อนาคตหนังสือการ์ตูนจะอยู่หรือไป ? 

หนูเป็นเด็กรุ่นใหม่นะคะที่ยังมีความอยากสะสมอยู่ล้นหลาม ถึงพื้นที่จะมีจำกัด แต่ก็ชอบความรู้สึกตอนพลิกหน้ากระดาษกับมือ ดีใจที่ได้ฟังว่าVBKพร้อมปรับตัวแล้วยังจะอยู่กับเราอีกนาน ในชั้นหนูมีการ์ตูนสนพ.นี้เยอะสุดเลย ผลงานของClamp โคนัน ไททัน ด้วยความที่หนูสะสม ก็อยากให้หนังสือมันไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลานเลยปิดซิปล็อคไว้อย่างดี ถึงจะต้องรอนานหรือหนังสือแพงขึ้นหนูยอมจ่ายนะคะ แต่เนื้อกระดาษ หมึก ไม่เป็นใจเลยค่ะ... รบกวนช่วยปรับปรุงส่วนนี้หน่อยนะคะ

อยากให้บก.ยูตะได้อ่านเม้นนี้จัง เป็น fc.วิบูลกิจรุ่นที่สองค่ะ เริ่มมาจากคุณพ่อที่สะสมหนังสือการ์ตูนมาตั้งแต่ สมัยวีคลี่ คอมมิคส์ ยังไม่มีลิขสิทธ์อะค่ะ ปัจจุบันคุณพ่อเสียไปแล้ว แต่ที่บ้านยังเก็บหนังสือเหล่านั้นเอาไว้อย่างดี(เท่าที่ทำได้)มาตลอด ที่อยากจะบอกก็คือ อย่าเทบ่อยนักสิ หลายเรื่องที่วิบูลกิจเท ทำให้คอลเลคชั่นมันแหว่ง นึกออกช้ะ เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ ยังติดตามอยู่ ยังซื้ออยู่ นานเท่าที่ยังทำขายนั่นแหละ

ยังชอบหนังสืออยู่ค่ะ หนูเกิดปี 2550ค่ะบอกตรงๆว่ายัวพอได้รับอิทธิพลจาก90มาบ้างถึงแม้ว่าจะปลายๆแล้วแต่ก็ยังทันหนังสือตลกค่ะพวกขายหัวเราะ ปังปอน และก้หนังสือการ์ตูนผีไทยค่ะจะบอกว่าชอบมากในตอนนั้นซื้อมาหลายเล่มมากเพราะตอนนั้นราคาไม่ได้แรงเลยค่ะ 10-15บาทได้มั้งึะถ้าจำได้ แต่บอกตรงๆเลยนะคะว่าหนังสือการ์ตุูนมันมีความสนุกมากกว่าแบบในดิจิตอลจริงๆค่ะ ยังอยากให้มีต่อไปค่ะ แต่ยอมรับเลยว่าปัจจุบันหนังสือการ์ตูนแถวบ้านไม่มีขายแล้วค่ะ แต่แต่ก่อนยังมีสมัยหนูยังเด็ก

ชอบหนังสือมากกกกก ยังสะสมอยู่นะแต่เศรษฐกิจแบบนี้😵

ขอบคุณครับ

ปัจจุบันถือว่าดีมากๆ ทำต่อไปครับถึงจะตามมังงะวิบูนน้อยก็เถอะ เเต่อนาคตอาจจะเยอะขึ้นอีก

ขอบคุณมากครับ

บางร้านซื้อมาตั้งแต่เด็กจนโต ก็ปิด ทยอยปิดไปเรื่อยๆ ในห้างที่เคยซื้อก็ปิดหมด บางทีขับรถหาร้านการ์ตูนทั้งวัน บางเรื่องก็แพงมาก เด็กสมัยนี้ซื้อไม่ไหวก็เข้าใจเรื่องต้นทุนกับลิขสิทธิ์ เด็กก็เลยหาอ่านฟรีๆตามเนต ส่วนตัวอ่านกับหนังสือจะชอบมากกว่า เคยนั่งคุยกับเจ้าของบางร้านปรับตัวไว ก็อาศัยส่งเคอรี่ให้ลูกค้าประจำ แต่กำไรก็คงไม่ได้มากมายทำเพราะใจรัก ความทรงจำดีๆตอนเด็ก รอคอยเดอะทาเล้นเล่มละ7บาทออกทุกอาทิตย์เพื่ออ่านดราก้อนบอล เตรียมขนมพร้อมอ่านอย่างมีความสุข ซึ่งเด็กสมัยนี้คงไม่มีโอกาส สัมผัสบรรยากาศแบบนั้น.

