วิเคราะห์หนังไซไฟ: อินเตอร์สเตลลาร์ (Interstellar) ท้ายเรื่อง - พวกเขา (They) เป็นใคร ใน ไฮเปอร์สเปซ 

ถูกต้องครับ ผมเชื่อว่ามีจริงในชีวิตเราครับ เพราะถ้ากฏสัมพันธภาพมีจริง คนที่อยู่หลายมิติ มีจริงแน่นอน เชื่อว่าถ้าไอสไตไม่ตายก่อน โลกเราคงได้เห็นรถที่บินได้ และเห็นอะไรอีกมากมายจากแรงโน้มถ่วง

ขนาดพระพุทธเจ้านั่งสมาธิ จนถึงขั้นตรัสรู้ไปแล้ว ท่านยังบอกเองกับปากว่าเลยว่าไม่มีดวงจิตกายทิพย์ใดๆในแบบที่คุณเรียก ถ้าคุณนับถือพราหมณ์ผมก็ไม่ได้ดูหมิ่นความเชื่อใดๆของคุณ ผมก็แค่พูดตามผู้ชายคนหนึ่งที่พิสูจน์มาแล้วตั้งหลายปีว่าไม่มีดวงจิต

@@AliceAlive คุณได้ยินจากปากพระพุทธเจ้าเลยเหรอคับ?? คุณรู้ไหมว่ามีคนกลุ่มนึงพยายามเขียนขึ้นปรับไหม่เรื่อยๆตามกระแสวิทยาศาสตร์ เพื่อไม่ให้ศาสนาเสื่อมเขาต้องปรับปรุ่งขึ้นไหม่ไปตามยุค

@@ultramanx2036 จริง ใช่มันก็แค่เรื่องเล่าต่อกันมา 2,000 กว่าปี

ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ ถ้ามันมีแปลว่าผีมีจริง หึ่ย!!!!! จะเป็นผีมาตุ๋ยผู้หญิง

ถ้ายอนมาได้ก็ได้เห็นละ

ใช่ความคิดเดียวกับผมเลย +1

@@กุหลาบดอกนี้ดอกเดียว อ่านไม่หมดชัวร์ครับ

อ่า มีคนคิดเหมือนเราด้วย แต่เราแยกเป็น 50-50 ระหว่างแสดงตัวไม่ได้เพราะเค้าไม่มีตัวตนเป็นรูปธรรมแล้ว กับ เหตุผลของคุณ

พวกเขาสำหรับผม (เอาตามในหนัง) ผมตีความได้ว่าคือพระเจ้าครับ เเต่ผมไม่ใช่คนที่เชื่อในพระเจ้านะ

เหมือนเวลาจะไม่ได้ทำงานอย่างงั้น ต่อให้ they จะเป็นตัวเราในอนาคต ต่อให้ช่วยโลกไม่สำเร็จ เหตุการณ์​นี้ก็จะเป็นแค่อีก parallel นึงเท่านั้น ไม่ส่งผลอะไรกับ they

​@@kwakawaจริงของคุณนะ มิติที่4เวลาเดินเป็นเส้นตรง ทุกๆครั้งที่เลือกจะเกิดเป็นอีก1แยก แต่ถ้าเรามาจากถนนเส้นแยกที่พัฒนาไวกว่า แล้วมาบอกคนเส้นตรงว่าไปทางนี้นะ ผมว่าเราสามารถเลือกเส้นเวลาที่มันจะเกิดแล้วสร้างใหม่ได้ด้วยซ้ำไป ในหนังผมว่ามันไม่ได้ผ่านไปแค่ร้อยกว่าปี แต่มันอาจจะผ่านไปเป็น1000ๆปีแล้วก็ได้แต่มีtheyที่ว่าดึงเรากลับไปไว้ในเวลาที่เหมาะสม

​@@ปัญญาอ่อน-ฅ2ล ก็คือเวลาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่มันจะเป็นการสร้างทามไลน์ ใหม่ขึ้นมา ใช่ไหมครับ

