรของนายเยม และนางบับพา ลุล่วง เกิดเมือวันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2570 ตรงกับวันขึ้น 6 ค่ำ เดือน 6 ปีเถาะ ที่บ้านศรีฐาน ตำบลศรีฐาน อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร (ในปัจจุบัน) มีพี่น้องทั้งหมด 6 คน หลวงตาเป็นบุตรคนที่ 4 และมีน้องชายลำดับถัดจากหลวงตาคือ หลวงปู่สรวง สิริปุญฺโญ เมื่อสำเร็จชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลวงตาได้มีโอกาสติดตามรับใช้หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล คราวที่ท่านธุดงค์ไปแถบเมืองจำปาศักดิ์ หลี่ผี สี่พันดอน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หลวงตาได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดภูเขาแก้ว อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี เดือนมีนาคม พ.ศ.2484 เคยร่วมจำพรรษากับ พระอาจารย์สิงห์ ขนฺตยาคโม ที่วัดป่าแสนสำราญ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี และได้อุปสมบท ณ พระอุโบสถกลางน้ำ ที่บ้านหนองโคก ตำบลข้างมิ่ง อำเภอพรรณนานิคม จังหวัดสกลนคร ปี พ.ศ. 2491 มีพระเดชพระคุณพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พรรษาที่ 2 ปี พ.ศ. 2492 ได้ร่วมจำพรรษากับหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ที่วัดป่าหนองเผือ ตำบบลนาใน อำเภอพรรณนานิคม จังหวัดสกลนคร หลังจากหลวงปู่มั่นมรณภาพ ปี พ.ศ. 2493 ได้จำพรรษาร่วมกับ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ที่วัดป่าภูธรพิทักษ์ บ้านธาตุนาเวง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร พรรษาที่ 6 ปี พ.ศ. 2496 ได้ร่วมกับหลวงปู่ฝั้นบุกเบิกถ้ำขาม ซึ่งหลวงตาเป็นเรี่ยวแรงที่สำคัญ พรรษาที่ 9 ปี พ.ศ. 2499 กลับบ้านเกิด บ้านศรีฐาน เพราะโยมบิดาเสียชีวิต พรรษาที่ 11 ปี พ.ศ. 2501 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีฐานใน พรรษาที่ 21 ปี พ.ศ. 2511 เป็นเจ้าอาวาสวัดศรีธรรมาราม พรรษาที่ 61 ปี พ.ศ. 2552 ถึงแก่มรณภาพ ตั้งแต่ยังเด็ก หลวงตาได้รับใช้ใกล้ชิดพระคณาจารย์องค์สำคัญๆ ทำให้ท่านได้ซาบซึ้งในหลักการปฏิบัติ การได้ครู-อาจารย์ที่ดี พร้อมทั้งการฝึกฝน ใฝ่รู้ด้วยตนเอง นำเอาคุณธรรมที่ได้ มาประพฤติปฏิบัติ ทำให้ผลที่เกิดขึ้นคือ คุณประโยชน์ สิ่งที่ดีงาม แก่สังคม unspecified x2 x15 x16 x17 x18 ด้วยความระลึกถึง ศิษยานุศิษย์จึงได้ร่วมกันสร้างพิพิธภัณฑ์พระเทพสังวรญาณขึ้น เพื่อเป็นอนุสรณ์สถาน ซึ่งภายในเป็นที่เก็บอัฐิและรูปเหมือนของหลวงตาพวง และที่สำคัญ ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เป็นที่ประดิษฐานพระสุก (หรือที่ชาวยโสธรเรียกกันว่าพระมงคลรุ่งโรจน์) ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่ในตำนานเล่ากันว่าจมหาย ณ เวินพระสุก ที่แม่น้ำโขง และยังไม่สามารถนำขึ้นมาได้ หลายคนมีความเชื่อว่าที่ยังไม่สามารถนำขึ้นมาได้ เพราะพระสุกเป็นพระที่เหล่าพญานาคอัญเชิญไปสักการะ ณ ภพนาค IMG_20150404_102129 ตำนานของพระสุก เกี่ยวข้องกับพระพุทธรูป 3 องค์ คือ พระสุก พระเสริม พระใส ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นราว พ.ศ.2091 - พ.ศ.2114 พร้อมกับพระองค์เจ้าตื๊อ สมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช แห่งอาณาจักรล้านช้าง (สปป.ลาว ในปัจจุบัน) พระสุก พระเสริม พระใส ได้ถูกอัญเชิญมาไว้ที่ฝั่งไทย สมัยรัชกาลที่ 3 คราวปราบกบฏเจ้าอนุวงศ์ ผู้อัญเชิญมา คือ เจ้าพระยาบดินทร์เดชา (สิงห์ สิงหเสนี) แต่ขณะที่อัญเชิญมานั้น มีเหตุให้พระสุกต้องจมลงในแม่น้ำโขง มีเพียงแค่ พระเสริม และพระใส ที่สามารถอัญเชิญข้ามแม่น้ำโขง มาประดิษฐานไว้ที่เมืองหนองคายได้สำเร็จ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้มีการอัญเชิญ พระเสริม และพระใส มาประดิษฐานที่กรุงเทพ โดยผู้ที่นำการอัญเชิญครั้งนั้น คือ พระสุนทรราชวงศา (เหม็น) เจ้าเมืองยโสธร ลำดับที่ 4 (ผู้บูรณะวัดศรีธรรมาราม ในปี พ.ศ. 2416) แต่การอัญเชิญครั้งนั้น นำไปได้เฉพาะพระเสริม ส่วนพระใสไม่สามารถอัญเชิญไปยังกรุงเทพมหานครได้ จึงได้ถูกอัญเชิญพระใสมาไว้ที่วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคายแทน หลังจากนั้นมีความพยายามที่จะนำพระสุกขึ้นมาจากน้ำโขงหลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จ เรื่องราวของพระสุกในตำนาน จึงจบลงที่พระสุกได้จมหายไป ณ ที่เวินพระสุก กลางแม่น้ำโขง ระหว่างที่จะอัญเชิญข้ามมายังฝั่งไทย ประวัติความเป็นมาแห่งพระสุก ณ วัดศรีธรรมารามนั้น ได้มีการรวบรวมข้อมูลจากเอกสารหลายแห่ง ร่วมทั้งจากการสอบถามพยานบุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่ มาจัดทำเป็นหนังสือ”เจดีย์พระสุก และ พิพิธภัณฑ์พระเทพสังวรญาณ” เพื่อเป็นที่ระลึกงานสมโภชเจดีย์พระสุกและพิพิธภัณฑ์พระเทพสังวรญาณ เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2559 ใจความบางส่วนจากหนังสือที่ระลึก คือ ตามประวัติและหลักฐานที่จารึกไว้ เล่าว่า ผู้ที่นำพระสุก มามอบไว้ให้ที่วัดศรีธรรมาราม คือ พระยาอุดรธานีศรีโขมสาครเขตต์ (จิตร จิตตยะโศธร) ซึ่งชีวิตในวัยเด็กของท่านมีความผูกพันกับวัดศรีธรรมาราม และเมืองยโสธรเป็นอย่างมาก ในช่วงที่ท่านดำรงตำแหน่งปลัดมณฑลอุดร ช่วงปี พ.ศ.2467 ท่านได้ใช้ให้นักโทษต้องโทษประหารจำนวน 8 คน ไปค้นหาพระสุกจากลำน้ำโขง หากทำสำเร็จก็จะได้รับการละเว้นโทษตาย ซึ่งปรากฏว่านักโทษงมหาพระสุกจนพบ และสามารถอัญเชิญขึ้นมาได้ แต่เรื่องราวนี้ไม่เป็นที่เปิดเผย จากบันทึกรายการทรัพย์สินในพระอุโบสถวัดศรีธรรมาราม คราวที่พระครูวิจิตตวิโสธนาจารย์ (ทองพูล โสภโณ) เจ้าอาวาสลำดับที่ 2 บูรณะพระอุโบสถ (ช่วงปี พ.