เรื่องของอนันตจักรวาล 

ร่มโพธิ์แก้วมีไอเย็น ผมขออยู่ในร่มโพธิ์นี้ตลอดไป

๓๕.คำสอนของฮวงโป (ความพากเพียร) ถ้าพวกเธอจะใช้เวลาของเธอทั้งหมด ไม่ว่าเดินอยู่ ยืนอยู่ นั่งอยู่ หรือนอนอยู่ก็ตาม ให้เป็นการฝึกฝนเพื่อจะหยุดเสีย ซึ่งการกระทำต่าง ๆ ของจิตของเธอเอง ในการที่จะก่อรูปความคิดต่าง ๆ ขึ้น เมื่อเป็นดังนั้น เธอก็จะเป็นผู้เที่ยงแท้ต่อการลุถึงจุดหมายปลายทางขั้นสุดท้าย เนื่องจากธรรมที่เป็นกำลังของเธอยังมีไม่พอ เธอจึงไม่สามรถที่จะข้ามสังสารวัฏได้ ด้วยการกระโดดทีเดียวถึง แต่เมื่อห้าหรือสิบปีผ่านไป เธอก็จะมีการตั้งต้นที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน แล้วก็สามารถก้าวหน้าต่อไปได้เอง เป็นธรรมดา แต่มันเป็นเพราะเธอไม่เป็นบุคคลประเภทนั้น เธอจึงรู้สึกว่าจำเป็นต้องใช้จิตของเธอเอง ใน “การศึกษาธฺยานะ” และ “ศึกษาเรื่อง ทาง ทางโน้น” การกระทำอย่างนั้น มันมีอะไรเกี่ยวกับพุทธศาสนาด้วยเล่า ? ดังนั้น จึงมีคำกล่าวว่า ทั้งหมดเท่าที่พระตถาคตได้สอนนั้น มีอยู่เพียงเพื่อจะกลับใจมหาชน มันเหมือนกับแสร้งลวงไปว่าใบไม้เหลือง ๆ เป็นทองคำแท้ เพื่อให้น้ำตาของเด็กหยุดไหล เท่านั้น ฉะนั้นมันต้องไม่ถูกยึดถือว่า เป็นความจริงที่เด็ดขาด แต่ประการใด ถ้าเธอถือเอาเป็นความจริง เธอก็ไม่ใช่สมาชิกแห่งนิกายเรา แล้วมันจะมีผลอะไรกับธรรมชาติเดิมแท้ของเธอเล่า ? ดังนั้น ข้อความในสูตรจึงกล่าวว่า “สิ่งซึ่งเรียกว่าปัญญาอันสมบูรณ์ถึงที่สุดนั้น หมายความว่าไม่มีอะไรเลยจริง ๆ ที่ต้องลุถึง” ถ้าเธอสามารถเข้าใจความข้อนี้ได้ เธอก็จะเห็นอย่างแจ่มแจ้งว่าทั้ง พุทธวิถี และ มารวิถี ก็ล้วนแต่พลาดจากเป้าหมายนี้สิ้นเชิงโดยเท่ากัน จักรวาลเดิมที่รุ่งเรืองและบริสุทธิ์นั้น ไม่ใช่ของเหลี่ยมหรือของกลม ไม่ใช่ของใหญ่หรือของเล็ก มันปราศจากความแตกต่างว่ายาวหรือสั้นใด ๆ ทั้งหมด มันอยู่เหนือการเกี่ยวข้อง เหนือการกระทำ เหนือวิชชา และเหนือการตรัสรู้ พวกเธอต้องการเห็นให้ชัดลงไปว่า โดยแท้จริงแล้ว ไม่มีอะไรเลย ไม่มีทั้งทั้งมนุษย์สามัญ ไม่มีทั้งพุทธะทั้งหลาย มหาโลกธาตุมีจำนวนนับไม่ถ้วนดุจเม็ดทรายในโลก ก็เป็นเพียงฟองน้ำเม็ดเล็ก ๆ ญาณทั้งหลายและอริยะภาวะทั้งปวง เป็นเพียงเส้นแฉก ๆ ของแสงฟ้าแลบ ในบรรดาสิ่งเหล่านั้นทั้งหมด ไม่มีอะไรซึ่งเป็นตัวแท้ของ จิต ธรรมกาย ตั้งแต่โบราณกาลมา จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ รวมทั้งพระพุทธเจ้าทั้งปวง และพระสังฆปริณายกทั้งหลาย เป็น หนึ่ง แล้วมันจะขาดอะไรไปสักเส้นขนเดียว ได้อย่างไรกันเล่า ? ถ้าแม้เธอเข้าใจความข้อนี้ เธอก็ต้องทำความพากเพียรเข้มแข็งถึงที่สุด ตลอดทั้งชีวิตนี้ พวกเธอไม่อาจจะมีอะไรเป็นที่แน่นอนอยู่ทุกเวลา ว่าจะได้มีชีวิตอยู่ยาว จนกระทั่งได้หายใจอีกครั้งหนึ่งหรือไม่

.

