Brand : Kawasaki
Model : W800 Cafe
Year : 2019
ราคาเริ่มต้น : 429,000 บาท
จุดเด่นของรถ
📌 เครื่องยนต์แบบ Vertical Twin ขนาด 773 cc. ที่ให้อารมณ์ในการขี่ที่แตกต่าง
📌 ตระกูล W เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 1966 และย้อนเรื่องราวไปได้ถึงแบรนด์ BSA และ Meguro
📌 ระบบ SOHC ที่ใช้เฟืองดอกจอก Bevel Gear ในการควบคุมกระเดื่องวาล์ว
📌 ระบบคลัชท์แบบ Assist & Slipper ที่ทำให้น้ำหนักในการบีบคลัชท์ลดลงแต่ส่งผ่านกำลังและป้องกันล้อล็อคได้ดีขึ้น
📌 สไตล์ Cafe Racer พร้อมแฮนด์ทรง Clubman จากโรงงานที่จัด Riding Position ให้ขี่ง่าย
📌 ระบบเบรค ABS ที่ให้ความมั่นใจในการหยุดรถ และไฟหน้าแบบ LED
ในอดีต Meguro เป็นแบรนด์มอเตอร์ไซค์ของประเทศญี่ปุ่นที่เริ่มผลิตรถมอเตอร์ไซค์มาตั้งแต่ยุคต้นๆ แต่ด้วยสภาวะขาดทุนในยุค 50’s ทำให้ Meguro ต้องผนวกเข้ากับ Kawasaki ในช่วงปี 1960 และกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของ Kawasaki ในที่สุด
ในช่วง 1950 Meguro ได้ร่วมมือกับ BSA และเริ่มต้นผลิตรถมอเตอร์ไซค์ที่พัฒนาขึ้นมาจากพื้นฐานของรถ BSA A7 ที่ได้มาในปี 1953 โดยแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆให้ดียิ่งขึ้นกว่าต้นฉบับจนถึงขนาดที่ Edward Turner นักออกแบบชาวอังกฤษที่ได้มาดูงานในประเทศญี่ปุ่นช่วงนั้นถึงกับเอ่ยขึ้นมาว่า “Too good to be true” ซึ่งก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ในประเทศยุโรปเริ่มมองว่า แบรนด์มอเตอร์ไซค์จากประเทศญี่ปุ่นคือคู่แข่ง หลังจากมองข้ามชาวเอเซียมาเป็นเวลานาน
หลังจากนั้น Meguro ก็ได้ผลิตมอเตอร์ไซค์ในตระกูล K ขึ้นโดยอาศัยแบบพิมพ์เขียวของ BSA A7 ในช่วงเริ่มต้นความร่วมมือกับ Kawasaki ในปี 1960 และถูกเข้าซื้อธุรกิจอย่างสมบูรณ์ในปี 1963 แต่เนื่องจากปัญหาระบบน้ำมันหล่อลื่นใน Meguro K ทำให้มีการพัฒนารถรุ่นถัดมาในชื่อ Kawasaki K2 ในปี 1965 และได้มีการเปิดตัวรถต้นแบบที่มีขนาดเครื่องยนต์ใหญ่ขึ้นเป็น 624 cc. ที่เรียกว่า Meguro X-650 ในปีเดียวกันภายในงาน Tokyo Motor Show
หลังจากนั้น Kawasaki W1 ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นและเข้าสู่สายการผลิตในปี 1966 นับว่าเป็นรถต้นตระกูล W Series ที่ใช้รูปแบบเครื่องยนต์ 2 สูบคู่ และพัฒนาขึ้นมาเป็น W2 ในปี 1968 จนมาถึง W3 ในปี 1973 และหยุดการผลิตรถในรหัส W ในปี 1974 อันเนื่องมาจากพละกำลังที่ด้อยกว่าเครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียงในยุค 70’s อย่างรถในตระกูล Z
จนมาถึงปี 1999 ที่ทาง Kawasaki ได้เปิดตัว W650 เป็นการนำรถในสไตล์ Retro Classic กลับมาสู่ตระกูล W อีกครั้งพร้อมกับเทคโนโลยี Bevel Gear หรือเฟืองดอกจอก สำหรับหมุนแคมเปิดปิดวาล์วอย่างที่เคยเห็นในรถ Ducati ในช่วงปี 1970s และหยุดการผลิตรถในโมเดล W650 ในปี 2007 อันเนื่องมาจากมาตรฐานค่ามลพิษที่สูงขึ้นในยุโรป
รถในตระกูล W ได้กลับมาอีกครั้งในปี 2010 กับโมเดล W800 ที่ขยายปริมาตรกระบอกสูบให้เป็น 773 cc. ระบายความร้อนด้วยอากาศ พร้อมระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด ทำให้ผ่านค่ามาตรฐานมลพิษที่เข้มข้นขึ้นทุกปี และอยู่ในสายการผลิตมาจนถึงปัจจุบัน
ในโมเดลปี 2019 ตระกูล W ได้ขยายออกมาเป็น W800, W250 และ W175 รถในสไตล์ Retro Classic ที่มีขนาดเครื่องยนต์ให้เลือกถึง 3 ไซซ์ และ W800 Cafe ก็เป็นรถในแบบ Cafe Racer ที่มีรูปทรงและให้ความรู้สึกในการขับขี่ได้อย่างครบถ้วนตามต้นฉบับรถจากประเทศอังกฤษในอดีต พร้อมติดตั้งระบบเบรค ABS ที่ทำให้หยุดรถได้มั่นใจยิ่งขึ้น และ Assist & Slipper Clutch ที่ช่วยให้น้ำหนักของคลัชท์ลดลง ป้องกันล้อหลังล็อคในการเชนเกียร์ลงต่ำ ความสูงเบาะที่ 790 มม. กับน้ำหนักตัวรถ 223 กก. ทำการควบคุมรถทำได้ง่าย เหมาะกับไซซ์เอเซียแบบเราๆ
ขอขอบคุณ Kawasaki Thailand โชว์รูมเพชรบุรีตัดใหม่ ที่เอื้อเฟื้อ W800 Cafe มาให้ทดสอบ สำหรับท่านใดที่สนใจอยากลองขี่หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อกับโชว์รูม Kawasaki เพชรบุรีตัดใหม่ ได้ที่เบอร์ 02-033-1858-9 หรือ 02-018-4999 หรือ www.kawasaki.co.th/en/home
#HDPlayground #HDP #HighwayDragsterPlayground #HDPLive #LifeAndKustom #TwoWheels #Motorcycle #Riding #Bangkok #Thailand #CafeRacer #kawasaki #kawasakithailand #W800Cafe #ParallelTwin #Coffee
6 июл 2019