สาเหตุที่เพาเวอร์แอมพังบ่อยๆ 

ค่า "อิมพีแดนซ์" ต้องใช้เครื่องมือวัดโดยเฉพาะ ไม่สามารถวัดด้วยมิเตอร์ธรรมดา มาตร RX1 ได้ เพราะ RX1 ใช้วัดค่า "รีสิสแตนซ์" หรือค่าความต้านทาน ซึ่งเป็นความต้านทานตามความยาวของ "ขดลวด" เท่านั้น ไม่ใช่ค่า "อิมพีแดนซ์" เพราะ "อิมพีแดนซ์" เป็นค่าผกผัน ของ ความถี่ กระแสไฟฟ้า ตัวเก็บประจุ และความต้านทาน ครับ ไม่ควรวัดโอห์มโดยตรงแล้วบอกว่า ลำโพง มี อิมพีแดนซ์ เพี้ยน เพราะมันไม่ถูก/ไม่ใช่ ครับ

สนามแม่เหล็กมันอ่อนแรงครับ ทำให้ค่าอิมพีแดนซ์มันต่ำลง จึงมีการนำไปชาร์จสนามแม่เหล็กใหม่ สำหรับการซ่อมลำโพงเก่า

Impedance =8 ohm คิดที่1Khz การวัดด้วยมิเตอร์ เป็นการค่า Resistance ขดลวดหรือความต้านทานทางไฟDCเท่านั้นครับ

ถ้าอิงทฤษฎีก็คงว่ากันยาวครับ แต่จากประสบการณ์ผมและจากอาจารย์ทีมงานเครื่องเสียงสายหมอลำซิ่งรวมทั้งช่างซ่อมดอกลำโพง ไม่รอบสายหมอลำเรื่องต่อกลอนอันนั้นเข้าตู้บริษัทแอมป์บริษัท ถ้าสายเครื่องเสียงบ้านๆ ก็จะเจอปัญหาเเทบทุกรายครับ จะพลาดพิงดอกจริงๆก็ไม่ถูกเหมือนอาจารย์อธิบายครับมีผลทั้งหมดครับ แต่จบประสบการณ์ครับ ดอกยี่ห้อนี้โอมจะต่ำครับ วัดแบบธรรมดาตรงๆอาจจะไม่ถูกครับ แต่เทียบกับยี่ห้ออื่นวัดแบบนี้ยัง 7 กว่าๆครับ เอาแบบบ้านๆ ดอกยี่ห้อนี้ดีมากครับ โอมต่ำกว่าจริงทำให้ใช้แอมป์กำลังต่ำ ขับยังไงก็อิ่มออกครับ ทั้งดอกเสียงกลางที่ผมใช้ บีเอ็ม300 ใช้เพาเวอร์แอมป์ต่ำกว่าวัตต์จริงด้วยซ้ำ ใช้งานมาเป็น 10 ปีไม่เคยขาด ดอกซับรุ่นที่อาจารย์นำเสนอ ใช้แอมป์กำลังต่ำครับขับเสียงยังอิ่มออกครับตู้เทอร์โบ แต่หลายเจ้าเปลี่ยนใช้แอมป์ทุกวันนี้กำลังสูงเล่น 2 โอม จบเลยครับขาดทุกราย รุ่นนี้ผมเล่นไม่เคยเกิน 3 ดอกต่อข้าง เพราะโอมมันต่ำครับ เพาเวอร์แอมป์จ่ายกำลังขับเท่า 4 ดอกเลยครับ ปัจจุบันถ้าเอาดอกรุ่นนี้ไปซ่อมวอยแท้ช่างจะเปลี่ยนเป็นวอย 1200 เพราะมันเหมือนกันแต่แอมป์ยังขับได้อิ่มปกติครับ เพราะดอกยี่ห้อนี้ทำให้ไม่เปลืองกำลังขับแอมป์ ปัจจุบันผมใช้ดอกยี่ห้ออื่นแล้ว คำนวณกำลังขับเพาเวอร์ที่เหมาะสมยังไม่อิ่มพอสมควร ต้องใช้เพาเวอร์แอมป์กำลังสูงค่าใช้จ่ายก็มากขึ้น ดอกยี่ห้อนี้ถ้าใช้แอมป์ไม่แรงเกินไป เเทบจะน้อยกว่าวัตต์ดอก ทนมากครับเสียงดีและอิ่ม ใส่ตู้อะไรเสียงพุ่งออกดีทุกตู้ ไม่เคยขาดนานจนกระดาษกรวยเสื่อมครับ แต่ที่ไม่ซ่อมใช้เพราะราคาซ่อมเกือบ 3000 เปลี่ยนยกชุดยกเว้นเเม่เหล็กโครง ซื้อใหม่ดีกว่าครับ