@@SaSatudy ใช่คับ สิ่งที่เกิดแล้วจะแก่ต่อไป การย้อนไปทำให้สิ่งที่ไม่เกิด เกิดขึ้นได้ก็เหมือนกับเขียนหนังสือเล่มใหม่โดยใช้เนิื้อเรื่องเดิม การที่เส้นเวลาไม่สามารถจะลบทิ้งไปได้เฉยๆ แปลว่าเราจะตัดแปะเหตุการณ์​เดิมด้วยเหตุการณ์​ใหม่ไม่ได้ แต่ เล่มใหม่จะบันทึกเรื่อง​เก่าด้วยเหตุการใหม่แทน แปลว่าถ้าสร้างเหตุการณ์ใหม่ขึ้นมา โลกในมิติเดิมจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่โลกใบมิติใหม่จะมีเส้นเวลาที่เปลี่ยนไปตามที่เราไปยุ่งกับมัน ยิ่งยุ่งกับมันมาก ยิ่งสร้างทามไลน์ใหม่ที่แปลกกว่าที่มันควรจะเป็น ถ้าพระเอกไม่ผลักชั้นหนังสือ หนังสือจะไม่ตก ลูกนางเอกจะไม่ค้นพบมิติที่4 อันนี้คือการที่พระเอกยุ่งกับเส้นเวลาในมิติตัวเองจนทำให้เกิดเป็นจักรวาลใหม่ที่พระเอกได้สร้างขึ้นเองจากการส่งข้อมูลให้ลูกสาว เส้นเวลามันเข้าใจยาก เพราะมันไปพร้อมเรื่อยๆ ใครซักคนที่ทำให้เวลาเดินหน้าถอยหลังได้คนนั้นต้องไม่มีตัวตน ต่อให้พระเอกออกมาจากหลุมดำไม่ได้ โลกของพระเอกก็จะเป็นไปตามที่พระเอกกำหนดไว้อยู่แล้ว ลูกสาวเขาก็จะค้นพบมิติที่4ได้ต่อไปเพราะเขาได้ยุ่งกับเส้นเวลาไปแล้ว

แต่ they เป็นพหูพจน์นะครับ

@@tep222 ในคริสต์ศาสนา มีปรากฏเป็นสามนะ แต่ก็คือองค์เดียวกันนั่นแหละ

จริง พีททองเจือเคยเห็นมนุษย์ต่างดาว เป็นยาน เล่าว่าเห็นที่วัดบนเขา คนที่จิตใจสงบนิ่งมีสมาธิเท่านั้นที่จะสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวได้ และมนุษย์ต่างดาวใช้จิตเคลื่อนยานเคลื่อนย้ายไปมาไม่ได้ใช้มือเท้าขับเคลื่อน เรื่องพวกนี้ พุทธศาสนานั้นเกี่ยวข้องอยู่

5555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555

ขำ

อย่าลืมนะครับว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้เป็นคนเขียน และเหล่าพระสงฆ์ก็มีเป็นพราหมณ์มาก่อน

wow คุณคิดถึงจุดนี้ได้ยังไงเนี่ย นี่ยังงงๆกับสมการที่นางเอกพยายามแก้อยู่ว่ามันคือสมการอะไรน่ะครับ555

ในเรื่อง พ่อของเมิฟส่งว่าข้อความอะไรมาให้เมิฟตอนอยู่มิติที่5ครับ

ลึกซึ้ง

ในหนังไม่ได้สร้างอาณานิคมตรงนั้น แต่กำลังเดินทางไปสร้างอาณานิคมไม่ใช่หรอครับ ที่บอกว่าอยู่ในวงโคจรจองดาวเสาร์ เพราะรูหนอนอยู่ตรงนั้น อาจกำลังเดินทางไปเข้ารูหนอนเพื่อวาร์ปไปอีก galaxy อย่างที่เมิร์ฟพูดตอนจบว่า ดร.แบรนท์กำลังสร้างอาณานิคมในที่ๆกำลังจะเป็น ''บ้าน'' ของเรา

ในบทหนัง นางเอกเค้าพูดกับดร.เองว่า เราไม่เคยเปลี่ยนค่าสมการเกี่ยวกับเวลาเลยนี่ ในสมการยังไงก็มีเวลาอยู่ด้วยแน่นอน ดูตรงกระดานมีค่าt อยู่ ตรงวงแหวนดาวเสาร์ไม่ใช่อาณานิคม กำลังจะย้ายไปที่แอน ฮารท์อเวย์อยู่ต่างหาก

