เขาคิชฌกูฏ จันทบุรี 

ยอดเขาคิชฌกูฏ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ต.พลวง กิ่ง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี เป็นสถานที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทบนหินแผ่นใหญ่ ที่อยู่สูงที่สุดในประเทศไทย ที่ความสูง 1,050เมตร จากระดับน้ำทะเล และมีงานประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ จันทบุรี สืบทอดมายาวนาน ทางช่องกรรณิกาพาเที่ยวได้มีโอกาสไปครั้งนี้เป็นครั้งที่3 เป็นการเดินทางขึ้นเขาในช่วงเช้าตรู่วันพุธที่ 27มีนาคม 2567 เพราะไม่ร้อน โดยเราเดินทางไปถึงในวันอังคารที่ 26 ช่วงบ่าย มีเวลาพาชมจุดขึ้นรถขับเคลื่อน4ล้อที่จะพาเราลัดเลาะเส้นทางดินขึ้นไปยังตีนบันไดเขาคิชฌกูฏ จุดแรก คือ วัดกระทิง อยู่ติดถนนเส้นใหญ่ วันที่ไปคนนัอยไม่ต้องรอคิว จุดที่สอง คือวัดพลวง อยู่ห่างจากวัดกระทิงราว 5km. ดูคนจะคึกคักกว่า เราจึงเลือกซื้อบัตรขึ้นรถตรงนี้คิดว่าไม่ต้องรอนาน โดยรถ1คันนั่ง 6คนๆละ200บาท วัดพลวงตั้งอยู่บนถนนเส้นเล็กใกล้เขื่อนพลวง ซึ่งเป็นทางขึ้นลงเขาซึ่งมีด่านของอุทยานตั้งอยู่ใกล้กันค่าธรรมเนียมค่าเข้า40บาท จ่ายตอนที่รถไปถึงจะมีเจ้าหน้าที่มาเดินเก็บที่รถ เรามีเวลาพาไปชมบรรยากาศยามเย็นบนสันเขื่อนพลวง มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม จากนั้นเข้าที่พักชื่อ บ้านคิชฌกูฏ เป็นห้องพักเล็กๆ ธรรมดา เราตื่นเช้าตีสี่ ทำธุระส่วนตัวเสร็จ ออกเดินทางไปจุดขึ้นรถวัดพลวง จอดรถในที่จอดเสร็จเดินไปขึ้นรถ4W ที่มีสามีภรรยาและเด็กรออยู่บนรถ จากนั้นไม่นานมีมาเพิ่มอีก2คน รถล้อเลื่อนราวตีห้า แล้วจอดที่ด่านอุทยานเก็บเงินจากนั้นวิ่งลัดเลาะไปตามเส้นทางที่คดเคี้ยวในยามมืด พอมีไฟสว่างอยู่บ้างตลอดเส้นทาง 8km. จนถึงจุดลงรถตีนบันไดทางขึ้นใช้เวลาราว20นาที(เราไม่ได้บันทึกภาพ) จากนั้นลงเดินเท้าขึ้นบันได 1.2km. เดินสบายๆ เหนื่อยก็พักตามจุด ทีทั้งหมด 13จุด ถ้ามีแรงพอจะเดินผ่านก็ได้ เอาที่สบายใจเรา ห้องน้ำทุกวันนี้สะดวกมีหลายจุดแล้ววันที่ไปมีฝนโปรยเป็นครั้งคราว เราหลบตามใต้ต้นไม้ และหลังคาของจุดพัก วันวันที่หมอกลงจัดด้วย จึงได้บรรยากาศไปอีกแบบ เดินมาราว 40นาทีถึงลานรอยพระพุทธบาท อัอ!ที่นี่ มีบริการแบกหามด้วยสำหรับใครที่ไม่ต้องการเดิน เราใช้เวลาตรงลานรอยพระพุทธบาทสักพักใหญ่ จากนั้นเดินขึ้นไปต่อที่ลานผ้าแดงซึ่ง ราว 1km. ทางเดินมีเดินขึ้นและเดินลงแล้วเดินขึ้นเส้นทางเป็นดิน แต่ทำเป็นขั้นบันไดให้เหยียบสบายๆ ผ่านร้านรวงเป็นจุดขายของ จุดบริการไม่มีเหงา คิดถึงภูกระดึงขึ้นมา เพียงแต่ที่นี่เดินไม่ไกล ใช้เวลาราว 20นาที ถึงลานผ้าแดง สุดเขต ตอนเดินมาฝนโปรยปรายเป็นช่วงๆ หยุดพักฟังเสียงหัวใจตัวเองที่ศาลาเล็กๆ แล้วเดินกลับเส้นทางเดิม ณ จุดชมวิวเปิดกว้างก่อนถึงลานรอยพระพุทธบาท ไม่ลืมเก็บภาพสวยๆ สามารถมองหินลูกบาตรได้สวยงามจากมุมสูง ขัอดีของการมาเช้าเราจะได้เห็นบรรยากาศเช้ามีหมอกสวย และขากลับได้เห็นวิวสวยๆ อากาศยังไม่ทันรัอน จากนั้นเดินกลับลงทางเดิมจนถึงจุดที่ขึ้นรถ รอคิวคันเดียวขาลงเราได้เก็บภาพสภาพเส้นทางถนนเปียกชื้น แต่ไม่แฉะลัดเลาะ ลาดชันพาให้หวาดเสียวอุราเล็กน้อย เห็นรถทุกคันขับดีมีทักษะพิเศษ ไม่นานก็ถึงจุดลงวัดพลวง เป็นอันจบทริป ถ้ามีโอกาสครั้งหน้าค่อยมาใหม่