“เกษตรอินทรีย์” ยั่งยืน...? “อนาคต” เกษตรกรไทย : ตอบโจทย์ (5 ธ.ค. 62) 

คุณพิธา พูดดีจัด ปลัดบอก ขนาดประยุทธ์ยังไม่ลาออกยังบอกว่าสุดจัดไปเลยครัช 👍👍👍

ชอบคุณ วราวิทย์ ฉิมมณี มากมากจัดการได้ยอดเยี่ยมมากเลยคะ.

พูดดีมากครับ โดยเฉพาะช่วงท้ายที่แนะนำวิธีหาเเขกรับเชิญ ผมอยากเห็นแบบนี้มานานละ ทำไมมเอาแต่คนไม่รู้มาออกรายการ สิ่งที่พูดๆหาอ่านมาพูดก็ได้ มันขาดความจริง เอาคนคนจริงประสบการณ์จริงมาออกรายการดีกว่า

ถ้าคุณทิม ได้อ่าน คอมเม้น ขอให้คุณยึดมั่นอุดมการณ์ และใช้ความรู้ในการพัฒนาประเทศและประชาชน คนไทยที่เก่งๆ และกล้าออกมายื่นหยัด นั้นหาได้น้อยมาก ชื่นชมจากใจค่ะ

อยากจะตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมเราจึงดันเกษตรอินทรีย์เป็นเกษตรกรรมยั่งยืนได้ยากยิ่ง ประเด็นปัญหา 1. มาตราฐานเกษตรอินทรีย์ของกรมวิชาการ โดยเฉพาะเพื่อการส่งออกนั้น. สูงส่งเกินวิถีวัฒนธรรมของชาวนาไทย เช่น การเตรียมแปลง ระบบกันลม สารตกค้างในดิน การจดบันทึกข้อมูล การผลิตปุ๋ยหมักเอง ฯลฯ เกษตรกรที่สนใจจะเข้าทำเกษตรอินทรีย์ต่างเบ้ปาก เพราะราคาที่เกษตรได้รับไม่สูงมากดังราคาคุย ทำได้เฉพาะรายเท่านั้น เพราะพวกเขาถูกล้อมกรอบด้วยแปลงใช้สารพิษรอบด้าน 2. คำว่าเกษตรอินทรีย์ยังต้องผ่านระบบรับรองและเสียเงินที่เรียกว่า ไอโฟม คล้ายๆกับอ.ย.บ้านเรา. น่าขำที่มาตรฐานเหล่านี้ ไม่มีเจ้าหน้าที่มาเฝ้าแปลงสักคน จึงเป็นเรื่องสมมติเพื่อหากินกัน และเกษตรกรเองก้อหวังรายได้จากการส่งออก ซึ่งมันตอบโจทย์ในเชิงจำนวนของเกษตรกรส่วนใหญ่ได้หรือไม่ 3. ความจริงใจของก.เกษตรที่ผ่านมา เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ตลอดมา ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริม การพัฒนากลุ่ม การต่อยอด การตลาด ล้วนแต่พัฒนาแบบกะโหลกกะลาเกือบทั้งสิ้น แถมข้าราชการบางคนเปิดร้านขายสารเคมี แต่ตัวเองกลับทำโครงการเกษตรอินทรีย์ นี่ตลกร้ายใช่ไหม 4. ด้วยมาตรฐานดังกล่าว จึงทำให้เกษตรอินทรีย์ถูกตีกรอบ จึงทำได้เพียงแปลงเล็กๆ ต้องรวมกลุ่ม ต้องถูกบ.เอกชนกำหนดทิศทางบังคับ ทำงานหนักเสียยิ่งกว่าทาส เพียงเพราะหวังจะได้เงิน ซึ่งไม่ได้มากจริงดังฝัน ขณะที่เกษตรกรส่วนใหญ่ยังย่ำอยู่กับการเกษตรคุณภาพต่ำและพึ่งพาสารพิษจำนวนมาก 5. กระดุมเม็ดแรกในเรื่องการมีสิทธิที่ดินทำกิน ทั้งโฉนด ภบท5 สปก.