ศ. 2467 - พ.ศ. 2473) รายการทรัพย์สินลำดับที่ 5 ได้มีการบันทึกไว้ว่า มีพระสมาธิพระนามว่า คำภีรพุทธเจ้า ฐานเป็นเรือนแก้ว หน้าตักกว้าง 27 นิ้วฟุต นับรวมตั้งฐานสูง 41 นิ้วฟุต สร้างแต่ยุคเวียงจันทน์ยังดำรงเอกราช เป็นพระขัดเงา พระยาอุดรธานีศรีโขมสาครเขตต์เป็นเจ้าของ ราคาประมาณ 800 บาท จากเอกสารนี้ ทำให้ทราบว่า พระยาอุดรธานีศรีโขมสาครเขตต์ ได้อัญเชิญพระพุทธรูปองค์สำคัญมาประดิษฐาน ณ พระอุโบสถวัดศรีธรรมาราม คราวบูรณะพระอุโบสถ พ.ศ. 2467 - พ.ศ. 2473 เพื่ออุทิศส่วนกุศลแต่ พระอาจารย์มี คัมภีโร บิดาของท่าน โดยใช้พระนามว่า คัมภีรพุทธเจ้า ซึ่งพ้องกับฉายาเดิมของบิดาท่าน x13 เรื่องราวเกี่ยวกับ พระสุก นี้อาจจะคลุมเครือ แต่องค์ที่ประดิษฐาน ณ เจดีย์พระสุกและพิพิธภัณฑ์พระเทพสังวรญาณ มีลักษณะเป็นจริงที่สุด คือ ลักษณะขององค์พระที่อ่อนช้อย งดงาม ตามแบบศิลปล้านช้าง เนื้อองค์พระมีความเก่าและความหนัก บริเวณฐานมีร่องรอยกัดกร่อนด้วยจมน้ำเป็นเวลานาน (ราว 100 ปี จาก พ.ศ. 2371 - 2467 โดยประมาณ) รอยคราบโคลนยังปรากฏให้เห็น ผู้ที่อัญเชิญมาคือ พระยาอุดรธานีฯ อดีตเจ้าเมืองอุดร ซึ่งเป็นข้าฯ พระบาทที่ใกล้ชิดของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ (พระบิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทย) และมีหลักฐานว่า สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงลงความเห็นเกี่ยวกับ พระสุก พระเสริม พระใส ว่าเป็นพระพุทธรูปล้านช้างที่งดงามยิ่งกว่าพระพุทธรูปองค์อื่นๆ และทรงสันนิษฐานว่า อาจเป็นพระพุทธรูปที่สร้างจากเมืองหนึ่งเมืองใด ทางตะวันออกของอาณาจักรล้านช้าง และต่อมาตกอย่ในเขตล้านช้าง หรืออาจสร้างขึ้นในเขตล้านช้างโดยฝีมือชาวลาวพุงขาวล้านช้าง ซึ่งเป็นไปได้ว่าพระองค์ทรงเคยเห็นพระพุทธรูปทั้ง 3 พระองค์นี้ ท่านพระยาอุดรธานีฯ ถือได้ว่าเป็นนักประวัติศาสตร์ เพราะได้ติดตามสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพมาตลอด ทำให้ทราบถึงความสำคัญของพระสุก และสามารถค้นพบ และได้อัญเชิญมาไว้ที่วัดศรีธรรมาราม เมืองยโสธร เพื่อเป็นอนุสรณ์แทนคุณแผ่นดินเกิดของท่าน และเมืองยโสธร มีประวัติศาสตร์เกี่ยวพันกับเมืองเวียงจันทน์ และเมืองจำปาศักดิ์มาช้านาน สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เคยเสด็จมาที่วัดศรีธรรมารามนี้ และให้เปลี่ยนชื่อวัดจากวัดศรีธรรมหายโศก เป็นวัดอโสการาม ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนชื่อเป็นวัดศรีธรรมารามในภายหลัง ท่านพระยาอุดรธานีฯ จะมาทำบุญที่วัดศรีธรรมารามนี้ทุกปี ท่านได้สร้างกุฏิไว้หลายหลัง พร้อมทั้งเมรุเผาศพ หลังจากที่ท่านได้ถึงแก่อนิจกรรม ในปี พ.