ห้วยหล่างฮวงโป. พวกทำลายศาสนาโดยตรง.

ถ้าท่านบอกคนอื่นโง่ ท่านนั้นแนะ โง่เขลายิ่งกว่า

สาธุครับท่านน😊

สาธุค่ะ🙏🙏

สุดยอด เป็นศิษย์ท่านพระพุทธทาสใช่ไหมครับ

✨

ที่สุดกว่าใครก็พระพุทธเจ้าแล้ว อย่าสำคัญตนว่ารู้กว่าพุทธะ

@@kapaazuza1474 ท่านพูดถูกแล้ว พระพุธองค์ ท่านยั่งรู้ทุก สรรพสิ่ง จริง ๆ ขอรับ 👍😇🙏

​@@YokeeDoocati สาธุครับ

เล็กจนใช้กล้องจุลทรรศน์ส่องยังมองไม่เห็นเลยล่ะถ้าเราเทียบกับจักรวาล นี้ทั้งหมด เพราะมันไม่มีที่สิ้นสุดมันขยายตัวไปเรื่อย เหมือนกิเลสของคนที่ไม่มีที่สิ้นสุด

รัก โลภ โกรธ หลง ชิงดีชิงเด่น สุดท้ายก็สลายเป็นผงธุลี เป็นแค่ฝุ่นผงของจักวาล

สรุปตัวตนของเราก็อยู่ที่จักรวาลอื่นด้วยสิ เราไม่ได้มีคนเดียว

​@@biker2984หมัน

อ๋อ

สำหรับผมจักรวาลความหมายในพุทธศาสนาหมายถึงกาแลคซี่ เพราะเป็นเป็นรูปร่าง จักร กรงจักร

แสดงว่าชมพูทวีปอื่นๆ ในจักรวาล(กาแลคซี่)ยังมีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้น ใช่ไหมครับ?

@@user-uq5nh7tp7r ใช่ครับ

ตามที่ฟังจากพระสูตร จักรวาล ใหญ่กว่าแกแล็กซีนะ ในหนึ่งจักรวาลมีหลายล้านล้านแกแล็กซี ส่วนระบบสุริยะที่เราอยู่น่ะคือดาราจักร ก็ถ้านับดาราจักรในหนึ่งจักรวาลก็อาจจะล้านล้านล้านดาราจักร แล้วพระพุทธเจ้ายังตรัสว่ามีเป็นอนันตจักรวาล ไม่อยากคิดเลยว่าจำนวนดาราจักรจะมีเท่าไหร่ และดาวจะมีเท่าไหร่ อจินไตยจริงๆ

@@user-uq5nh7tp7r ไม่ใช่ พระพุทธเจ้าจะอุบัติขึ้นเเค่ชมภูทวีปเท่านั้น ส่วนทวีปอื่นจะไม่มีพระพุทธเจ้า ทวีปในที่นี้ไม่ได้หมายถึงทวีปในโลก เเต่คือทวีปของจักรวาลที่มีเขาพระสุเมรุเป็นจุดศูนย์กลาง ลองไปค้นดูในพระไตรปิฏกจะมีบอกอยู่

พันจักรวาลคือที่ๆแสงอาทิตรและจันทรจะไปถึง โลกธาตุคือหมู่ดาวที่รวมกันแตกดับไปและก่อตัวเกิดขึันใหม่ ทวีปน้อยใหญ่อีกสองพันทวีปเป็นบริวาลโดยรวมแล้วจะมีเหล่าเวไนยสัตวต่างสันจรเวียนไปมาต่างกรรมต่างวาระกันไป

🕯️🤍ครับ,🙏👽🌈✨

ทุกกาแล็คซี่ มีดาวที่ให้แสงเป็นของตัวเอง

สาธุครับ

สุริยะคือจักรวาลครับส่วนโลกธาตุคือกาแลคซี่

จักรวาล.คืออะไรไม่สนใจครับ....แต่ที่แน่ๆเกิดขึ้น...เปลี่ยนแปลง...และดับไป..ทุกอย่างๆๆ......ยกเว้นนิพพาน...จะเข้าถึงนิพพานได้...ต้องรู้อริยสัจ4...รุ้อย่างแท้จริง...จะละจะวางไปเอง..ดับเอง...นิพพาน...สาธุ

