ศิริกัญญา ชำแหละงบประมาณ-หนี้สาธารณะ ทางตัน 1 หมื่นดิจิทัล ทนทวนใหม่ยังทัน | THE STANDARD NOW (HL) 

ชื่อคลิปด้านบนต้องเปลี่ยนเป็น ทบทวน นะครับ ไม่ใช่ ทนทวน

​@@TokitoXTอิอิ

ระดับฝีมือพรรคก้าวไกลนะหรือ คนละชั้นกับพรรคเพื่อไทย นั้นมันทฤษฎี พรรคเพื่อไทยเขาลงมือปฏิบัติ เป็นรูปธรรม

​@@user-yi7oj7do7oลงมือปฏิบัติจริงแบบไม่มีแผนน่ะนะ อีกสามสี่เดือนแจกเงินห้าแสนล้าน ยังไม่รู้เอาเงินมาจากไหน นี่บริหารมาหลายสมัยแล้วจริงดิ อ่อนหัดมาก

​@@user-yi7oj7do7oไหนวะปิดสวิต 3 ป จับมือทั้ง รวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐ คนฉลาดเค้ารู้ทันหมดแล้ว สร้างนโยบายแจกหมื่น ชี้แจงที่มาของเงินยังบอกไม่ได้

​@@user-yi7oj7do7oแลนสไลด์300 เหลือร้อยกว่า 😂😂😂

@@user-yi7oj7do7o ปฏิบัติยังไงให้เกิดนโยบายแล้วมีปัญหางับ 🌝

สำหรับคนที่เคยทำงานจะทราบว่าการวิจารณ์ง่ายกว่าการทำงานเองเสมอครับ

ที่หลายคนคิดว่าไม่ควรทำนโยบายกระตุ้นใหญ่แบบแจกเงินก็ถูกนะ แต่ก็ตรงความจริงไม่หมดทุกด้าน เพราะเวลาเจอคนล้มป่วย เราควรหยอดน้ำข้าวต้มช่วยทางตรงไปก่อน หรือสอนให้เขาไปเรียนวิธีหาเงินช่วยทางอ้อมก่อนหละ? เรื่องแจกเงินต้องใช้มุมมองนักธุรกิจด้วย ถ้าใช้มุมมองนักเศรษฐศาสตร์... เน้นเอาอดีตมาเทียบ จะมองผิดไปเลย 1. มองว่า GDP ดีขึ้นแล้ว ปีที่แล้วดีขึ้นจริงๆ 2. รอบหมุนเงินไม่พอกระตุ้น อันนี้ก็จริง 3. เป็นปัญหาการคลัง อะไรต่างๆนานา อันนี้ก็จริง มันเป็นมาตั้งแต่เงินไม่พอแล้วรัฐบาลตู่ขยายเพดานเงินกู้เพื่อทำคมนาคมนั่นหละ ถามจริง 😃😃 1. ทุกวันนี้หนี้ครัวเรือนทำสถิติสูงสุดๆ และเงินออมของคนไทยรายย่อยลดฮวบเลย การค้าก็ยอดขายอืดสุดๆใช่ไหม? 2. ตั้งแต่ตู่ยึดอำนาจ ผ่านไป ราว 8 ปี GDP โตเฉลี่ยไม่ถึง 2% ปีก่อนก็แค่ 2.5% ต่ำกว่าเวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ใช่ใหม? 3. ค่าเงินเฟ้อเท่าไร และค่าแรงใล่ไม่ทัน ค่าครองชีพพุ่ง ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาคนไทยส่วนใหญ่จนลง ใช่ไหม? 4. 10 ปีของรัฐบาลตู่ เงินกู้ไปกองที่กลุ่มรับเหมาก่อสร้างราวกับประเทศมีแต่กระทรวงคมนาคม ไม่มีนโยบายกระตุ้นด้านเศรษฐกิจครั้งใหญ่ๆ ใช่ไหม? 5. งานก่อสร้างต้องรอผลลัพท์อีกห้าปีสิบปี ไม่อาจช่วยเศรษฐกิจตอนนี้ทัน ต่อให้เสร็จแล้วใช้ไปแล้วก็ยังต้องรอภาพรวมอีกหลายปีใช่ไหม? 6. สถานการณ์โลกไม่เอื้อ สงคราม ก่อการร้าย พลังงาน ขั้วการเมืองโลก ปัจจัยภายนอกเปลี่ยนและบีบประเทศไทยแรงขึ้นทั้งนั้น ใช่ไหม? 7. หลังโควิด ธุรกิจคนไทยที่ล้มไปเยอะ แค่ลุกขึ้นเดินช้าๆ ยังวิ่งไม่รอด ยังฟื้นได้ไม่เต็มที่ใช่ไหม? 