เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 60 สาวชาวราชบุรีลูกครึ่งไทยอเมริกัน ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก SiamTownUS ในเมืองลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เพื่อประกาศขอความช่วยเหลือประกาศตามหาคุณพ่อที่เป็นอดีตทหารอเมริกันผู้ให้กำเนิด ที่เข้ามาตั้งฐานรบสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังออกตามหามาเกือบทั้งชีวิตยังไม่พบ และเพจเฟซบุ๊ก สยามทาวน์ยูเอส ได้โพสต์ลงข้อความโดยระบุข้อความใจความว่า “09/26/17 สยามทาวน์ยูเอสได้รับข้อความมาจากคุณแคท นันทวัน จากจังหวัดราชบุรีต้องการตามหาคุณพ่อชาวอเมริกัน “สวัสดีค่ะ แคทเป็นลูกครึ่งไทยอเมริกัน ติดตามหาคุณพ่อที่เป็นทหารอเมริกันมาเกือบทั้งชีวิตแล้วค่ะ ได้โปรดช่วยแคทด้วยนะคะ”
คุณแคทเล่าว่า คุณพ่อแมคได้เข้ามาเป็นทหารจีไอประมาณปี พ.ศ. 2511 หรือปี ค.ศ. 1968 โดยได้พบรักกับคุณแม่ที่อายุมากกว่าคุณพ่อ 10 ปี โดยปัจจุบันคุณแคทอายุ 45 ปี ส่วนคุณแม่สวยอายุ 73 ปี ซึ่งคุณพ่อน่าจะอายุประมาณ 63 ปี ณ ปัจจุบัน แต่ตอนนั้นต้องเดินทางกลับอเมริกาก่อนจากนั้นก็ขาดการติดต่อกัน คุณแคทได้พยายามตามมาคุณพ่อแมคตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งเคยมีที่อยู่จริงๆและชื่อจริงของคุณพ่อ แต่แคทแอบตามหาไม่ให้พ่อเลี้ยงรู้เพราะกลัวว่าพ่อเลี้ยงจะเสียใจ ประกอบการย้ายบ้านบ่อยๆ และเป็นช่วงนั้นยังเด็กเลยทำข้อมูลหายไป ซึ่งปัจจุบันพ่อเลี้ยงเสียชีวิตแล้ว ปัจจุบันคุณแคททำอาชีพขายซาลาเปา ขนมจีบ และบะจ่างอยู่ที่จ.ราชบุรี มีบุตร 2 คนเรียบจบแล้ว แต่ก็ต้องการเจอพ่อแท้ๆ ของเธออีกครั้งหนึ่ง และต้อการกระจายข่าวเผื่อว่าอย่างน้อยจะมีคนไทยรู้จัก หรือทราบจะได้ช่วยเติมฝันให้เธอเป็นความจริง”
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบคุณแคท เพื่อสอบถามถึงเรื่องราว โดยคุณแคทเปิดเผยว่า ตนมีชื่อว่า นางนันทวัน บุญใบ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 ถนนราษฎรยินดี เขตเทศบาลเมืองราชบุรี อ.เมือง จ.ราชบุรี เป็นบุตรสาวของนายแมค ชาวอเมริกัน อายุประมาณ 63 ปี และ นางหนู บุญใบ ปัจจุบันอายุ 74 ปี ชาวจ.มหาสารคราม
