#หลวงปู่ทวด 

ผมมีเสาอากาศวัไมาปราจีนจะเอาให้เช่า

*_หลวงปู่ทวดท่านศักสิทธิ์มากๆเป็นพระนิรันด์ตรายพกไว้ไม่ตายโหงเเน่นอนถ้าไม่ใหญ่จนเกินกรรมของตนจริงๆ​ ใช้ได้ทุกวัดทุกรุ่นศักสิทธิ์ทั้งนั้น_*

ปีนี้เพิ่งปี 2562 จะ 2563 ยังไม่ถึง 2566 เลย อย่าเพิ่งไปไกลขนาดนั้นเลย

ผมพิมผิดครับ2466ครับ ย้อนยุคเล่นกันแพงมั้ยครับ

@@เอกชัยแก้วทองพันธ์-ฑ1ล แค่คำว่า"ย้อนยุค"มันก็ไม่แพงอยู่แล้วครับ..แสดงว่าพึ่งสะสมใหม่

ตัวหนังสือเล็กพิม​ ว.​ ปี05​ เนื้อโลหะ​ มีตำนานไหมครับ​ ราคาเช่าแท้ตอนนี้เท่ารัยครับ

ผมจะบอกคุณว่่า เค้าไม่รับเช่าพระในราคาที่แพงๆหรอกครับเซียนจะบอกคุณว่า พระคุณยังไม่นิยมเลยครับ ถึงพระเราจะแท้ๆจากวัด เค้าก็บอกว่าเก้ครับ หรือเช่าพระเราในราคาที่ถูกๆ

@@najoepalanoy3938 บัวใต้ตม

@@najoepalanoy3938 ใช่ๆครับเค้าเก่งทางตะล่อมให้คุนยอมปล่อบเพราะร้อนเงิน...ผมเคยแห่นะ..ทั้งวงการมันรุ้กัน..เอาดปนว่าผมจะส่งประกวดในนามคนอื่นละกัน...เศรษฐีเต้ารอแย่งวันประกวด.. ไม่งั้นอาชีพนี้ไม่รวยล้นฟ้าหรอกคับ...และตอนนี้คือเอาดีทางยุทูปยั่งยืนกว่า555หลอกไปเรื่อยวันละ30ล้านซื้อเข้า..จะบอกราคาขายแพงแถมเก๊

หลวงพ่อทวดหลังตัวหนังสือปี05 เป็นพระปั๊มนะครับ ไม่ใช่แบบเตารีด"หล่อ"แล้วมาปั๊มซ้ำ ต้องศึกษาให้เข้าใจครับระหว่าง"พระหล่อ"กับ พระ"ปั๊ม"ครับ

ไอ้ที่ว่า"เก๊"น๊ะ..ดูยังไงเหรอ..บ้ารึเปล่า..

เคยเห็นพระแท้รึป่าว ไปหัดดูใหม่นะ

Sarawut Yodsanga ผมก้มีคับพี่อยากรู้เหมือรกันคับ

20คับ

การดูพระขอให้"เคยเห็น"พระแท้"บ่อยๆจนชินตา จดจำพิมพ์,ธรรมชาติ,เนื้อหารายละเอียดต่างๆ ให้แม่นยำคุณจะสามารถแยกแยะ"เก๊แท้"ได้เองโดยอัตโนมัติโดยไม่จำเป็นต้องเห็น"พระเก๊"ก็ได้ครับ

นาย ถูกต้อง ขอบคุณมากครับ

พระของพี่ ดูดีเกินความจริงหรือเปล่าครับ พี่จะมากำหนดให้พวกผม ต้องเชื่อว่าพระของพี่แท้ ทุกๆองค์ของพี่ พระของพวกพี่ที่ทำขึ้นมาหรือเปล่าครับ

@@najoepalanoy3938 ไม่มีใครมาบังคับคุณหรอกคับ แค่เขาบอกว่า ถ้ามีแบบนี้ เขารับเช่า ถ้ามีแบบอื่น เก็บไว้มโนต่อไปคับ

