ปอโดนเหยียดเชื้อชาติที่ออสเตรเลีย พึ่งเจอมาสดๆ 

น้องปอ ยอมคนง่ายไปค่ะ เป็นเอเชียต้องรู้จักสู้บ้าง ไม่ใช่การใช้กำลังแต่ต้องแสดงออกให้เห็นว่าเราไม่โอเค คนพวกนั้นทำไม่ถูกต้อง ส่วนตัวเห็นด้วยกับเพื่อนคุณนิคนะคะ

เคยโดนที่อิตาลีค่ะ ไล่เราไปนั้งที่อื่นทั้งที่เรามานั้งอยู่ก่อน เราตะคอกกับเลยค่ะ มันเดินนี้แถบไม่ทัน คนเยอะนางคงอาย ตอนนั้นสะใจชิปหาย

ส่งแฟนเรียนมวยไทยด่วนเลยค่ะ เพราะแฟนเราเทรนนิ่งมวยไทย เจอชาวอังกฤษอยู่ๆก็มาหาเรื่องตอนที่เราเล่นกับหมาข้างถนน แล้วมันก็เอาไหล่มาชนกับแฟนเราทำท่าจะต่อยแฟนเรา แฟนเราเลยบอกว่า be careful i can knock you down in 2 minutes I’m muay thai boxing. มันรีบเดินหนีเลยค่ะ แฟนเราเป็นคนจีนหน้าตี๋ แต่เรียนต่อยมวยมา

เราควรตอบโต้พวกที่เหยียดคนอื่นด้วยท่าทีที่ฉลาดกว่าค่ะแสดงท่าทีกลับ ว่าการกระทำการเหยียดของเขา เป็นการกระทำของคนโง่

นี่ก็เพิ่งโดน ที่เบลเยี่ยมเลย แบบเป็นคนมีอายุ แซงคิวจ่ายเงินเรา และยังตะคอกใส่เรา พอออกจากซุปเปอร์มาร์เก็ต เราเลยเดินออกไปถามเลย ว่ามีปัญหาอะไรกับฉันรึเปล่า? เพราะฉันผมดำใช่ไหม? คุณถึงพูดกับฉันไม่ดี เพราะกับแคชเชียร์ คุณพูดดีกับเขา ทั้งที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน พอถามตรงๆผชคนนั้นก็ไม่กล้าสบตา โชคดีที่เราไม่ใช่เอเชียตัวเล็ก เราสูง 171 cm เราเข้าไปถามแบบพร้อมบวกแน่ถ้าเริ่มก่อน 😂

มันต้องด่าคืนค่ะ ยิ่งยอม ยิ่งได้ใจ คิดว่าจะทำอะไรกับคนอื่นยังไงแบบนี้ก็ได้ สำหรับเรานะคะ

สวดมนต์ใส่มัน เอาให้อึ้งเเล้วกลัวคนเอเชีย บอกไปฉันสวดมนต์ดำใส่คุณ5555555555555555555555555555

สู้ได้สู้เลยค่ะ อย่าปล่อยไปมาก เพราะคนพวกนี้เขาฝังจิตใจไปแล้วว่าเกียจๆๆ โอกาศน้อยที่จะกลับใจคิดได้ เพราะฉะนั้นต้องสู้

บอกไปเลยค่ะ “คุณไม่ชอบเอเชีย ไม่ใช่ปัญหาของชั้น แต่เป็นปัญหาของคุณ” แล้วก็มองแรงๆพร้อมยิ้มมุมปาก แล้วเดินจากไป 😁

เข้าใจความรู้สึกแฟนปอมากๆ ไม่ได้พูดในกรณีถูกเหยียดเชื้อชาตินะคะ แต่เราเป็นคนนึงที่โดนคนรอบข้างทำร้ายความรู้สึกซ้ำๆมาตลอด จากที่เป็นคนที่ไม่ตอบโต้อะไรใคร มันทำให้เราเป็นคนแข็งกร้าวกับพวกที่มาทำเราก่อน นี่คือสิ่งที่ทำให้เรามีชีวิตอยู่ได้ค่ะ

สำหรับเราคงไม่อยู่เฉยๆหรือเงียบ เเต่คงไม่ไปลงไม้ลงมือด้วย😂เเต่ต้องสั่งสอนบ้าง อย่างที่เพื่อนเเฟนปอพูดค่ะ มันงั้นมันได้ใจ ส่วนตัวเรานะ😂

เข้าใจความรู้สึกของนิคมากๆเลยค่ะด้วยเขาเป็นผู้ชายด้วยแล้วจะใจร้อนกว่าผู้หญิงเรา เป็นพี่ก็คิดแบบน้องปอค่ะ เปลี่ยนความคิดของคนอื่นนั้นยากมากๆอย่างที่เราเห็นข่าวกันประจำหรือน้องปอสัมผัสเอง น้องปอคิดถูกมากๆ มันไม่คุ้มเลยที่จะเอาเราเข้าไปแลก พี่ยังนึกไม่ออกเลยว่าจะไปเปลี่ยนความคิดคนกลุ่มนี้ได้ยังไง อยู่ซิดนีย์เหมือนกันค่ะน้องปอ ติดตามตลอดนะคะ

เราไม่ได้เจ็บปวดกับการเป็นเอเชีย โชคดีด้วยซ้ำที่ไม่ได้เกิดมามีทัศนคติชั้นต่ำแบบเขา คนที่ควรจะเจ็บปวดควรเป็นเขามากกว่าที่สิ่งแวดล้อมรอบข้างไม่ได้ทำให้เขามีความคิดเหมือนมนุษย์ที่พัฒนาแล้ว น่าสงสาร

เราเป็นลูกครึ่งไทยเบลเยียม อยู่เบลเยียมก็ยังไม่เคยเจอเรื่องเหยียดเชื้อชาติสักครั้ง(อาจจะเพราะชื่อฝรั่งและหน้าไม่ค่อยได้ทางแม่😅) แต่แฟนเราและเพื่อนในกลุ่มก็เป็นคนเอเชีย90% ไม่เคยโดน ส่วนใหญ่คนยุโรปจะเหยียดพวกผิวสีดำ พวกแขกมากกว่าเอเชีย. แต่เคยคุยกับฝรั่งว่าทำไมไม่ชอบ เขาให้เหตผลว่า มันเป็นมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว เพราะคนต่างชาติมาแย่งงานเขา นี่คือหนึ่งเหตุผลหลักที่ทำให้เค้าเหยียด ส่วนเรื่องโควิดนี่เพิ่งมีกระแสแรง ถ้าเราโดนแล้วไม่โต้ตอบเขาจะคิดว่าเรากลัวแล้วทำแบบนี้ต่อเรื่อยๆ ทางที่ดีควรมีการโต้ตอบ แต่ไม่ให้เกิดความรุนแรงหรือทำร้ายร่างกาย

วงการนี้ จบยาก ยังไงก็มีอยู่ทุกวัน ยิ่งห้ามยิ่งรณรงค์ก็ยิ่งมี

ตะโกนในที่สาธารณะว่า เฮ้ คนพวกนี้เหยียดคนเอเชียนะ ให้มันอาย

พี่ปอใจดีมากค่ะ แต่ทางนี้ว่า เราไม่ควรยอมนะคะ ส่วนหนึ่งที่ทำให้มันไม่เข็ดก็เพราะมันรู้ว่าเราจะยอมนี่แหละค่ะ ใส่ให้สุดไปเลยค่ะ ถ้าเราไม่ทำให้ทุกคนตระหนักเรื่องนี้มากขึ้น ก็จะต้องมีเด็กเอเชียนอีกเยอะที่ต้องเจอกับประสบการณ์แย่ๆแบบที่แฟนพี่ปอเจอ สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

บางคอมเมนต์ บอกว่า เค้าเหมารวมว่าเราเป็นจีน ถึงโดนเหยียด. แต่ความจริงไม่ว่า ชาติไหนก็ไม่ควรโดนค่ะ. คนเหยียดคนอื่น ทำร้ายคนอื่น พวกนี้ ควรติดคุกค่ะ ‘ซังงงงงเด้