จักรวาลในพุทธศาสนา คือกาแล็คซี่ เพราะแปลตรงตามที่เห็น เห็นโดยญาณทัศนะ เห็นกาแล็คซี่เป็นรูปร่าง กรงจักร หรือที่เรียกว่า กาแล็คซี่ดาราจักร ในเอกภพกาแล็คซี่มีลักษณะเป็นกรงจักร เพราะมีลักษณะการหมุน

ผมเองก็สงสัยเหมือนกันครับ คำว่า​ หมื่นโล​กธาตุ​ แสนโกฎิจักรวาล​ อันไหนคือ​ เล็ก​ไปหา​ใหญ่​ และ​ 1​ จักรวาล​ มีกี่โลกธาตุ​ ครับ

จะอธิบายให้ฟังว่าคำว่าเเสนโกฏิจักวาลของพระพุทธเจ้านั้นเเหละคืออนันต์ ไม่สามารถนับได้เลย พระพุทธองค์เลยใช้คำนั้นแทนครับ

ใช่ ผมอยากให้แปลให้เข้าใจแบบจริงจัง

ความรู้ยังไปไม่ถึง คำพูดให้เข้าใจก็ยังไม่มี

จักรวาลขนาดเล็ก=ระบบสุริยะ จักรวาลขนาดกลาง=ระบบสุริยะหลายอันรวมกันหรือที่เราเรียกว่ากาแล็คซี่หนึ่ง จักรวาลขนาดใหญ่=กาแล็คซี่รวมกันหลายอันหรือที่เรียกว่าเอกภพ มีประมาณแสนโกฏิ... จักรวาลหนึ่งดับก็มีจักรวาลใหม่เกิดขึ้นหมุนเวียนไปไม่จบสิ้นเหมือนฟองฟายน้ำที่ต้มจนเดือดปุดๆนั่นละและทั้งหมดคือการประมาณเหมือนคำว่าเกวียน500นั่นละครับ จริงๆแล้วคงจะไม่ใช่เกวียน500หรอกอาจจะมากหรือน้อยกว่าก็ได้

ใช่ต้องอ่านให้ครบจริง ๆ จะทราบว่าไม่เหมือนกัน แต่ประโยคแรกก็ต่างแล้ว พุทธมีโลกวิทยาต่างจากฮินดูมากเพียงยืมศัพท์ของฮินดูเพราะเป็นศัพท์บัญญัติที่มีก่อน เข้าใจง่าย ๆ ตัวอย่างความต่างในทางหลักการ 1. โลกวิทยา ในบัญญัติโลกธาตุว่ามีเท่าเขตแห่งแสงอาทิตย์และจันทร์ที่โคจรไป และอธิบายพันจักรวาลรวมกันอยู่ เป็นหน่วยเล็กที่สุด มิได้กำหนดแบบฮินดู แม้มีเขาสิเนรุ แต่มิได้กำหนดให้เป็นแกนกลางอย่างตำราชั้นหลังหรือส่วนขยายต่าง ๆ ที่อิงฮินดู (เช็คได้ที่โกศลสูตร จูฬนียสูตร คนละที่แต่ตรงกัน) 2. โลกวิทยาในฮินดูระบุ เทพสูงสุดและสวรรค์อันเป็นนิรันดร์ โลกสร้างแต่เทพเจ้า แต่พุทธกล่าวการแบ่งสวรรค์เป็นชั้นและพรหมออกเป็นชั้น กำหนดแบ่งประเภท (กามาวจน รูปพรหม อรูปพรหม และละเอียดลงไปอีก) โดยมีหลักการรองรับว่าเป็นไปตามสภาวะจิตที่ต่างกัน ซึ่งแตกต่างจากฮินดูอย่างมากถึงรากแก่นแห่งหลักการและความเป็นไปเหตุผลที่โลกดำเนินไป มิได้แตกต่างกันเพียงลักษณะภายนอก หรือรายละเอียดปลีกย่อย แม้กล่าวอยู่โดยใช้ศัพท์เดียวกันว่าเทวดาหรือพรหม แต่หมายถึงสิ่งที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง 3. ตำราฮินดูมีหลายตำรา ส่วนที่เกิดก่อนพุทธมีอยู่ เป็นปุราณะฮินดูเชื่อพรหมเป็นเทพสูงสุด ไศวะนิกาย และไวษณะนิกายหลายตำราเกิดหลัง ต้องดูให้แน่ใจ โลกบัญญัติบางส่วนของฮินดูอาจมีก่อนพุทธจริง แต่เล่มที่กล่าวถึงมัลติเวอร์สในฮินดูเป็นเล่มไหนมีก่อนหรือหลังพุทธครับ อันนี้ผมไม่แน่ใจแต่ถ้าจะกล่าวแรงว่าพระพุทธเจ้าเอาฮินดูมาใส่ก็ต้องละเอียดด้วยนะครับ