😃😃 คิดง่ายๆเลยนะ มุนมองที่ว่าเงินหมุนไม่กี่รอบนั้นถูกต้อง แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลักของนโยบายนี้ เพราะมันคือเรื่องของ การจับจังหวะ ช่วยให้ถูกเวลา ถูกวิธี ถูกปริมาณ ถูกคน ตะหาก 1. ช่วยคนจำนวนมาก ตอนที่ยังยืนได้ ให้เดินต่อ ต้นทุนต่อหัวน้อย ฟื้นตัวเร็ว อัตรารอดสูง แต่คนส่วนใหญ่มองไม่เห็นความจำเป็น เพราะเขายังจ่ายหนี้ ทั้งที่อาจเป็นการจ่ายไหวครั้งสุดท้าย เลยไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ ใช่ไหม? 2. ถ้าปล่อยให้ล้มแล้วค่อยช่วยคนส่วนน้อย ต้องจ่ายต่อหัวเยอะ ฟื้นตัวช้า อัตรารอดต่ำ แต่คนส่วนใหญ่เห็นความจำเป็นชัดเจน เพราะเขาเจ๊งไปแล้ว ไม่มีเงินใช้แล้ว เบี้ยวหนี้ไปแล้ว จึงเชียร์ให้ช่วยแค่คนล้มอาการหนัก จ่ายก้อยเล็ก ค่อยๆทยอยจ่าย แบบคนละครึ่ง ใช่ไหม? 3. ถ้าช่วยแบบ จ่ายเพียงก้อนเล็ก ทยอยจ่ายเลือกให้แค่คนที่ล้มไปแล้ว รอล้มก่อน เขาก็ใช่แค่ อุปโภคบริโภคไปวันๆ ไม่เอาไปใช้ด้านอื่นๆ เงินกระจุกตัวใช่ไหม ถึงไม่ช่วยเขาก็ดิ้นรนไปหามากินอยู่ดี เหมือนคนละครึ่งนั่นหละ ใช่ไหม? 4. ถ้าช่วยแบบ จ่ายเงินก้อนใหญ่ ให้ทีเดียว ให้เร็วๆ แก่คนที่ยังยืนได้ ให้กว้างๆ เขาก็เหลือเงินเอาไปลงทุนอย่างอื่น ถ้าครอบครัวสองคนได้สองหมื่น อาจได้เครื่องตัดหญ้า เตาย่าง ถังแก๊ส สว่านไฟฟ้า นั่นหมายถึงสามารถต่อยอดสร้างรายได้ ไม่ใช่แค่กินใช้หมดไปวันๆ ใช่ไหม? 5. สรุปว่า ระหว่าง ช่วยทั้งหมด รวมคนที่ยังยืนไหว ให้ฟื้นตัวมาวิ่งได้ ทำงานต่อได้เร็ว เทียบกับเลือกช่วยแค่คนที่ล้มไปแล้วและอาจช่วยไม่สำเร็จด้วยซ้ำ ควรช่วยแบบไหนหละ? 😉😉 เป็นอำนาจบริหารนะ รัฐบาลเขาเห็นมุมไหนเขาก็ช่วยมุมนั้น พอดีว่าเขามองในมุมแบบนักธุรกิจ คือพุ่งไปที่อนาคต ดูอดีตแค่ครึ่งเดียว แต่เพราะอธิบายแนวคิดได้ไม่เก่ง ไม่้เคลียร์ ยังถียงกันอยู่ว่าตอนนี้อาการหนักหรืออาการเบา เลยโดนฝั่งนักเศรษฐศาสตร์โจมตีหนัก แล้วคนส่วนใหญ่ก็ไหลไปตามฝ่ายนักเศรษฐศาสตร์เลยไม่เห็นด้วยกับนโยบาย แต่ถ้าใครมองแบบนักธุรกิจ จะเห็นด้วยว่าควรทำโดยไม่ต้องดัดแปลงปรับเปลี่ยน เว้นแต่เรื่อง 4 กม. ขยายเป็นตัวอำเภอก็ได้แล้ว