คุณแคทเล่าให้ฟังว่า ตอนนี้ทำธุรกิจอยู่กับสามีและบุตรอีก 2 คน เปิดจำหน่ายขนมซาลาเป่า ขนมจีบ และบะจ่าง ในบ้านที่ซอยนารี ถนนราษฎรยินดี เขตเทศบาลเมืองราชบุรี จ.ราชบุรี ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 32 ปี ที่ตนได้ออกตามหาพ่อในทุกหนทุกแห่ง ทั้งนำภาพถ่ายออกเดินตามหาชาวต่างอเมริกันที่เดินทางมาท่องเที่ยวในจ.ภูเก็ต และประกาศตามหาผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ เพื่อมีหวังเล็กๆที่จะได้พบหน้าพ่อซักครั้ง
“คุณแม่เล่าให้ฟังว่า ก่อนที่คุณพ่อจะเดินทางกลับไปยังอเมริกันจำได้ว่าคุณพ่อแมคตอนที่ทำงานก็จะใส่ชุดทหารเสื้อสีเขียวขี้ม้า เป็นคนที่สูงมากประมาณ 170-180 ซ.ม. เป็นคนที่อารมณ์ดียิ้มเก่ง จะสวมแว่นสายตา ชอบขับขี่รถจักรยานยนต์ ตอนที่พบกันคุณแม่ไปทำงานอยู่กับเพื่อนและญาติที่รู้จักที่จ.อุดรธานี สมัยนั้นเป็นยุคของสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นสงครามเวียดนาม จะมีทหารอเมริกันหน่วยจีไอมาตั้งแคมป์ที่นี่ ซึ่งได้รู้จักกับแมคเพราะว่าแมคมาจีบก่อน ซึ่งก็อยู่ด้วยกันประมาณ 2 ปี และมาทราบว่าตั้งท้องขณะเดียวกันที่คุณพ่อแม็คจะเดินทางกลับไปอเมริกัน เมื่อปี 2513 โดยข้อความสุดท้าย “ถ้าลูกยังอยู่ ก็ให้มีจดหมายไปหาเขา จะส่งเสีย และขอที่อยู่ของคุณแม่”
แต่ด้วยความที่ไม่รู้ตาสีตาสา จึงได้บอกที่อยู่ของเพื่อนชื่ออารีย์ไปแทน จากนั้นคุณพ่อแมคก็บินกลับไป ส่วนแม่ก็กลับไปคลอดลูกที่บ้านเกิดในจ.มหาสารคราม จนกระทั่งผ่านไป 2 ปี ได้ติดต่อกลับไปหาเพื่อนที่ชื่ออารีย์ว่าคุณพ่อแมคได้ติดต่อมาบ้างไหม โดยเพื่อนได้บอกกับคุณแม่ว่า คุณพ่อแมคเขียนจดหมายติดต่อมา ซึ่งคุณแม่ก็ได้ที่อยู่ของคุณพ่อแมคมาก่อนจะขาดการติดต่อกันไปและคุณอารีย์ก็ได้เสียชีวิตลง ทำให้ไม่สามารถติดต่อคุณพ่อแมคได้อีกเลยจนมาถึงปัจจุบัน”
นางนันทวัน กล่าวต่อว่า และเมื่ออายุได้ประมาณ 13 ปี หลังจากที่ทราบเรื่องราวว่าตนเป็นลูกสาวของคุณพ่อแมค ก็ได้พยายามนำรูปและนำที่อยู่ออกติดตามหา ทั้งนำไปเดินสอบถามชาวต่างชาติสัญชาติอเมริกันเพื่อตามหาคุณพ่อแมค พร้อมทั้งไปขอให้ทางพนักงานของโรงแรมในจ.ภูเก็ต ให้ช่วยเขียนจดหมาย 2 ฉบับ และได้ส่งไปยังที่อยู่ของคุณพ่อแมค และ ที่ทำงานอีกประเทศที่เดินทางไป แต่ก็ไม่การตอบกลับมาแต่อย่างไร จากนั้นก็พยายามออกตามหามาตลอดจนปัจจุบันตนอายุ 45 ปีแล้ว แต่ก็ไม่ลดละความพยายาม โดยหวังว่าจะได้พบพ่อสักครั้ง อยากวอนน้ำใจคนไทยทั้งในประเทศและจากต่างแดนที่ทราบข่าวนี้ฝากช่วยตามหาชายในภาพหรือครอบครัว สามารถติดต่อแจ้งมาได้ที่ โทร 086-1673030 หรือ 083-5530140 และอยากจะบอกว่า หากพ่อแมคได้มาเห็นข่าวหรือคลิปนี้ ว่าตนรักและคิดถึงอยากจะพบและกอดสักครั้งหนึ่ง
26 сен 2017