ศ. 2516 ทุกวันนี้ลูกหลานของท่านยังคงถวายปัจจัย เป็นค่าภัตตาหารให้วัดศรีธรรมารามทุกเดือน ท่านพระยาอุดรธานีฯ อัญเชิญพระสุกมาที่วัดศรีธรรมาราม ราวปี พ.ศ. 2467 - พ.ศ. 2473 เมื่อมีการบูรณะพระอุโบสถ และเจ้าอาวาสในขณะนั้นคือ พระครูวิจิตตวิโสธนาจารย์ (ทองพูล โสภโณ) ซึ่งเคยเป็นลูกศิษย์และคนสนิทของบิดาท่าน คราวที่พระเทพสังวรญาณ (หลวงตาพวง) ยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้กล่าวกับลูกศิษย์ใกล้ชิดว่า พระพุทธรูปองค์นี้มีความสำคัญมากที่สุด คงจะเป็นเพราะพระยาอุดรธานีฯ ได้อาราธนาให้ท่านรักษาไว้ (หลวงตาพวง มาที่วัดศรีธรรมาราม ปี พ.ศ. 2511) ท่านกล่าวว่าเมื่อสิ้นท่านไปแล้วจึงให้นำมาเปิดเผย ท่านพระราชสุทธาจารย์ (รักษาการเจ้าอาวาดวัดศรีธรรมาราม องค์ปัจจุบัน พ.ศ.2559) เคยเล่าว่า หลวงตาพวงได้กล่าวย้ำๆ กับท่านว่า นี่แหละพระสุก นี่แหละพระสุก เมื่อครั้งที่หลวงตาพวงยังมีชีวิตอยู่ หลวงตามีความปรารถนาที่จะสร้างวิหารเพื่อเป็นที่ประดิษฐานแห่งองค์พระสุก แต่เนื่องจากราคาค่าก่อสร้างสูงเป็นสิบๆ ล้านบาท ท่านก็พิจารณาว่าคงเป็นไปได้ยาก เพราะการรับกิจนิมนต์แต่ละครั้งของหลวงตา ชาวบ้านได้ทำบุญด้วยความศรัทธาตามกำลังของชาวบ้าน จึงเกรงว่าจะก่อให้เกิดความยุ่งยากลำบากใจในภายหลัง หลวงตาจึงเก็บรักษา พระสุก ไว้เป็นอย่างดี คอนขยับเปลี่ยนที่ประดิษฐาน ใช้ชื่อพระคัมภีรพุทธเจ้า และพระพุทธมงคลรุ่งโรจน์ แทนชื่อพระสุก เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ เกรงว่าจะโดนขโมย ได้มีการทำเรื่องส่งให้พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอุบลราชธานี ทำการขึ้นทะเบียนไว้เป็นโบราณวัตถุของชาติ เมื่อ พ.ศ. 2548 ภายหลังจากที่หลวงตาพวงได้มรณะภาพ ด้วยดวงจิตที่มั่นคงตั้งมั่นในกตัญญูกตเวทิตาธรรมต่อหลวงตาพวง ทำให้คณะศิษย์ร่วมแรงร่วมใจและสามัคคีกัน สร้างเจดีย์พระสุกและพิพิธภัณฑ์พระเทพสังวรญาณ (หลวงตาพวง สุขินฺทริโย) ได้สำเร็จภายใน 3 ปี ใครมีปัจจัยก็ถวายปัจจัย ใครมีปูน มีทราย ก็ขนมาถวายวัด โดยผ่านคณะกรรมการที่ท่านประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ในสมัยนั้น เป็นผู้แต่งตั้งให้ดูแลการจัดการสร้างในครั้งนี้ 20150402_101202 20150402_110923 20150402_102153 xxxxxxx unspecified1 พระสุก ได้ประดิษฐานอยู่ที่วัดศรีธรรมาราม เกือบ 100 ปี แล้ว แต่น้อยคนนักที่จะรู้ จนกระทั่ง วันที่ 2 เมษายน 2558 จังหวัดยโสธรได้มีการทำพิธีสมโภชพระสุกอย่างยิ่งใหญ่ และได้อัญเชิญพระสุกมาประดิษฐานไว้ที่พิพิธภัณฑ์พระเทพสังวรญาณ และวันที่ 2 เมษายน 2559 ได้มีการมีการฉลองและเปิดเจดีย์ประดิษฐานหลวงพ่อพระสุกอย่างเป็นทางการ