ต้องแบบนี้ กล้าวิจารณ์ตรงๆ ชอบมาก

งานนี้ศิริกัญญามองตามแบบนักเศรษฐศาสตร์ 1. เพราะเน้นแต่ใช้ข้อมูลในอดีต โลกมันเปลี่ยนไปถึงไหนแล้ว? พลาดเต็มๆ 2. เน้นแต่ความคุ้มค่าด้านเงินหมุนกี่รอบ อันนี้คำนวนได้สมเหตุผล แต่นโยบายนี้มุ่งประเด็นอื่นด้วย ไม่ใช่หวังจะเอาสมบูรณ์ 100% 3. ต้องการให้แจกแบบเบี้ยหัวแตก จ่ายก้อนเล็ก ทะยอยจ่าย ลงที่คนลำบากคือล้มแล้ว.. และมันจะหมดไปกับการกินใช้ประจำวันแบบคนละครึ่ง ส่วนใหญ่ทำได้แค่ลากเวลารอตายวันหลังเท่านั้น 😃😃 ถ้าจะเอาตามนโยบายนี้ก็ต้องไปสุดทาง ตามแบบนักธุรกิจ ทำครึ่งๆกลางๆจะเปลืองเงินเปล่าๆ 1 นโยบายนี้ ต้องมองไปในอนาคตครึ่งหนึง ใช้แต่ข้อมูลทางเศรษฐศาสตร์ไม่ได้ ต้องเน้นการช่วยคนที่ยังยืนได้แต่ไม่มีแรงเดินให้หายหิว เขาไปทำงานต่อได้ หาเงินต่อได้ โอกาสรอดสูง อัตราช่วยสำเร็จสูง เพราะถ้าปล่อยให้ในครอบครัวล้มทุกคนมันไม่รอด แต่ถ้ารอดหนึ่งก็ช่วยพยุงคนอื่นต่อได้อีก 2 เทียบกับการทยอยเลือกช่วยเฉพาะคนล้มป่วย แล้วคนที่ยังยืนไหวก็ล้มตามมาเรื่อยๆ ..ต้องใช้ทรัพยากรช่วยเยอะ พักฟื้นนาน ทำงานต่อเลยไม่ได้ โอกาสรอดต่ำ อัตราช่วยสำเร็จต่ำ 3 ดังนั้น จึงต้องแจกก้อนใหญ่ ครั้งเดียวแจกรวมคนที่ยังยืนได้ด้วย เงินก้อนที่เหลือจากกินใช้ชำระหนี้ใช้หมุนเวียนได้ ลงทุนเล็กน้อยได้ ส่งผลดีต่อทุกเซคเตอร์หลักๆในทางตรง ไม่ใช่ดีแค่สินค้าอุปโภคบริโภคแบบคนละครึ่ง 4 การแจกแค่คนจนประหยัดได้จริง แต่คนรวยจริงๆกลับมีไม่มาก ไม่น่าเกิน 5% ดังนั้นการแยกคนรวยจน มีค่าเสียเวลาแยก การพิสูจน์ความรวยจน งานเอกสารจะกินเวลานาน เอาต้นทุนตรงนั้นไปแจกซะก็จบ 😉😉 ยังไงก็ต้องช่วย แต่ที่เถียงกันคือช่วยแบบไหน 1 มองแบบนักเศรษศาสตร์คือ คนส่วนใหญ่เริ่มฟื้น หลังยึดอำนาจ 8 ปี GDP โตเฉลี่ย 2% ปีที่แล้ว 2.5% ก็ดีขึ้น ดังนั้น เลือกช่วยแค่คนล้มก็พอ สรุปคืออาการไม่หนัก (ช่วยคนล้มแบบนี้กลายเป็นฮีโร่เลย เพราะคนส่วนใหญ่เห็นกันอยู่) 2 มองแบบนักธุรกิจคือ มองว่าหนี้ครัวเรือนสูงสุดเพราะแบกบ้านแบกรถแบก ธุรกิจก็แบกหนี้ล้มจากโควิดยังต้องรอสองสามปีค่อยกลับมาเหมือนเดิม ดังนั้นอาการหนักมาก จังหวะการลงมือจึงสำคัญมากๆ ต้องชิงช่วยให้ถูกวิธีก่อนจะล้ม คนส่วนใหญ่ยังไม่ฟื้น ดูเหมือนโตขึ้นเพราะการหาโอกาสรีบแย่งตลาดหลังโควิด แต่ยอดขายสินค้าต่างๆยังอืดมากๆ ต้องช่วยทั้งระบบช่วยแรงและช่วยให้เร็วด้วย ก่อนที่คนล้มจะตาย ก่อนที่คนยืนจะล้ม ก่อนที่คนเดินไหวซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจจะหยุดเดิน ที่หนักกว่านั้น คือยังมีสงคราม ยังมีราคาพลังงาน ยังมีการเมืองโลกบีบให้เลือกข้าง กดดันหนักๆไปอีกหลายปี จึงต้องชิงกระตุ้นให้คนไทยฟื้นแข็งแรงเร็วที่สุด สรุปคือมองว่าอาการหนัก (ช่วยคนส่วนใหญ่แบบนี้ไม่ได้เป็นฮีโร่หรอก เพราะคนส่วนใหญ่มองไม่เห็นความสำคัญ เห็นยังยืนได้ไปช่วยให้เปลืองทำไม) 😃😃 สรุปขึ้นกับมุมมอง แต่ผมเลือกเชื่อฝ่ายนักธุรกิจ เพราะศิริกัญญา เน้นเศรษฐาสตร์อิงข้อมูลอดีตมากเกินไป ขาดการมองจังหวะไปอนาค ดูเหมือนชั่งน้ำหนักโอกาสแบบนักธุรกิจไม่ออก แต่ฝ่ายนักธุรกิจไม่สามารถอธิบายมุมมองได้เคลียร์ แถมหลงไปเล่นตามเกมเศรษฐาสตร์ เลยเจอทัวร์ลงซะ