สำหรับเราน่าจะพูดเสียงดังว่า เราเอเชียไปทำอะไรให้คุณ เรามนุษย์เหมือนกัน คุณมาประเทศเรา เราให้เกติร์คุณเสมอ โปรดเข้าใจกัน ต่างคนต่างอยู่ไม่ยุ่งกัน พูดเพื่อให้คนรอบข้างได้ยิน และได้เห็นใจคนเอเชียบ้าง เราไม่ตอบโต้รุนแรง จริงที่ไปตำรวจก้ไม่เข้าข้างเรา เราคิดว่าถ้าเราได้พูดคนรอบข้างได้ยินบ้างก้จะดีกว่าไม่พุดเลย อิอิ

มีความรู้สึกเรื่องเหยียดเอเชียนี่เริ่มมาหนักมากๆช่วงโควิดรอบแรกที่หาว่าแพร่มาจากประเทศจีน พอเห็นคนเอเชียก็คือเหมาหมดก่อนหน้าที่เห็นคืออเมริกาหนักมากๆมีข่าวเรื่อยๆที่โดนเข้ามาทำร้ายโดยไม่ทราบสาเหตุถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็มีน่าสงสารมาก ผู้หญิงไทยก็มีที่อยู่ๆโดนผู้ชายเข้ามาชกละมันยิ่งสร้างความเกลียดชังกับคนเอเชียเหมือนเราเป็นตัวเชื้อโรคอะไรแบบนี้ น้องปอดูแลตัวเองด้วยนะคะ

การเหยียดยังไงก็ไม่มีทางจบค่ะ ไม่ว่าจะชาติไหน it's a fucked up part of the society we have to live with.

อย่าสนใจคนพวกนี้เลยค่ะ ส่วนตัวมองว่าคนพวกนี้จิตใจ ทัศนคติ ความรู้ คับแคบมาก การแสดงออกถือว่าเป็นการแสดงของคนโง่และยังไม่ได้รับการพัฒนา มองอีกมุมนึงคนพวกนี้แอบน่าสงสารนะคะ โตมายังไงไม่ปกติเหมือนคนอื่นเขาในโลกปัจจุบัน แทนที่จะใช้เวลาหาความสุขให้ตัวเอง แต่ยังอุตสาห์เสียเวลาหาเรื่องหงุดหงิดใส่ตัวเอง... อย่าเอาคำพูดคนน่าสงสารพวกนี้ให้เรารู้สึกแย่เลยค่ะ น่าเสียดายความรู้สึกเราเปล่าๆ ... รักรัก...

ยิ่งแฟนคุณปออาจจะตัวเล็กไม่สูงใหญ่มากด้วย พวกเหยียดมันยิ่งไม่กลัว // ถ้าสู้ได้ก็สู้ค่ะ

พ่อเรากลับจากเมกามาอยู่ไทยช่วงโควิด พอมีกระแสเรื่องAsian hateเกิดขึ้นไม่อยากให้พ่อกลับเมกาเลยค่ะ พ่อแก่แล้วด้วยกลัวโดนทำร้ายเหมือนในข่าว😕

- คำถามอะไรคือ สิ่งที่บ่งบอกอัตลักษณ์ของชาวเอเชียที่ชัดเจนที่สุด ที่เวลาคนผิวขาวเข้ามองกลับมายังเอเชีย 1. ตาชั้นเดียว 2. หน้าตี๋ หน้าหมวย หนังทุกเรื่อง สื่อทุกสื่อจะแคสตัวละครเอเชีย เค้าก็เน้นแต่หน้าตาแบบนี้มา ภาพจำมันก็เลยเป็นแบบนี้ มันก็เลยเหมารวมว่า ถ้าหน้าตาแบบนี้ คือ เอเชีย + กับโควิด 2019 ที่ต่างชาติเบรมว่ามาจากจีนด้วย เรื่องยิ่งไปกันหญ่ กลับกันน้องชายลูกพี่ลูกน้อง ไทยแท้ผิวแทนหน้าเหลี่ยมกรามชัด อยู่อเมริกาไม่เคยมีใครมาด่าเรื่องเอเชียเลย มีแต่ผู้หญิงผิวขาวอเมริกันอยากได้มัน แม้กระทั้งผู้ชายด้วยกันยังแอบมาเตาะมาชวนเที่ยว - ทำไมสิ่งที่เกิดขึ้นมันต่างกัน สรุปได้คราวๆ คือ 1.ภาพลักษณ์ที่พวกสื่อนำเสนอชาวเอเชียต่อชาวผิวขาว มันไม่หลากหลาย เลยเหมารวมว่าถ้าหน้าตี้ หน้าหมวย ตาชั้นเดียว คือ เอเชีย ทั้งๆที่ทวีปเอเชียมันไม่ได้มีแต่หน้าตี่หน้าหมวยตาชั้นเดียว 2. พวกผิวขาวที่เหยียดส่วนใหญ่ไม่เคยออกนอกประเทศ การศึกษาต่ำ อิจฉาที่คนเอเชียมีคุณภาพชีวิตดีกว่า สิ่งเดียวที่จะเอาไปเหยียดได้คือเรื่อง เชื้อชาติสีผิว - เพื่อนรุ่นเดียวกันเรียนต่อโทที่อังกฤษ ไทยแท้ แต่หน้าแป้นๆ ตาชั้นเดียว โดนเหยียดใส่แถวทางไปกลับมหาวิทยาลัย นางหัวเราะกลับใส่หน้าเลยจร้า แล้วทิ้งท้ายใส่ไปด้วยว่า you're literally uneducated.

ดีแล้วค่ะพี่ปอที่ไม่มีเรื่องกัน สงสารพี่นิคมากที่โดนแบบนี้มาตลอด เป็นห่วงพี่ปอกับพี่นิคมากนะคะช่วงนี้ข่าวแบบนี้เยอะมาก #ขอบคุณนะคะที่มาแชร์ประสบการณ์ ฟีลเหมือนพี่สาวมาเล่าให้ฟังตลอดเลย รักนะคะ❤️ #แต่ลุงนั่นสมควรโดนนะคะ5555

คือ สำหรับความคิดเรา คิดว่าคนที่มีอคติ ยังไงก็มีอคติค่ะ ทำไมคุณปอต้องไปเสียเวลา พิสูจน์ตัวเอง ในบางครั้งถ้ามันไม่สบอารมณ์ เราก็ลุกขึ้นปกป้องตัวเองบ้าง มันเป็นเหมือนการให้เกียรติ ตัวเองอย่างนึง แต่ไม่ได้หมายความว่า ทุกอย่างจะต้องใช้กำลังแก้ปัญหา แต่คุณต้องมีวิธีการรับมือ ที่ไม่ใช่แค่การหนี ไปวันๆ สุดท้ายแล้ว ความทรงจำแย่ๆ ก็มาตกที่คุณเหมือนตอนนี้ ไงคะ

ปสก.อยู่ตปท.มา6-7ปี 3ปีแรก ไม่ตอบโต้ จนโดนเอาเปรียบบ่อยๆ หลังจากนั้น เราเลือกstand for myselfค่ะ เราไม่ยอม เหยียดเรา เราด่ากลับ classmatesยังเอาเปรียบเลยค่ะ เขาบอกว่าพวกเราดูweak เพราะงั้นควรทำให้เขาเห็นไหมคะ อัดคลิปไว้ด้วย ถ้ามันเริ่มจะใช้กำลัง ก็ถามว่าจะเอาไหม ไปโรงพักเลยได้ มีคลิป พวกนี้มันพวกกวนตีนค่ะ อย่าไปหงอ ถ้าอยู่คนเดียว ด่าเสดวิ่งหนีเลยค่ะ แต่ส่วนใหญ่เราอยู่คนเดียวไม่เคยโดนค่ะ

การยอม ไม่มีเรื่องกลับไม่มีทางเปลี่ยนแปลงสันดานคนๆนึงแน่นอน ส่วนสวนกลับก็ไม่แน่ว่าจะเปลี่ยนสันดานคนๆหนึงได้เหมือนกัน แต่อาจทำให้คนๆนั้นไม่กล้าแสดงพฤติกรรมแบบนี้ต่อไปก็ได้ (แต่ในใจก็ยังเหยียดอยู่) จะตอบกลับหรืออยู่เฉยเราว่าแล้วแต่คนเลยค่ะ ถ้าตอบกลับแล้วเรื่องถึงตำรวจแล้วคิดว่ามันคุ้มค่า เราทำแล้วสบายใจก็ทำไป แต่ถ้าไม่อยากทำเพราะคิดว่าไม่คุ้ม สบายใจที่จะอยู่เฉยๆก็ไม่ผิด สุดท้ายนี้ก็เป็นกำลังใจให้คุณปอกับนิคนะคะ จริงๆแล้วคนที่ถูกกระทำไม่ควรจะต้องมานั่งกลุ้มใจเลยว่ากุต้องทำตัวยังไงดีวะ