วิบูรณ์กิจ อยู่กับเรามาตั้งแต่เด็กๆ คู่กับ ยอดธิดา มิตรไมตรี หมึกจีน ฯลฯ หลังจากลิขสิทธิ์เข้ามา สนพ.ต่างๆก็ล้มหายตายจาก นึกถึงสมัยที่ สนพ.แข่งกันโดยการพิมพ์เรื่องเดียวกัน คุณภาพการแปล รูปเล่ม ความหนา ราคา คือตัวตัดสิน บรรยากาศแบบนั้นไม่มีอีกแล้ว ดีใจที่วิบูรณ์กิจยังคงอยู่ เป็นตำนานที่ยังมีชีวิตของวงการการ์ตูนญี่ปุ่นแปลไทย ตั้งแต่ยุคไพเรทจนถึงยุคลิขสิทธิ์

คำว่า “”การสะสมหนังสือ มันเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว“” เพราะมันเป็นไปไม่ได้ มันจึงมีค่ามากครับ

สุดยอดมากครับพี่ ขอชื่นชม

ยังอยู่แน่นอนครับ ถ้ายังมีโอตาคุในประเทศไทย เพราะส่วนใหญ่ดูอนิเมะจบมักจะมาตามเก็บอ่านมังงะกับนิยายเสมอ

แต่ตอนนี้ไม่ใช่แบบที่น้าแกคิดแล้วนะครับ โลกไปทางดิจิตอลก็จริง สิ่งพิมพ์หลายๆอย่างอาจจะตาย แต่ หนังสือการ์ตูนความต้องการยังเยอะและมีตลอด ไม่งั้นจะไม่มีพ่อค้าที่กวาดซื้อไปโก่งราคาหรอกครับ ปรับความคิดใหม่นะครับ นักสะสมมีเยอะครับบ้านเรา คนที่อยากเก็บเป็นเล่มๆ เสพงานผลิต งานพิมพ์ดีๆมีเยอะครับ อยากให้พิมพ์ออกมาเยอะๆและฟังเสียงของลูกค้าเวลาเล่มไหนหมดแล้ว อย่าให้รีปริ้น ผมคนนึงอย่าได้หลายเรื่องของวิบูลย์กิจแต่พอเข้าดูในเว็บ มีนะ แต่ไม่ครบ มันก็ไม่อยากซื้อครับ ไปดูร้านพ่อค้ามือสอง บางทีก็สภาพแย่แต่ขายแพง เพราะของมันมีความต้องการในตลาด ใครๆก็อยากได้หนังสือมือหนึ่งครับ ขอบคุณครับ

ผมก็เป็นอีกคนที่ชอบอ่านการ์ตูนแบบเล่มมากกว่า E-Book และก็ชอบเก็บหนังสือแบบเล่มมากกว่า ซึ่งก็เก็บของวิบูรณ์กิจด้วย แต่อยากฝากไปถึงสำนักพิมพ์วิบูรณ์กิจนิดนึง เพราะเห็นตอนนี้ราคาหลายเล่มโดดไป 90 บาทหมดแล้วเลยอยากให้อย่างน้อย ช่วยเพิ่มคุณภาพกระดาษสักนิดนึง เพราะถ้าปัจจุบันเที่ยบกับ Luckpim หรือ Dex แล้ว คุณภาพเขาคุ้มค่ากับราคามากกว่า แต่ถึงอย่างไงผมก็ยังสนับสนุนค่ายนี้ต่อไปครับ

Ebook อ่านได้นะแต่ไม่ได้อรรถรสเท้าหนังสือ หนังสืออย่างน้อยได้เสียงการพลิกกระดาษ ได้กลิ่นหอมจากกระดาษที่พิมพ์ที่ ebook ไม่มีวันสู้ได้ น่าใจหายเมื่อคิดถึงจุดที่โลกจะ ไม่ผลิตหนังสือการ์ตูนแล้ว ตอนเด็กอยากสะสมเก็บเหมือนเพื่อน แต่ด้วยฐานะการเงินที่บ้าน ยากพอที่จะทำเช่นนั้น แม้เราจะเก็บเงินซื้อได้เองแต่ก็ยังไม่สามารถซื้อได้ครบทุกตอน พอโตมา พยายามเติมเต็มความฝันในวัยเด็ก แต่หนังการ์ตูนปัจจุบันเริ่มเป็นของแร หายาก ตามเก็บยากและบางครั้งเขาก็อาจจะเลิกพิมพ์ไปแล้ว น่าใจหายเหมือนกันนะ

ผมนะ จากใจของเด็กอายุ14คือชอบมังะกับอนิเมะนะคือสิ่งที่บ.ก.พุดมาอ่ะคือผมฟังเเล้วพูดอะไรไม่ออกเลยครับ พูดถูกใจมากเลยครับ

คือชอบอ่านหนังสือการ์ตูนมาก คือไม่อยากให้หายไปจริงๆ คือฟีลในการอ่านอีบุ๊กกับหนังสือมันคนละอย่างมาก แล้วอ่านในพวกทรศ.มันเสียสายตา เราชอบดูเมะแบบคนอื่นยังถามว่าดูเมะแล้วจะซื้อหนังสือทำไม มันเป็นของที่อยากสะสม แล้วฟีลในการอ่านแบบไม่รู้อะ แต่ชอบหนังสือการ์ตูนมากกว่า

20ปีที่แล้วเก็บตั้งขึ้นห้างทุกสิ้นเดือน เข้าอยู่2ร้านวิบูรณ์กิจ กับสยามอินเตอร์คอมมิค ซื้อยูกิโอกับนารุโตะเดือนละเล่ม สมัยนั้นเล่มละ40-45

