“ย้ายเมืองหลวง” แก้สารพัดปัญหาในกรุงเทพฯ | NEWtalk 

ก็ลองย้ายดูว่ามีเมืองหลวงสองที่ก็ดีเหมือนกันแล้วมันจะดีใหมค่อยๆย้ายขยับขยายการมีมากดีกว่าไม่พอหรือคับแคบและอาจจะเกิดอันตราย หรือเกี่ยวกับความมั่นคง นานแล้วเก่าแล้วเปลื่ยนแปลงอะไรใหม่ๆเสียที มันจะเป็นประเทศศิวิไลที่ทันสมัยและยิ่งใหญ่และเมืองไทยเราก็ไม่เหมือนต่างชาติเอามาเปรียบได้แต่ความศิวิไลไม่เหมือนกัน จะขัดเพื่อจะถอยหน้าหรือถอยหลัง ลองดูซี้ไม่ลองไม่รู้😍😍😍😍✌✌👍👍👍🏞🎊🎊🎊🎉🎉🎉

กทม แออัด เพราะทุกอย่างดีๆ สำคัญๆ อยู่นี่กันหมด ความเจริญมากสุด เงินสะพัดสุด แค่กระจุกตรงนี้ จังหวัดอื่น แตกต่างมาก ...เอางบไปสร้างโรงเรียนดีๆ เหมือน เตรียมอุดมฯ สวนกุหลาบ...สร้างโรงพยาบาล ที่ดีระดับ ศิริราช รามา... สร้างสนามบินระดับดอมเมือง...ผุดหน่วยราชการส่วนหน้า ที่ตัดสินใจได้ เหมือนกระทรวงที่กรุงเทพ ก่อตั้งนิคม อุตสาหกรรม ...กระจายไปตามหัวเมืองทั่วประเทศ ...คนจะได้ไม่ต้องทิ้งบ้านมาทำงาน มาศึกษาต่อ มารักษาตัว... กรุงเทพ ก็จะโล่งขึ้นเยอะ

นักวิชาการไทยนี่เก่งจริงๆ เก่งตามความรู้สึกมั้ง มองโลกกันบ้างว่ามันเปลี่ยนไปขนาดไหนแล้ว อย่าแก้ปัญหาด้วยคำพูด มันต้องทำจริงๆด้วย รู้ว่าปัญหามันอยู่ที่ไหนก็จัดการทำเสียแต่วันนี้เลยสิ อย่ามโนกันในเวทีเสวนาดีกว่านะพวกนักวิชาเกินทั้งหลาย

มีประโยชน์ครับ ถูกเลยครับ ต้องมานั่งคิดและศึกษาก่อนแล้วหละว่าเรามองเมืองหลวงเป็นแบบไหนคือเมืองหลวงที่มีหน้าที่ทำอะไร ไม่จำเป็นว่าทุกอย่างจะต้องตามไปหมด แม้ในวอชิงตัน ความทันสมัย แฟชั่น ธุรกิจชั้นนำ แม้กระทั่งที่อยู่อาศัยจำนวนมากมาย ก็ไม่ได้ไปอยู่ในกลางใจเมืองด้วย ตัวเมืองเป็นเฉพาะศูนย์กลางการบริหารประเทศที่มีประสิทธิภาพที่สุดเท่านั้น วอชิงตัน ดี ซี เป็นเมืองเรียบๆไม่หวือหวา แหล่งบันเทิงน้อย แต่มีระบบการบริหารประเทศอย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ มากกว่า

โดยภูมิศาสตร์และขนาดของจังหวัดมีพื้นที่สูงและประชากรอันดับ2รองจากกรุงเทพมีความเสี่ยงน้อยกว่ากรุงเทพ และอยู่ตรงกลางประเทศ คือจังหวัดนครราชสีมา เหมาะสุดแล้วครับถ้าต้องย้าย

น้ำท่วมรถติด ให้ใช้ชีวิตอยู่วนเวียนอย่างนั้นล่ะครับคนกรุงเทพเขาชินแล้ว พื้นที่มีแค่นั้นเต็มสูบแล้วครับ เมืองที่แออัดร้อนครับ แต่ต้องทนเอาเพราะคนกรุงเทพงัยครับ

ถ้าทำให้ทุกจังหวัดเจริญหมด ก็ไม่จำเป็นต้องให้คนมาทำงานในเมืองหลวง

ประเทศไทยมีเมืองหลวงคือกรุงเทพฯ ถ้าพูดว่าย้ายเมืองหลวง อีก 1000 ปี ก็คงไม่ได้ย้าย ลองเปลี่ยนเป็นพูดว่าเราจะสร้างเมืองศูนย์กลางราชการ เมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจสิมันยังพอจะมีความหวังให้สำเร็จอยู่บ้าง