อเวรา โหนฺตุ น่าจะแปลว่า เหล่าสัตว์ทั้งหลาย จงเป็นผู้ไม่มีเวร. เวรํ คือ เวร , เวรานิ คือ เวรทั้งหลาย, เวรา คือ ผู้เป็นเวรทั้งหลาย หรือ พวกเจ้ากรรมนายเวร, แต่ เวลา คือ เวลา ... ส่วน โหติ,โหนฺติ มีใช้ แต่ใน ประโยคนี้ ต้องเป็น โหนฺตุ... มีเจตนาที่ดี ถึงบอกมานะ

เห็นด้วยครับ ผกก.มือดีมักจะเก็บงานชิ้นเอกไว้บนหิ้ง ถ้าจะreprise ก็มักจะทำเรื่องอื่นแบบว่ามีบางแง่มุมเกี่ยวพันหนังเรื่องนั้นของตัวเอง

หนังส่วนใหญ่​ที่ดีจริงๆจะไม่ค่อยมีภาคต่อ(ยกเว้นที่มีในหนังสืออ่ะนะ)​ แต่เขาจะสร้างและเขียนบทเรื่องใหม่แทนโดยใช้ผู้กำกับ, ผู้เขียนบท​คนเดิม

จริงครับ แค่คิดว่าตัวเองต้องตายก่อนจะได้รู้เรื่องทุกอย่างของจักรวาลก็เศร้าแล้ว

จริงๆแล้วในหลุมดำน่าจะเวลาเหมือนจริงหรือเปล่าครับ แต่ที่เวลาตรงกันน่าจะแค่ตรงขอบฟ้าเหตุการณ์ ทั้งสองผ่าน 50 ด้วยกันน่าจะแค่นั้น

ซาบซึ้ง เข้าถึงสุดๆ

+1 ครับ

ธรรมชาติ ไงครับผู้สร้าง จักรวาลก็คือส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ไม่มีสิ่งเหนือธรรมชาติ that's it

อันที่สองเป็นไปได้ แต่อยู่ในมิติสูงกว่า

❤❤❤❤

จิตเดิมแท้

they คือเรานี้เเละครับหนังพยามจะสื่อว่ามิตินี้เวลามันพันกันหมดสามารถสื่อสารผ่านมิตินี้ได้โดยใช้เเรงโน้มถ่วงสรุปเเล้วไม่มีเอเลี่ยนสปีชีอื่นทั้งสิ้นเเต่เป็นมนุษย์ที่อยู่ในต่างช่วงเวลาพยามสื่อสารกันเหมือนกับว่าโกงเวลานี้เเละครับย้อนเวลาไปบอกตัวเองในอดีต

อ่านมาจากพันทิป

@@iceman1919 555 cr.

กว้าง ยาว ลึก เวลา ใช้ไหมครับ

อรายธรรม tye 5ครับ

น่าจะเกี่ยวกับเรื่องเวลาสัมพัทธ์ ครับแต่เรื่องที่ว่า ทำไม่ร่างกายไม่แก่ลงเลย ทั้งๆที่กลับมาบนโลกเหมือนเวลาผ่านไป7ปีนั้น ไม่รู้เหมือนกันครับ เพราะยังไม่มีการพิสูจน์ เป็นแค่จินตนาการและ ทฤษฎีที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ครับ ต้องรอผู้รู้มาตอบ

