เมื่อใกล้วันเกิด น้องเวหา แสนทรัพย์ แม่ด้วนก็พาโขลงออกมาปรากฏตัว ในวันที่ 3 มิถุนายน 2567 พร้อมกับการปรากฏตัวของลูกน้อย ลูกแม่ขนตายาว ซึ่งก็น่าจะเกิดช่วงปลายเดือนพฤษภาคม แต่จุดสนใจวันนี้จะพามารู้จักกับพี่เลี้ยงมือใหม่ แม่หนูที่มีชายหูแหลม ที่บังอาจดีดขาหลังใส่เด็กชายเวหา แสนทรัพย์ สาวน้อยนางนี้ อาจมีคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นไพลิน ลูกหลานที่เดินตามแม่บุษบา แต่ไพลินนั้นชายหูเธอโค้งมน แต่แม่หนูนี่หูแหลม เธอเป็นใครมาจากไหน
ทีแรกคิดว่าว่าเธอคือลูกสาวแม่คิ้วขาวที่เดินมาคู่กันกับแม่คิ้วขาวในวันที่ 17 ตุลาคม 2566 แต่เมื่อมาดูอย่างละเอียดอีกที พบว่า ไม่ใช่แล้ว เพราะเมื่อนับจำนวนช้างที่ปรากฏตัวที่ทุ่งกวาง ในวันที่ 6 มิถุนายน 2567 นั้น เราจะตัดภูผากับ พรีเดเตอร์ ออกจะนับเฉพาะแม่พังกับลูกน้อย แม่ด้วน มีน้องเวหา เป็นสอง แม่ขนตายาว มีลูกพลายและลูกเกิดใหม่ รวมเป็นห้า แม่คิ้วขาว มีลูกสาวและลูกเกิดใหม่ รวมเป็นแปด แต่นับได้ 9 นั่นเพราะแม่หนูหูแหลมกับลูกแม่คิ้วขาวอีกตัวที่ตัวเล็กกว่าเธอ อยู่ด้วยกันนั่นเอง จึงนับได้ 9
ย้อนไปเมื่อ 11 ปีก่อนไม่พบเธอในโขลงแม่คิ้วขาวและแม่ด้วน อาจเป็นเพราะยังอยู่ในท้อง ทำให้เดาอายุเธอได้ประมาณ 8-10 ขวบ เธอเป็นพี่เลี้ยงให้ลูกแม่ขนตายาว ซึ่งอาจมีศักดิ์เป็นน้าหรือเป็นพี่สาวของเธอ จากหลักฐานย้อนหลังของแม่คิ้วขาวเมื่อปีที่แล้วถึงปัจจุบัน พบลูกช้างเดินตามและลูกเกิดใหม่ สองตัว แต่ถ้าแม่คิ้วขาวนั้นอายุ 40กว่า ๆ ซึ่งก็ยังอยู่ในวัยมีลูกได้อีก เธอก็สามารถมีลูกได้ไม่ต่ำกว่า 4 ตัว ยิ่งถ้ามีลูกตั้งแต่วัย 15 ก็อาจมีได้ 5 ตัวเลยก็ได้
นั่นหมายความว่า แม่ขนตายาว อาจเป็นลูกแม่คิ้วขาวอีกที และ แม่หนูหูแหลมก็อาจเป็นลูกแม่คิ้วขาว ลูกตัวถัดมาก็เป็นลูกสาวอีกหนึ่งนางที่พบเดินตามภูผา วันที่ 17 ตุลาคม 2566 และลูกน้อยหูแหว่งที่เพิ่งเกิดได้สามเดือน ที่บัดนี้แผลหายดีแล้วแต่ก็ทำให้ใบหูบิดผิดรูป
นี่เป็นพี่การคาดเดาเท่านั้น ความจริงอาจผิดแผกไปจากนี้ก็ได้
วันที่ 7 มิถุนายน 2567 แม่คิ้วขาวและแม่ด้วนพาโขลงมาที่สนามกอล์ฟ และพากันเดินลงเนิน เมื่อได้กลิ่นพี่ชมวิวลอยมา ในวันนี้ก็นับช้างได้ 9 ตัว รวมเป็น 10 กับภูผา ซึ่งเดินเข้าเดินออกจากโขลงตามประสาวัยรุ่นชอบหนีเที่ยว