เงินไหลไปหาเจ้าสัวห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ 3 กลุ่มใหญ่ที่แข่งขันกันดุเดือด ในที่สุด กระตุ้นเศรษฐกิจของเจ้าสัว ง่ายไปมั้ย

@@radhanasiri ตอนที่คุณไหมศิริกัญญาท้วงนโยบาย 10,000 นี้แรกๆ มีพวกออกมาแซะคุณไหมเยอะ ว่าไม่มีประสบการณ์อย่างนั้นอย่างนี้ เชื่อมั่นเพื่อไทยเก่ง ตอนนี้รัฐบาลเพื่อไทยจุลพันธ์เริ่มเสียงอ่อน กลืนน้ำลายจะจำกัดคนที่ได้รับเงิน และเริ่มสร้างเงื่อนไขมากขึ้น ถ่วงเวลาจ่ายเงินไปอีก เพราะรู้ว่าเป็นนโยบายที่เสียหายจริง คือไม่ใช่แค่คุณไหม แต่ผู้รู้ทางการเงินหลายวงการ รวมถึงระดับอดีตผู้ว่าแบงก์ชาติ เขาออกมาพูดตรงกัน สุดท้ายก็เป็นแค่นโยบายหาเสียง (ที่แพ้ตั้งแต่ตอนเลือกตั้งแล้ว) มาเพิ่มเงื่อนไขมั่วไปหมดเอาตอนนี้

@@tonydebua ทำอะไรมันก็มีเสียมีได้ทั้งนั้นหละ... แล้วแต่จะเอามุมไหนมาโจมตี ตอนนี้ก้าวไกลโจมตีแต่ถ้าทำแบบนโยบายของก้าวไกลก็ลากไม่ไหวเหมือนกัน อ่านที่ผมบอกดีๆ ช่วยคนพอจะยืนไหวให้เดินต่อทำงานได้ต่อเนื่อง ใช้ทุนช่วยต่อหัวน้อยกว่า โอกาสสำเร็จมากกว่า เศรษฐกิจขยายตัวได้ เทียบกับช่วยแค่คนล้มป่วยซึ่งรออีกนานกว่าจะฟื้นตัวมาทำงานได้ หรือไม่ก็ตายไปเลย ใช้ทุนต่อหัวเยอะกว่า ถ้าไม่เยอะก็แค่ลากเวลาตายไปวันๆ.. สองแบบนี้ทำอย่างไหนคุ้มกว่าหละ