สิ่งที่ท่านสงสัยเรื่องเวลา ว่าทำไมมันถึงต่างกันได้ เวลาไม่คงที่หรือ ท่านต้องเรียนรู้ในเรื่องนี้ครับ เรื่องกาลอวกาศ หรือ Space timeครับ เหตุที่เวลาไม่เท่ากัน เพราะทฤษฎี สัมพัทภาพทั่วไป และทฤษฎี สัมพัทภาพพิเศษ ของไฮสไตย์ ครับ จากสูตรสมการอันโด่งดัง E เท่ากับ mc ยกกำลัง 2 ถ้าท่านเข้าใจสูตรนี้ ท่านจะหมดคำถาม เรื่องเวลาที่เดินไม่เท่ากัน ในบางแหล่ง ในเอกภพ หรืออาจเกิดขึ้นได้โดยทั่วไป ในเอกภพได้ทุกที่ ตามเงื่อนไขที่เรามนุษย์ จะสร้างการบิดเบี้ยว กาลอวกาศ (Space time)จนเกิดเป็น ที่ที่ไม่มีเวลาหรือเวลาเดินช้าลง จากความเร็วแสง และหรือ เงื่อนไขอื่นๆ ที่เราทำได้ถ้าเรามีพลังงานเพียงพอ พลังงานที่เราต้องมีนั้นต้องเทียบเท่าหลุมดำมวลยิ่งยวด หรือเงื่อนไขที่ธรรมชาติสร้างขึ้นเอง ก็ได้ เมื่อSpace time มันเจอผลกระทบ จากแรงโน้มถ่วงที่หลุมดำสร้างขึ้น หรือ จากแรงพื้นฐาน 4 แรง ดังนี้คือ 1 แรงนิวเคลียร์แบบอ่อน 2แรงนิวเคลียร์แบบเข้ม 3แรงโน้มถ่วง 4 แรงแม่เหล็กไฟฟ้า และเงื่อนไขความเร็วที่เท่าแสง ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ ....เวลา..... ในความหมายของคนทั่วไปหรือที่ท่านเข้าใจมันสามารถ เดินช้าลงได้ จากผลกระทบดังกล่าวครับ แต่ในความหมายของนักวิทย์ ปัจจัยทั้งหมดที่ผมได้กล่าวใว้นั้น ไม่ใช่แค่ทำให้เวลาที่ช้าลง แต่ทั้งเวลาและพื้นที่ มันคือSpace time มันถูกบิดงอ จนฉีกหรือกระทำการในรูปทรงอื่นๆ ในพื้นที่ใดๆที่ได้รับผลกระทบ เกิดเป็นหลุมลึกลงไป เหมือนที่หลุมดำทำจาก ค่าแรงโน้มถ่วงที่หลุมดำสร้างขึ้น และแรงหมุนวนที่เกินค่าความเร็วแสง ของหลุมดำ หรือ เกิดเป็นรูหนอน เหมือนหลุมดำมวลยิ่งยวดทำ ตามที่เราเข้าใจมาตลอดว่า ภายในใจกลางรูหนอน หรือใจกลางหลุมดำ นั้นคือที่ที่ไม่มีเวลา หรือในค่าความเร็วแสง หรือสูงกว่าแสง ใครก็ตามถ้าเดินทางได้ใกล้เคียงความเร็วแสง เมื่อเทียบเวลากันกับคนที่ไม่เดินทางในความเร็วแบบนั้น เวลาจะไม่เท่ากันครับ ความเสื่อมของเซลสิ่งมีชีวิตจะต่างกันชัดเจน คนที่ไปในที่ไม่มีเวลาหรือ ในค่าความเร็วแสง เซลจะไม่เสื่อมลงเลยเพราะเวลาของคนเดินทางในค่าความเร็วแสงนั้น มันเดินช้ามาก แต่คนที่ไม่ได้เดินทางในค่าความเร็วแสง หรือไม่ได้ไปในที่ที่ไม่มีเวลา มันจะเกิดความชราอย่างมาก ถ้าเอาคนทั้ง2คนมาเทียบกัน และในความจริงที่เราทราบ ปัจจุบันคือ มีสิ่งเดียวที่ทำได้ที่สามารถทำให้เวลาเดินช้าลง หรือบิดงอ Space timeได้นั้นคือ หลุมดำ และรูหนอน ท่านต้องเข้าใจ เวลา กับ พื้นที่ ก่อนนะครับ มนุษย์ทั่วไปจะเข้าใจแค่ เวลาก็คือเวลา พื้นที่ก็คือพื้นที่ 2 สิ่งนี้จะรวมกันไม่ได้ ท่านจะงง และไม่เข้าใจ แต่ไฮสไตย์ พิสูจย์แล้วว่า เวลากับพื้นที่คือสิ่งเดียวกัน แยกกันไม่ออก และให้นิยามสิ่งนั้นว่า Space time ครับ ท่านต้องไปหาอ่านเรื่องนี้ครับ แล้วท่านจะเข้าใจเองว่าทำไม เวลาถึงเดินไม่เท่ากันได้ ตามในหนัง อินเตอร์สเตล์ล่า ครับ