1.เห็นด้วย ปรับเปลี่ยนพื้นที่ อันไหนควรมีอันไหนควรเอาออก คล้ายกรุงลอนดอน2.ไม่เห็นด้วยถ้าเทียบกับโตเกียว เพราะการเพิ่มโครงการน้อย ส่วนมากย้ายการลงทุนไปต่างประเทศไทยก็เป็นแหล่งลงทุนของต่างชาติ

ที่คิดจะย้ายเมืองหลวงมีเหตุเดียวคือเรื่องน้ำท่วม แต่วิทยากรไปพูดเรื่องอะไรออกทะเลไปดวงจันทร์ ขาดสติ ..อย่างนี้ประเทศไทยอันตรายครับพี่น้อง

ต้องเข้าใจพฤติกรรมของคนก่อนว่า ทำไมต้องไปกระจุกที่กทม. >>เพื่องาน >>>เพื่อเงิน >>>ความสะดวกสบาย ฯลฯ คนบางกลุ่มเท่านั้นที่มีความจำเป็นต้องไปอาศัยในกทม. ถ้ามีการกระจายอำนาจ ความเจริญ แหล่งธุรกิจ แหล่งงาน ไปตามหัวเมืองต่างๆ สร้างค่านิยมให้คนหางานในถิ่นเกิด ลดภาษี เพิ่มค่าแรงในบางจังหวัด กทม.ก็อาจลดความสำคัญลง และไม่จำเป็นต้องย้ายเมืองหลวง ปลุกจิตสำนึกใหม่ ล้างค่านิยมเก่าๆ อาจใช้เวลา แต่สักวันคนจะมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปได้เอง

ย้ายเถอะครับ ทำผังเมืองให้ดี เลนรถจักรยาน มอไซ รถยน รถประจำทาง รถบรรทุก แยกกันหมด ทุกบ้านหันหน้าเข้าหาถนนเป็นร้านค้าได้หมด ไม่มีว่าบ้านใครทำเลดีกว่า ไม่มีตรอกซอกซอย ผมขอแค่นี้ครับ

ย้ายไปชัยบาดาล ลพบุรี ก่อนที่น้ำจะเอาไปกิน แต่ไม่ทันแล้ว ต้องราบพนาสูญก่อน ถึงจะย้าย

จะย้ายหรือไม่ย้ายมันเรื่องของพวกมึง ที่ต้องทำก่อน คือกระจายการปกครอง ทำไมมันยังไม่ทำ

แค่ย้ายหน่วยราชการต่างๆรวมทั้งหน่วยงานทหารกระจายออกไปจัดสร้างสาธรณูปโภคไว้รองรับให้ดีเหมือนที่ญี่ปุ่นทำกทม.ก็คงจะเป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยวที่สุดในโลกเลยทีเดียวครับ

แค่คิดยังคิดไม่ได้จะย้ายทำไมในเมื่อมันอยู่มาแล้ว ที่ทำสำคัญสุดคือ ขยายอำนาจไปให้ทุกจังหวัด เขาบริหารกันเอง แล้วสร้างงาน ให้เกิดขึ้น ต่างจังหวัดให้คนในแต่ละจังหวัดมีงานทำ ไม่ต้องแห่กันเข้ามาทำงาน ที่กรุงเทพ ขยายงานออกจากกรุงเทพ แค่นั้น จบ

พิธีก่ร ถามคำถามได้ดีมาก น่าฟัง ได้ความรํ้เยอะมาก

ผมมองว่านักวิชาการทั้งสองท่านนี้พยามยามนำ ทรัพยากร เก่ามาบูรณะใหม่ คิดว่าสุดท้าย ก็จะเสีย เวลาไปเปล่า

แก้ที่ตัวเราเองก่อนสอนตัวเองก่อนว่าอย่ามักง่ายทิ้งขยะให้เป็นที่ ทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นเพราะความมักง่ายของคน เห็นด้วยกับอาจารย์มหิดล สอนใจตัวเองก่อนว่าอย่าเป็นคนมักง่าย

ใช่ตรงประเด็นเป๊ะ น้ำมันแพง ค่าครองชีพสูงรายได้ต่ำ เดินทางจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงมาก นั่นหมายถึงระบบของรัฐ ควรจะทำให้ตรงกันข้าม

ย้ายเมืองหลวงคงย้ายยากใช้งบประมาณมาก เปลี่ยนเป็นย้ายหน่วยงานใหญ่ๆที่มีบุคลากรเยอะๆเช่น กองทัพ3เหล่าหรืออื่นๆ

เริ่มด้วยย้าย กองทัพบก กองทัพอากาศและกองทัพเรือ กรุงเทพจะเริ่มสูงขึ้นทันที ตามด้วยกระทรววงทุกกระทรวง เท่านี้เองกรุงเทพก็จะโล่งไม่แออัด.