สมัย 10 กว่าปีที่เเล้วผมอยู่ ป.6 ผมเก็บเงินซื้อหนังสือการ์ตูนทุกวัน ย้ำทุกวันผมได้เงินวันละ100 อย่างรีบอร์น สมัยนั้นเล่มละ 45-50 จำไม่ค่อยได้ ผมมีความสุขท่ีได้อ่าน เเต่ตอนนี้ผมอยากสารภาพว่าผมไม่ได้ซื้อหนังสือการ์ตูนเเล้ว 1.พอเก็บไว้สัก2-3ปีเหมือนตัวหนังสือมันจางลง 2.พื้นที่เก็บไม่มีซื้อเยอะเกิน 3.ขายไม่ได้ราคา ตอนเด็กซื้อมา45-50 พอตอนนี้มีขายเป็นชุดบางชุด 40 เล่ม 1000บาทหรือถูกกว่านั้น 4.ขาดง่ายมีวันหนึ่งเก็บในกระเป๋าเรียนฝนตกนั่งวินทำไรไม่ได้ต้องเอาตัวบังฝน พอกลับบ้านเอามาวางให้มันเเห้ง ผลที่ได้กระดาษติดกันผมจะเเกะ หนังสือลอกออกมาหรือไม่ก็ขาดหรือไม่ก็กระดาษกรอบเเบบเกี๊ยวเเข็งๆ จนมีอยู่วันหนึ่งผมคุยกับเพื่อนเเล้วผมอ่านถึงเล่มล่าสุด เเต่เพื่อนมันเล่ายาวกว่าผมหลายสิบตอน ผมถามไปหาอ่านจากไหน เพื่อนบอกในอินเทอร์เน็ตเเต่เป็นภาษาญี่ปุ่นหรืออังกฤษนี้ละ ผมก็เข้าไปอ่านวันนั้นความคิดของผมคือ 1.ไม่เสียเงิน 2.ไม่เสียพื้นที่เก็บ 3.ไม่ต้องกลัวของเสียหาย 4.สะดวกสบาย ที่ผมพิมพ์คือความจริงไม่เกี่ยวกับเรื่องลิขสิทธิ์หรือไม่ ผมเเค่สารภาพว่าครั้งหนึ่งความคิดผมได้เปลี่ยนไป ไม่ได้พูดถึงสำนักพิมพ์ไหนสักสำนักนะ พูดเรื่องความคิดการซื้อหนังสือเทียบสมัยนั้นกับสมัยนี้

ฟิวอ่านเป็นรูปเล่ม กับอีบุ๊ครึตามแปลเถื่อน มันต่างกันมากนะคะ เป็นคนนึงที่อ่านแต่เป็นเล่ม ไม่งั้นก็ดูเป็นอนิเมไปเลย อ่านตั้งแต่อายุ11 ขวบ เก็บตังค่าขนมซื้อ ปัจจุบัน อายุ35 แล้ว ก็ยังซื้ออ่านอยู่ทั้งค่ายนี้และค่ายอื่นๆ การ์ตูนโปรดเมื่อ10-20ปีที่แล้วที่ซื้อมาสมัยนั้นก็ยังรอดมาถึงปัจจุบันเลย (แต่แอบนอยนิดนึงนะคะ ว่าออกช้าจังค่ะ เคยรอเป็นปีๆเลยอะกว่าจะออกแต่ล่ะเล่ม ล่ะมีแบบพิมพ์เล่ม1 แล้วก็หายไปเลย...) ปล.ยังรอซื้อ โนระงามิ อยู่นะคะ

อยากจะถาม บ.ก.ยูตะว่า ถ้าจะเพิ่มราคานส.เป็น 90 บาท ช่วยเพิ่มคุณภาพของนส.หน่อยเถอะ ไม่ใช่มาตีเนียนเพิ่มราคาแต่คุณภาพ 50 บาท หรือเป็นเพราะว่าต้องการไล่ให้คนไปอ่าน E book จริงๆ 😥

ผมเลิกซื้อหนังสือการ์ตูนมาได้ 12 ปีละ ผมเคยนับๆ สะสมตั้งเเต่เล่มละ 25 จนถึง 45 บาท ประมาณ 1000 เล่มได้ ทุกวันนี้ไม่เหลือซักเล่ม ebook ไม่มีวันซื้อ ไม่ใช่หัวโบราณ เเต่ รู้สึกมันไม่มีราคา ตอนนี้จะสะสมเฉพาะ หนังสือการ์ตูนจากญี่ปุ่นเท่านั้น กระดาษดีกว่ามาก หมึกก็ดีมากมาย น่าสะสม ตอนนี้กำลังคิดว่า จะเอาเรื่องอะไรดี ส่งท้าย เป็นฉบับญี่ปุ่นทั้งหมด

หนังสือการ์ตูนมันไม่มีวันจะหมดไปหรอก ถ้าสำนักพิมพ์ไม่ดอง จนคนที่เขารอไปอ่านเถื่อนซะหมด เราอยู่ในยุคที่หนังสือการ์ตูนมันบูมมากๆ เรียกได้ว่าซื้อวันละเล่มเลย ตั้งแต่มันราคา 35 บาท วิบูลกิจ บงกช แอนท์ที่ปิดไปแล้ว เซนชู สยามอินเตอร์งี้ แต่แบบ บางทีกาตูนที่เราอ่านมันรอนานเกินอ่ะ บางเล่มทิ้งกันเป็นปี หลายๆคนเลยเลือกอ่านในเน็ตมากกว่า วิบูลกิจเราตามเนกิมะ บงกชนี่พวกมังวาย เช็นชูตาม ฮาเลลูย่าโอเวอร์ไดร์ฟ สยามนี่ตามรีบอร์น แอนท์ ก็มีเจ้าหญิงมันจุราช รู้สึกสยามเอาไปทำต่อเป็น เจ้าหญิงนักล่าปีศาจมั้ง

