ไมค์สาย 10 อันดับ ยี่ห้อไหนดี สำหรับบรรยาย ร้องเพลง เล่นคอนเสิร์ต 

10 อันดับ ไมค์สาย ยี่ห้อไหนดี พร้อมส่วนลดพิเศษ
1. SHURE SM58-LC Wired Microphon
เช็คราคา shope.ee/8UgeH...
เช็คราคา shope.ee/6zrqU...
2. sE Electronics® V7
เช็คราคา shope.ee/8UgeS...
เช็คราคา shope.ee/5AQCU...
เช็คราคา shope.ee/i6KatTwC
3. Telefunken M80
เช็คราคา shope.ee/5Kjcg...
เช็คราคา shope.ee/9pC23...
4. Shure BETA58A
เช็คราคา shope.ee/6AIjZ...
5. Sennheiser e945
เช็คราคา shope.ee/7Uo7F...
เช็คราคา shope.ee/4pnM5...
6. Sennheiser e835S
เช็คราคา shope.ee/3fbOX...
เช็คราคา shope.ee/8UgeH...
7. AKG® D7
เช็คราคา shope.ee/3fbOh...
เช็คราคา shope.ee/6Uva4...
8. Shure Beta 57A
เช็คราคา shope.ee/1Au3i...
9. Audio-Technica AE4100
เช็คราคา shope.ee/5zzJZ...
10. SOUNDVISION DM-89
เช็คราคา shope.ee/9KFlL...
เช็คราคา shope.ee/99wL8...
ข้อมูลเพิ่มเติม dogfilm-review...
แนวทางในการเลือกและซื้อไมโครโฟนแบบมีสาย
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักดนตรี พอดแคสต์ นักพูดในที่สาธารณะ หรือเพียงแค่คนที่ต้องการเครื่องมือบันทึกเสียงที่เชื่อถือได้ การค้นหาไมโครโฟนแบบมีสายที่เหมาะสมคือ จำเป็น. ด้วยตัวเลือกที่มีอยู่มากมาย การตัดสินใจจึงอาจเป็นเรื่องยากลำบาก อย่ากลัวเลย เนื่องจากคู่มือที่ครอบคลุมนี้จะอธิบายปัจจัยสำคัญๆ ที่ต้องพิจารณา เพื่อช่วยคุณเลือกและซื้อไมโครโฟนแบบมีสายที่เหมาะกับความต้องการของคุณอย่างสมบูรณ์แบบ
1. กำหนดวัตถุประสงค์ของคุณ:
ก่อนที่จะดำดิ่งสู่โลกของไมโครโฟนแบบมีสาย การกำหนดวัตถุประสงค์ของคุณเป็นสิ่งสำคัญ คุณใช้มันเพื่อการแสดงสด บันทึกเสียงในสตูดิโอ ออกอากาศ หรืออย่างอื่นทั้งหมดหรือเปล่า? การทราบข้อกำหนดเฉพาะของคุณจะช่วยจำกัดตัวเลือกของคุณให้แคบลง
2. พิจารณาประเภทไมโครโฟน:
มีไมโครโฟนแบบมีสายหลายประเภทให้เลือก โดยแต่ละประเภทมีจุดเด่นและการใช้งานเฉพาะตัว:
ก. ไมโครโฟนแบบไดนามิก: เหมาะสำหรับการแสดงสดและการจัดการระดับความดันเสียงสูง
b. ไมโครโฟนคอนเดนเซอร์: เหมาะสำหรับการบันทึกเสียงในสตูดิโอ พอดแคสต์ และการเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ
c. ไมโครโฟนแบบริบบิ้น: ให้เสียงที่อบอุ่นและวินเทจ ซึ่งมักใช้ในสภาพแวดล้อมในสตูดิโอ
3. ทำความเข้าใจรูปแบบขั้ว:
รูปแบบขั้วกำหนดวิธีที่ไมโครโฟนบันทึกเสียง ประเภทที่พบบ่อยที่สุดคือ:
ก. คาร์ดิโอด์: รับเสียงจากด้านหน้าในขณะที่ปฏิเสธเสียงจากด้านข้างและด้านหลัง เหมาะสำหรับการแสดงสดและการบันทึกเสียงในสตูดิโอ