พระสุกของเเท้อยู่ที่ เวินพระสุก ตำบลกุดบง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย

ອີ່ຕົນຄົນລາວເຮົາເດ ເອົາພຣະພຸດທະຮູບເຊື່ອງຢູ່ບ່ອນໃດບັກສະຫຍາມໂຈມໂຈນຂະໂມຍມັນກໍໄປນໍາເອົາຈົນໄດ້.....ສະຫຍາມປະເທດມັນບໍ່ມີປັນຍາສ້າງເອງ...ຫວັງວ່າອະນາຄົດຄົງຄືນລາວທັງໝົດ

ຂໍບອກຜູ້ທຳລາຍການຫລືຫລາຍຄົນເຂົ້າໃຈໃສ່ຮ້າຍວ່າເຈົ້າອະນຸວົງກະບົດ ขอบอกผู้ทำรายการหลืหลายคนเข้าใจใส่ร้ายว่าเจ้าอนุวงกบท ຢາກຖາມທຸກຄົນວ່າ: ຖ້າອານາຈັກລາວລ້ານຊ້າງໄປຕີອາຍຸດທະຍາສະຍາມແລະປົກຄອງສະຍາມແລ້ວເອົາກະສັດໄທໄປເປັນຕົວປະກັນພວກທ່ານທັງຫລາຍຈະຍອມກາບຕີນເປັນຂີ້ຂ້າບໍ່. อยากถามทุดคนว่า:ถ้าอานาจักลาวล้านช้างไปตีอยุธยาสยามแล้วเอาเชื้อกษัตย์ไทยไปเป็นตัวประกันพวกท่านทังหลายจะยอมกราบเป็นขี้ข้าใหม.หลืจะสู้. ໂປຣດເວົ້າໃຫ້ກຽດກະສັດລາວແດ່ທ່ານສູ້ເພາະທ່ານເປັນຄົນລາວທ່ານເປັນກະສັດ โปรดพูดให้เกืยดติกษัตย์ลาวด้วยท่านสู้เพราะท่านเป็นคนลาวท่านเป็นกษัตย์ ຕອນນີ້ຂ້າພະເຈົ້າ50ກວ່າປີແລ້ວເກີດມາປູເວລານັ້ນອາຍຸ68ປີແລ້ວທ່ານບອກວ່າທ່ານເປັນຄົນລາວຍະໂສທອນເວົ້າວ່າ: ตอนนี้ข้าพระเจ้า50กว่าปีแล้วเกีดมาปูเวลานี้นอายุ68ปีท่านบอกว่าท่านเป็นคนลาวยโสทร.พ่อของปู่ตอนยังหมุ่มทหารสยามได้เอาเหล็กที่มีคำว่าสายามดาดไฟร้อนฯแล้วแะทับใหล่คนลาว แดนล้านช้างสยามเขตดงพยาไฟโครลาดเดืยวนี้เปื่ยนเป็นพยาเย็นทางเหนือพระธาตศีสองรักกษัตย์ลาวสยามสร้างเป็นทีรนื่กชนะรบพระม้าทังเป็นเขตแดน ได้ยินได้ฟังมาหลายสิบปีแล้วที่พูดว่าเจ้าอนุวงกบทมาวันนี้มันกั้นไม่อยู่. ต่อไปถ้าใครจะพูดเรื่องล้านช้างกับสยามให้กรุนาไปดูเอกะสารที่หอสมุส Pari French มันมีครบมีทังแผนที่ล้านช้างสยามมีสัญญามีรูปภาพหลักฎาน ที่ถ่ายใว้ในสใหมก่อนนั้นไปดูก่อนแล้วมาว่ากัน.แล้วให้โปรดกรุนาไปอ่านคำสาบสาบาน5ข้อก่อนจะเอาพระแก้วไปสยามว่ามีใจความเนื้อหาอย่างไร. ต้องขอโทดที่เขืยนปะสมไทยเพราะชอบงอแงว่าอ่านลาวไม่ออกอีก.ถ้าเขืยนไม่ถูกขออไฟนำผู้ใจบุณแต่ผู้เรืองมากไม่จำเป็น. และผมขอถือโอกาศนี้ที่ยังมีคนไทยกรุงเทพคนลาวอีสานมีความเห็นเป็ง กราง.ถืงแม๋นว่าสายน้ำโขงจะเป็นเช็นไร การเวลาจะผ่านไปก่อเป็นน้ำโขงอยู่วันยังค่ำท่านเกีดใหม่คนลุ้นใหม่จะให้รัจฐบาลหลืสากลเปืยนชื่อใหม่ก่อไม่ได้มันก่อเป็นน้ำโขงอยู่อย่างนั้น.