เอาจริงๆถึงจะมีE-bookเข้ามาหลายคนมากๆก็ชอบที่จะซื้อเป็นหนังสือมากกว่าผมก็เป็นหนึ่งในนั้นและเป็นเด็กยุคนี้ กลายเป็นว่าซื้อแต่ที่เป็นหนังสือ E-book ไม่เคยซื้อเลยการได้จับหนังสือ การได้กลิ่นหนังสือ การได้สะสมนั้นแหละคือเสน่ห์ของการอ่านหนังสือ มองว่าบางคนที่เขาหันไปซื้อแบบ E book เพราะเก็บง่าย ถูก และแบบที่เป็นหนังสือมันแพง แต่เอาจริงๆมันก็ไม่อาจไปแทนคุณค่าของหนังสือได้

ผมที่เพิ่งมาเริ่มอ่านมังงะในปี65 ยังคงรักในการอ่านแบบหนังสืออยู่ดี

ไม่จริงเสมอไปนะคะ เราอ่านการ์ตูนมาตั้งแต่เด็ก สิ่งที่เราชอบที่สุดคือ เวลาอ่านแล้วนิ้วเลอะหมึก ข้างนิ้วโป้งจะเลอะ ๆ ได้กลิ่นกระดาษ ทุกวันนี้เราทำงานแล้ว ซื้อเก็บอย่างเดี่ยวค่ะ หนังสือคือสิ่งที่เราไม่เคยคิดเสียเวลาเสียเงินซื้อเลยค่ะ

อยากซื้อนะคะ แต่ราคาแพงมาก พอหันไปดู e-book เอ้า แพงเท่ากันทั้งๆ ที่ต้นทุนน่าจะถูกกว่าด้วยซ้ำเพราะไม่ต้องใช้กระดาษ ไม่ต้องใช้หมึก ไม่ต้องใช้แรงงานคุมเครื่องพิมพ์

เป็นอีกคนที่ชอบจับหนังสือหรือกระดาษมากกว่าโทรศัพท์ค่ะ ไม่รู้สิ เราชอบกลิ่นกระดาษ ชอบสะสม ชอบเวลามองไปที่ชั้นหนังสือแล้วมีมังงะเรียงเต็มชั้นอะไรแบบนี้อะค่ะ ถึงพื้นที่จะมีจำกัดก็เถอะ 555

ผมคนนึงถ้าจะซื้อการ์ตูน e-book คือทางเลือกสุดท้ายที่ผมจะเลือกซื้อ พูดง่ายๆคือถ้าไม่มีเป็นหนังสือจริงๆนั้นแหละ ต่อให้มันง่ายจ่ายตัดบัตรได้ ออกไวรวดเร็ว แต่เมื่อรู้ว่าออกเล่มใหม่ผมก็จะโทรไปร้านขายหนังสือถามว่าของมายัง แล้วก็ไปซื้อที่ร้านดีกว่า

คนยุค 90 ส่วนใหญ่ จะรู้ว่า วิบูลย์กิจ ชื่อนี้ แหละทำหนังสือการตูนพัง ดองจน เขาต้องไปหาสปอย์จากเน็ต บ้างคนมองว่าเขาอาจจะมีปัญหา โน้นนี้นั้น ปัจจุบันนี้ผมยังไม่รู้ปัญหาที่แท้จริงของการดองการตูนของเขา ที่พิมพ์ซ้ำมาขายวนไป การตูนไม่จบสัก ทีจนยาวมาถึงปัจจุบันที่ internet ก้าวไกลมากแล้ว ปัจจุบันญี่ปุ่นหนังสือการตูนก็ยังขายได้อยู่ถึงจะไม่เท่าในอดีต

เทคโนโลยี​ทำให้ค่ายนี้เลิกดองหนังสือได้เสียที

ผมเคยนะอ่านผ่านโน้ตบุ้คแล้วปวดตาจริงแล้วพยายามซื้อแบบเล่มต่อ แต่ก็ไม่สะดวกต้องเดินทางไปซื้อบางที่ไปก็ไม่มี E-BOOK สะดวกคืออยากอ่านได้อ่านเลย สุดท้ายก็ซื้อไอแพดมาเพื่ออ่านมังงะล้วนๆ คนซื้อของแท้ตลอดถ้ามีวิธีที่เขาจะซื้อง่ายๆเขาก็ตามซื้อกันนะ

เห็นคอมบก.ยูตะ​ยังประหยัดมากเลย ไฟยังกระพริบ​ เลื่อนๆไปเรื่อยๆ​ เป็นเส้นๆ​

โดยส่วนตัวอบอ่านเล่มมากกว่า อ่าน E book แล้วไม่ค่อยรู้สึกอยากอ่านอีกรอบ แต่เห็นด้วยเรื่องไม่ค่อยมีที่เก็บดี ๆ TT หลายปีมานี้การ์เรื่องใหม่ ๆ ไม่ซื้อเลย ซื้อเฉพาะเรื่องที่ตามอยู่แล้ว หรือซื้อยกชุด ไม่อยากโดนลอยแพซ้ำ ๆ + หลังหัก