ผมจะสรุปให้สั้นๆครับ พื้นที่อวกาศและเวลา มันคือสิ่งเดียวกัน เมื่อมีมวลมหาศาลเช่นหลุมดำอยู่ในพื้นที่นั้น ก็จะทำให้อวกาศยุบตัวลงบิดโค้งยืดหด เวลาก็จะยืดโค้งงอไปด้วย ผลลัพธ์คือพื้นที่ในแต่ละจุดของจักรวาลมันไม่เรียบ เวลาก็เดินเร็วช้าต่างกัน

เราอ่านหนังสือ..นาซ่าก็พาเธอกลับมาไม่ได้😅😅😅

คิดเหมือนกันเลย

ใช่เลย

1 อนาคต กับการเดินทางย้อนเวลามันคนเรื่องกันนะครับ เอาความเชื่อของผมแล้วกันนะ ผมเชื่อว่า บางทีการย้อนเวลามันทำได้แล้วก็ได้ในอนาคต ที่ท่านคิด ในอีกหมื่นๆๆปีข้างหน้าตามที่ท่านคิดของท่าน แค่เพียงเราที่อยู่ในเวลานี้ ที่เราคิดว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยไม่มีใครเดินทางมาเลย ในเวลาที่เราอยู่นี้ แต่ความจริงเราถูกจัดการจาก คนในอนาคตมาหลายๆครั้งเป็นล้านๆครั้ง แล้วก็ได้ มีการทดลองมากมายแล้วก็ได้ จนสุดท้ายเขาคนในอนาคต อาจจะคิดว่าเสียเวลาเปล่าที่จะย้อนเวลาไปทำอะไรในอดีต ทำการย้อนเวลามาหลายล้านครั้งแล้ว ผลการทดลองในการย้อนเวลาเพื่อไปในอดีต ผลลัพที่ออกมาอาจไม่รื่นรมณ์นัก ไม่ได้เป็นไปอย่างที่ คนในอนาคตคิด ก็เป็นได้ ครับ ตามทฤษฎี Butterfiy Effect มันอาจยุ่งเหยิง มั่วซั่วหนักไปกว่าเดิม ที่คนในอนาคตทำการย้อนเวลาเพื่อไปแก้ไขหรือเปลี่ยนอดีต หรือทฤษฎี Grandfather Paradox เพื่อให้มีผลต่ออนาคต จนสุดท้ายอาจจะแก้ไขความยุ่งเหยิงนั้นมาหลายล้านปี ในเวลาของคนในอนาคต แต่ได้ผลสำเร็จจากการที่มีความยุ่งเหยิงมากมาย แต่สรุปทำได้แค่ รีเซ็ต ให้เวลาในอดีต กลับไปมันเหมือนเดิม ให้เวลาอดีตเดินไปตามอดีตที่มันเป็น หรือให้เวลาของเราปัจจุบันนี้ ให้เดินไปแบบเดิมๆ ไม่ไปเปลี่ยนอะไร ให้เราแค่ตั้งคำถาม และสงสัย เท่านั้นพอ เพราะคนในอนาคตอาจจะพิสูจย์แล้วว่าการย้อนเวลาไม่เกิดประโยนช์อะไรเลย มีแต่โทษตามทฤษฎี หลายๆทฤษฎี ได้ห้ามใว้ มันอาจเป็นจริงตามสิ่งเหล่านั้น การย้อนเวลาส่งผลเสียหายมากกว่า ครับ....... ทานอส (Thanos)ก็เลยต้องดีดนิ้วงัยครับ......555555