เคยเจอที่นอกๆเมืองเมลเบิร์นค่ะ นี่สวนกลับเลย ขอโทษน่ะคือชั้นอ่ะนั่งเครื่องบินมา แต่ชั้นคิดว่าบรรพบุรุษเธอคงนั่งเรือมาพร้อมโซ่ตรวน แบบนักโทษ จบค่ะ เหยียดมาด่ากลับ

🇧🇻เราอยู่​นอร์เวย์​33ปี​ ยังไม่เคยโดน.. เราต้องปรัปตัว​.. . อย่าโกรธ​นะที่เขียนแบบนี้.. คนไทยส่วนมากไว้ผมยาว.. ก่อนหน้านี้เรา​ ไว้ผมยาว​มีฝรั่งเดินมาถาม​ เท่าไหร่.. ฝรั่ง​เห็นเราผมยาวเขาคิดว่าเราเป็นผู้หญิง​หาเงิน​เป็นหมอ​นวด​

มันก็เหมือนกับการโดนเพื่อนบูลลี่อ่ะ การยอมไปเรื่อยๆเราก็จะโดนไปตลอด คนอื่นที่พยายามจะช่วยเรา พยายามปกป้องเราเค้าก็หน่ายแล้วเลิกที่ช่วยเราค่ะ พอถึงจุดไม่ไหวแล้วเราจะไม่มีใครคอยช่วยอีกค่ะ ทางที่ดีตบกะโหลกไปเลยค่ะ เอาให้จำ ไม่รู้ว่าออสมีกฎหมายเรื่องปืนรึป่าวนะ แต่ที่เมกาเราซื้อปืนไฟฟ้าติดตัวไว้อ่ะ ติดรถไว้เลย พวกนี้มันหงอไปเลยค่ะเวลาเห็นปืน

ทีมด่ามาด่ากลับค่ะ ไม่ยอมเสียศักดิ์ศรีมากๆ

คนไทยด้วยกันเองยังเหยียดเลยค่ะ เลยเป็นคนนิสัยที่ไม่ยอมคนค่ะอันนี้เข้าใจ

คุณปอค้า ตอนนี้ที่ไทยกำลังมีกลุ่ม “ย้ายประเทศกันเถอะ” ซึ่งมีสมาชิกเกือบ 1 ล้านคนที่อยากไปอยู่ต่างประเทศ เลยอยากรบกวนคุณปอพูดถึงการใช้ชีวิตในประเทศออสเตรเลีย จุดเริ่มต้นที่มา วิธีการ ค่าแรง ภาษี สวัสดิการ เผื่อเป็นประโยชน์ให้กับคนที่อยากย้ายไปอยู่หรือทำงานที่ออสบ้างค่ะ โดยมีแนนคนนึงที่อยากฟังค่า แหะๆ🥰

ปอออ ทำคลิปเล่าความเป็นมาของความรักครั้งนี้หน่อยยย เจอกันที่ไหน จีบยังไง เราเห็นสายตานิกที่มองปอแล้วมันแบบบบบ นี่แหละความรักกอะ 5555 รอนะๆๆ

จบไม่ได้หรอกค่ะ ต่างคนต่างความคิด คนเกลียด จะทำอะไรเค้าก็เกลียด ไม่ว่าคุณจะทำดีเเค่ไหน

นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยนะ ไม่ยอมนะคะ ไม่ใช้กำลัง แต่ไม่อยู่นิ่งๆและปล่อยมันไปแน่นอน เห็นด้วยกับแฟนและเพื่อนแฟนค่ะ stand up for yourself อีกเรื่องคือ ความคิดที่ว่า เราเอเชียและสักทั้งตัว เรื่องถึงตำรวจแล้วเราจะแพ้ ความคิดนี้จะทำร้ายเราเองนะ เราผิดตรงไหนที่สักและเราผิดตรงไหนที่เกิดเป็นเอเชีย ตำรวจต้องเป็นกลาง ถ้าเราคิดล่วงหน้าว่าเราด้อยกว่าหรือเราจะแพ้ นั่นเราก็แพ้แล้วนะ และนั่นยิ่งตอกย้ำความเชื่อผิดๆ ว่าเราต้องยอม ไม่ยอมค่ะ

ตอนอยู่ซิดนีย์9ปีที่อยู่มาก็เคยโดนคนออสซี่ตบหัวฟาดลงไปกับพื้นแถวสถานีรถไฟWynyardถึงกับสลบไปเลยดีที่มีคนมาช่วยไว้ค่ะ แงมากอย่างเจ็บ😭อีกทีโดนคนอะบอริจินโยนขวดเบียร์ใส่ที่Central station เพราะอยากได้แลปท็อป นี่วิ่งสุดชีวิต😂 อีกที่คือโดนคนแก่ออสซี่ชี้หน้าด่าบนรถไฟ แต่เริ่มไม่ทนด่ากลับไฟแล่บเหมือนกัน🤣 อีกเหตุการณ์เกือบโดนคนแขกขาวเลบานิสไถเงินแถวWarawong สุดท้ายเจอเด็กวัยรุ่นปาไข่ออกมาจากรถแถวSurry hills แล้วเค้าก็ขำกันเหมือนว่าเค้ามีความสุขที่ทำร้ายเรา ดีที่ไม่โดนเอาจริงๆงงบวกกลัวแถมโมโหมากค่ะ ทำไมคนเอเชียต้องโดนอะไรแบบนี้ตลอด

การเหยียดย่อมระงับด้วยการเหยียดกลับ 555 อย่าไปยอมค่ะ อย่าโลกสวย เพราะคนเอเชียส่วนใหญ่ไม่ชอบที่จะมีเรื่อง ช่างมันเถอะ มันเสียเวลา แต่เราไม่ยอมค่ะ

ในใจอยากให้เอาคืนค่ะแบบเน้นๆ แต่ความเป็นจริงก็ไม่อยากให้มีปัญหา เลยคิดว่าควรจะเข้าไปคุยเลยค่ะว่าคุณมีปัญหาอะไรหรือเล่า แบบเจนเทิลอะค่ะ ปรับให้ได้ ถ้าเค้ายังหาเรื่องอยู่ ก็ถ่ายคลิปไว้ด้วยเลยค่ะ คนพวกนี้ต้องได้เรียนรู้บ้าง

