หลังร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมทั้ง 4 ฉบับ ผ่านวาระแรกของสภาผู้แทนราษฎรไปเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2566 และได้จัดตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ จำนวน 39 คน เพื่อพิจารณาวาระ 2 ภายในระยะเวลา 60 วัน ทำให้ตอนนี้สิทธิของผู้มีความหลากหลายทางเพศในไทยกำลังเขยิบขึ้นอีกขั้น
แต่ร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมทั้ง 4 ฉบับ ที่เป็นร่างคณะรัฐมนตรี (ครม.) ร่างพรรคก้าวไกล ร่างภาคประชาชน และร่างพรรคประชาธิปัตย์ มีรายละเอียดแตกต่างกันอยู่หลายข้อ ที่สุดท้ายร่างทั้ง 4 ฉบับจะถูกรวมเป็นร่างเดียว
ความแตกต่างของร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมทั้ง 4 ฉบับมีอะไรบ้าง เหตุผลใดบ้างที่ทำให้แต่ละร่างมองประเด็นและวิธีแก้ปัญหาไม่เหมือนกัน มาตราไหนจากร่างกฎหมายฉบับใดจะได้ไปต่อ ผู้มีความหลากหลายทางเพศจะได้สิทธิที่พึงมีอย่างยุติธรรมที่สุดเฉกเช่นประชาชนที่เป็นเพศชายและหญิงจริงหรือไม่?
แล้วเมื่อได้ดูเนื้อหาทั้งหมด คุณคิดว่าความต่างของร่างใดควรถูกเลือก หรือรู้สึกเห็นด้วยกับประเด็นไหนของร่างใดมากกว่ากัน?
00:00 เริ่มรายการ
01:04 ความเหมือนและความต่างของร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม 3 ฉบับหลัก
03:08 17 หรือ 18 ปี ถึงจะดีที่สุด?
05:11 ‘บิดา-มารดา’ เป็น ‘บุพการี’ การเปลี่ยนคำที่ส่งผลกระทบมากกว่าที่คิด?
10:33 ‘คู่สมรสเป็นปฏิปักษ์อย่างร้ายแรง’ ต้องเลือดตกยางออกก่อนจึงหย่าได้?
15:29 มาตรา 1598/42 และระยะเวลาบังคับใช้กฎหมาย
19:31 ‘สมรสเท่าเทียม’ ความหวังใหม่ด้านเสรีภาพของไทย?
เรื่อง: ตรีนุช อิงคุทานนท์
ตัดต่อ: ชินดนัย มะลิซ้อน
---------------------------------
กดติดตาม และ กดกระดิ่ง : bit.ly/3Naelc3
ติดตาม THE STANDARD ในช่องทางอื่นๆ
Website : thestandard.co/
TikTok : / thestandardth
Facebook : / thestandardth
Twitter : / thestandardth
Instagram : / thestandardth.ig
#KEYMESSAGES #TheStandardNews #สมรสเท่าเทียม
24 июл 2024