2 สรรพสิ่งในเอกภพ(นิยาม เอกภพกับจักวาลต่างกันนะครับ เอกภพ คือที่ที่เราอาศัย ทั้งหมดที่เรามี เราเรียกว่าเอกภพ หลายๆเอกภพที่อื่นๆ ที่เราไม่รู้ แต่เราคาดการณ์ว่ามี หลายๆเอกภพ รวมกันเรียกว่า พหุภพ พหุภพหลายๆที่รวมกัน เป็น จักรวาล) สรุปว่าในเอกภพที่เราอาศัยอยู่นี้ เวลาเริ่มต้นที่บิ้กแบ้งครับ ตามทฤษฎีที่เราเชื่อกัน กำเนิดเอกภพบิ้กแบ้ง เอกภพของเรา เราคิดสูตรทางคณิตศาตร์ ที่เราจะพอคิดได้ อธิบาย ใว้ว่า เวลา กับ พื้นที่ มันรวมกันเป็นเนื้อเดียวกัน ตามทฤษฎีสัมพัทธภาพ ของ ไฮสไตยล์ กับกาลอวกาล Space timeครับ นั้นหมายความว่า เวลามันครอบคลุมทั้งหมด ในเอกภพนี้ไปตั้งแต่ บิ้กแบ้งแล้วครับ แต่จะเรียกกว่าเวลาอย่างเดียวไม่ได้ ให้เรียกว่า Space time มันครอบคลุมเอกภพนี้ ไปตั้งแต่เริ่มกำเนิดเอกภพแล้วครับ ส่วนมันจะครอบคลุมทั้งจักวาลไหม อันนี้ไม่แน่ครับ ที่อื่นๆ เอกภพอื่นๆ อาจไม่มีเวลา หรือเวลาเป็นสิ่งอื่นๆก็ได้ ที่เราไม่รู้จัก หรือSpace time อาจเป็นสิ่งอื่นๆ ที่เราไม่รู้จัก ครับ

3 ... เวลา...ไม่มีทิศทางครับ มันจะเดินผ่านไปแบบไหนอย่างไร มนุษย์คิดเอาเอง เข้าใจเอาเองทั้งนั้น ซึ่งไม่ได้ผิดอะไรที่ท่านจะคิดว่า...เวลา...จะเดินไปแบบไหน มันก็ไม่ได้สำคัญมากนัก ...เวลา...ที่มนุษย์ส่วนใหญ่เข้าใจ ที่จริงมันไม่มีตัวตนนะครับ แค่มนุษย์กำหนดมันขึ้นมา เพื่อกฎทางฟิกสิก ในการสร้างสิ่งต่างๆ กำหนดสิ่งต่างๆบนโลกให้ มนุษย์เข้าใจตรงกันทั่วโลก และดำเนินชีวิต ไปตามครรลองเท่านั้น ไม่ได้แบ่ง...เวลา...แบบที่ท่านคิด ว่า...เวลา...ต้องเดินจากอนาคตมาอดีต ...เวลา....มันไม่ได้ทำแบบนั้น ท่านคิดเอง จากมโนสำนึกของมนุษย์เท่านั้นเอง ธรรมชาติรอบตัวมนุษย์ สิงแวดล้อมบนโลก การเจริญเติบโตของเซลที่เริ่มต้นกำเนิดบนโลก และการเสื่อมของเซลสิ่งมีชีวิต บนโลกใบนี้ มันเป็นไปตามวัฏจักรวงจร บนดาวดวงนี้ที่กำหนดชีวิต ทุกสิ่งบนดวงดาวที่ชื่อว่าโลก ให้ได้เห็นความเป็นไปของสังคมต่างๆทั้งพืชและสัตว์แมลง บนดาวโลกและสิ่งแวดล้อมที่เราอยู่ ...เวลา...จึงเป็นแค่สิ่งสมมุติ แต่สิ่งนี้ที่เราเรียกว่า ...เวลา...มันมีผลต่อเซลสิ่งมีชีวิตบนดาวดวงนี้เท่านั้น เราอนุมานสิ่งที่เรียกว่าเวลา ใช้กับทุกสิ่งในเอกภพครับ เพื่อเราจะเข้าใจเอกภพได้ง่าย แต่ถ้าท่านจะแบ่งและเข้าใจ...เวลา... ในแบบที่ท่านถาม ก็ไม่เป็นไร ก็เข้าใจไปตามนั้น ก็ไม่ผิดครับ แต่พึงสังเกตุว่า ...เวลา...ที่ท่านเข้าใจ ที่มันเดินในแบบที่ท่านคิดใว้...เวลา...อันนั้นมันไม่มีตัวตนนะครับ และการกำหนดค่าอัตตราส่วนต่างๆ ตามตำราเรียน เราแค่กำหนด...เวลา...ขึ้นมาเพื่อมาวัดค่าการคำนวณต่างๆเทียบกับนาฬิกา เท่านั้น ไม่ใช่...เวลา... และการโคจรของดวงดาวในอวกาศ เรากำหนด...เวลา... เพื่อให้มนุษย์เข้าใจง่ายขึ้นเท่านั้นเอง Space time ทีผมพยามอธิบายมาจากข้อ 1 และ 2 และทฤษฎีต่างๆที่ผมยกมาอ้าง มันก็คือความพยามยามที่จะอธิบาย เอกภพ ที่เราอาศัย ของมนุษย์โลกเท่านั้น ไม่ได้หมายถึงว่าจริงไปทั้งหมด เราแค่อธิบายให้เราเข้าใจกันเองก็เท่านั้นครับ ความจริงในเอกภพ หรือจักรวาล ไม่มีใครทราบอย่างแท้จริงหรอกครับ เรามนุษย์แค่พยายามจะเข้าใจเอกภพ หรือจักรวาลมัน ก็เท่านั้นเอง ครับ แต่ไม่ใช่มนุษย์ทุกคนจะตามทันต่อการอธิบายเอกภพ จักรวาล ตามทฤษฎีที่คิดค้นขึ้นมาเป็นตำราเรียนหรอกนะครับ การอธิบายแบบง่ายๆให้คนทั่วโลกเข้าใจ แต่สูตรฟิกสิก ที่เขียนออกมาเพื่ออธิบายสิ่งเหล่านั้น สูตร ยาวเป็นหางว่าว ผมก็ไม่เข้าใจมันหรอกครับ ไอคิวไม่ถึงเช่นกัน555555