เราเป็นสาวสอง เคยมีแฟนอยู่เมืองเพิร์ธ เราบินไปๆมาๆประมาณ9-10 ครั้งตั้งแต่คบกัน เพราะไม่ได้ยื่นวีถาวร ประสบการณแย่ๆที่เคยเจอตอนอยู่ออสก็มีบ้างค่ะ calture shock ก็เช่นกัน บินไปครั้งแรก ตื่นเต้นมาก ด้วยความที่เป็นนังกอ ก็กลัวโดนถาม ตรวจนั่นนี่ ก่อนบินไปครั้งแรกนี่ต้องฝึกตอบคำถามยิ่งกว่ามิสยู5555 อ่ะเข้าเรื่อง พอไปถึง ตม ยื่นพาสปอร์ต ตม ไม่ถามอะไรเลยจ้า แสตมป์ให้แบบสวยๆ ผ่าน เฟิส impression เลยแหละ ทุกอย่างปกติดี ร้านอาหาร ช็อปเอเชีย คนเอเชีย แขก คนแอฟริกัน คนไทย เยอะ หลากหลายเชื้อชาติ ไปแรกๆแฟนต้องทำงาน นางเลยสอนเราทุกอย่าง ต้องทำนั่นนี่ นั่งรถเมล์ รถไฟ เข้าเมืองยังงัย จากนั้นก็จำ เช้าเมืองไปเดินเล่นเองรัยเอง วันนั้นจะเข้าเมือง ก็เดินไปนั่งรอรถตรงป้ายใกล้บ้าน วันนั้นแต่งตัวเรียบร้อย เดรสยาว เสื้อยีนส์ทับ ความที่เราเป็นสาวสองที่ค่อนข้างตัวเล็ก เนียนนี มีผู้ชายนั่งรถมาละจอดถามจ้า how much? อีนี่แบ่บ What??? No sorry 555 นางก็ขับไป เรื่องแบบนี้เจอบ่อยมาก มันเห็นคนเอเชีย มันคิดว่าเราต้องขายทุกคนรึงัย อีกเหตุการณ์ วันนั้นบนรถเมล์ มีคนเอเชีย 5-6 คน มีเราและที่เหลือ น่าจะเป็นคนจีน เจอพวกกลุ่มผู้หญิงอะบอริจิ้น ชี้หน้าด่าจ้า ด่าบนรถเลย เหมือนพวกนางเมา น่ากลัวมาก ด่าไล่คนเอเชียให้ออกจากประเทศนั่นนี่ จนคนขับทนไม่ไหว จอดป้ายหน้า ละไล่พวกนางลงจ้าา อีกเรื่อง กับคนใกล้ตัว แฟนของญาติแฟนเรา(ชะนีออสซี่) เหยียดนี่และทำท่าทางรังเกียจออกนอกหน้าเลย ไม่รู้ว่าเหยียดเพศเพราะเราเป็นสาวสองหรือเหยียดเชื้อชาติ เราบอกแฟน ร้องไห้ด้วย เพราะนอย เราอุตส่าห์เฟรนลี่ และให้เกียรติเค้ามาก เราก็วางตัวดีน่ะ เจอแบบนี้คือเสียใจที่สุด แต่โดยรวมแล้ว เมืองที่เราอยู่มันก็ไม่ได้แย่นะคะ ฝรั่งหลายๆคนก็เฟรนลี่ดี ความที่คนเอเชียเยอะด้วยมากคะ หลายๆคนเลยชิน สิ่งที่น่ากลัวสุด คือพวกอะบอริจิ้นขี้เมาค่ะ เดินมาเป็นกลุ่มๆ ตามขอเงินเราแบบน่ากลัวมากก พูดถึงออส ก็คิดถึงจัง

แบบนี้เสียสุขภาพจิตมากเลย อยู่ดีๆ ก็มีคนมาด่า มาทำร้าย มันไม่ใช่เรื่องที่ใครควรเจอเลย

ต้องด่ามันกลับคะ อย่าไปยอมให้มันด่าฝ่ายเดียว ที่มันบูลี่เราได้เพราะเรายอมมันไงคะ ด่ากลับเลย. คนที่ละอายไม่ใช่เรานะจะเป็นมัน เพราะมันรู้ตัวว่าสิ่งที่มันทำล้าหลังมากๆๆ

อยู่อเมริกามาเกือบ 10 ปี ค่ะสิ่งที่ทำได้คือเดินหนีค่ะ เจอมาเยอะเหมือนกันคนพวกนี้ เดินหนีคือสิ่งที่ดีที่สุดตอนนี้ เพราะเราเปลี่ยนหัวคิดคนพวกนี้ไม่ได้ คิดเหมือนน้องปอ ปล่อยไปค่ะ

เข้าใจพี่ปอ กับ แฟน เลยคับเพราะอยู่ซิดนีย์เหมือนกัน แล้วตอนมาอยู่และเข้าโรงเรียนแรกๆคือโดนเหยียดหนักมาก ตอนแรกผมก็ไม่ค่อยสู้มากเท่าไหร่เพราะไม่อยากมีเรื่อง แต่แม่ผมดันเป็นคนสู้คนแล้วไม่อยากให้ผมยอม เลยสอนมวยไทยผม😂😂 แล้วบอกให้ไปสู้กับคนที่เหยียด พอต่อยมันไปรอบเดียวมันก็ไม่มาอะไรกับเราแล้วคับเพราะฝรั่งมันกลัวเลือด หลังจากนั้นมันก็ไม่มายุ่งหรือเหยียดเลย เพราะมันเห็นเราสู้. เป็นกำลังใจให้พี่ปอกับแฟนพี่ปอนะค้าบ ♥️♥️

อาจจะพูดให้เค้าคิดเเต่ไม่ต้องใช่ความรุนเเรง เช่นถามว่า ถ้ามีคนด่าคุณเเละพ่อแม่คุณเเบบนี้คุณจะรู้สึกยังไง หรือถามเชิงคำถามจิตวิทยาให้เค้ากลับไปคิดต่อ

มีคนโดนทำร้ายร่างกาย เมื่อไม่นานมานี้ สงสารมากค่ะน้องปอ 😢

จบโดยการที่เราควรจะรักกัน และเลิกเหยียดกันเอง รวมถึงโปรโมท K-pop, t-pop, j-pop เพื่อแสดงให้เห็นว่ามีความสามารถและหน้าตาดี และลบล้างพฤติกรรมที่ไม่ดี เสริมสร้างพฤติกรรมทางที่ดี ใช้เวลาสัก 20 ปีคงเห็นผลแล้วค่ะ

ทุกที่ทุกชาติ ขนาดชาติเดียวกันยังเหยียดกันเลย ยิ่งมีโควิดคนเอเชียยิ่งโดนหนักมันมีอยู่จริงฝรั่งมันชอบเอาเปรียบเอเชีย ฝรั่งน่ารักก็มี แต่ฝรั่งที่รังเกียจคนเอเชียก็มีไม่น้อย เมืองนอกไม่ได้สวยงามเหมือนที่เราคิด ขอบคุณประสบการณ์ที่เล่าสู่กันฟัง

ใช่ๆแฟนพี่เล่าให้ฟังเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ประเทศออสเตรเลียคนเผ่าสีผิวเป็นคนประเทศออสเตรเลียที่แท้จริง บอกเขาไปคะเขาก็คนเราก็คนทุกคนบนโลกใบนี้เท่าเทียมกันสะกดเป็นไหมคะความเท่าเทียมกันนะคะ พูดสำเนียงปกติเรียบๆคะใจเย็นๆ

ที่นิวยอร์คก็หนักมากคะตอนนี้ เดินไปไหนมาไหน ต้องคอยระวังหน้าระวังหลังตลอดเวลา ถึงขนาดต้องคอยพกสเปรพริกไทยกับเคื่องชอตไฟฟ้าพกพาไว้ติดกับพวงกุญแจบ้านเลยคะ ตอนนี้หลายๆคนเกิด panic attackไม่อยากออกจากบ้านเลยคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ ในความคิดเราตอนนี้เราต้องarmed ตัวเอง คะ ถ้าเป็นแค่เหยียดทางคำพูดเลือกเดินหนี ไม่สนมจไม่ให้ค่ากับพวก ignorance แต่ถ้าเข้ามาทำร้ายร่างกาย เราเลือกที่จะสู้คะ แต่เราจะไม่เริ่มก่อน เราต้องสู้ให้มันรู้ว่า เอเชียไม่ได้อ่อนแออย่างที่มันคิด

มองว่าการยอม ก็คือเค้าจะคิดว่าตัวเองทำถูกแล้วอะค่ะ ถ้าส่วนตัวก็จะไม่ทนเหมือนกัน เพราะมันผิดปกติที่ตัวเขาไม่ใช่เรา การยอมก็คือปล่อยให้เค้าทำผิดๆแบบนี้ต่อไป มันคิดเองไม่ได้หรอกค่ะ ยิ่งเห็นเรายอมก็ยิ่งได้ใจอะ

อันนี้เราไม่ทราบจริงๆค่ะ อยากรู้ว่าการเหยียดเอเชียเริ่มมาจากไหนหรอคะ แล้วทำไหมถึงต้องเหยียดแค่คนเอเชียหรอคะ

เกียดแทนคุณปอจิงๆ โมโห เหนื่อยมากกับเรื่องพวกนี้ พวกโรคจิตก็เยอะ คน ดีๆ ก็เยอะ

เคยโดนเหมือนกันค่ะ ที่ควีนซแลนด์ ขนาดเราเป็นครู แต่งตัวผู้ดีๆ ขับเบ้นซ์ไปชอปปิ้งกับแฟนชาวออสซี่ มันยังดูถูกเลย มันว่าให้เราตอนเดินผ่านมัน ไม่ร้องไห้ค่ะ ยืนมองหน้ามันแล้วก็ด่ากลับด้วยภาษาเหนือเลย รู้เรื่องไม่รู้เรื่องช่างมัน ขอให้ได้ตอบกลับมันบ้าง มันจะได้รู้ว่าเราไม่ยอมมัน#ด่าภาษาไหนก้ไม่สะใจเท่ากับด่าด้วยภาษาบ้านเรา

