หลังจากการปรากฏตัวของพลายหน้าใหม่ พี่สุทธิพรก็ตั้งชื่อให้ว่า เมฆินทร์ ก็เป็นอันว่า เรามีช้างพลายตระกูลเมฆ สองพลาย คือ เมฆา ฟ้าแว๊บๆ กับพลายเมฆินทร์ ศิษย์วัดหางตั้ง เมฆายังมีฉายา เมฆินทร์ต้องมี เลยให้เป็นศิษย์วัดหางตั้งไปก่อน เพราะเจอตัวครั้งแรกก็วิ่งหนีหางตั้งแล้ว
จะพามารู้จักสองหนุ่มนี้อีกครั้ง มาดูเมฆาฟ้าแว๊บๆ ก่อน เมฆา เป็น 1 ในสี่กุมาร ที่ตั้งชื่อโดยเจ้าหน้าที่ฝั่งเหวนรก ไม่รู้โขลงที่แท้จริง มาจากโขลงไหน เพราะดูเหมือนพ่อพลายจะไปทุกโขลง
เมฆา ฟ้าแว๊บๆ ถึงวัยหนุ่มที่ต้องออกจากโขลงถาวรแล้ว แต่ก็ยังแวะไปเยี่ยมโขลงเป็นครั้งคราวแล้วก็แยกออกไป
เมฆา มีงาสองข้างที่โค้งเข้าหางวงเล็กน้อย งอนขี้นนิดหน่อย ใบหูเมฆา ด้านบนใบหูยังไม่พับ แค่โค้งนิดหน่อย ต่างจากเมฆินทร์ที่ใบหูพับตั้งแต่โคนหูเลย หางเมฆามีความยาวหางตามมาตรฐาน ไม่สั้นและไม่ยาว ขนหางมีพอประมาณเกิดเฉพาะที่ปลายหาง เมฆา ดูมีอายุน้อยกว่าเมฆินทร์หลายปี เมื่อเจอรถ ก็จะบวกท่าเดียว เฟี้ยวพอสมควร อยู่ในเกณฑ์ตัวตึง
นอกจากเป็นช้างพลายเหมือนกันตระกูลเมฆ เหมือนกัน ก็ไม่มีอะไรเหมือนกันเลย ทั้งลักษณะงา ใบหู ความยาวหางและเค้าหน้า ไปกันคนล่ะทาง และจำง่ายทั้งคู่
นิสัยของเมฆินทร์ เรายังไม่รู้ เพราะเพิ่งพบตัวครั้งแรก มาจากต่างถิ่น ไม่ชินรถและผู้คน ดูดื่นๆ เพราะมีช้างตกมัน อย่างพี่งวงทองหรือพี่ชมวิว อยู่ไม่ไกลมาก น่าจะพอให้พ่อพลายเมฆินทร์ได้กลิ่น
มาย้อนดูลักษณะเมฆินทร์อีกรอบ เมฆินทร์ มีใบหูซ้ายมีรูสองจุด และมีรอยเว้าที่ใบหูทั้งซ้ายและขวา งาหนาๆ เสมอกันดี ถ่างออกแต่พองาม งอนขี้นแต่พอดี จัดว่า งาสวยใช้ได้ หางของพ่อพลายเมฆินทร์อยู่ในเกณฑ์ยาว ขนหางยังปกติดี ไม่หลุดขาดหาย
พ่อพลายเมฆินทร์มาจากไหน เป็นลูกเต้าเหล่าใคร ไม่มีใครบอกได้ ไม่รู้จะมาให้เราได้เห็นอีกเมื่อไหร่ ก็รอดูกันต่อไป หวังว่าสองหนุ่มตระกูลเมฆ เมฆา ฟ้าแว๊บๆ เมฆินทร์ ศิษย์วัดหางตั้งจะอยู่คู่ผืนป่าเขาใหญ่นานเท่านาน รักษางาและหางไว้ดีๆนะพ่อหนุ่มทั้งสอง
21 апр 2024