ขอบคุณค่ะ เป็นประโยชน์และเห็นมุมมองที่เป็นรูปธรรมมากที่สุดที่นึงเลยค่ะ

กรุงเทพมีความหนาแน่นน้อยกว่าโตเกียว แต่แออัดกว่าโตเกียว เพราะอะไร ดูตัวเลขอัตราส่วนต่างๆเชิงสถาปัตย์ก็รู้ แต่กฎหมายเราเฉื่อย ระบายสีเอาสนุกๆ เอาใจ land lord ทำให้คนอยู่เบื่อหน่ายอยากจะย้ายเมืองหลวง แก้ไม่ตรงจุด อาจารย์พูดได้ถูกต้องมากๆครับ สิ่งต่างๆยังแก้ได้อยู่และประหยัดกว่าการย้ายเมืองหลวง แต่เรื่องแผ่นดินไหว เราเสี่ยงมากนะครับ ถึงแม้ว่ากรุงเทพจะอยู่นอกรอยเลื่อน เพราะเราอยู่บนชั้นดินอ่อน ห่างจากรอยเลื่อนเพียง 200 กม. อันตรายเหมือนกรณีเมืองเม็กซิโกซิตี้ ปี 2529

ย้ายไปเถาะค่ะ คนก็จะไม่ล้นกรุงเทพ

ย้ายส่วนราชการออก ย้ายโรงงานออก ทั้งอุตสาหกรรมขนาดเล็กและใหญ่ กรุงเทพไว้กิน ไว้เที่ยว ไว้พักอาศัยเท่านั้นพอ

อยู่ที่เดิมก็ดีแล้ว..อย่าโยนปัญหาไปให้ที่อื่นเลย...กี่ปีก็แก้ไม่ได้..เพราะไม่คิดจะแก้จริงๆ

พุทธทำนายกำลังจะมาถึงแล้วจริงๆการย้ายเมืองหลวงไม่ใช่มีการคิดในวันนี้แต่ถูกคิดค้นโดยหลวงพ่อชื่อดังต่างๆในภาคเหนือมาแล้วจริงๆ แล้ววันนี้ที่เราเจอมาคิดกันก็ยังไม่สาย ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไปเกินแก้

อีก 30 ปีข้างหน้า กทม. จะจมอยู่ในน้ำตลอดไป ถ้าจะย้ายต้องรีบทำครับ โครงการต่างๆก็ยุติกันไปแล้วไปเริ่มต้นใหม่ที่ เมืองหลวงใหม่

ย้ายหนีปัญหาทำไม ที่ใหม่ก็มีปัญหา อย่าหนีเลย ช่วยกันทำให้ประชาชนเกิดสำนึกของปัญญา จะเห็นวิถีทางเอง