โดยส่วนตัวเราไม่ใช่คนที่ชอบการทะเลาะวิวาทเหมือนกันค่ะ แต่เราเห็นด้วยกับเพื่อนคุณปอนะคะว่าถ้าเจอsituationแบบนี้เราควรจะปกป้องตัวเองและโต้ตอบให้เขารู้บ้างว่าคุณไม่ควรไปทำแบบนี้กับใคร คนประเภทนี้ต่อให้เราอยู่เฉยๆ เป็นคนดีของเราต่อไป เขาก็ยังทำแบบเดิมอยู่ดีค่ะ เพราะเห็นว่าทำแล้วก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร ถ้าเค้าจะคิดได้จริงๆมันคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้แต่แรก คือเอาง่ายๆเราไม่ใช่ต้นเหตุของปัญหาค่ะ เราไม่ต้องปรับหรือทนอะไร ส่วนเรื่องที่ว่าจะจบcycleนี้ยังไง เราว่าสำหรับตอนนี้หรือในอนาคตอันใกล้ก็ยังค่อนข้างยาก สิ่งที่เป็นไปได้มากกว่าคือทำให้มันค่อยๆลดลง และคงต้องใช้เวลามากเหมือนกัน 😭

เพราโควิดค่ะ ทำให้เราโดนเหมารวมไปด้วย ชอบคิดว่าเราเป็นคนจีน ทั้งๆที่เราบอกว่าเราเป็นไทย เราเลิกขี่ช้างไปเรียนแล้ว ก็ไม่เข้าใจว่าทางนั้นไม่ศึกษาเรื่องแผนที่โลกกันเหรอว่าเอเชียไม่ได้มีแค่จีนนะ

ยิ้ม 😊 และพูดภาษาเอเชียกลับค่ะ แล้วยังไง ไม่ตอบโต้ด้วยการใช้กำลังค่ะ !%#^#&^"(

สู้ๆนะคะ เราทำอะไรมากไม่ค่อยได้ เพราะสถานที่มันทำให้เขาเป็นต่อ คุณปอเลือกที่จะเลี่ยงการมีเรื่องเป็นวิธีที่ถูกแล้วค่ะ ไม่ใช่เพราะเรายอม แต่เพราะถ้านึกถึงเหตุการณ์ที่ต้องเกิดขึ้นหลังจากมีเรื่องเสร็จมันไม่คุ้มที่จะแลกจริงๆค่ะ

ทรงแฟนพี่ปอดูแบดบอย ยิ่งอยู่ประเทศคนอื่น ก็คงจะเข้ามาหาเรื่องบ่อย ประมาณ " ไง ไอ้หน้าจืดทรงเปรี้ยวจังนะ เรา😂

ในความรู้สึก คือคนพวกนี้ต่อให้เราไปต่อยไปทำร้ายพวกแม่งก็ไม่ได้ทำให้มันเปลี่ยนความคิด เพราะรอบตัวมันก้ต้องมีคนคิดแบบนี้เยอะพอสมควร คงจะต้องปล่อยมันแต่เราจะไม่อ่อนแอให้มันมารังแกเรานะ เดะมันได้ใจ5555

ต้องสู้กลับค่ะ อย่ายอม ยิ่งยอมก็ยิ่งได้ใจว่าเอเชียนไม่สู้คน

ตวรสู้คะ สู้กลับแน่นอน ที่คุณคิดว่าไม่ทำไรกลับ คือ ความคิดแบบไทยๆ ควรสู้สิคะคุณ เห็นด้วยกับเพื่อนแฟนคุณคะ อย่ามโนโลกสวย ควรสู้ แต่อาจตอนแรก ด่ามันกลับไปก่อน แบบเสียดสี กลับไป ด่าให้มันเจ็บคะ สู้ๆๆๆ อย่าไปนอม อย่าไปหงอ ฟังแล้ว ยั้วนะ

ไม่ควรยอมไม่ควรปล่อยนะคะ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องใช้กำลังเหมือนกัน ถ้ายิ่งยอมมันไปเรื่อยๆมันได้ใจค่ะ มันจะคิดว่ายังไงเราก็ไม่กล้าตอบโต้มัน แล้วมันจะทำไปเรื่อยๆแน่นอนถ้ายังยอมมัน บูลลี่มาบูลลี่กลับ หรือไม่ก็ใช้คำพูดสั่งสอนเอาค่ะ

เราเคยโดนตอนไปเรียนที่นิวซีแลนด์ ตอนเพิ่งไปแรกๆ เราเดินช้อปปิ้งอยู่ที่ช้อปปิ้งมอล กำลังขึ้นบันไดเลื่อน เรายืนต่อหลังเด็กวัยรุ่นฝรั่ง 2 คน อยู่ดีดีคนนึงก็ ตด ออกมา แล้วก็หัวเราะกัน แล้วก็หันมามองที่เรา แล้วก็เดินหัวเราะกันออกไป ซึ่งเหตุการณ์นี้เราก็งง ไม่แน่ใจว่า น้องเผลอ ตดแตก หรือนางตั้งใจจะทำแบบนี้ใส่เรา และอีกครั้ง ตอนช้อปปิ้งเหมือนกันที่เดิมเลย มันมีเหตุการณ์ เหมือนจะไฟใหม้หรือ อะไรซักอย่างเราเองไม่เห็นความผิดปกติอะไร แต่มันมีสัญญาณเตือน ทุกคนก็ทยอยออกจาก ช้อปปิ้งมอล และตอนที่เราและเพื่อนกำลังเดินออก ซึ่งเราก็เดินปกติ ไม่ได้วิ่งหรือรีบร้อนอะไร เพราะเราเห็นทุกคนตอนนั้นก็เดินแบบปกติ ฝรั่งคนอื่นๆก็เดินปกติ และก็มีวัยรุ่นนิวซีแลนด์ พูดขึ้นมาว่า ไทยแลนด์ แล้วก็มองที่พวกเรา แล้วก็ส่ายหัว ซึ่งเราเองก็งงมากว่า เอ๊ะ!! รู้ได้ไงว่าเราคนไทย 555 ไม่ใช่ๆ ว่าเอ๊ะ!! ทำไมหล่ะ เราทำผิดอะไร เราทำเหมือนที่ทุกๆคนตอนนั้นทำเลย ไม่ได้ทำอะไรที่ผิดไปจากคนอื่นเลย เพราะเหตุการณ์ที่2 นี้เกิดขึ้นตอนเราอยู่มาได้สักระยะนึงแล้ว และเราเองเคยมานิวซีแลนด์ก่อนหน้านี้แล้วแต่คนละเมืองกัน โดยส่วนตัวเรามองว่าคน กีวี่ ส่วนใหญ่ น่ารัก และ เฟรนลี่ และตอนนี้ถึงเราจะเจอเหตุการณ์แบบนั้นเราเองก็ยังมองว่าคนกีวี่ น่ารักอยู่ แต่มันยังจะพอมีแหล่ะ พวกที่ยังแอบเหยียดๆอยู่ และเมืองที่เราไปอยู่ก็มีคนหลากหลายเชื้อชาติด้วยนะ แต่ก็ยังเจอ หรือพวกนางอาจจะยังเด็กด้วยแหล่ะ

มันไม่มีทางเปลี่ยนใครได้ เพราะทุกคนโตมาจากแตกต่างครอบครัว พี่ว่าเลือกที่จะ walk away ดีกว่า พี่ก็เคยโดนตอนข้ามถนนที่ Newcastle ตอนเที่ยวรอบออสฯ ปีก่อน เค้าชะโงกหน้าออกมาจากรถ ทำไม้ทำมือด่าเรา ตอนนั้นช็อคมาก ครั้งแรกที่เจอจังๆ หนักๆ แบบนี้ รู้สึกแย่ไปพักใหญ่ๆ หมดความมั่นใจในการเดินเล่นในซิตี้โซนไปเลย แต่ในเมื่อเราทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องทำใจและลุกขึ้น เดินต่อไป ทำใจเราให้เข้มแข็งและเผชิญหน้าต่อไปจ้ะ สู้ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่โดนเหยียดเชื้อชาติค่ะ

