รายการ สนามข่าว 96 วันอังคารที่ 1 ตุลาคม 2567 

นโยบายประชานิยม นโยบายแช่แข็งการกระต้นเศรษฐกิจระยะกลาง และ ระยะยาว กลุ่มรากหญ้า กลุ่มเปราะบาง 14.5 คน ได้ประโยชน์ เศรษฐกิจหมุนเวียนได้เพียงระยะสั้น ถ้ารัฐบาลไม่มีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาวที่ชัดเจน เท่ากับว่าการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคตมันเเทบจะมองไม่เห็นหรือ หยุดชะงัก หรือ เติบโตช้ามาก และ ผลที่ได้จากการลงทุนมันอาจจะไม่เกิดขึ้นเลย ประเทศก็ไม่เติบโตเท่าที่ควร ยกตัวอย่างบริษัทที่ไม่มีแผนการลงทุน ปล่อยให้มีการขับเคลื่อนไปตามสถานะกรรม ขณะที่บริษัทคู่แข่งมีการลงทุนพัฒนา Productivity ยอมกู้เงินเพื่อนำมาใช้ให้เกิดการกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้สินค้าได้คุณภาพที่ดี ราคาสามารถสู้คู่แข่งได้ในอนาคต ขณะที่ค่าแรงต้องขึ้นทุกปี บริษัทมีกำลังความสามารถจ่ายเงินเดือนให้พนักงานควบไปกับพัฒนาที่ร่วมกันระหว่างพนักงานและบริษัท เกิดความมั่นคง บริษัทนี้กับอยู่รอด เพราะเกิดการพัฒนาไปด้วยกัน ดังนั้นหากบริษัทไหนไม่มีแผนจะลงทุน ไม่พัฒนาศักยภาพของตนเอง ผลสุดท้ายไม่มีความสามารถในการจ่ายเงินเดือนและสวัสดิการให้กับลูกจ้าง ต้องหาเงินกู้เงินมาชดเชยโดยไม่เกิดประโยชน์อะไรสำหรับอนาคตของบริษัทและพนักงาน กลายเป็นหนี้สินลักษณะดินพอกหางหมู บทสรุปสุดท้ายเตรียมปิดโรงงานได้เลย เพราะภาระหนี้สินล้นมือจากการกู้ กลายเป็นฟองสบู่แตก ขาดการควบคุมค่าใช้จ่าย พนักงานต้องตกงาน บริษัทต้องล้มละลาย รัฐบาลไทยเกือบทุกรัฐบาลไม่เคยอธิบาย หรือ สอนเรื่องเศรษฐกิจและการออมให้กับประชาชน กับมุ่งเน้นเชิงนโยบายระยะสั้น เพื่อความอยู่รอดของรัฐบาล และ ผลประโยชน์ของพรรคการเมืองเป็นหลัก โดยดองหรือแช่แข็งผลประโยชน์ของประชาชนที่ไม่เข้าใจและขาดการสนับสนุนความรู้ด้านเศรษฐกิจและการออม ประชาชนมีค่าใช้จ่ายเกินกว่ารายได้ รัฐบาลก็กู้ หรือ เอาเงินภาษีประชาชนด้วยกันมาแจกโดยไม่มองอนาคตและการพัฒนาประเทศแบบยั่งยืน โดยที่นักการเมืองก็เอาภาษีประชาชนมาใช้แบบพร่ำเพรื่อ ข้าวอาหารฟรี ดูงานฟรี เดินทางฟรี บราๆ คอรรัปชั่นทำได้อิสระเสรี