E-bookอะ ผมรอราคามันลงอะผมว่ามันแพงไป คือรูปเล่มมันเป็นเล่มe bookมันคือไฟลอ่านในมือถือ แล้วผมมีเรื่องอยากบอกอยู่อย่างรูปเล่มคนอะยังชอบเก็บอยู่แต่!!! รูปมันต้องดีจริงน่ะครับ แบบจำมาแล้วหมึกไม่ติดมือพิมพ์ดีแปลดีกระดาษดี คือทำรูปเล่มสวยๆอะครับ พร้อมเก็บจริงของที่มันคุณภาพจริงๆอะครับ ทุกวันนี้ราคาเท่ากันแต่ละค่ายนิดูๆก็รู้ว่าอันไหนพิมพ์ดีกว่า

ก็ถ้ายังลอยแพหนังสือ​ ไม่พัฒนาคุณภาพกระดาษ​ ก็จบไปครับ

ไม่ปรับปรุงคุณภาพก็ขอบายครับ แต่ก่อนในเดือนๆนึงซื้อของค่ายนี้เยอะสุด จนตอนนี้ไม่ได้ซื้อแล้วครับ เสียดายการ์ตูนดีๆที่ค่ายนี้ได้LCมา แต่ถ้าราคายังสวนทางกับคุณภาพแบบนี้ก็ขอผ่านครับ

ผมเป็นคนสะสมหนังสือการ์ตูนนะคับ ชอบอ่านและสะสมมากๆ ไม่ชอบอ่านE bookเพราะมันไม่ได้อารมณ์ กลิ่นหมึก และรอยเปื้อนหมึกบนนิ้ว ผมอยากให้พวกคุณพัฒนาให้มากกว่านี้ จำได้ว่าเคยซื้อตอนเล่มละ25บาท จนมันขึ้นราคาไป70up ผมว่ามันแพงไปเยอะมาก เข้าใจว่าอะไรๆก็แพง แต่ตอนนี้ผมเลิกซื้อละ แต่ก็ยังตามสะสมพวกมือ2 เพราะผมไม่ไหวกับราคาในปัจจุบัน ถ้าลดราคา หรือตรึงราคากลับมาได้สัก50-60ยังพอรับได้คับ ไม่ไหวจิงๆจากคนสะสมคับ

ขอให้อยู่กันไปนานๆ

ยังซื้อเล่มยูจ้า ไม่ถนัดอ่านออนไลน์ มันไม่ได้ feel

ชอบมาก สมัยนั้น

รอซื้อโคนันอยู่นะคะ

ในมุมมองผมหนังสือจะทำได้ก็ต่อเมื่อทำเป็นของสะสมโดยวิธีpre-orderทั้งset ไม่ต้องผลิตเกินความต้องการของลูกค้ามากนัก อีกสาเหตุที่คนไม่ซื้อหนังสือของวิบูลกิตต่อเพราะไม่รู้จะพิมพ์จบไหม

ส่วนตัวเราเป็นเด็กรุ่นใหม่แต่ว่ายังชอบสะสมพวกหนังสือการ์ตูนพวกนี้อยู่ โดนเพื่อนล้อเป็นประจำเลยว่าจะซื้ออ่านทำไมเป็นเล่มๆไม่อ่าน e book เอา แต่ไม่ว่าใครจะว่ายังไงเราก็ยังจะซื้อหนังสือการ์ตูนแบบนี้ต่อไปนะเป็นกำลังใจให้

ชอบ สยาม กับ วิบูลกิจ

ทุกวันนี้ตามหาซื้อผลงานอาดาจิมิซึรุในเน็ตมาเก็บไว้เพราะร้านเช่าการ์ตูนไม่มีแล้ว ราคาเล่มเก่ามือสองบอกเลยราคาสูงหลายเท่าตัวจากราคาเล่มมาก อ่านแล้วเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครํ้ง

ทุกคนชอบหนังสือที่เป็นหนังสือแหละครับ แต่ตอนนี้หลายๆคนคงต้องหันมาซื้อเป็น e book กัน คงเพราะราคาไม่เท่าคุณภาพ ส่งช้า ร้านหนังสือพากันปิดตัวหมดจะซื้อทีต้องนั่งรถเข้าเมือง มันหลายๆอย่างอะครับสุดท้ายคนก็อ่านเองก็ต้องปรับตัวเหมือนกัน

โปรดทำหนังสือเล่มต่อไปนะครับ.

ผมอ่านในมือถือแค่ความจำเป็นเท่านั้น..ส่วนหนังสือ ผมรัก ผมคลั่งไคล้และชอบอ่านจากหนังสือมากกว่า

เทคโนโลยีกำลังลบความทรงจำเก่าๆไปเรื่อยๆ ต้องทำใจ

สมัยก่อนราคาข้าวแกง20บาท หนังสือการ์ตูนราคา40บาท ต่างกัน20บาท แต่สมัยนี้ข้าวแกง40บาท หนังสือการ์ตูน90บาท ต่างกัน50บาท นั้นหมายความว่าอะไร ผมเข้าใจราคาหนังสือการ์ตูนจะแพงกว่าข้าวแกง2เท่าตลอด มันหมายความว่าอะไร ถ้าอนาคตข้าวแกง100บาทหนังสือการ์ตูนจะมีราคา200บาทโดยไม่มีเหตุผล