ปลอมสะกดอย่างนี้คะ พระแท้เคยเห็นมั้ยคะ หรือเก็บแต่พระเก๊

ในปี 1931 สตูดิโอ Tianyi ในเซี่ยงไฮ้ได้ผลิตสิ่งที่บางคนคิดว่าเป็นเครื่องส่งรับวิทยุภาษาจีนเรื่องเสียงครั้งแรกในฤดูใบไม้ผลิบนเวที (歌場春色) [9] ในปี 1932 พวกเขาได้ร่วมมือกับ Sit Gok-Sin (薛覺先) นักร้องโอเปร่าชาวกวางตุ้งเพื่อสร้างนักพูดชาวกวางตุ้งคนแรก White White Dragon (白金龍) ภาพยนตร์เรื่องนี้พิสูจน์แล้วว่าประสบความสำเร็จอย่างมากและในปี 1934 พวกเขาก่อตั้ง Tianyi Studio (ฮ่องกง) ในเกาลูนเพื่อสร้างภาพยนตร์กวางตุ้ง [7] [10] การย้ายมาที่ฮ่องกงถูกเร่งเมื่อรัฐบาลหนานจิงได้ออกคำสั่งห้ามภาพยนตร์ศิลปะการต่อสู้เช่นเดียวกับภาพยนตร์กวางตุ้งและอีกสองปีต่อมาพวกเขาย้ายการผลิตภาพยนตร์ทั้งหมดจากเซี่ยงไฮ้ไปยังฮ่องกง [7] Tianyi ถูกจัดให้เป็น Nanyang (南洋) โปรดักชั่นกับ Runde Shaw ในฐานะหัวหน้าสตูดิโอ [11] พวกเขาเริ่มสร้างภาพยนตร์มลายูในปีพ. ศ. 2480 ในประเทศสิงคโปร์ภายใต้สตูดิโอที่ชื่อว่ามลายูฟิล์มโปรดักชั่นซึ่งนอกเหนือจากช่วงหยุดชะงักเนื่องจากการบุกรุกของญี่ปุ่นจนถึงปี 1967 [12] [13] นักแสดงมาเลย์ที่โดดเด่นที่สุดผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้างในช่วงนี้คือ P. Ramlee [14] Run Run Shaw ในปี 1927 ชอว์บราเดอร์ยังคงขยายตัว แต่ประสบความล้มเหลวในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเมื่อญี่ปุ่นยึดครองแหลมมลายูและสิงคโปร์ [15] พวกเขาเริ่มสร้างใหม่หลังสงคราม ในปี 1950 นันยางเริ่มเปลี่ยนการผลิตภาพยนตร์จากกวางตุ้งเป็นจีนกลางเนื่องจากการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ในจีนแผ่นดินใหญ่ตัดการจัดหาภาพยนตร์แมนดารินให้กับชุมชนชาวจีนโพ้นทะเล ในช่วงนี้นันยางสตูดิโอดำเนินงานภายใต้ชื่อ บริษัท ชอว์แอนด์ซัน จำกัด [16] ในปี 1957 Run Run Shaw ย้ายมาที่ฮ่องกงจัดตั้ง บริษัท ใหม่คือ Shaw Brothers (Hong Kong) Ltd. และสร้างสตูดิโอใหม่ที่ Clearwater Bay ซึ่งเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2504 ในฐานะ Movietown [4] ในช่วงกลางทศวรรษ 1960 Movietown เป็นสตูดิโอที่ใหญ่ที่สุดและมีอุปกรณ์ครบครันที่สุดในการถ่ายทำภาพยนตร์ของจีนรวมถึงสตูดิโอส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยมี 15 ขั้นตอนสองชุดถาวรอุปกรณ์ทำภาพยนตร์ที่ทันสมัย สิ่งอำนวยความสะดวกและพนักงาน 1,300 คน [17] ยุค 60 เป็นช่วงเวลาแห่งการแข่งขันที่รุนแรงระหว่างชอว์บราเดอร์และคาเธ่ย์องค์กร แต่ในที่สุดชอว์บราเดอร์ก็ได้รับตำแหน่งสูงกว่าและคาเธ่ย์หยุดการผลิตภาพยนตร์ในปี 2513 The Love Eterne รวมไปถึง One-Armed Swordsman ซึ่งทำลายสถิติบ็อกซ์ออฟฟิศและมีฉากต่อเนื่องหลายฉาก [18] สตูดิโอเป็นที่นิยมประเภทภาพยนตร์กังฟูซึ่งต่อมาได้รวมห้านิ้วแห่งความตายและห้องที่ 36 แห่งเส้าหลิน [19] Sir Run Run Shaw มีส่วนร่วมในโทรทัศน์เมื่อ TVB เปิดตัวในปี 1967 [18] ในปี 1969 Shaw Brothers (HK) ได้ออกหุ้นและกลายเป็น บริษัท จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในปี 1970 ชอว์บราเดอร์เผชิญกับความท้าทายอย่างมากจากสตูดิโอใหม่ Golden Harvest ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากในระดับสากลด้วยภาพยนตร์ศิลปะการต่อสู้ Enter the Dragon นำแสดงโดยบรูซลี จากนั้นชอว์บราเธอร์สก็เริ่มผลิตภาพยนตร์ร่วมกับผู้ผลิตตะวันตกสำหรับตลาดต่างประเทศ [20] และลงทุนในภาพยนตร์เช่น Meteor และ Blade Runner [21] อย่างไรก็ตาม Shaw Brothers หยุดการผลิตภาพยนตร์ในปี 1986 เนื่องจากการแข่งขันจาก Golden Harvest และการละเมิดลิขสิทธิ์ที่เพิ่มขึ้นโดยมุ่งเน้นที่การผลิตรายการโทรทัศน์แทน 2529 ใน Movietown กลายเป็นเมืองทีวีซึ่งให้เช่า TVB เพื่อผลิตรายการโทรทัศน์ 2531 ใน บริษัท จัดอยู่ภายใต้ร่มขององค์กรชอว์ [4] ในยุค 90 ชอว์เริ่มสร้างภาพยนตร์สองสามเรื่อง แต่ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับเมื่อก่อน [22] Shaw Studios ได้ย้ายไปอยู่ที่ใหม่ใน Tseung Kwan O ประเทศฮ่องกง