กรุงเทพกว้างใหญ่ สร้างอย่างถูกต้องตามหลักการในการสร้างเมืองแต่โบราณแล้ว จะย้ายทำไม ถ้าอยากได้เมืองใหม่ที่เจริญ ต้องสร้างใหม่ขึ้นมาเลย ควบคู่กับการจัดการพื้นที่ในกรุงเทพให้ดี ซึ่งเมืองใหม่ ถ้าจะสร้างก็ต้องมีประโยชน์สูงรอบด้านเท่านั้นจึงจะเกิดประโยชน์ **ศิวิไลโปรเจค** สังคมพอเพียง เมืองพอเพียง safety city 1.เป็นไปเพื่อการแก้ปัญหารอบด้าน ปัญหาใหญ่คือ ความยากจนและความเหลื่อมล้ำ จะแก้ปัญหานี้ได้ ทางเดียวคือเปลี่ยนระบบบริหารจัดการใหม่ ทั่วไปจะใช้ *ประชาธิปไตรย-ทุนนิยม* สร้างโครงสร้างสามเหลี่ยมทุน เลยเกิดปัญหานี้ขึ้น เมืองใหม่นี้ จะต้องใช้โครงสร้างบุคลากรแบบ จักรพรรดิ (กงจักรที่มีส่วนปลาย 1,000 ส่วน เอาสามเหลี่ยมมาวางรวมกันเป็นวงกลม คล้ายกัน) แตกต่างกันด้วยแค่บทบาทหน้าที่ มีส่วนปลาย 1,000 หน่วยย่อย( 1-5 ต่อหน่วย+ส่วนช่วยเหลือ/พัฒนาแต่ละหน่วย) ส่วนบริหาร 225 หน่วย มี 4 ชั้นโครงสร้างที่อยู่ในส่วนเดียวกันซ้อนทับกันอยู่ส่วนปลายของระดับที่ใหญ่ คือระดับโลก ระดับรัฐประเทศ ระดับเมือง และระดับบทบาทหน้าที่ รองรับประชากรในเมืองๆหนึ่งที่ 1-30 ล้านคน และรองรับทุกสัมมาอาชีพในการบริหารจัดการ 2.จัดทำเป็นพื้นที่บริหารจัดการพิเศษ คือ สังคมตัวอย่าง ให้กับมนุษยชาติ โครงการนี้คือการลบทุนนิยมออกจากพื้นที่ (หมดปัญหาเวลาจะจัดโครงการชอบมีการกว้านซื้อที่ดินและอื่นๆ ไปในตัว ) ประชาชนในพื้นที่สามารถมีส่วนร่วมได้ 100% และรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการในบทบาทหน้าที่ที่ขาดแคลนในพื้นที่ 3.ผังเมืองรูปจักรพรรดิ และอาคารขนาดใหญ่และมีจำนวนชั้นหลักร้อย (รูปจักรพรรดิ ) จำกัดพื้นที่สังคมมนุษย์ให้อยู่ในพื้นที่เฉพาะ เพื่อการบริการที่ง่าย/ทั่วถึง มากขึ้น ลดการกระจายของชุมชน คืนพื้นที่ธรรมชาติ เป็นทั้งที่พักและกิจกรรมการบริหารจัดการต่างๆ แบ่งเป็นพื้นที่ส่วนต่างๆ โดยเฉพาะ 4. 3ล3ร ลด ละ เลิก กิจกรรมทุนนิยม กระบวนการรวมทุน สร้างระบบเครดิตหน้าที่ ระบบทานนิยม/บริจาค บริจาคผลงานให้สังคมเพื่อรับเครดิต ใช้เครดิตเพื่อใช้ชีวิตในสังคม *เครดิตคือหน่วยค่าเครดิต ไม่ใช่วัตถุสิ่งของ ใช้แลกสิ่งจำเป็นได้ 5.ใช้เทคโนโลยีทดแทนแรงงานมนุษย์ สร้างระบบกึ่งอัตโนมัติ ให้มนุษย์ควบคุมผ่านเทคโนโลยีสื่อสารจากแอฟพลิเคชั่น เหมือนเล่นเกมส์หรือทำงานออฟฟิต 6.ลดกิจกรรมฟุ่มเฟือยต่างๆ ของมนุษย์ลง ทั้งทางตรงและทางอ้อม ทำงานในที่พักหรือพื้นที่ทั่วไป ได้ ลดการคมนาคมที่ไม่จำเป็น ......

จะย้ายต้องนึกถึงสภาพภูมิประเทศให้ละเอียดนะ ยังไงสิ่งมีชีวิตทั้งมนุษสัตว์และพืชยังไงก็ต้องพึ่งพานำ้เป็นหลักสำคัญสังเกตุดูซิเมืองจากทั่วโลกที่ประชากรกระจุกกันอยู่หนาแน่นก็เป็นแหล่งนำ้อุปโภคบริโภคสมบูรณ์มีความชอุ่มเจียวขจีและพื้นที่ก็ควรเป็นที่ราบส่วนใหญ่เพื่อการเดินทางสะดวกที่สุดแต่ต้องสูงกว่าระดับนำ้ทะเลพอสมควรที่ๆไปเหมาะที่สุดคือนครปฐม ส่วนทางนครนายกและนครราชสีมายังไม่หมดฤดูฝนก็แห้งแล้งแล้วนะ2จังหวัดนำ้ท่าเกี่ยวพันกันอยู่หากประชาชนไปอยู่จำนวนที่มากขึ้นแค่บริหารเรื่องนำ้ก็ง่อยแล้ว

อย่าย้ายเลยคับ เดี้ยวเมืองใหม่จะวุ้นวายอีก. ในกรุงเทพฯที่เดียวนะดีแล้วคนรู้จักกันดีแล้ว. ปลากระป๋อง?