b. รอบทิศทาง: บันทึกเสียงจากทุกทิศทาง ทำให้เหมาะสำหรับการบันทึกเสียงรอบข้างหรือการสัมภาษณ์
c. แบบสองทิศทาง รับเสียงจากด้านหน้าและด้านหลัง ในขณะที่ปฏิเสธเสียงจากด้านข้าง เหมาะสำหรับดูเอ็ตหรือสัมภาษณ์
4. พิจารณาการตอบสนองความถี่:
การตอบสนองความถี่หมายถึงช่วงความถี่ที่ไมโครโฟนสามารถจับได้อย่างมีประสิทธิภาพ มองหาไมโครโฟนที่มีการตอบสนองความถี่กว้างที่เหมาะกับการใช้งานที่คุณต้องการ สำหรับเสียงร้อง โดยทั่วไปแล้วช่วง 80Hz ถึง 15kHz ก็เพียงพอแล้ว
5 ประเมินความทนทานและคุณภาพการสร้าง:
ไมโครโฟนแบบมีสายควรสร้างขึ้นให้มีอายุการใช้งานยาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณวางแผนที่จะใช้สำหรับการแสดงสดหรือการบันทึกขณะเดินทาง พิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น วัสดุก่อสร้าง ระบบกันกระแทก และคุณภาพการสร้างโดยรวมเพื่อให้แน่ใจว่ามีอายุการใช้งานยาวนาน
6 ข้อควรพิจารณาด้านงบประมาณ:
ตั้งงบประมาณที่สอดคล้องกับความต้องการของคุณและวิจัยไมโครโฟนภายในช่วงนั้น โปรดจำไว้ว่ารุ่นที่ราคาสูงกว่ามักจะให้คุณภาพเสียงและความทนทานที่ดีกว่า แต่ก็ยังมีตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมในราคาที่เอื้อมถึงได้
7. อ่านบทวิจารณ์และเปรียบเทียบ:
เมื่อคุณจำกัดตัวเลือกของคุณให้แคบลงแล้ว ให้อ่านบทวิจารณ์ของลูกค้าและเปรียบเทียบรุ่นต่างๆ มองหาคำรับรองจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมของคุณเพื่อรับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสิทธิภาพของไมโครโฟนและความเหมาะสมสำหรับการใช้งานเฉพาะของคุณ
8. ลองก่อนตัดสินใจซื้อ:
หากเป็นไปได้ ให้ไปที่ร้านขายอุปกรณ์ดนตรีในพื้นที่หรือร้านค้าปลีกอุปกรณ์เครื่องเสียงเพื่อลองใช้ไมโครโฟนแบบต่างๆ ประสบการณ์ตรงนี้จะทำให้คุณเข้าใจได้ดีขึ้นว่าไมโครโฟนแต่ละตัวทำงานอย่างไรและรู้สึกอย่างไรเมื่ออยู่ในมือของคุณ
สรุป:
การเลือกและซื้อไมโครโฟนแบบมีสายไม่จำเป็นต้องเป็นกระบวนการที่ยุ่งยากมากนัก เมื่อพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ ประเภทไมโครโฟน รูปแบบโพลาไรซ์ การตอบสนองความถี่ ความทนทาน และงบประมาณ คุณจะมีความพร้อมในการตัดสินใจอย่างมีข้อมูล อย่าลืมอ่านบทวิจารณ์ เปรียบเทียบตัวเลือก และหากเป็นไปได้ ให้ลองใช้ก่อนตัดสินใจซื้อ ด้วยไมโครโฟนแบบมีสายที่เหมาะสมในคลังแสงของคุณ คุณจะสามารถบันทึกเสียงและแสดงเสียงคุณภาพระดับมืออาชีพได้
ขอบคุณข้อมูลจาก
shopee.co.th/
RU-vid Channel : / dogfilm​
#ไมค์ #ไมค์ร้องเพลง #ไมค์สาย