กรรมการ Shaw Brothers เป็นผู้กำกับภาพยนตร์เช่น King Hu, Lau Kar-leung และ Chang Cheh King Hu เป็นผู้อำนวยการคนแรกที่จำได้ดีที่สุดสำหรับภาพยนตร์ของเขา Come Drink with Me ซึ่งเป็นภาพยนตร์ศิลปะการต่อสู้ที่แตกต่างจาก Chang Cheh ในเรื่องที่เป็นจุดเด่นของตัวละครหญิงที่มีความสามารถและหมุนรอบความรักในโลกศิลปะการต่อสู้มากกว่า การกระทำที่รวดเร็วและเรื่องราวของความเป็นพี่น้องที่ Chang Cheh จะเป็นที่นิยมในภายหลัง Chang Cheh ผู้ชื่นชอบองค์ประกอบหลังมากขึ้นจะเป็นผู้กำกับที่รู้จักกันดีที่สุดของชอว์สตูดิโอโดยมีภาพยนตร์เช่น Five Deadly Venoms, The Brave Archer (จากผลงานของ Jin Yong), One-Armed Swordsman และภาพยนตร์คลาสสิกอื่น ๆ ของ Wuxia และ Wushu เกือบจะมีชื่อเสียงเท่ากันคือ Lau Kar-leung ผู้ฝึกสอนการต่อสู้ผู้ซึ่งจะผลิตภาพยนตร์กังฟูที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงเช่นหอการค้าเส้าหลินที่ 36 และ The Eight Diagram Pole Fighter นักแสดง โรงภาพยนตร์ในไซ่ง่อน (วันนี้โฮจิมินห์ซิตี้), เวียดนามใต้, 2510, โฆษณาสำหรับดาบสายฟ้าที่นำแสดงโดย "ราชินีแห่งดาบ" Cheng Pei-pei ชอว์บราเดอร์เป็นแบบอย่างหลังจากระบบฮอลลีวูดคลาสสิกโดยมีนักแสดงหลายร้อยคนเซ็นสัญญาเป็นเอกสิทธิ์ ในขณะที่สตูดิโออื่น ๆ หมุนสมาชิกบล็อกชอว์บราเดอร์มอบหมายให้นักแสดงบางกลุ่มทำงานเฉพาะกับผู้กำกับบางคน ชอว์สตูดิโอโปรดักชั่นในช่วงปลายยุค 50 ถึงต้นยุค 60 ถูกครอบงำโดยนักแสดงหญิงเช่น Li Li-Hua, Ivy Ling Po, Linda Lin Dai, Betty Loh Ti และ Li Ching ในคุณสมบัติที่น่าทึ่งและโรแมนติก โดยเฉพาะอย่างยิ่งละคร Huangmei The Love Eterne นำแสดงโดย Ivy Ling Po และ Betty Loh Ti และตามตำนานพื้นบ้านผีเสื้อ Lovers จากราชวงศ์จินเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่ทำรายได้สูงสุดของสตูดิโอชอว์ ความสำเร็จครั้งใหญ่ของเธอเกิดจากการคัดเลือกนักแสดงของ Ivy Ling Po ซึ่งเป็นนักแสดงที่ไม่รู้จักในฐานะนักแสดงนำชาย ในเรื่องของคู่รักผีเสื้อนักแสดงนำหญิงที่เบ็ตตีโลห์ตีปลอมตัวเป็นชายเข้าเรียนในวิทยาลัยเพราะสังคมผสมระหว่างเพศถูกห้าม ภาพยนตร์ดังก้องกังวานต่อผู้ชมและมีรายงานว่าสมาชิกของผู้ชมในฮ่องกงและไต้หวันซื้อบัตรเข้าชมซ้ำแล้วซ้ำอีกและดูคุณสมบัติในโรงภาพยนตร์ซ้ำแล้วซ้ำอีกในปี 2505 