ย้ายเมืองน่ะดีแล้วค่ะแต่วางผังเมืองให้ดีๆที่เมืองใหม่ต่อไปจะได้กระจายความเจริญรุ่งเรืองสู่พื้นที่เมืองใหม่ค่ะ

ดีๆ

ถามต้องถามชาวบ้าน ถามนักวิชาการกับนักลงทุนมันก้ค้านสุดติ่ง ความจริง

อย่าฝืนธรรมชาติ เปลืองงบประมาณ ปล่อยเป็นปะการังเทียม ขยายพันธุ์ปลาดีที่สุด

ควรย้ายออก​คือโรงงานอุตสาหกรรม​ และหมู่บ้าน ที่ห​ยู่​แถวริมแม่น้ำ​ ไห้ไช้ริมแม่เป็นที่สาธารณะ​ และ​ ปรับระดับหมู่บ้าน​ล้าง​ ตึกเก่า​ๆอายุกว่า100ปี ทำถนนไห้กว้างขื้นในกรุงเทพ​.ย้ายเยาวราช​ ไชน่าทาวน์​ ออกไปทำถนนไห้กว้าง​ขื้น

ก็มันจัดการไม่ดีอย่างที่แกว่านั่นแหละถึงต้องย้าย จัดการ สิบชาติ โน่น รถติด น้ำก็ท่วมฝนตกชั่วโมงเดียวท่วมซะไปไม่ได้ PM2.5 อีก ค่าครองชึพก็สูงเดินทางก็ลำบาก รถติดไม่มีที่จอด ไม่ย้ายเมือง ย้ายอย่างอื่นที่คนต้องไปติดต่อ ทำเนียบรัฐบาล กระทรวง ฯลฯ

รีบย้ายเถอะครับ พม่าก็ย้ายแล้ว

กรุงเทพมหานครน้ำท่วม

-”เมืองหลวง” เป็นคำแห่งประวัติศาสตร์ เป็นคำซึ่งปรากฏตัวในแผ่นดินไทยมากว่า ๒๐๐๐ ปีแล้ว -องค์ประกอบของความเป็นเมืองหลวงหมายถึง (๑)เป็นสถานที่ประทับของพระมหากษัตริย์และข้าราชบริพารของท่าน (๒)เป็นศูนย์กลางอำนาจอธิปไตย (๓)เป็นศูนย์กลางทางการเมือง การปกครอง และการเศรษฐกิจ (๔)เป็นสถานที่มีคนอาศัยอยู่จำนวนมาก -***ใครเล่าที่จะมีสติปัญญาและกำลังพอที่จะย้ายเมืองหลวงไปได้ ???*** -พ.ศ.๒๓๑๐ พม่ายกทัพมาเผากรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเสียจนสิ้น กวาดต้อนผู้คนและเอาทรัพย์สินไป อย่างนี้ก็ไม่เรียกว่าการย้าย เป็นการทำลายเมืองหลวง

ย้ายเมืองหลวงมันธรรมดา ตอนนี้มันคิดที่จะย้ายโลกกันแล้วครับพี่น้อง

คนไทยเป็นคนช่างเจ้าความคิดความเห็น เหมือนตอนก่อนสร้างรถไฟไฟฟ้าใต้ดินบนดิน แต่ตอนนี้อยากให้สร้างเยอะๆ สมมุตว่ายัาย ไม่ดียังไง? แพง? แล้วคิดหรือว่า การแก้ปัญหาด้วยวิธีจัดการนั้น มันจะถูกกว่าย้าย. แค่ผังเมืองอย่างเดียวแค่นี้ก็อาเจึยรโลหิตแล้ว. มันโยงถึงระบบสาธารณูปโภคอื่นๆด้วยนะ. คุณต้องรื้อเมืองเลยนะ คิดว่าถูกเหรอครับ? การจัดการที่พูดกัน จัดการอะไรล่ะ? ผมว่าสร้างเมืองใหม่ถูกกว่า ...เถียงกันไปก็ได้แต่เถียง ได้แต่พูด ได้แต่อวดกึ๋น. ดูอย่าง เมียนมาร์ ไม่ต้องพูด พอพูด เมืองหลวงใหม่เสร็จแล้ว. อ้าว! แอบสร้างตั้งแต่ตอนไหน? แบบที่ไทยเนี่ย แยังกันได้ทุกเรื่องละครับ.