@@radhanasiri เพราะอดีตมันเป็นประสบการณ์จริงไงครับ เรียนรู้เป็นบทเรียนศึกษาและหาวิธีแก้ไขอันนี้พูดในเชิงตรรกะ การที่คาดหวังโดนใช้เพียงแค่ความรู้สึกแบบนั้นแบบนี้ที่เพื่อไทยทำมันตอบอะไรไม่ได้เลย ข้อมูลอ้างอิงไม่มี แผนงานเป็นยังไง รอคิดเสร็จหรือใกล้ๆแล้วค่อยบอกประชาชนอีกที

คนนั้นปั้นวาทะกรรมเก่งมาก

ฝันไป

เขาไม่เลิกแจกยังแจกเหมมือนเดิม

@@user-gm6rl3lt9gคนรวยมีสิทะิ์มั้ย ครับ เงินเดือน 25000 ก็มีหัวใจนะครับ

สูตรเดียวอูยเขาอยากเป็นรัฐบาลตลอดกาลรัฐบาลครอบครัว เริ่มสร้างทายาทกันแล้วใครอยากรวยรีบมาเลย

ศิริกัญญาครับพี่

เธอมีข้อมูลเยอะ พูดแล้วฟังง่าย สังเกตุรายการจะชอบเชิญมา เพราะคนฟังชอบฟังอะไรที่มีข้อมูล มีอะไรอ้างอิง คนดูเดี๋ยวนี้ฉลาด นะ

​@@darth597ศิริกัญญา คับ

พวกเก่ง ๆ ปากดี ทำไมไม่เป็นรัฐบาลเอง เพื่อจะได้มาบริหารได้อย่างเลิศประเสริฐศรี.??.😮😅