โดยมีผู้ชมกว่า 20 ครั้ง ตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1960 เป็นต้นมาการผลิตคุณสมบัติที่น่าทึ่งได้ลดน้อยลงไปตามลักษณะของศิลปะการต่อสู้ กลุ่มนักแสดงจากภาพยนตร์อิสระ 2521 เรื่อง Five Deadly Venoms และภาพยนตร์ซีรีส์ต่อมาที่รู้จักกันในชื่อ Venom Mob - เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่น่าจดจำที่สุด พวกเขาคือ Lo Mang, Lu Feng, Sun Chien, Chiang Sheng และ Kuo Chui ซึ่งเคยเป็นดาวในสตูดิโอ Shaw มาหลายปี แต่ก็ไม่ได้จดจำใบหน้าจนกว่าจะถึงห้าพิษร้ายแรง Wei Pai ผู้เล่น Snake (เรียกว่า "Number Two" ตลอดทั้งภาพยนตร์เรื่อง Five Deadly Venoms) ก็เป็นส่วนหนึ่งของ Venom Mob ซึ่งมีนักแสดงมากกว่า 15 คนที่ปรากฏตัวในภาพยนตร์ Venom เกือบทั้งหมด ในครึ่งแรกของปี 1970 ดาวอีกสองดวงเป็นที่รู้จักกันดีเป็นพิเศษและได้รับการสนับสนุนจาก "ผู้อำนวยการล้านดอลลาร์" Chang Cheh ในภาพยนตร์ของเขา: Ti Lung และ David Chiang เขายังได้รับการรับรองในฐานะนักแสดงที่มีความสามารถที่เสริมความเย้ายวนใจทางกล้ามเนื้อด้วยคุณสมบัติที่แข็งแกร่งในภาพยนตร์หลายเรื่องของเขา ในขณะที่เชียงนั้นมีความแกร่งและมีพลังเล็กน้อยและมักจะเล่นบทต่อต้านประชดประชันให้กับต้นแบบของลุง ชางเช่อพร้อมกับ Ti Ti Lung และ David Chiang เป็นที่รู้จักในนามภาพยนตร์ "Iron Triangle" ทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในช่วงกลางทศวรรษที่ผ่านมาทั้งคู่ถูกบดบังด้วยการเพิ่มขึ้นของอเล็กซานเดอร์ฟูเฉิงผู้ซึ่งมีบทบาทสนับสนุนในหลาย ๆ ด้าน Fu ถูกฆ่าตายในปี 1983 ในอุบัติเหตุทางรถยนต์ตอนอายุ 28 สิ้นสุดอาชีพที่สั้น แต่น่าตื่นเต้น สมาชิกของ Peking Opera School รวมถึง Jackie Chan, Yuen Biao และ Sammo Hung ได้แสดงความพิเศษและชิ้นส่วนในภาพยนตร์ชอว์บราเดอร์หลายเรื่องในช่วงปี 1970 ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้จักตอนนั้นก็ตาม นักแสดงหญิงที่รู้จักกันดีของ Shaw Studio ได้แก่ Cheng Pei-pei, Lily Ho [fr], Shih Szu, Lily Li และ Kara Hui Ying-Hung โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฉิงเป่ยเป่ยเป็นที่รู้จักกันดีในบทบาทนักแสดงของเธอในรายการ Come Drink with King ของคิงหูและเมื่อเร็ว ๆ นี้ในเสือหมอบหมอบของอังลีลีมังกรซ่อนเร้นในฐานะหยกฟ็อกซ์

