พวงคราม ทำแบบนี้มีดอกตลอดปี ไม้เลื้อยอเนกประสงค์ สารพัดประโยชน์ คลุมหลังคาก็ได้ ไต่ผนังก็ดี 

๐ พวงคราม พวงครามไทย พวงครามออสเตรเลีย
๐ ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name): Petrea volubilis (บางเอกสารใช้ชื่อพ้อง Petrea kohautiana)
ชื่อสกุล “Petrea” ตั้งให้เป็นเกียรติแก่ Lord Robert James Petre (1713-1743) นักพฤกษศาสตร์ชาวอังกฤษ
ชื่อชนิดพันธุ์ “volubilis” เป็นคำภาษาละติน หมายถึง “ลำต้นพันเลื้อย” พรรณาถึงลำต้นพืชเมื่อเติบโตขึ้นเลื้อยพันไปกับเสาหรือหลักค้ำขึ้นไป
๐ ชื่อสามัญ (Common Name): 'Purple Passion' Queen's wreath or Purple wreath
๐ ชนิด (Type): ไม้เถาเลื้อยไม่ผลัดใบ (Evergreen vine) (ทั้งนี้มีพวงครามต้นด้วย)
๐ วงศ์ (Family): Verbenaceae
๐ ถิ่นกำเนิด (Native Range) : อเมริกากลาง และทางตอนเหนือของทวีปอเมริกาใต้ (ตามเอกสารอ้างถิ่นกำเนิดในออสเตรเลีย ชวาและ นิวกีนีด้วย) สายพันธุ์นี้น่าจะเป็นที่นิยมนำมาปลูกในประเทศไทย ในชื่อ “พวงครามออสเตรเลีย”
๐ ความสูงของทรงพุ่ม (Height) : 1.8-3 เมตร (ในธรรมชาติพบได้ว่ามีความยาวถึง 12 เมตร)
๐ ความกว้างของทรงพุ่ม: 1.8-3.0 เมตร
๐ ระยะเวลาดอกบาน (Bloom Time): ตลอดทั้งปี ดอกเป็นช่อแบบช่อกระจะ (Raceme) โดยช่อดอกย่อยก้านดอกย่อยยาวไล่เลี่ยกัน ดอกสีม่วงเกิดสลับสองข้างของแกนกลาง ทั้งนี้ดอกที่เกิดและบานก่อนอยู่ด้านล่างของช่อดอก ดอกย่อยมีกลีบเลี้ยงหรือใบประดับสีม่วงอ่อน ดอกจริงมีกลีบดอกบาง 5 กลีบ มีสีม่วงเข้มขึ้นจากกลีบเลี้ยง พวงครามมีสายพันธุ์ที่ให้ดอกสีขาวด้วย (Petrea volubilis ‘Albiflora')
๐ ความต้องการแสง (Sun): แดดเต็มวัน
๐ ความต้องการน้ำ (Water): ปานกลาง ในช่วงระยะเวลาที่ต้องการให้พวงครามแทงช่อดอกควรงดน้ำเป็นระยะ
๐ การดูแลรักษา (Maintenance): เป็นไม้เลื้อยที่มีการเจริญเติบโตเร็วจึงจำเป็นต้องมีการจัดรูปทรงของการเลื้อยให้ไปในทิศทางที่ต้องการ รวมไปถึงการตัดแต่งกิ่งที่มีการเลื้อยออกไปนอกทิศทาง ซึ่งจะทำสนับสนุนการแตกยอดใหม่ได้ดีขึ้นด้วย
๐ การใช้งานที่แนะนำ (Suggested Use): นิยมปลูกเป็นไม้เลื้อยขึ้นคลุมหลังคาไม้ระแนง รั้วไม้ระแนง นอกจากนี้แล้วยังนิยมปลูกควบคุมทรงพุ่มให้มีขนาดตามต้องการ รวมไปถึงควบคุมทรงพุ่มในรูปแบบไม้กระถางแขวนและการทำบอนไซพวงคราม
๐ ใบไม้ (Leaf): มีใบเดียวขึ้นเรียงตรงข้าม ใบรูปรี (Elliptic) แผ่นใบผายกว้างมากที่สุดตรงกลางแผ่นใบ แล้วค่อยเรียวไปทางปลายและฐานของใบ เนื้อใบหนาแข็ง ผิวบ่อยมีผขนขึ้นปกคลุมบาง ๆ ประกอบกับเส้นใบและร่องเส้นใบชัดมาก เมื่อลูบผิวใบจะสากมือ
๐ การเพาะปลูก (Culture)
การปลูกพวงครามให้ได้ผลดีควรเตรียมดินปลูกที่มี โครงสร้างของดินร่วนระบายน้ำและถ่ายเทอากาศได้ดี โดยที่มีความอุดมสมบูรณ์ของอินทรีย์วัตถุสูง โดยพวงครามเป็นพืชที่สามารถเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ได้รับน้ำน้อยหรือเป็นพื้นที่ทนทานต่อการขาดน้ำเป็นระยะเวลานานหลายวันติดต่อกันได้ จึงทำให้ในการดูแลรักษารดน้ำไม่จำเป็นจะต้องให้น้ำเป็นประจำได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามในช่วงที่พวงครามออกดอกพอสมควรแล้วการรดน้ำเพื่อรักษาความชื้นอย่างต่อเนื่องจะทำให้สามารถรักษาการออกดอกได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้การงดน้ำในช่วงระยะเวลาออกดอกควรหลีกเลี่ยงเนื่องจากจะทำให้พืชจำเป็นต้องทิ้งดอกเพื่อรักษาต้นไว้
แม้ว่าพวงครามจะเป็นต้นไม้ที่ให้ดอกตลอดทั้งปีก็ตาม สำหรับต้นไม้ที่ซื้อมาใหม่จากร้านค้าและมีการให้ดอกติดมาด้วยนั้น จำเป็นต้องบำรุงดูแลรักษาให้ต้นมีความอุดมสมบูรณ์เพิ่มขึ้น โดยอาจจะเลือกปลูกลงดินโดยตรงหรือปลูกย้ายลงในกระถางใหม่ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ของดินสูง แนะนำให้เพิ่มปริมาณอินทรีย์วัตถุลงไปในวัสดุปลูกให้มากขึ้น รวมไปถึงการเติมปุ๋ยละลายช้า สูตร 13 13 13 เพื่อบำรุงต้น เมื่อผ่านไป หนึ่งเดือนจึงเพิ่มปุ๋ยละลายช้าสูตร 12 25 6 เพื่อกระตุ้นการออกดอก ทั้งนี้สามารถให้ปุ๋ยน้ำในการกระตุ้นการออกดอก
การขยายพันธุ์ทำได้โดยใช้เมล็ด และวิธีการที่นิยมก็คือการตอนกิ่ง ทำให้ได้ต้นที่มีความแข็งแรงและพร้อมที่จะออกดอกต่อไปได้ อย่างไรก็ตามสามารถทำการขยายพันธุ์ด้วยการปักชำได้เช่นกันแต่มีอัตราการงอกรากอยากสักเล็กน้อยจำเป็นต้องใช้สารกระตุ้นการงอกรากประกอบด้วย
๐ ปัญหา (Problems)
ไม่มีโรคและศัตรูที่ร้ายแรงเข้าทำลาย แต่ควรมัดระวังเพลียต่างๆ อาทิ เพลี้ยอ่อนและเพลี้ยแป้ง ในการดูดกินน้ำเลี้ยงของต้นพืชทำให้เกิดการเจริญเติบโตช้าลง