เป็นคนชอบสะสมมากกว่าอ่านในโทรศัพท์ ได้ความรู้สึกจับต้องได้มากกว่า แต่ปัญหาคือไม่มีพื้นที่จริงๆค่ะ บางทีเก็บฝุ่นจับ ปลวกกิน มันเลยต้องรออีกนานเลยกว่าจะมีบ้านมีที่เก็บ

ชอบแบบรูปเล่มมากกว่า มันหยิบจับเปิดได้...อ่านe-book แล้วปวดตาจริงค่ะ

มีลงแอปไหม​

ส่วนตัวอยากเก็บเป็นเล่มนะ แต่อีกใจนึงเดี๋ยวนี้คือรู้สึกว่ามันแพงเกินไป เมื่อก่อน 30-45 ก็รู้สึกแพงแล้วแต่รับราคาไหว เดี๋ยวนี้แพงยิ่งกว่า แล้วอ่านแปบเดียวจบเล่ม รู้สึกค้างครับไม่รวมเรื่องลอยแพ เลยหันมาสนใจนิยายมากกว่า 2-3 ร้อยก็ไม่หวั่นเล่มเดียวอ่านได้เป็นวัน แต่ปัญหาก็เหมือนเดิม ลอยแพ ไม่ก็แปลได้แย่ อะไรทำนองนี้

วิบูลย์กิจ มิตรไมตรี ยอดธิดา

อยู่

จริงครับ อ่านebookแล้วหงุดหงิด ปวดตาใจไม่จดจ่อ หนังสือจะอยู่ไปอีกเป็น100ปี

ยังสะสมอยุ่ค่ะ

ไม่เคยซื้อการ์ตูนหรือหนังสืออีบุ๊ค เพราะถ้าเรื่องไหนอยากได้จริงๆ จะตามเก็บเป็นเล่ม

ถึงว่าลักพิมพ์ถึงพิมพ์มาน้อยชั่วโมงเดียวหมดงี้ไม่เติมเพราะว่ากำลังปรับให้เข้ากับเทคโนโลยีลงe-bookนี่เอง🤣🤣🤣🤣🤣

ผมเองก็อยากให้หนังสือการ์ตูนอยู่ต่อนะ แต่วิบูลย์กิจช่วยปรับปรุงเรื่องกระดาษกับหมึกติดมือหน่อยเถอะ!!! ขอร้องล่ะ

ส่วนตัวเมื่อก่อนก็ซื้อมาอ่านแต่พอมาหลันๆอ่านแต่ล่ะที่ไม่ไหวตัวหนังสือ เล็กมองไม่ค่อยเห็นอ่านทีต้องใส่แว่นใสตาอ่าน ที่หันมาอ่านผ่าน แท็บเล็ต เพราะสามารถขยายตัวหนังสือให้ใหญ่อ่านรู้สึกไม่ ลำบากเท่าอ่านในหนังสือ

การเกิดสิ่งหนึ่งก็เป็นการหายไปของสิ่งหนึ่ง แต่อยากให้รู้ไว้ว่าคนไทยอาจจะมีคอนเท้นเอง ทำเองได้ แต่ระบบปฏิบัติงานเช่น วินโดว์ แอนดรอย์ และโซเชียลต่าง ๆไทยก็ควรจะพัฒนามีใช้ของตัวเองด้วยใหเหมือนจีน เพราะไม่อย่างนั้นคนไทยก็ต้องพึ่งพาต่างชาติอยู่ดี และยิ่งการพัฒนาไปไกลไม่ว่าจะแวดวงอุตสาหกรรม หรือไอที ก็จะยิ่งลดปริมาณงานของคนมากขึ้น คนรายได้ลดลงทั้งโลกควรจะมองได้แล้วว่างานแบบใดควรสงวนไว้ให้คนจริงๆ ไมใช่เครื่องจักรหรือเอไอ เพราะคนคือตลาดหุ่นยนตเอไอไม่สามารถซื้อสินค้าบริการ และการที่จะซื้อสินค้าและบริการก็ต้องมีรายได้ เราจะแบ่งแย่งตรงนี้ยังไงในตลาดเสรีที่มือใครยาวสาวได้สาวเอา ฉลาดกว่ากินเรียบ จีนเป็นตัวอย่างทำไมพัฒนาได้ก้าวกระโดด เพราะจีนมีตลาดใหญ่มาก จีนทำอะไรก็ขายได้เพราะมีตลาด แล้วไทยเราล่ะจะเป็นผู้ซื้อไปได้อีกนานแค่ไหน ถ้าวันข้างหน้าอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ทดแทนคนด้วยเครื่องจักร เอไอ ทั้งโลกก็ใช้หลักการเดียวกันผลิตเยอะลดต้นทุน แต่จะขายใคร เมื่อคนไม่มีงานและไม่มีรายได้เพราะตกงาน มันจะมีคำตอบให้มั้ย หวังว่าผมคงไม่อยู่แล้วในช่วงเวลานั้น ๆ

ผมชอบแบบเล่มมากกว่า​ E-Book แต่เนื่องด้วยสนับสนุน​ E-Book กันเอง​ ลดโลกร้อน​ ไม่ต้องตัดไม้ทำลายป่า​ บลาๆๆ​ มันก็เลยช่วยไม่ได้ที่จะมีการเปลี่ยนแปลง​