ถ้าเป็นเราโดนน่าจะได้ขึ้นศาล555😁😁 เป็นเราก็ไม่โอเครนะที่คนบนโลกเดียวกันมาบูลลี่กันเอง so bed so sad สงสารแฟนพี่ปอมาก สู้ๆนะคะ พี่ปอระวังตัวด้วยน้า เป็นห่วงทั้งคู่นะคะ😍❤❤

พี่อยู่สวิตเซอร์แลนด์ ลูกชายพี่ 10 ขวบ โดนเหยียดตั้งแต่เข้าโรงเรียนตอน 5 ขวบแล้วค่ะ ตอนแรกพี่คิดเหมือนน้องปอเลยค่ะ ไม่ให้ลูกตอบโต้ให้เค้าทำเป็นหูทวนลม แต่มันใช้ไม่ได้ค่ะ กับเด็กที่นี้ค่ะ เพราะคนที่เหยียดคนอื่นเเบบนี้มันไม่ใช่คนปกติค่ะ ส่วนมากเป็นมาตั้งแต่พ่อแม่ !! ทุกครั้งที่มีการเหยียด จบด้วยการเจ็บตัวทุกครั้งค่ะ แต่ยังดีที่ลูกพี่เรียน เทควันโด้ เลยมีทักษะไว้ป้องกันตัว พี่บอกลูกคำเดียวว่า อย่าทำร้ายใครก่อน..เป็นกำลังใจให้น้องปอและแฟนนะคะ❤️❤️

เราชอบความคิดของน้องปอมาก ชอบมาตั้งแต่คลิปแรกๆ จนถึงทุกวันนี้ น้องปอมีความคิดที เราเห็นด้วยมาตลอด และเรื่องนี้สำหรับเราก็คิดเหมือนน้องปอนะ ว่าถ้าเรา bully ชาติพันธ์กันไปมา มันก็ไม่จบอ่ะ ยิ่งทำให้เกลียดมากยิ่งขึ้น เราคิดว่าอาจจะต้องใช้คำว่าให้อภัยพวกเขาเพื่อความสันติสุข

รู้สึกทนไม่ได้ ไม่ชอบเลยกับการเหยียดคนอื่น มักจะเห็นข่าวศิลปินที่ชอบโดนพวกผิวขาวดูถูก อย่างเช่นถูกคนออสเตรเลียดูถูกตอนไปรายการต่างๆ คืออยากจะด่าแทนศิลปินมากว่า กว่าจะมาเป็นออสเตรเลียทุกวันนี้ผ่านอะไรมาบ้าง ดีใจมากเหรอที่เป็นคนออสซี่ทุกวันนี้ แน่ใจได้ยังไงว่าบรรพบุรุษเป็นคนผิวขาวหมด มันปนเปกันไปหมดแล้ว คือพวกนี้มั่นใจมากจนลืมคิดถึงอดีต หมั่นไส้มากจริงๆค่ะ

ควรคุยกับมันตรงๆค่ะ ว่าพูดเเบบนั้นทำไม เเล้วพูดเเล้วได้อะไร ถ้าเจอกับคนปกติ การพูดคุยถามไปตรงๆจะดีกว่าค่ะ เราจะได้เข้าใจ the place they’re coming from เเล้วจากนั้น ก็ correct พวกเขาค่ะ เเต่ถ้าเจอคนไม่ปกติ พูดไปก็เสียเวลา เป็นกำลังใจให้นะคะ เเฟนเราเป็นคนต่างชาติเหมือนกัน เขาบอกว่า confrontation เป็นเรื่องที่จำเป็น เเละเป็นเรื่องปกติที่แคนาดาค่ะ การที่เราไม่พูดอาจจะหมายถึงว่าเรายอมรับให้มันเกิดขึ้น สู้ๆ เป็นกำลังใจให้นะคะ

เราเคยไปเที่ยวที่ฝรั่งเศส เข้าร้านอาหารที่ดูดีหน่อย คนกินเยอะพอควร เรากับน้องชายเข้าร้านไป เค้ามองเราหัวจรดเท้า รับออเดอร์แบบให้จบๆไป พูดไม่ดี(ไม่ได้หยาบคาย แต่ความรู้สึกเหมือนแห้งๆ) และทำเป็นฟังไม่รู้เรื่อง ... เราก็คิดว่าคงไม่มี service mind เป็นปกติ แต่เปล่าจ้า นักท่องเที่ยวต่างชาติแต่หัวทองมาเลยนะ นั่งติดกัน พนักงานพูดนิ่มนวลมาก ทั้งที่ก็พูดภาษาอังกฤษเหมือนกัน ทั้งที่จ่ายเงินเต็ม มีทิปให้ แต่ทำไมการให้บริการเรากับเค้าไม่เท่ากัน โอ้ยเศร้า!!

สวัสดีค่ะพี่ปอ เคยมีประสบการณ์โดนเหยียดเชื้อชาติก่อนช่วงโควิดค่ะ ตอนนั้นเราเลือกที่จะเงียบและปล่อยพวกมันไป เราต้องทำแบบนั้นเพราะสถานการณ์หลายๆอย่างบังคับเรา เราผู้หญิงตัวคนเดียวในกรุงปารีสที่ขึ้นชื่อเรื่องความอันตรายค่ะ ส่วนตัวคิดว่าเราตอบโต้ไปกับคนกลุ่มเล็กๆมันไม่สร้างimpactได้มากเท่าไร เราอาจจะต้องมองมุมกว้างขึ้นไปถึงระดับที่ว่าทำยังไงให้คนเอเชียอย่างเราที่มีข้อดีมากมายไปสู่ระดับโลกให้ได้ ทำให้พวกฝรั่งผิวขาวมันเห็นว่าคนเอเชียแบบเราทำอะไรได้ขนาดไหน อันนี้น่าจะ impact ได้มากในสังคมปัจจุบันค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ take care ค่ะ 💕

ยอมอย่างนี้คนคนนั้นมันไม่หยุดเหยียดคนอื่นแน่นอนค่ะ เคสที่โดนเหยียดถึงขั้นโดนทำร้ายแต่เจ้าตัวไม่ยอมเห็นจ๋อยกันไปทุกราย ควรทำให้รู้สำนึก

ปล่อยไม่ได้ค่ะ แต่ก็ไม่ควรใช้กำลังกันนะคะ การปล่อยเค้าไปโดยที่เค้าไม่รู้ว่ามันผิด เค้าอาจจะไปทำใส่คนอื่นๆอีก และจะมีอีกหลายคนที่เจ็บกับบาดแผลการถูกเหยียดแบบนี้

ตอนเราอยู่ซิดนีย์ น่าจะสัก 4-5 ปีก่อน เดินลงจาก ferry กับเพื่อนเวียดนาม ผู้หญิงคนหนึ่งเดินสวนมาพร้อมกับรถเข็นลูก แล้วก็พูดดังๆ ใส่เรากับเพื่อนว่า You two should go to jail, not coming here. เรายังงงอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้นวะ จนเดินสวนกันไปแล้วคุยกับเพื่อนแล้วเพิ่งมาอ๋อกันว่าโดนเหยียด ครั้งแรกและครั้งเดียวที่อยู่ที่นั่น แต่ทำให้ความชอบฝรั่งออสซี่ลดไปเยอะเลย ได้แต่เจ็บใจว่าทำไมเราถึงทำอะไรไม่ได้เลยวะ

เราเคยอยู่ออสเตรเลียค่ะ เราว่ามันเกิดความไม่เท่าเทียมกันจริงๆค่ะ รู้สึกเหมือนเป็นพลเมืองชั้นสอง ไม่ชอบความรู้สึกนี้ค่ะ

อยู่ซิดนี่ย์เหมือนกันค่ะ ไม่เคยเจอตรงๆกับตัว แต่เคยเห็น คนโฮมเลส ถุยน้ำลายใส่คนเอเชีย ใจกลางเมือง ตรงทาวน์ฮอลล์เลย เรายืนหลังคนที่โดนเลยค่ะ เห็นแล้วเคืองแทน