ย้ายเพื่อปั่นราคาที่ดินป่ะ เอาเเบบ หลังเป็นเขา หน้าเป็นน้ำ มีน้ำใช้ไม่ขาดแคลน น้ำไม่เคยท่วม พายุไม่มี ทำแล้วไม่ต้องลงทุนถมที่มาก มีที่สร้างสนามบิน รถไฟ

ทำ กทม.เป็นเวนิสตะวันออกเหมือนเดิมดีก่า ย้ายเมือง ธุรกิจ ไปอยู่ นครนายก สระบุรี น่าจะดี คนจะได้ไม่อัดแน่น

การตั้งหัวข้อผิด คำว่าการย้ายเมืองหลวง คนทั้งประเทศจะเข้าใจว่าย้ายกรุงเทพ กลุ่มนายทุนอสังหา บริษัทห้างร้านที่มีออฟฟิตใหญ่โต หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ยอมแน่ ควรตั้งหัวข้อว่า จัดระเบียบเมืองเพื่อลดความแออัดเพื่อลดค่าครองชีพเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า โดยแยกหน่วยงานราชการและโรงงานขนาดย่อมที่มีกันอย่างดาษดื่นในกรุงเทพ ให้ไปอยู่จุดใหม่ ส่วนรถไฟฟ้าขาดทุน มันอยู่ที่ประชาชนรายได้ไม่พอกับค่าครองชีพ แล้วเค้าจะเอาเงินที่ไหนไปขึ้นรถไฟฟ้า ไม่ใช่ต้องให้ประชาชนอยู่กันอย่างแออัดเบียดเสียดรถไฟฟ้าถึงจะไม่ขาดทุน ดูอย่างสิงคโปร์ซิ ประชากรน้อยกว่าในกรุงเทพเกือบครึ่งนึง ทำไมเค้าไม่ขาดทุนว่ะ ทั้งๆที่ระยะทางรวมของเค้ายาวกว่าเราอีกในตอนนี้อ่ะ นี่คือการพัฒนาประเทศแบบบ้านยังอยู่กระต็อบมุงหญ้าจากแต่อยากติดแอร์ นี่คือกรรมของประเทศที่เราไม่มีคนเก่งคนมีวิศัยทัศน์มาทำการเมือง

เส้นทางรถไฟฟ้า..สามารถย้ายเมืองได้เพรามันเชื่อมเมองใหม่กับเมืองเก่า.แบบสามาถทยอยย้ายลากรถไฟคามเร็วสูงไปสู่ที่..รกล้าง..สร้างแปลนนำคนมีรายได้น้อยทยอยเข้าพักอาศัยวางแปลนเมืองสวยๆธรรมชาติ.เป็นเมืองหลวงคู่แฝดฯลฯ..นำนักศีกษาหัวดีๆมาวางแพลนดีๆพวกแก่ใกล้ตาย.ๆอย่ามายุ่ง..อายุเกิน40ควรเงียบไปเลย

"ลดแรงงานคน" แล้วประชากร จำนวนมาก จะทำงาน ทำมาหากิน กันอย่างไร?

ปัญหาหลักของกรุงเทพฯคือการจราจร 1.ที่จอดรถไม่มี 2.ที่จอดรถประจำทางคับแคบ 3.แยกเยอะมาก 4.ศูนย์การค้าเยอะมาก แก้ไขเรื่องการจราจรได้กรุงเทพฯก็น่าอยู่แล้ว

ย้ายมา จ .อุดรธานีดีกว่าค่ะ ไม่ค่อยมีภัยพิบัติ

คิดผิดแล้วอาจารย์เมืองจะหนาแน่นน้อยลงคนจะหนีออกจากเมืองใหญ่ เพราะเทคโนโลยี่และการเดินทางที่สะดวกขึ้นและมลภาวะ

มันน่าจะย้ายมานมนานแล้ว มันจะช่วยลดสารพันปัญหา (ไม่ใช่ย้ายเมืองหลวง) แต่มันเป็นการย้าย ความแออัด ปัญหาก็จะถูกแก้ไขลงได้ ที่ต้องย้ายเพราะมันเกิดความแออัด และหนาแน่นขงผู้คนมันมากกว่าพื้นที้ ที่มีจำนวนจำกัด

แนะนำ(ย้ายเมืองทรัพยากรมีค่าน้ำมันเมืองไทยมีกำแพงเพชร)