ผมเป็นคนนึ่งที่เด็กๆอดเงินเพื้่อซื้อหนังสือการ์ตูนที่ชอบ ปัจจุบันซื้อน้อยลงมาก แต่ก็ตามซื้ออยู่ตลอด

เราชอบหนังสือค่ะถึงจะe-bookจะสะดวกกว่าแต่เรารู้สึกว่าได้จับเป็นหนังสือมันได้feelingกว่ามากเลย ยังตามหาหนังสือเก่าๆอยู่เลยค่ะ หนังสือที่บ้านจะตั้งเป็นร้านได้แล้ว555555

ถ้าขึ้นแต่ราคา แต่ไม่ได้พัฒนาคุณภาพก็ไม่รอดหรอกครับวิบูลกิจ เล่มละ90แต่หมึกยังติดมืออยู่เลย ถ้าไม่เก็บมาทุกเล่มผมไม่ซื้อต่อหรอกครับ เหลือโคนันเรื่องสุดท้ายแล้ว พอกันทีสนพ.นี้

สื่อสิ่งพิมพ์จะไม่มีวันตาย ขอร้อง ชอบหนังสือมากเลย แง

ดูแล้วคิดถึงวิบูลย์กิจเลยค่ะ

ยังไง และยังไง ถึงยังไง และจะถึงที่สุดที่สุดยังไง สำหรับผม มันก็ต้องมี ครับ ทิ้งไม่ได้จริงๆ สำหรับผม สำหรับเด็กรุ่นใหม่คงไม่มีใครใส่ใจแล้ว

มันอยู่ที่เรื่องราคาล้วนๆเลย ถ้าราคายังแพงคนซื้อก็ยาก เดี๋ยวนี้ หนังสือการ์ตูนเล่ม ข้าวได้ 3 มื้อ ประเด็นคือคุณขายเด็กหรือขายผู้ใหญ่ หนังสือการ์ตูนส่วนมากคนอ่านคือเด็ก เด็กที่ไม่มีรายได้เป็นของตัวเอง ขอเงินพ่อแม่ซื้อหนังสือการ์ตูนเล่มละ 90 + เอาจริงพ่อแม่คงอยากซื้อให้เด็กมากมากนักนิ ถ้าพ่อแม่ไม่รวย 90 บาทถือว่าแพง

ผมชอบแบบเล่มมากๆ. สะสมเก่าๆแรร์ๆ. ชอบมากๆ

เลิกดองการ์ตูน กับพิมพ์ให้มันครบๆจบๆเรื่อง ก็อยู่ได้แล้ว เรื่องธรรมดาๆที่ไทยทำไม่ค่อยได้ แต่กลับมาโวยวายเรื่องเทคโนฯ โน่นนี่

สมัยก่อน..การได้เข้าไปร้านเช่าการ์ตูนหาหนังสือที่เราติดตามอ่านหรือการเดินเข้าไปยังร้านขายหนังสือเพื่อหาหนังสือที่เรารอคอยในแต่ละเดือนเป็นอะไรที่มีความสุขและตื่นเต้นมาก..และกับการเก็บเงินเพื่อจะซื้อหนังสือที่เราคอยติดตามซักเล่มนั้น..ผมยังจำความรู้สึกนั้นได้ดี..

แต่เราก็รู้สึกเสียใจนะ ที่อนาคตจะไม่มีร้านหนังสือการ์ตูนอีกต่อไปแล้ว.นึกถึงวันที่อ่านตั้งแต่ตัวเขียนแบบลานมือยันตัวพิมพ์ มันก็ทำให้อารมณ์ในการอ่านแตกต่างกันไปเลย.

ชอบเป็นเล่มครับ แต่ไม่ชอบกลยุทธ์ด้านการขึ้นราคาของVBKครับ จับเหตุผลในการขึ้นราคาไม่เจอ

คนซื้อหนังสือ ยังไงก็ซื้อไม่ว่าราคาเท่าไหร่ มีเหตุผลเดียวที่จะไม่ซื้อคือ...คุณไม่ออกเล่มใหม่สักที รอจนลืม ถ้าแก้ปัญหาจุดนี้ได้ คนคงซื้อหนังสือเรื่อยๆ เงินในบ.คงพอมีหมุนได้

รอบต่อไปขอ Ned กับ siam

ผมคือคนรุ่นใหม่​ที่ชอบสะสม​แบบเป็นเล่มมากกว่า​e​ book ครับ

สงสัยว่าหนังสือการ์ตูนเดี๋ยวนี้ทำไมไม่เป็นรูปแบบเปิดอ่านแบบไทย จากซ้ายไปขวาแล้วคะ มีแต่เปิดอ่านแบบญี่ปุ่นหมดเลย😞

ถ้ามีโอกาสอยากสะสมคอลเลคขั่นมังงะที่ชอบมากๆ ตอนนี้ยังไม่มีที่เก็บเลยต้องอ่าน ebook ไปก่อน อยากมีฟีลดมกลิ่นหนังสือตอนอ่านชะมัด มุแง้

ไม่ได้ว่านะครับ 👉ราคาสูงขึ้น คุณภาพสวนทางราคา👈 ครับขอบคุณครับ

ส่วนตัวผมทำงานด้าน computer อยู่แล้ว แต่พออยากอ่านการ์ตูนเพื่อผ่อนคลายแล้วต้องมาดูในมือถือหรือใน computer อีกมันไม่ผ่อนคลายครับ มันทำให้ต้องใช้สายตาหนักเข้าไปอีก แต่พออ่านการ์ตูนที่เป็นเล่มหนังสือมันกลับไม่ปวดตาและรู้สึกผ่อนคลายกว่า แปลกดีมั้ยเหอๆ