เคยอ่านคอมเมนท์ของฝรั่งใต้คลิปของคนสิงคโปร์ที่ถูกทำร้ายที่ลอนดอนเมื่อไม่นานมานี้ ก็เห็นหลายคอมเมนท์ที่น่าจะคาดว่ามาจาก White ว่า ทำไมถึงไม่สู้กลับเลย ต้อง stand up for yourself เหมือนที่แฟนเพื่อนคุณปอบอกเลยค่ะ ฝรั่งเค้าคงมีความคิดแบบนี้จริงๆ ผิดคือผิด ต้องให้เห็นว่าเราไม่ยอมต่อความไม่แฟร์ ไม่เหมือนเอเชียที่อะไรยอมได้ก็ยอมๆไป ไม่อยากมีเรื่อง ไม่มีอยากมีประวัติขึ้นโรงขึ้นศาล ทำให้พวกนี้ได้ใจ แกล้งไปพวก Asian ไม่กล้าสู้ ไม่ใช่แค่พวก racist หรอกค่ะ คนโกงก็เหมือนกัน ปล่อยไปเลยได้ใจไปทำคนอื่นต่อ 😡😡 เคยมีประสบการณ์โดนพวกวัยรุ่นฝรั่งแกล้งเหมือนกัน ตอนนั้นไป work ที่เมกา ตอนแรกก็นิ่งๆ พอมากๆ เราไม่ให้มันเล่นแล้วเรียก supervisor ให้มาจัดการ สุดท้ายก็ขอโทษใหญ่ก็ไม่สนจ้าาา กวนติงดีนัก

สู้ค่ะ เพราะมันจะได้ไม่กล้าไปทำกะคนอื่น ยอมแบบนี้มันได้ใจค่ะ เดินผ่านมัน มันตะโกนหนีห่าวใส่ ตะโกนกลับว่าหนีห่าวพ่องงงงง มันงงสิคะ 🤣 แล้วเดินไปเลคเชอร์มันค่ะ ว่าผมดำมีชาติอะไรบ้าง คนญี่ปุ่นพูดยังไง ฉันเนี่ยคนไทย พูดสวัสดี ไม่ใช่หนีห่าว เพื่อนๆมันเริ่มเดินหนีค่ะ ขำไม่ออกกันสักคน จนมันเองก็เออๆๆ แล้วก็หนีตามเพื่อนมันไปค่ะ อีกทีเราดูนกพิราบมากินอาหารทีพื้น ฝรั่งแก่เดินเข้ามามองเรากะลูก แล้วพูดว่า อร่อยเนาะ เราบอกไม่รู้สิ มันบอกคนจีนชอบกินนี่ เราเลยบอกเราไม่เคยกิน คุณเคยกินเหรอ แล้วทำหน้าแบบพร้อมไฟท์มาก มันก็หนีค่ะ

เราคิดว่ามีเรื่องแล้วจะคุ้มก็ต่อเมื่อเรามีเวลาไปศาล ไปดำเนินการทางกฏหมายอะค่ะ ถ้าเราชนะมันก็จะได้ spread awareness ด้วย อันนี้ถ้ามันมีกฏหมายห้ามเหยียดเชื้อชาติอยู่นะ ถ้าเราไม่มีเวลา มันก็ไม่คุ้มจริงๆ เพราะคนที่เหยียดเชื้อชาติเค้าแทบไม่ต้องทำอะไรเลย แค่ใช้อคติกับความมักง่ายในการด่าคนไปทั่ว ไม่คุ้มจริงๆค่ะ ส่วนเรื่องทำดีต่อไปเพื่อให้คนอื่นเห็นคือเราว่าไม่จำเป็นมากๆ ทุกคนเกิดมาเพื่อใช้ชีวิตของตัวเองอะ ไม่ต้องไปพิสูจน์อะไรกับใครเลย เพราะคนที่ไม่ชอบเราก็คือคนที่ไม่ชอบเราค่ะ Cheer up นะคะคุณปอ 😘

ตอนเราอยู่อังกฤษก็โดนบ่อยค่ะ โดนจนกลัวไปหมด เข้ามาให้กำลังใจนะคะ

เราก็เคยโดนคะ แต่เป็นคน aboriginals เลยจะเดินเข้ามาต่อยเรา เราเองใส่เกียร์หมาเลยคะ ส่วนคนขาวที่นู้นเจอแต่ผู้หญิงออสซี่ ใช่สายตาเหยียด มองตอนเราไปเดทกับผช.ออสซี่คะ สู้ๆนะน้องปอ อันไหนเลี่ยงได้ก็เลี่ยงคะ

ดีแล้วคะที่พี่ปอห้ามแฟนไว้เพราะหนูมองว่า ตำรวจมายังไงเค้าก็มองเราผิดคะ แต่ถ้าฝรั่ง2 คนนั้นทำอะไรเราก่อนแบบนั้นเราก็สมารถปกป้องตัวเองได้ แต่หนูเข้าใจในสิ่งที่พี่พอพูดนะคะ แฟนพี่ปออาจจะเจออะไรมาเยอะจนบางทีเค้าต้องปกป้องตัวเอง

เราว่ามันหยุดได้ถ้าตอนนั้นเรื่องที่เกิด คนขาวคนเดียวเหยียดเรา แต่คนขาวอีกเป็นสิบรอบข้างไม่ได้เหยียดเราแล้วเขาช่วยเรา พยายามพูดหรืออะไรเพื่อเราบ้าง คนขาวกลุ่มน้อยคงรับฟังมากกว่า ปล.นึกถึงกระแสตอนที่ฝรั่งหลายคนช่วยติด #stopasianhate คือมันต้องทำให้เรามีคอมมูนิตี้ที่ใหญ่ขึ้นจนพวกนั้นไม่กล้าทำ อ่านแล้วพอเข้าใจไหมคะ😂

หนูคิดว่าให้คนที่เป็นฝรั่งที่รู้จักกับพวกพี่ สอนพวกเขาด้วยตัวเองค่ะ ถ้าเราไปสอนเขาไม่จำค่ะ เพราะคนที่เป็นฝรั่งจะฟังฝรั่งด้วยกันมากกว่า ต้องฟังคนอื่นบ้างค่ะ ถ้ายังมีความเป็นคนอยู่

เจอแรงมากค่ะพี่ปอ ถ้าเป็นเราเชิ่ดค่ะ เราเจอคนที่ดีซะส่วนใหญ่ คนไม่ดีส่วนน้อย อย่าเอาชีวิตมีค่าของเราไปแลกเลยค่ะ

เอาจิงๆ ปัญหาการโดนบลูลี่ โดนเหยียดนี่คือ เป็นปัญหาที่แก้ไม่จบจิงๆ feel so bad for him พื้นฐานมาตราฐาน ชีวิตคนเราแตกต่างกันความคิดความอ่านมารยาท ต่างๆ พูดยากมาก แต่ถ้าจะให้ดีควรมีกฎหมาย ออกมา คุมครองการโดนเหยียดรึคุกคาม ส่วนหากเจอสถานการณืแบบนี้ จะทำตัวแบบไหน? อยู่ที่สถานการณ์ตอนนัั้น มากกว่า คะ ถ้ามันกวนตีน นักก็พร้อมบวก แต่ ถ้า มาแบบ หมาหยอกไก่ ก็ ทำมันเป็นเหมือนลม อย่าไปสนใจมัน เชื่อว่าการโดน ignore เป็นหนทางที่ดีที่สุด แต่เข้าใจความรู้สึกของแฟนคุณปอเลยคงไม่อยากให้ใครมาบลูลี่ อยากสู้กับมัน ไม่น่าเชื่อ ว่าชาติที่ เจริญแล้ว เขาไม่พัฒนาจิตใจ อาจจะมีคนแบบนี้ 1% ขอคนออสเตรเลียก็ได้ cheering you up na ka

หนูว่ามันควรมีกฎหมายมาปกป้องค่ะพี่ปอ อย่างน้อยๆถ้าขึ้นศาลถ้ามีหลักฐานเราต้องเป็นฝ่ายถูกเพราะเราปกป้องตัวเอง ไม่งั้นถ้าทะเลาะก็ต้องทะเลาะไปเรื่อยๆ ถ้ายอมก็ต้องยอมไปเรื่อยๆ ไม่จบไม่สิ้นค่ะ