@@armsa369 ขอบคุณ​มาก​ครับ​ แนวคิดที่คุณอธิบาย​มาสามารถ​ต่อยอดออกไปได้อีกหลายทิศทาง​เลย

เวลาเพิ่งเริ่มเดินเมื่อเกิดบิ๊ก​แบงก์​นี่เอง ก่อนจะมีบิ๊ก​แบงก์​ก็ไม่มีเวลา

mmmkm

ใช้แล้ว

มันคือ การพัวพันเชิงควอนตัม ครับ ประมาณว่า แบ่ง อนุภาคเป็นสอง แล้วแยกกันอยู่ ถ้าฝั่งหนึ่งมีการเปลี่ยนแปลง อีกฝั่งก็จะปฏิกิริยา โดยทันที คำว่าทันทีโดยไม่สนใจระยะทางนี่เอง ที่ทำให้ไอน์สไตน์เถียงหัวชนฝา เพราะไม่เชื่อว่าจะมีอะไรเร็วกว่าแสง ย้อนกลับไปตอนพระเอกกำลังจะเข้าไปในขอบฟ้าเหตุการ เวลาของพระเอกเหมือนจะแค่แป็ปเดียว แต่ถ้ามีคนที่อยู่ข้างนอกส่องกล้องมาดู ก็จะพบว่าพระเอกจะเคลื่อนที่เข้าสู่หลุมดำช้าลงเรื่อยๆ ตามทฤษฎีสัมพัทธภาพ จนแทบไม่ขยับ ตอนนี้ข้างนอกก็ผ่านไปหลายหมื่นปี พระเอกก็จะค่อยๆจางหายไปเนื่องจากแสงไม่สามารถเดินทางออกมาได้ แต่ในมุมมองพระเอกเวลาผ่านไปแค่แปปเดียว และนี่แหละคือสิ่งที่ทำให้ไอน์สไตน์ไม่ยอมรับการพัวพันเชิงควอนตัม เพราะว่ามันสามารถ ส่งข้อมูลย้อนเวลาได้ งงไหม สรุปเลย 1 พระเอกเข้าไกล้หลุมดำ เวลาภายนอกผ่านไปหลายหมื่นปี 2 เวลาพระเอกผ่านไปแปปเดียว จนเข้าไปในมิติหลุมดำ 3 พระเอกส่งสัญญาณการพัวพันเชิงควอนตัม ไปถึงลูกสาวในอดีตหลายหมื่นปี 4 เรื่อง นอกเหนือจากนี้ เป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้น มีหลายเหตุการณ์ไม่สมเหตุสมผล เช่นส่งความโดยใช้ความโน้มถ่วง คือความโน้มถ่วงมันก็ต้องใช้เวลาในการเดินทาง ง่ายๆเลย มันคือหนังอย่าคิดมาก ดูเอาสนุกพอ ว่าพระเอก เสียสละชีวิต เดินทางไปกู้โลก