ผมก็อยากสะสม หนังสือการ์ตูน เหมือนกันครับ

ผมเป็นเด็กบ้านนอกที่โตมากับวิบูลย์กิจ ที่่ชอบก็มี อาราเล่ ลามู ทรามวัยต่างดาว โดราเอมอน ซิตี้ฮันเตอร์ อ่านจนจำได้ แต่ก็ยังอ่าน พอโตขึ้นมาเรียนกรุงเทพ กลับไปบ้าน ปลวกจ้า อร่อยเหาะไปเลย ทุกวันนี้เจอปลวกมดที่ไหน มันต้องสังเวย

เคยอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นตั้งแต่เล่มละ10บาท ตอนนี้เล่มละ90อัพ ก็ยังอ่านอยู่ ชอบอ่านแบบหนังสือมากกว่าe-book ไม่ได้อรรถรส ปวดตาด้วย

ยุคสมัยนี้มันเปลี่ยนไปแล้วครับสำหรับหนังสือการ์ตูนเดี๋ยวนี้ส่วนมากเขาซื้อกันไปเป็นของสะสมซะมากกว่า ส่วนคนที่ตามแค่การ์ตูนที่ชอบก็หาอ่านในเน็ตกันหมด

ผมก็ยังซื้อแบบเล่มอยู่นะ แต่เมื่อเริ่มอ่านญี่ปุ่นได้ ก็มีสะสมแบบญี่ปุ่นไปเลยบ้าง บางเรื่อง เรื่องที่คำอ่านเยอะๆ ก็เก็บแบบแปลไทย คนอื่นในบ้านก็อ่านด้วย ส่วนนึงที่ซื้อ ก็เพราะ โดนอักษรศีลธรรม(เซ็นเซอร์) มันมาเยอะ เกินไป บางทีเรียกได้ว่าเลอะเทอะ เรื่องราคา ผมไม่ได้เกี่ยง ถ้ามันโอเคกับที่จ่าย แต่ค่ายนี้ ยังตอบมาไม่ถูกใจ

ของค่ายนี้มีหลายเรื่องที่อยากสะสมนะ แต่ติดอย่างเดียวคือคุณภาพกระดาษ ถ้าได้เป็น Green read จะไม่ลังเลที่จะซื้อเลย

หนังสืออยู่กับเราตลอดไปแน่นอนค่ะ มันเป็นคุณค่าทางใจอย่างนึง เราชอบสะสมหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น แล้วก็ หนังสือขายขำ ไม่ว่ามันจะเริ่มเก่าแค่ไหน พอหนังสือมันกองรวมๆ มันสวยงามมาก

ผมอยากใด้อะ

ผมชอบอ่านแบบหนังสือมากกว่าEbook ผมชอบสะสมหนังสือการ์ตูนด้วย

บางฉากบางตอนที่ต้นฉบับวาดแบบเป็นสองหน้าต่อกัน แต่พออ่านในอีกบุคมันแยกกันความประติดประต่อมันไม่ได้ มันก็มีทั้งข้อดีข้อเสีย ซึ่งผมก็คนยุคใหม่แต่ชอบ หนังสือมากกว่า

ปัญหาของวิบูลย์กิจเลยคือดองการ์ตูนนะ กว่าจะออกมาเล่มนึงนี่นานมาก การที่คนหันไปหา e-book ในช่วงแรก เพราะรอไม่ไหวนี่แหละ เลยเริ่มหาอ่านใน internet

กระดาษของสำนักพิมพ์ VBK แย่มากครับ ตั้งแต่อดีต-ปัจจุบัน เหลืองไวมากนานๆ ไปมีกลิ่นด้วย แถมขายแพงพอๆ กับค่ายอื่นด้วยที่เขาใช้กระดาษคุณภาพดีกว่า แต่ค่ายนี้ที่ดี คือ นำการ์ตูนบางเรื่องที่ไม่ดังมากในไทย แต่มีชื่อเสียงมากในญี่ปุ่นเข้ามาที่ส่วนใหญ่ไม่ใช่สายโชเน็น ผมว่ามันดีมากๆ เลยครับ ปล.แต่จะสนับสนุนต่อไปครับค่ายนี้ แม้รูปเล่มจะไม่น่าเก็บเลยก็ตาม

ผมคนนึงครับเก็บแบบหนังสือ คุณค่าทางใจครับ

เล่มนึงแพงมาก ๆ เดี๋ยวนี้ 90 บาท 500 บ.ซื้อได้แค่ 5 เล่ม

ผมซื่อตั้งแต่เล่มละ 10 บาท โดนปลวกกินขาง อะไรบางโดยขายบาง ตั้งแต่ราคา 50 บาท ขึ้นผมก็เริ่มซื่อน้อยลง จนเดียวนี่ไม่ได้ซื่อแล้ว สู้ราคาไม่ไหวจริงๆ

e book อ่านไม่ได้อารมณ์ครับ แบบเล่มดีกว่า เวลามองหนังสือเรียงกันบนชั้นวางมันรู้สึกดีมากๆเลยนะ