ดีแต่พูด ตอนดีเบศ เงียบกริบ ความคิดยังไม่ได้ครึ่ง เพื่อไทยเลย สมอง😅

จริง ต้องโง่ๆหน่อย หลอกง่ายดี

งานนี้ศิริกัญญามองตามแบบนักเศรษฐศาสตร์ 1. เพราะเน้นแต่ใช้ข้อมูลในอดีต โลกมันเปลี่ยนไปถึงไหนแล้ว? พลาดเต็มๆ 2. เน้นแต่ความคุ้มค่าด้านเงินหมุนกี่รอบ อันนี้คำนวนได้สมเหตุผล แต่นโยบายนี้มุ่งประเด็นอื่นด้วย ไม่ใช่หวังจะเอาสมบูรณ์ 100% 3. ต้องการให้แจกแบบเบี้ยหัวแตก จ่ายก้อนเล็ก ทะยอยจ่าย ลงที่คนลำบากคือล้มแล้ว.. และมันจะหมดไปกับการกินใช้ประจำวันแบบคนละครึ่ง ส่วนใหญ่ทำได้แค่ลากเวลารอตายวันหลังเท่านั้น 😃😃 ถ้าจะเอาตามนโยบายนี้ก็ต้องไปสุดทาง ตามแบบนักธุรกิจ ทำครึ่งๆกลางๆจะเปลืองเงินเปล่าๆ 1 นโยบายนี้ ต้องมองไปในอนาคตครึ่งหนึง ใช้แต่ข้อมูลทางเศรษฐศาสตร์ไม่ได้ ต้องเน้นการช่วยคนที่ยังยืนได้แต่ไม่มีแรงเดินให้หายหิว เขาไปทำงานต่อได้ หาเงินต่อได้ โอกาสรอดสูง อัตราช่วยสำเร็จสูง เพราะถ้าปล่อยให้ในครอบครัวล้มทุกคนมันไม่รอด แต่ถ้ารอดหนึ่งก็ช่วยพยุงคนอื่นต่อได้อีก 2 เทียบกับการทยอยเลือกช่วยเฉพาะคนล้มป่วย แล้วคนที่ยังยืนไหวก็ล้มตามมาเรื่อยๆ ..ต้องใช้ทรัพยากรช่วยเยอะ พักฟื้นนาน ทำงานต่อเลยไม่ได้ โอกาสรอดต่ำ อัตราช่วยสำเร็จต่ำ 3 ดังนั้น จึงต้องแจกก้อนใหญ่ ครั้งเดียวแจกรวมคนที่ยังยืนได้ด้วย เงินก้อนที่เหลือจากกินใช้ชำระหนี้ใช้หมุนเวียนได้ ลงทุนเล็กน้อยได้ ส่งผลดีต่อทุกเซคเตอร์หลักๆในทางตรง ไม่ใช่ดีแค่สินค้าอุปโภคบริโภคแบบคนละครึ่ง 😉😉 ยังไงก็ต้องช่วย แต่ที่เถียงกันคือช่วยแบบไหน 1 มองแบบนักเศรษศาสตร์คือ คนส่วนใหญ่เริ่มฟื้น หลังยึดอำนาจ 8 ปี GDP โตเฉลี่ย 2% ปีที่แล้ว 2.5% ก็ดีขึ้น ดังนั้น เลือกช่วยแค่คนล้มก็พอ สรุปคืออาการไม่หนัก (ช่วยคนล้มแบบนี้กลายเป็นฮีโร่เลย เพราะคนส่วนใหญ่เห็นกันอยู่) 2 มองแบบนักธุรกิจคือ มองว่าหนี้ครัวเรือนสูงสุดเพราะแบกบ้านแบกรถแบก ธุรกิจก็แบกหนี้ล้มจากโควิดยังต้องรอสองสามปีค่อยกลับมาเหมือนเดิม ดังนั้นอาการหนักมาก จังหวะการลงมือจึงสำคัญมากๆ ต้องชิงช่วยให้ถูกวิธีก่อนจะล้ม คนส่วนใหญ่ยังไม่ฟื้น ดูเหมือนโตขึ้นเพราะการหาโอกาสรีบแย่งตลาดหลังโควิด แต่ยอดขายสินค้าต่างๆยังอืดมากๆ ต้องช่วยทั้งระบบช่วยแรงและช่วยให้เร็วด้วย ก่อนที่คนล้มจะตาย ก่อนที่คนยืนจะล้ม ก่อนที่คนเดินไหวซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจจะหยุดเดิน ที่หนักกว่านั้น คือยังมีสงคราม ยังมีราคาพลังงาน ยังมีการเมืองโลกบีบให้เลือกข้าง กดดันหนักๆไปอีกหลายปี จึงต้องชิงกระตุ้นให้คนไทยฟื้นแข็งแรงเร็วที่สุด สรุปคือมองว่าอาการหนัก (ช่วยคนส่วนใหญ่แบบนี้ไม่ได้เป็นฮีโร่หรอก เพราะคนส่วนใหญ่มองไม่เห็นความสำคัญ เห็นยังยืนได้ไปช่วยให้เปลืองทำไม) 😃😃 สรุปขึ้นกับมุมมอง แต่ผมเลือกเชื่อฝ่ายนักธุรกิจ เพราะศิริกัญญา เน้นเศรษฐาสตร์อิงข้อมูลอดีตมากเกินไป ขาดการมองจังหวะไปอนาค ดูเหมือนชั่งน้ำหนักโอกาสแบบนักธุรกิจไม่ออก แต่ฝ่ายนักธุรกิจไม่สามารถอธิบายมุมมองได้เคลียร์ แถมหลงไปเล่นตามเกมเศรษฐาสตร์ เลยเจอทัวร์ลงซะ

ขนาดก่อนเลือกตั้ง บอกจะจับมือกับลุงๆไหม ยังยกแม่น้ำทั้ง 5 มาพูดเลย😂

yessssถูกต้อง

​@@tnp_ch.6233😅

มาถึงจุดนี้ยังไงก็แจกไม่ได้แล้วครับมันหาเงินมาไม่ได้ แต่ก็นะเพื่อใครคงไม่แคร์เท่าไหร่มันหาทางดิ้นจะแจกให้ได้เพราะโครงการที่โฆษณาเพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียง90%ทำจริงไม่ได้

จากทุกเรื่องที่ผ่านมา สรุปแล้วดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น

เขาเรียก เทคนิค การหาเสียงเพื่อให้ได้มา คือ คะแนนเสียง

ใครละ บอกได้เสียง สว.ที่จะโหวตให้เป็น100 สุดท้ายได้ 15คน ใครโกหกใครก่อน สมองติ่ง😂😅

