มรสุมเศรษฐกิจ หนี้ครัวเรือนท่วม ยอดปฏิเสธสินเชื่อพุ่ง 80% ยอดขายตกต่ำ วิกฤตอสังหาริมทรัพย์ไทย ปี67 

เป็นคำตอบที่ตรงที่สุด

Clever

จริง ส่วนมาเลดอกไม่แพงแต่ห้ามโปะ 5555 โอ้ย

จะออมยังไงกันล่ะครับ แค่หาให้พอกิน 3 มื้อยังยากแล้ว แค่ของใช้จำเป็นในบ้าน ชำรุด เสียหาย สักอย่าง กว่าจะหาซื้อใหม่มาทดแทนได้ต้องใช้เวลา

@@godarmy6468 อ่านให้จบนะครับ ถ้าขาดแรงบันดาลใจในการออมก็ไม่มีเงินออมครับ คิดบวกครับ เหล้า เบียร์ ของใช้สิ้นเปลือง มันไม่จำเป็นสำหรับชีวิตก็ลด หรือ เลิกซื้อไปครับ วางแผนครับ

เขาไม่เจ็บหรอกครับ

กลุ่มลูกค้าของเจ๊แกไงหละ 1-3 ล้าน

อสังหาจีนล้มไปแล้ว ติดหนี้ 30000 M$ ทั้งในและต่างประเทศ

@@macheteawesome5626 ผมหมายถึง GDP ครับรายได้ประชาชน เราอยากซื้อบ้านแต่แบงค์ไม่ปล่อยกู้ จีนอยากขายบ้านแต่ประชาชนไม่ซื้อครับ 👇 นโยบายทุกรัฐบาลไทยเน้นประชานิยมมากกว่าจะสอนเรื่องการออม คนไทยไม่เข้าใจเรื่องการลงทุน แต่ถูกสนับสนุนให้เกิดการกู้ โดยไม่ควบคุมพฤติกรรมของผู้กู้ ส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวม ประชาชนมีหนี้มีสิน ขาดการวางแผนชีวิตที่ดี รวมถึงไม่มีหน่วยงานไหนจะให้ความรู้เรื่องการออม การตั้งงบประมาณขาดดุล (deficit budget) คือ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะให้เศรษฐกิจขยายตัวออกไป ในกรณีนี้รัฐบาลอาจต้องชดเชย โดยใช้เงินคงคลังหรือเงินกู้ แต่ที่ผ่านมาของทุกรัฐบาลเป็นนโยบายระยะสั้น เน้นประชานิยม มุ่งสู่ผลงานของรัฐบาลเพียงอย่างเดียว มองเพียงผลดีของรัฐบาลในระยะสั้น แต่กลับไม่คำนึงถึงผลเสียของอนาคตของเศรษฐกิจประเทศโดยรวม กลับกลายเป็นดินพอกหางหมู กู้ง่าย เป็นหนี้สะสม ทั้งนี้ถ้าเศรษฐกิจหมุนเวียนจากการกู้ หรือ แจกในรูปแบบประชานิยม มันไม่ได้บ่งบอกถึง GDP ของประชาชนในประเทศที่ดี คนยุโรปบางประเทศเขากู้เงินเยอะกว่าคนไทย แต่เขามีหลักประกันทางด้านเงินออม เงินสะสม เงินประกันสังคม ประกันชีวิต ไม่ได้ถูกเก็บเป็นเงินออมอย่างเดียว แต่ถูกนำไปลงทุน ต่อยอด ได้ดอกเบี้ย ได้เงินปันผล ได้มูลค่าจากการออม เกษียณมาได้ทั้งเงินออม ดอกเบี้ย และเงินปันผล มันบาร์ลานกับเงินที่เขากู้ จึงไม่กระทบกับความเป็นอยู่ของคน และ เศรษฐกิจประเทศมากนัก ถ้าลดดอกเบี้ยแล้วมีการวางแผนการกู้เพื่อปลดภาระหนี้สิน ผมเห็นด้วย แต่ถ้าไม่ควบคุมพฤติกรรมของผู้กู้ และ ขาดการวางแผนหนี้ก็อาจจะถูกสะสมตลอดไป ในระยะยาวก็จะเกิดผลกระทบยาวต่อเนื่อง อีกประการหนึ่งในความคิดผม รัฐบาลไม่กล้าออกกฎหมายเรื่องการออมแบบครบวงจร เป็นเพราะมีการทุจริตคอรัปชั่นในทุกองกรณ์ ทำให้การตรวจสอบทุจริตคอรัปชั่นจะส่งผลต่อบุคคล ที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของนักการเมืองและข้าราชการ ขอยกตัวอย่างการออมของบุคคลทั่วไป หรือ ทำงานอิสระ หรือ ทำงานประจำ เก็บภาษีVatผมตอนซื้อสินค้าเพิ่มอีก3%-5%-10% ในรูปแบบการออม แล้วแต่กำลังความสามารถเพื่อการออมของแต่ละคน เอาเงิน3%หรือมากกว่าไปให้รัฐบาลกู้ หรือ ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่มีกำไร พลังงาน ไฟฟ้า ทางด่วน บราๆ ปันผลให้ประชาชนเป็นเงินออม และ ดอกเบี้ยได้ทั้งชีวิต ดีกว่าขายกองทุนวายุภักษ์ คนรวยมีแต่ได้ รัฐบาลไม่ต้องกู้เงินจากแหล่งอื่น เงินหมุนเวียนในประเทศ เชื่อว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยั่งยืน เป็นการกระตุ้นให้ประชาชนเกิดแรงบันดาลใจในการซื้อสินค้า เพราะประชาชนได้ประโยชน์จากการออมโดยตรงคืนมา และ ข่วยเป็นหลักประกันในกู้เงินหากจำเป็นของประชาชน

ลองหาข่าวเศรษฐกิจจีนอีกทีนะคะ

@@nattaveesook3713 มีข่าวสร้าง กับข่าวจริงครับ