ประมวล ใจวิจิตร ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายวัย 67 ปี จากโลกนี้ไปแล้วกว่า 2 ปี แต่ในช่วงท้ายของชีวิต ประมวลมีเจตจำนงค์ที่จะเลือกตายอย่างสงบที่บ้านท่ามกลางครอบครัว ไม่ใช่ที่โรงพยาบาลที่เต็มไปด้วยเครื่องมือพยุงชีพในวันที่ร่างกายไม่อาจฝืนความเป็นไปของโรค
"ทำคีโมหลาย ๆ ครั้งเข้า คุณแม่ก็ไม่ไหว แม่บอกว่าการที่ทำแบบนี้ แม่คิดว่าจะเป็นมะเร็งตายดีกว่า ทำคีโมอาจจะทรมานกว่า เป็นมะเร็งอาจจะไม่ทรมานเท่าคีโมก็ได้ แม่คิดแบบนี้ก็ตัดสินใจว่าหยุด" อิรชิฏา ใจวิจิตร บุตรสาว เล่าถึงการตัดสินใจของแม่
ประมวล ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าเป็นมะเร็งที่ปอดก่อนในครั้งแรก เมื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดในครั้งต่อ ๆ มา พบว่ามะเร็งปรากฏที่ลำไส้ใหญ่ กระดูก และต่อมน้ำเหลือง เธอรักษามะเร็งอยู่ 9 เดือน ด้วยการฉายแสงและเคมีทั้งสิ้น 18 ครั้ง แต่ตัดสินใจหยุดเพื่อกลับมาดูแลแบบประคับประคองที่บ้าน
ครอบครัวของประมวล ได้รู้จักกับ “เยือนเย็น” วิสาหกิจเพื่อสังคมที่ให้คำปรึกษากับผู้ป่วยระยะสุดท้าย ทำให้ครอบครัวได้รู้จักกับการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบประคับประคองหรือ Palliative care
ปรัชญาของการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง จะไม่ใช่เป็นการใช้เครื่องมือหรือความรู้ทางการแพทย์ที่เป็นเพียงการยื้อความทรมาน โดยไม่เพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ให้ความเคารพสิทธิของผู้ป่วยและครอบครัวในการรับทราบข้อมูลการเจ็บป่วย และให้ผู้ป่วยและครอบครัวมีส่วนร่วมตัดสินใจเรื่องแนวทางและเป้าหมายของการดูแล
ในประเทศไทยแม้มีหน่วยดูแลผู้ป่วยระยะท้ายที่โรงพยาบาลศูนย์เกือบทุกแห่ง แต่ยังพบว่าผู้ป่วยยังเข้าถึงได้ช้า อีกทั้งบุคลากรด้านนี้ยังมีไม่มากเมื่อเทียบกับอัตราการเสียชีวิตของคนไทย
เรื่องโดย ธันยพร บัวทอง
วิดีโอโดย ธนัญชัย แก้วโสวัฒนะ
หมายเหตุ: ภาพและวิดีโอมีลิขสิทธิ์ ห้ามนำไปใช้หรือทำซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต
All Rights Reserved © 2022 BBC Thai
หากคุณชอบ อย่าลืมกด like หรือ subscribe เรา พร้อมกดกระดิ่งตั้งเตือนเพื่อไม่พลาดชมคลิปล่าสุดจากบีบีซีไทยก่อนใคร 👉 bit.ly/373SErG
ติดตามบีบีซีไทยได้ทุกช่องทางเพื่อรับข่าวสารและสาระน่ารู้ต่าง ๆ ได้ดังนี้
Website: www.bbc.com/thai
Facebook: / bbcnewsthai
Instagram: / bbcthai
RU-vid: / bbcthai
23 авг 2024