⁠@@MrAlone-sv1bt ไม่ได้โกหกนะ สว.มันแค่กลับลำ เราไปบังคับสว.ไม่ได้ การโกหกคือพูดอย่างทำอย่าง ถ้าจะถือว่าโกหกจริงๆคือก้าวไกลจงใจทำให้สว.ไม่โหวตตัวเอง สมอง แบกจนปวดหลัง คิดพิจารณาตามหลักตามการบ้าง ไม่ใช่เชียร์เพราะชอบอย่างเดียว ไม่ดีก็ต้องด่าไม่ใช่อวยแม่งเข้าไป

ก็คนนี้แหละที่ค้านให้แจกเฉพาะคนจนอะ5555

ไม่ต้องโทษ กกต หรอกครับ เพราะ กกต มันไม่ควรมาตรวจต้องแต่แรก กกตควรมีหน้าที่แค่จัดการเลือกตั้งให้โปร่งใสก็พออย่าให้อำนาจเขามากเกินไปเลย เดี๋ยวมันจะลืมหน้าที่จริงๆของตัวเอง

ไม่ต้องโทษกกต.ครับ กกต.ไม่ควรเข้ามาเสือกเรื่องนโยบายพรรค ไม่ว่าพรรคไหนก็แล้วแต่ มีหน้าที่แค่จัดการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรมพอ

ประเทศนี้นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในประเทศนี้ ถูกมองว่า”โกงเค้ามา” ถูกเหยียดว่านายทุน ตั้งแต่เมื่อไรครับ รึโดนก้าวใกลล้างสมองมา หัดชื่นชมคนอื่นบ้างครับ

ไม่โกงครับ เพียงแต่หาโอกาสเก่งกว่า ใกล้ชิดผู้มีอำนาจได้มากกว่า มีโอกาสช่วยรัฐบาลกำหนดนโยบายแล้วผลประโยชน์มาตกสู่กลุ่มนักธุรกิจมากกว่าประชาชน ไม่โกงคร้าบ

สมองคนละเบอร์!!! อย่าเบอ

คุณจ่ายคนเดียวหรือ

ได้รถไฟฟ้า 20 บาท แต่ได้แค่ กทม ปริมณฑล

ตอนแรกจะแจกทุกคน พวกคุณรึป่าวที่ออกมาแย้งว่าผมไม่เอา ผมรวยแล้ว ให้แจกคนจน พอเค้าจะแจกเฉพาะกลุ่มมาด่า ย้อนแย้งนะครับ

@@pumkinsky เงินเดือน 25000 เงินเก็บ 1 แสน ก็นับว่ารวยแล้ว ทั้งที่จริงๆกลุ่มนี้เป็นชนชั้นกลางที่มีค่าใช้จ่ายเยอะที่สุดเมื่อเทียบกับสัดส่วนเงินได้ ถ้าอนาคตปี 70 ปรับ ป.ตรีเป็น 25000 ใครจบปริญญาก็นับว่ารวยรัฐก็ชั่งหัวมันนโยบายหรือวิกฤตอะไรไม่ต้องช่วยทุกคนเลยใช่มั้ย

สุกัญญา😂😂😂

ชนชั้นกลางตายครับ เสียภาษีหนักสุดในระบบ และไม่ได้รีฟันด์คืนไรเลย

ก็เพราะระบบเอื้อ​ประโยชน์​ให้แต่กับผู้มีบัตรคนจน​ โครงการอะไรที่ออกมาสุดท้ายก็ได้กับผู้ที่มีบัตรคนจน​ จึงทำให้คนรุ่นใหม่​ไม่คิดที่จะขยันทำงานสู้ขอเป็นคนจนดีกว่า​ ได้รับบัตรได้รับเงินช่วยเหลือ​สารพัด​ไม่ต้องทำงานให้เหนื่อย​

ก็คนนี้แหละที่ค้านให้แจกเฉพาะคนจนอะ5555

เขาบอกมันไม่มีเงินที่จะเอามาจ่าย 560,000 ล้าน ถ้าจะดื้อรั้นต้องทำให้ได้ มันมีเงินพอแค่จ่ายเฉพาะคนจน@@khotterthanhell3797

❤

ทำเลยครับตอนนี้เค้าเตือนกันห้ามกัน แต่ห้ามไม่ได้หรอกครับพท.เป็นรัฐบาลอำนาจเต็มมือ แต่ถ้าทำแล้วมันมีผลเสียที่จะเกิดในอนาคตก็รับผิดชอบกันด้วยนะครับแล้วก็แบกกันต่อไปด้วยนะครับ