ใหม่ๆก็ได้6Ohm กว่าๆเหมือนกันครับ ต่อพ่วง2ดอกก็ 3.5-3.6Ohm ราวๆนี้ปกติครับ

ได้ความรู้คับอาจารย๋

ได้ความรู้เพิ่มขึ้น เป็นประโยชน์มาก

ชอบมากเลยครับที่ช่วยให้ผมมองเห็นความเป็นมาของลำโพงที่เขาขายเป็นมือสองผมได้รู้ถึงความจริงครับ ขอบคุณที่นำมาเล่าหรือบอกให้ฟังครับ

ผมฟังช่างพูดผมเข้าใจ

โว้ยใหม่ๆข้าเจ้าเครียดมาในวัดข้างนอกจะได้ 8 โอมตั้งค่าเข้าไปในสนามแม่เหล็กแล้วบางรุ่นก็ไม่ถึง 8 โอมครับ

ขอบคุณครับอาจารย์

ถ้าว่าโอมลดจาก 6เป็น 5.9 แบบนี้น่าจะเกิดจากน้ำยาเคลือบลวดทองแดงละลายใส่กันทำให้ผิวลวดทองแดงเชื่อมถึงกัน

FC ครับอาจารย์

ผมซื้อมาใหม่ก็วัดได้7.5โอมห์ครับ

ผมซื้อมาใหม่ก็ต่ำกว่า8โอมท่าเอามิเตอร์วัด

ขั้นตอนข้าเจ้าพันธุ์ แต่พ่อจะไปเขากับสนามแม่เหล็กแล้วไม่ค่อยถึง 8 โอห์มถึง 8 โอม

ขอบคุณความรู้มากมาย

ถามว่าโรเยล500วัตถ้าใช้เบทสองดอกควรใช้ดอกละกี่วัต แซกกี่วัตต์ถึงจะลงตัวครับ

สวัสดีครับอาจารย์

ซ่อมไม่ได้โม้ได้

เห็น​ใหม่ๆก็ขายแพง

สวัสดีครับช่างพล

พี่ครับTRคู่เท่าไหร่ครับ

ืรู้จริงรึเปล่าแค่ว่าเคลือบน้ำยาวานิชก็ผิดแล้ว ลำโพงเดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่80-90% 6โอมห์ทั้งนั้นถ้าเป็นลำโพงวัตต์สุงๆ รู้ไม่จริงอย่ามาทำคลิบแบบนี้เลยครับ จะทำให้คนดูเข้าใจผิด ไม่เชื่อคุณไปวัดลำโพงใหม่แกะกล่องดูได้เลย 6โอมห์ครับยกเว้นดอกเล็กๆวัตต์ต่ำๆครับจะได้โอมห์บริสุทธิ์8โอมห์

ไม่เข้าใจว่าโรงงานจะกลึงแผ่นวงแหวนรูใน ชิดกับว้อยเกินไปทไม ควรเผื่อระยะสั่นสะทือนด้วย

ทุกวันนี้เขาผ่อนลำโพงมาแค่ 6 โอมเท่านั้น

ลำโพงผมใช้มา15ปีแล้วยังเปิด ได้ แต่จากนี้คงเลิกใช้แล้วล่ะ

❤

อาการคอขาดเกิดจากตู้ การต่อลำโพง ไม่ควรเกิน4โอห์ม

เหมือนนักนักเรียน

อธิบายค่อนข้างเยิ่นเย้อไม่รัดกุม

ขอบคุณครับได้ความรู้มีหลายสาเหตุดีชอบครับ

อาจารย์ครับซ่อมยุบ้านได๋ครับผมร้าน

ผมซื้อมาใหม่ก็ต่ำกว่า8โอมท่าเอามิเตอร์วัด