@@zeronovels ขอบคุณสาระความรู้มากครับ หัวข้อนี้เคยอ่านเจอแต่จำได้เลือนลางละ

หากวันพระพุทธเจ้าไม่ใด้บวช จะเกิดอะไรขึ้น ลองคิดดู ไปดูยูทูปกันบ้างมีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง โลกนี้เชื่อมต่อกันแล้ว อดีตปัจจุบัน อนาคต

คิดว่าน่าจะอ้างอิงถึงทฎษฏีกรวยแห่งเหตุการณ์​/ทฎษฏีโลกคู่ขนาน​อาจมีโลกคู่ขนานเกิดขึ้นตลอดเยอะแยะมากมาย(เรียกว่าแทบจะทุกหน่วยเวลาที่เล็กที่สุด) อาจจะมีมิติใดมิติหนึ่งที่รอดจากภัยพิบัติ​โลกครั้งนั้น และอยู่ยาวๆไปจนเป็นสิ่งมีชีวิตทรงภูมิในมิติที่ 5 และพวกเขาก็สร้างรูหนอนได้และเลือกหาคน(ที่พระเอกบอกว่า"พวกเขาเลือกเมอร์ฟ​ ลูกของพระเอก)​ในมิตินี้ให้สามารถแก้สมการที่หายไปอีกครึ่งนึง​ เพื่อให้คนรุ่นหลังอพยพไปดาวใหม่ได้

พอดีเบื่อไม่ได้อ่านตอนหลังๆ 😑🤐😝 .

ในอนาคตเราจะอยู่เหนือกาลเวลาและอวกาศหรอ

@@chennk600ckmk3 มิติที่5คือรูปแบบของสิ่งมีชีวิตที่มีระดับพลังงานอีกแบบนึงครับ เช่นพวกผี วิญญาณ เทวดา อยู่มิติที่4 ไร้สังขาร สังคมมิติที่5คือสังคมที่ระดับพลังงานละเอียดสูง แต่มีกายละเอียดรองรับ เหมือนมนุษย์ต่างดาวบางสายพันธุ์ มิติที่6ก็พวก เทพ พรหม มีแต่จิต มีแต่แสง

@@Mike.kronos นั่นมิติภพภูมิ ไม่ใช่ลำดับชั้นสตริง

@@chennk600ckmk3 ลองศึกษาดูครับ

@@Mike.kronos มิติที่โดนกล่าวถึงคือสตริงนะ

มีอยู่ช่วงนั้นเรารุ้สึกเหนื่อยท้อ.อยากกลับบ้าน.ชอบมองท้องฟ้ากลางคืน😊

ไม่ว่าจะทำ หรือ ไม่ทำ ยังไงสิ่งนั้นก็เกิดขึ้นแล้ว ประมาณนี้ไหมครับ

แสงไม่สามารถบิดกาลเวลาได้ครับ เพราะแสงมีแค่ความเร็ว และมวลก็มีไม่มากครับ แต่ถ้าเป็นดาวเคราะห์ขนาดใหญ่มากๆหรือมนุษย์เราสร้างสิ่งที่มีความยาวเป็นอนันต์ สามารถบิดกาลเวลาได้ครับ อันนี้มีความเป็นไปได้ครับ

เอ้า หนังก็อ้างอิงจากวิทยาศาสตร์ บวกกับ ทฤษฎี เกี่ยวกับอวกาศ นักวิทยาศาฃสตร์ ก็มีส่วนเห็นกับหนังเรื่องนี้ มันไม่ใช่วิทยาศาสตร์ตรงไหน ครับ ? เกี่ยวกับ ศิลปะ เหรอ?

ไม่สามารถควบคุมเวลาได้ แต่จะลืมเรื่องเวลาไปเลย จิตวิญญาณอันทรงภูมิปัญญา ที่ถูกยกระดับตนไปอยู่มิติ 5 คือ อดีต ปัจจุบัน อนาคต เราจะมองสิ่งนี้ออกหมดพร้อมกันในเวลาเดียวกันค่ะ และสามารถเดินทางผ่านจิต ทุกคนสามารถเปิดได้ด้วยจิตวิญญาณ ไม่ใช่รอให้ใครมาเปิด และหลังจากยกระดับจิตสูงกว่า 5 dimension ก็ 6-7-8-9 เรื่อยๆค่ะ

กิเลสครับ

0+0 ไม่มีวันได้1