รัฐบาลเขาไม่ย้ายหรอก เขาให้นายทุนลงทุนไว้เยอะในกทม. จะทิ้งไปหรอ? พูดไปก็ทำไม่ได้

ไทยติด ค่านิยมของฟรี ลด แลก แจก แถม เวลาทิ้งขยะเสียเงินไม่ยอมเสีย ก็เลยทิ้งลงคลอง อะไรก็ลงคลอง อาจต้องติดกล้องตามคลอง แบบ ตรวจจับรถวิ่งเร็ว จะได้ไม่กล้าทิ้ง เพราะกลัวเสียค่าปรับ(เผลอทิ้งก็ถูกปรับให้มากๆ ไปเลย) ญี่ปุ่นมีกฎหมายบังคับทิ้ง หลายๆ อย่างที่หมดอายุใช้งาน ทั้งที่ยังไม่เสีย ถ้าไม่ทิ้งจะเสียค่าใช้จ่ายแพง ไม่คุ้มซื้อใหม่(คือ รถยนต์) เมื่อย้ายที่อาศัย จะเสียค่าขนย้ายแพง ก็ต้องยอมทิ้งของบางอย่าง ออกกฎหมาย ให้ท่อระบายน้ำเสีย เลิกทิ้งลงคลองได้แล้ว ต้องทิ้งลงบ่อบำบัดน้ำเสีย หรือหลุมกรองน้ำให้ซึมลงดินไปเอง เศษอาหาร ตะกอนนำไปตากแดดให้แห้ง ทำปุ๋ย หรือค่อยทิ้ง เพื่อกำจัดต่อไปได้ จะไม่มีการเก็บขยะเปียกอีกต่อไป บ้านไหนเผากำจัดเองได้ ก็เผาได้เลย ในชนบททำได้อยู่แล้ว(ในชุมชนเมือง ทำไม่ได้ควันรบกวน) แต่ต้องรับผิดชอบดูแลไม่ให้เกิดเพลิงไหม้ ไทยทำอะไรก็ต้องใช้กฎหมายบังคับ(ก็ยังทำผิดเลย) ไม่มีกฎหมาย ยิ่งไปกันใหญ่ คนไทยไม่มีระเบียบวินัย การลงโทษตามกฎหมายไม่ดีพอ คนก็ไม่เกรงกลัวหรอก

กรงเทพมีสิ่งดีๆสำคัญๆสวยงามหลายอย่าง แต่ผู้คนมากมายเกินกำลังของสถานที่จะรับใหว ทำให้กรุงเทพมองดูแย่มาก อยากให้ไปสร้างเมืองใหม่เป็นเมืองการค้าเมืองการลงทุนข้นย้ายผู้คนออกไปบ้าง ทำมั่ยจะทำไม่ได้อยากให้คิดทำมานานแล้ว หวังไว้คงรอไม่นาน จาก ประชาชนคนธรรมดาที่เคยอยู่กรุงเทพแต่นานๆครั้งก็มีธุระที่จะไปทำที่กรุงเทพบ้างแต่เบื่อความแออัดของกรุงเทพเหลือเกิน

น่าจะย้ายไป อู่ตะเภา

ทำไมต้องย้ายเพราะปัญหาที่สำคัญต้องไปในเวปอุทกภัยมีรถติดแผ่นดินซุกมันเสียงต่อการเกิดต่อชีวิตและทรัพย์สินก็สมควรหยิบขึ้นมาได้อย่างสร้างสรรค์และมีความสมดุลก็ควรฟังเสียงส่วนมากครับขอบคุณครับ🚩#แอ่นแอนแอ้น🇦🇪😅🇦🇪

มันจะพูดอะไรกันมากมาย เบื่อพวกนักวิชาเกินจริ๊ง พูดคำเดียวไปเลย ไม่มีเงิน. กลัวราคาที่ดินย่านธุรกิจกิจจะตกต่ำ เดี๋ยวคอนโดจะขายไม่ออกเศรษฐกิจก็จะยิ่งทรุดตัวลง ไม่อยากย้ายก็ไม่ต้องย้าย แต่ต้องกระจายความเจริญออกไปตามต่างจังหวัดให้น่าอยู่ รวมทั้งการสร้างงานในต่างจังหวัด การเดินทางต้องสะดวกเข้าถึงได้ง่ายในทุกพื้นที่. มันสายเกินไปแล้วที่จะย้ายเมืองหลวง. รอกวดคอกันเดินลุยน้ำเน่าไปทำงาน และเบียดเสียดกันเป็นปลากระป๋องในรถไฟฟ้า รถประจำทางต่อไปละกัน 😩

ฟังเสียงประชาชนบ้าง

ส่วนตัวคิดว่าไม่จำเป็นต้องย้ายเมืองหลวงหรอกค่ะ แค่สร้าง business city ขึ้นมาใหม่ก็พอแล้วค่ะ

ไปโคราชเลยคร้บผม จ.ว.ใหญ่มาก

อย่าย้ายเลย สงสารทีใหม่จะเมือนเก่า

ไม่ต้องย้ายเลยพวกเราไม่เอาหรอก แม่งมาเมื่อไรก็เอาแต่ความฉิบหายมาสู่บ้านเขาอยู่ที่เดิมนั่นแหละพวกมึงทำตัวเอง ใหนบอกว่าพวกมึงเป็นเสียงที่ดีกว่าคนต่างจังหวัดไง...หัว....Doooooor

การลดที่ดีที่สุดคือ ลดจำนวนประชากร

ระบบ Feeder คือ?