สาธุค่ะ

ขอพูดนิดหนึ่งน่ะ. ไม่ได้อะไรพระพุทธรูปทั้งสามหล่อด้วยทองคำกับโลหะอื่น(นาก,เงิน,ทองแดง,และทองเหลือง)แต่หลักมีทองคำมากกว่าครึ่ง. ล้างช้างหล่อพระจะหล่อแบบนี้

พระสุข คนละสุข บ่แม่นองจมน้ำ

ถ้าเจ้าอานุวงเป็นกะบด คนลาวคงไม่ส้างรุปปั้นท่านมาบูชาหรอก

พระศุกร์เสริมสดใสโสธร โสภณบุคลใดใหว้บูชาโดยการ คารวะการ ปฏิบัติทำดำเนินอุทิศกมลใจในฤทัยใส่หทัยชนชั้นสามัญฑ์ ราษฎร กลอนสุภาพ อุปกรณ์ อุปสรรคสร้างบ้านแปรเมือง เรืองรอง สนองคุณ คณาจารย์ สุปรัชญา อุปัฏฐาก อุปัชฌาย์ พระพรหมพระเทพฯ พระคุณเจ้า พระสังฆราช สังฆปรินายกฯ พระสมเด็จ' โฆษจารย์ สังฆ์ ทรานสเรศ ทรานสเฟอร์ ทรานสวิชชาญาฑ์ วิทยาศาสตร์ ชาติกษัตริย์ รู้รักษ์ มรรค คีย์บอร์ดภาษาฤทัยแลนด์

สาธุ.สาธุ.สาธุ

ชอบเสียงพี่มากสะสางดี และภาพสวยมากครับ

สาทุๆๆจ้าวค่ะ🙏🙏🙏

สิ่งศักสิทธิ์จะเอาคำตอบกับใครให้ไปศึกษาค้นหาเอาเองสงใสก็ดีแล้ว เป็นปัจตัง

คือผมงงครับ หลวงพ่อพระสุกจมน้ำมาหลายปีแล้วแต่ทำไหมไปโผล่ที่ยโสธรครับ ผมคนหนองคายแท้ๆยังไม่ทราบเลยว่ามีการพบหลวงพ่อพระสุกที่จมน้ำมานานหลายปี ใครรู้ช่วยอธิบายที

มากรายไว้เด้อพีน้องชาวลาวเฮ้า... บ้อไกลดอก... ติดกับเมืองสาเกตุ.. 101บ้อไกล30กว่ๅหลักท้อนั้น..

ສາທຸ.ສາທຸ.ສາທຸ

ເສຍດາຍບໍ່ໄດ້ຢູ່ນຳລູກຫລານເນາະ

ອັນເຊີນໄປແລ້ວຢຶດເອົາເລີຍເນາະ.ມາປຸ້ນເອົາວ່າແນ່ອັນນິແລະເຂົາວ່າບິດເບືອນປະຫວັດສາດ

หลวงตาพวง🙏🏻