เมื่อแม่ๆ ได้กลิ่นช้างตกมันจึงพากันเดินหนีโป่งลงมาที่ชายป่า การเดินลงเป็นทางลาดชันนิดหน่อย ทำให้เห็นภาพช้างเดินเหมือนช้างเจ็บขา เพราะช้างมีน้ำหนักมาก การเดินลงที่ลาดชัน ก็จะมีท่านเดินลักษณะแบบนี้ ซึ่งไม่มีการบาดเจ็บอะไรแต่อย่างใด แม้แต่พี่ชมวิว ก็เดินตามโขลงลงมาทางนี้เหมือนกัน ก็เดือนเหมือนท่าเจ็บขา และเดินช้ากว่าแม่พัง เพราะโตกว่าและน้ำหนักเยอะกว่า
ในคลิปเราจะเห็นขนาดตัวแม่หนูหูแหลมซึ่งยืนอยู่คู่กับแม่ขนตายาว ลูกน้อยแม่ขนตายาวนั้น เดินจากแม่ไปทดลองแง็บๆ นมพี่เลี้ยงพี่ชายหูแหลม ไม่มีน้ำนมหรอกเพราะยังเป็นสาวน้อย คงอยากจะลองดูหรือแกล้งพี่สาวให้จั๊กกะจี้เล่นก็เป็นได้ ส่วนเวหา นั้นอยู่กับลูกพลายแม่ขนตายาว คอยปลอบใจน้อง เมื่อแม่จำต้องอยู่รอพ่อพลายชมวิวเพื่อให้โขลงและเด็กๆ ปลอดภัย มุมขวาสุด คือแม่คิ้วขาว พร้อมลูกสาวและลูกเกิดใหม่ที่หูแหว่ง
ช้างน่าจะมีการสื่อสารเป็นภาษาของช้างคุยกันด้วยเสียงความถี่ต่ำที่ช้างได้ยิน แอดมินทองปน ก็ได้แต่มโนพากย์บทสนทนา เป็นภาษาช้างไปเรื่อย ก็เลยต้องเล่าเป็นนิทานเพราะเป็นเรื่องมโนเอาล้วนๆ ที่ว่ามีภาษาช้าง หรือช้างมีภาษาที่สื่อสารกันรู้เรื่องในวงช้างก็เพราะเมื่อแม่ด้วนไม่เดินตามโขลงเข้าป่า แต่เวหากลับตามพี่ ๆ เข้าไป โดยไม่งอแงจะอยู่กับแม่แต่อย่างใดเลย นั่นก็เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ใจอยู่ไม่น้อย ที่เวหา แสนทรัพย์ เข้าใจเหตุจำเป็นที่แม่ไม่ตามโขลงเข้าป่า ออกมารอพ่อพลายชมวิวเพียงลำพัง
ถ้าพูดถึงความโต แม่คิ้วขาวนั้นโตกว่าแม่ด้วน แต่ลูกแม่คิ้วขาวนั้นแค่สามเดือน จะรับอาสารับหน้าพี่ชมก็น่าจะไม่ได้ ลูกน้อยน่าจะงอแง แม่ขนตายาวยิ่งไม่ได้ ลูกน้อยเพิ่งจะเกิด และตัวเล็กสุด ลูกพลายแม่ขนตายาว จึงน่าจะเป็นตัวช่วยด้วยการเล่นกับน้องเวหา พาน้องไปเล่นตามประสาเด็ก ๆ
เมื่อพลายชมวิวจากไป เช้าวันที่ 8 มิถุนายน 2567 แม่ด้วนแม่คิ้วขาว ก็กลับมาลงโป่งที่เนินที่เดิม ภูผาก็มาพร้อมหน้ากันอีกครั้ง ส่วนภูหินหรือพรีเดเตอร์นั้น วัยหนุ่มโตกว่าภูผา ก็ออกเที่ยวลำพังอย่างที่เคยเป็น ช้างพลายมีการเดินทางที่เป็นวงกว้างกว่าโขลงช้างมาก
การที่เราได้เห็นภูหิน หรือพรีเดเตอร์วันนี้ ก็อาจจะอีกนานกว่าจะได้พบกันอีก เหมือนเช่นพลายหลายๆตัวที่หายหน้าไป เพราะไม่เดินมาใกล้ถนนให้เราเห็นนั่นเอง ขอบคุณที่ติดตามรับชมรับฟัง สวัสดีครับ
4 окт 2024