ฮินดู​ก็ต้องรอพระพุทธเจ้า​มาอุบัติ​ในโลกครับ เพราะฮินดู​เดิมที ยังไม่สามารถเข้านิพพาน​ จึงรอพระพุทธเจ้า​เช่นกัน​ และเมื่อพระพุทธเจ้า​อุบัติ​ขึ้นท่านก็ต้องประกาศ​ศาสนาครับ พระพุทธเจ้า​มีนับไม่ถ้วนมากกว่าเม็ดทรายในมหาสมุทร ตลอดอดีต ปัจจุบัน​ และ​อนาคต การที่ฮินดูนำพุทธมรรคไปปรับใช้ ก็ทำให้สมบูรณ์​ได้ครับ

@@mystyle43 ขอบคุณค่ะ

เป็นไปได้ว่าจะเป็นใจกลางดาราจักรทางช้างเผือก เพราะดวงอาทิตย์และดาวในระบบสุริยะจักรวาลได้หมุนรอบใจกลางนี้ ซึ่งตรงกับเขาพระสุเมรุที่ดวงอาทิตย์หมุนรอบ

@@varanyunatakuathung3519 ขอบคุณครับผม

คนที่จะไปหลุมดำได้ต้องเป็นคนที่ฆ่าพ่อฆ่าแม่ทำร้ายพระอรหันต์ยุยงให้สงฆ์แตกแยกนั้นแหล่ะคือตั๋วเดินทางไปหลุมดำ

🤍🕯️ถูกต้องแล้วครับ,สาธุ👽🙏🌈💮

😂🤣😩😖

เรียน ชาวพุทธ ความจริงแล้ว นาย สิทธัตถะ ผู้คิดว่าตัวมันเองเป็นผู้ดีเลิศประเสริฐสุด และ นาย ธัมชัยโย ผู้คิดว่าตัวมันคือหัวหน้าบรรดาพระพุทธเจ้าทั้งปวง มันทั้งสองโกหกว่าถ้านั่งหลับตาแล้วจะเห็นเมืิองสวรรค์ เห็นเมืองนรก โกหกว่าถ้าอดกามได้จะไม่ต้องเกิดอีก และยังโกหกอื่นๆอีกมากมาย คนไทยถูกหลอกถูกล้างสมองอย่างหนัก ดังนั้นกลับมาเชื่ออัลเลาะห์เถิด เพราะว่าอัลเลาะห์เป็นความจริง

​@@user-jf7zz4fv5คุณว่าเราถูกหลอก พวกเราก็จะว่าคุณถูกหลอกเช่นเดียวกัน พวกคุณก็ถูกสอนให้เชื่ออย่างเดียว ส่วนของพวกเราถูกสอนให้ลงมือปฏิบัติ มีสิ่งที่เรียกว่าบรรลุธรรม ไม่ต้องรอให้ตายก่อน ค่อยจะพบเจอกับความจริง ถ้าใครปฏิบัติจนบรรลุธรรมได้ ก็เห็นความจริงเห็นความสุขที่ถาวร ทั้งที่มีชีวิตนี่แหละ พอถึงตรงนี้ไม่ต้องอาศัยความเชื่อแล้ว ไม่ต้องรอให้ตายก่อน ไม่ต้องไปพิพากษากับใครทั้งนั้น

​​@@user-jf7zz4fv5ีกอย่าง ถ้ามีคนพาดพิงถึงศาสนาของคุณ หรืออย่างเช่นเขาหาว่าคำสอนที่ทำให้คนก่อการร้าย คุณก็แค่มาอธิบายก็ได้ว่าเป็นเพราะอะไร ผมเคยอ่านเจอ คนมุสลิมที่ออกมาตอบแบบดีๆ ทำให้ผมรู้เลยว่าคนมุสลิมคนนั้น เขาเข้าถึงคำสอนของศาสนาเขา เขาไม่อคติกลับมาเลย แต่ตอบแบบคุณนี่ ยิ่งทำให้คนที่มีใจอคติกับศาสนาของคุณ เขาก็จะชิงชังยิ่งแย่กว่าเดิม