เห็นด้วยคับ กทม แน่น หมดแล้ว

ทำไมชอบพูดไทยผสมอังกฤษ เป็น Bilingual กันหมด

หน่วยงานรัฐที่ไม่จำเป็นมากต่อมวลชนควรย้ายออกทั้งหมด นครนายก แย่าไปสนกำไรขาดทุน รถไฟฟ้ายังไงต้องทำ สำคัญเส้นที่คนหนาแน่นก่อน

ย้ายเมืองหลวง ข้าราชการเฮแน่ ค่าบ้านเช่าเบิกกันสนุก เข้างานสายยิ่งสายหนักทุกอย่างนำมากระจุก เรียกโก้ๆว่าศูนย์ราชการตอบโจทย์แค่ไหน?

ย้ายไปที่3ชายแดนใต้ก็ดีนะ

ท่อระบายน้ำเสีย(Waste Management) กับท่อระบายน้ำฝน(Strom or Surface Water Management) ยังไม่มี ส่วนที่มีมาช้านานจนถึงวันนี้ก็คือนานก็คือ มั่ว แมนเนจเม้นต์

พูดดีนะ ย้ายเรื่องอะไรๆคือตัวปัญหา

ย้ายไป จะทิ้งคนบางกอก ให้ตายหรอ จะไม่แก้ปัญหาหรอ

ย้ายไม่ได้หรอก หากนายทุนไม่อนุญาติ

ไม่น่าจะง่ายนะครับ ที่ทำกินอยุ่ในนี้ ใครจะไปอดอยาก คนต่างจังหวัดยังหนีมา กทม

แน่ใจรึว่านี้คือนักวิชาการ

ย้ายยาก เพราะคนไม่ยอมย้าย ปัญหาอยู่ที่คน คำว่าเมืองหลวงเป็นแค่นามธรรม

ย้ายไปสระบุรีเหมาเะสุดๆ

อีกหน่อย เวนิส จะท่วมทั้งปี ru-vid.com/video/%D0%B2%D0%B8%D0%B4%D0%B5%D0%BE-iyefnZUD-y8.html เขาเก่งกว่าเรายังเอาไม่รอด

ถ้าย้ายไปอยู่ที่โคราช ที่ดินภาคอิสานจะได้แพงขึ้นหลายเท่า คนอิสานจะได้ไม่จน

อย่าเลยให้น้ำท่วมก่อน

ย้ายมานครนายกครับจะดีมากอากาศดี

เดี๋ยวตกงาน คนก็จะหายไปเอง ไม่นานหรอก

กรุงเทพไม่มีเพลนหรือผังเมือง

เสียเวลาคิดครับ ย้ายเมืองหลวงมันไม่ใด้อยู่ที่รัฐบาล มันอยู่ทีเจ้าสัวครับ คิดสร้างความเจริญให้ไปสูจังหวัด แล้วความแออัดมันจะออกไปแอง แต่ประเศไทย ทำอาไรมันก็ยาก เพราะผลประโยชน์ ของเจ้าสัว กับอำนาจะหนือ ปล่อยให้ธรรมชาติมันย้ายเถิดครับ คงไม่นานเกินรอ

ย้ายไปแต่ไม่ไห่นายกไป.....

พูดกันมาสามสิบปี น่าจะย้ายตั้งนานแล้วกระจุกกันอยุ่ได้

รีบย้ายเลยแออัดมาก..

โอ้โฮ้คิดไปได้เนาะ

เอ๊ะ..หรืว่า..ยะลาดี..ก๊ากๆๆๆๆ

...

คนแก่ไแเลี้ยงหลานไดัแล้ว

ย้ายไปที่..ปัตตานี...555555

รืบย้ายไปเลยไกลๆๆๆ

นครนายกตัดทิ้งไปได้เลย เพราะทักษิณคิด ประยุตไม่มีทางทำแน่นอน 5555

ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง

ย้ายกระทรวงย้ายสถานที่ราชการออกบ้างย้ายค่ายออกบ้าง

เห็นด้วยมากกับอาจารย์ค่ะได้แง่คิดและแนวคิดดีมากขอเสริมหากจะปรับกทม.คอนโดตอบโจทย์ที่สุดอยู่สบายมากด้วย