เห็นด้วยครับ ทำดี ต่อไป อย่าไปตอบโต้ในสิ่งที่ไม่ดีกลับไป มันไม่ใช่การแก้ปัญหา ครับ พวกเหยียดสีผิว ชนชาติ มี่ให้เห็น ตามข่าวทุกประเทศ ครับ. ส่วนตัวผมแล้ว อยู่ที่ไหนก็ไม่ปลอดภัย ขึ้นอยู่กับว่า เราจะเลือก. พยายาม นึกถึง พ่อ-แม่ ครอบครัวไว้มากๆแล้วจะสบายใจเองล่ะครับ เป็นกำลังใจให้น่ะ ครับ

คนผิวขาว ลึกๆพวกเขากลัวคนเอเชียมาแทนที่ เคยฟังบทสัมภาษของฝรั่งเรื่องเหยียดเชื่อชาติ ฝรั่งคนนึงบอกว่า คนผิวขาวมักจะคิดว่า คนเอเชีย เรียนเก่ง ทำอะไรก็เก่ง และแย่งงานพวกเขา แถมราคาถูกกว่า และยิ่งมีผลวิจัยออกมาว่าคนเอเชีย คือคนที่ฉลาดที่สุดในโลก ยิ่งมีการเหยียดกันมากขึ้น เพราะในอนาคต เอเชียจะมาแทนยุโรป สังเกตได้เลย เมื่อในอดีตเรามักจะยกย่องฝรั่งและรู้สึกเอเชียด้อยกว่า แต่ปัจจุบัน พวกเรารู้สึกว่าเอเชียเท่าเทียมกับพวกเขา

มีเพื่อนผู้ชายอยู่ที่ออส เพื่อนบอกว่ามีการเหยียดจริงๆ เพื่อนต้องเข้า gym เล่น weight เพื่อให้ตัวใหญ่ๆ จะได้สู้เขาได้ถ้ามีคนเข้ามาหาเรื่อง และล่าสุดก็โดนเหยียดในผับ ถึงกับมีเรื่องชกต่อยกันในผับเลยค่ะ

จากใจคนอยู่Sydneyนะคะ ขอบอกว่าพวกเหยียดเชื้อชาติมันจะไม่ชอบ cool asianค่ะ มันจะหมั่นไส้ ยิ่งแฟนปอเป็นคนที่นี่ เป็นnative speaker ก็คือไม่มีเรื่องอะไรให้มันบูลลี่ จนมันต้องเล่นกับเชื้อชาติค่ะ แค่นั้นเอง สู้ๆนะคะ ส่วนตัวเป็นคนไม่ยอมค่ะ แต่ยังไม่เคยเจอแบบจังๆ

เคยโดนถุยน้ำลายใส่หน้าค่ะ เมื่อหลายปีมาแล้วก่อนโควิดอีก ไม่ได้รู้จักกัน แค่เดินสวนกัน ตอนนั้นกลัวมาก เพราะเป็นตอนกลางคืนด้วย แต่มีผู้ชายฝรั่งคนนึงเดินเข้ามาช่วยค่ะ อีกครั้งนึงโดนคนขับรถบัสด่าค่ะ ตอนนั้นรถบัสตอกตั๋วกระดาษ แล้วตั๋วเราติดคาอยู่ในเครื่อง ด่าว่าเราเป็นตัวโชคร้าย กลับประเทศไปซะ อายมาก คนเต็มรถบัส แต่ไม่มีใครลุกขึ้นพูดอะไรสักคน แต่คนดีๆก็มีเยอะค่ะ คนออสเตรเลียส่วนมากน่ารัก เฟรนลี่ สามีและและครอบครัวคนออส ก็น่ารักและมีน้ำใจมากค่ะ

เราว่ามันอยู่ที่ perspective ของคนรับสารด้วยค่ะ ว่าจะมองเป็นเรื่องแบบไหน ถ้าเรามองว่าเราไม่คิดอะไร มันก็จบ แบบเรา ไม่แคร์ไม่สนใจ ไม่เก็บมาเป็นปัญหาของเรา แต่ถ้าเราคิดว่ามันไม่โอเค มันก็คือต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่แน่ใจว่าที่ออสมีกฎหมายคุ้มครองไหมว่า ห้ามพูดเหยียดเชื้อชาติ แต่อย่างที่เยอรมันคือมีค่ะ ถ้าใครพูดเข้าข่าย สามารถแจ้งตำรวจได้เลยค่ะ เท่าที่เราอยู่ในสังคม ฝ มา บางคนเค้าชอบคิดแบบเพื่อนของปอที่บอกค่ะ เค้าคิดว่า สิทธิ์ของเค้าเป็นเรื่องสำคัญใครก็มาละเมิดไม่ได้ ถ้าเกิดคนอื่นทำไม่ดีใส่เค้า ก็ต้องตอบโต้ อย่านิ่งเฉย คนๆนั้นจะได้มีบทเรียนและจำไม่ทำอีกค่ะ

มันมีอยู่นานแล้วเรื่องแบบนี้ แต่มันจะรุนแรงขึ้นเมื่อมีสิ่งกระตุ้น เช่น ตอนเหตุการณ์911 คนบางกลุ่มก็เหยียดและเกลียดคนตะวันออกกลาง เหมาเอาว่าไม่ดีทั้งหมด ทุกคนคือผู้ก่อการร้าย มาตอนนี้เโรคระบาดโควิท คนบางกลุ่มก็เหยียดและเกลียดคนเอเชีย กล่าวหาว่าแพร่เชื้อโรค ดูถูกว่าด้อยกว่า การจบเรื่องในเหตุการณ์ลักษณะนี้ เราควรแสดงออกว่าเรามีเกียรติและมีวุฒิภาวะทางอารมณ์+ความคิด ที่เหนือกว่าคนเหล่านั้น จะด้วยคำพูดเรียบๆหรือสีหน้าก็ได้ แต่ไม่ควรใช้กำลัง

ลองอัดคลิป แล้วตะโกนดังๆ ชี้บอกคนอื่นว่ามัน racist คนเอเชีย จะได้เห็นไปเลยด้วยว่าตรงนั้นมีใครขี้เหยียดอีก ถ้าคนเข้าข้างเราเยอะมันน่าจะอายค่ะ แต่ถ้าคนเข้าข้างมันเยอะก็ถ่ายไว้ให้หมด แล้ววิ่งหนีโลดดดด ค่อยเอามาอัพลงโซเชียลให้เป็นข่าวดังๆ ไปเลยค่ะ

คนไทย ต้องยอมรับว่าเราถูกปลูกฝังมาให้หัวอ่อน ส่วนหนึ่งเพราะในปรัชญาความเชื่อ และค่านิยมหลายๆอย่าง เอเชีย nature จะหัวอ่อน จากความอ่อนน้อมที่มีอยู่ตลอดเวลา ส่วนหนึ่งถามว่าคุ้มไหม ไม่ควรมีเรื่องในแง่ของการใช้กำลังก็จริง ณ ตอนนั้น แต่ขึ้นอยู่ว่าในระยะยาวเราจะทำยังไงมากกว่า Next time ก็ยอมถอยต่อไป หรือเราจะทำยังไงเพื่อ defend ตัวเอง แล้วอาจจะมีวันนึ่ง jackpot อันตรายถึงชีวิตขึ้นมา เราได้คิดเหมือนที่คิดตอนนี้ไหมว่าคนเอเชียจะได้รับความยุติธรรมรึเปล่า? ส่วนตัวอาจจะต้องมองจุดอ่อนจุดแข็งของชีวิตคนขาวในออสเตรเลียว่ากลัวอะไร อะไรบ้างที่จะกระทบชีวิตเขา อย่างแฟนคุณปอ คุณปอกลัวว่าเขาจะถูก Exile เลยไม่อยากมีเรื่อง แล้วถ้าคนขาวมีเรื่องกับเรา อะไรที่จะทำให้เขากลัวได้บ้าง? สุดท้าย คำแนะนำที่ง่ายที่สุด ก็อาจจะเป็นการกระจายข่าว รณรงค์เพื่อ #stopAsianHates ให้มากขึ้น เพื่อความหวังว่าการหว่านเมล็ดพันธุ์นี้จะออกดอกออกผล oneday "สักวันหนึ่ง"

ดั่งสุภาษิตไทยที่ว่า..พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง!!!!!✌️✌️✌️