เขาชอบพระเครื่องไทย จิมมี่วังหยู (จีน: 王羽; เกิด 28 มีนาคม 2486) [1] เป็นนักแสดงชาวไต้หวันผู้กำกับภาพยนตร์ผู้ผลิตและผู้เขียนบท วังขึ้นชื่อในปี 1967 ด้วยบทบาทนักแสดงใน One-Armed Swordsman ภาพยนตร์ศิลปะการต่อสู้ที่ผลิตโดย Shaw Brothers Studio และนักมวยจีน (1970)

The Golden Sword school is attacked by bandits. The servant Fang Cheng sacrifices his life to protect his master Qi Ru Feng. In gratitude, Qi accepts the dying Fang Cheng's son, Fang Kang, as his student. Years later, Fang Kang is scorned by his snobbish fellow students because of his poor background. Deciding that he will only cause trouble for his master Fang Kang leaves the school only to run into his classmates and his master's spoiled daughter, Pei Er. In the ensuing fight Fang's right arm is cut off by Pei Er, who is angry at his indifference towards her. Stumbling away, Fang falls off a bridge into the passing boat of a peasant girl Xiao Man. Xiao Man nurses him back to health and the two fall in love. Fang Kang is nevertheless depressed as he is unable to practice his swordsmanship. Reluctantly, Xiao Man gives him a half-burnt kung-fu manual which she had inherited from her now dead parents. With its help, Fang Kang is able to master a new one-armed style of swordplay, making him stronger than before. Meanwhile, master Qi Ru Feng is preparing for his 55th birthday and has invited all of his students to the celebration to choose a successor from amongst them so that he can retire from the martial arts world. However, his old enemies the Long-armed Devil and the Smiling Tiger Cheng are taking the opportunity to destroy Qi Ru Feng. Using a specially designed "sword-lock", they ambush and kill Qi's students travelling to the celebration. Fang Kang inadvertently learns of the plot and, breaking his promise to Xiao Man not to involve himself in the martial arts world, rushes to save his master. He is delayed en route by the Long Armed Devil's accomplices and when he arrives the Long Armed Devil has already killed most of the students and wounded Qi Ru Feng. In a vicious battle, Fang Kang manages to kill the Long Armed Devil, but chooses to return to Xiao Man and become a farmer, instead of taking his master's place at the school.