ล้วนตกอยู่ในมือนายทุนจำนวนมาก เกษตรกรที่ต้องเช่าที่ดินคนอื่น จะมามุ่งมั่นพัฒนาดิน น้ำให้ดีได้อย่างไร เพราะไร้สำนึกความเป็นเจ้าของที่ดินอันเป็นกระดุมเม็กแรกเสียแล้ว ที่ยกตัวอย่างอุปสรรคดังกล่าว แค่ตัวอย่างเบาๆ และไม่ได้หมายความว่าสนับสนุนให้ใช้สารพิษ 3 ชนิด แต่ขอเสนอว่า 1. ทำไมไม่เสนอเกษตรกรรมยั่งยืน เป็นวาระแห่งชาติแทน แทนคำว่าเกษตรอินทรีย์. คำว่ายั่งยืนนั้นหมายถึง การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย พื้นที่ ชนิดพืช การตลาด ราคา แรงจูงใจต่างๆ ให้กับทุกฝ่ายโดยเฉพาะกลุ่มที่ละลดเลิกการใช้สารพิษ การเกษตร. เช่น ควรกลับด้านกันบ้าง หากจะใช้สารพิษ 3 ประเภท ต้องมีมาตรการเข้มงวด มีบทลงโทษ กำกับทั้งปริมาณการใช้สาร หรืออาจจะขึ้นภาษีสารพิษ เชื่อเถอะไอ้ที่เดือดร้อนคือผู้จำหน่ายสารพิษ เพราะชาวบ้านถ้ายุ่งยากเขาก้อไม่ใช้. และพวกเขาเจ๊งเรื่องอื่นๆ มากกว่าการใช้สารพิษมานานแล้ว 2. คำว่ายั่งยืน นั้นหมายถึง การที่พัฒนาให้ทุกกลุ่มเป้าหมายมีที่ยืนในสังคมอย่างพอประมาณ และเป็นธรรมทั้งราคาทั้งคุณภาพ ใช่หรือไม่ คำถามคือผมเองพากันทำเกษตรแบบไม่ใช้สารพิษ แต่การสนับสนุนใดๆไม่มีเป็นรูปธรรมเลย แล้วแบบนี้ ชาวบ้านส่วนใหญ่เขาจะทำเกษตรอินทรีย์ไปทำไม 3. วาระเกษตรอินทรีย์ ถามว่า เรามีพื้นที่จริงๆกี่ % และมีผลผลิตที่เพียงพอต่อการบริโภคและการค้าจริงหรือไม่ และสิ่งที่ควรคำนึงคือระบบรอจิสติคสิของเรา ได้ให้ความสำคัญต่อระบบการจัดการแปลง การเก็บเกี่ยวผลผลิต การแปรรูป และตลาดผู้บริโภคครบวงจรในประเทศจริงจังหรือไม่ ดังนั้นในแง่มหภาคจึงต้องเน้นให้เป็นเกษตรกรรมยั่งยืน เป็นวาระแห่งชาติ เพราะต้องระดมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วน เรื่องไม่ง่ายจึงต้องเป็นวาระแห่งชาติ. โดยเน้นทั้งการจัดการระบบเกษตรทางเลือก(อินทรีย์)และระบบเกษตรอุตสาหกรรมสีเขียว ในระยะ 5 ปีแรก แลเวทีจึงต่อยอดระบบเกษตรอินทรีย์ให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ ที่ต้องปรับวิธีคิด เพราะเกษตรอินทรีย์มาตรฐานส่งออก ถ้ามุ่งหวังจะได้เงินมากๆจากการจำหน่าย แทนที่จะคำนึงถึงการลดต้นทุน และผลกระทบต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม นี่จะเป็นวิถีเกษตรกรรมอย่างยั่งยืนได้อย่างไร คงต้องปรับทัศนะคติกันยกใหญ่ละครับ

เมื่อสองปีที่แล้ว ได้ทำงานเป็นคนทำกับข้าว ในครัวโรงเรียน ของโรงเรียนในทางภาคเหนือที่ประเทศสวีเดน เห็นเขาสั่งไก่มาจากประเทศไทยเยอะมาก เป็นร้อยๆกิโล แต่ละครั้ง หลังจากปีกว่าๆ เนื้อไก่จากประเทศไทยก็หายไป สั่งจากเดนมาร์กแทน เรื่องนี้เราเสียดายแทน ถามเพื่อนๆว่าเพราะอะไร เขาบอกมีสารอันตราย 😒😒😒

นักการเมืองรุ่นใหม่มุมมองความคิดก้าวไกลน่าให้เข้ามาบริหารประเทศ

ขอบคุณไทยพีบีเอส..ที่นำเสนอและให้ความรู้

ตั้งใจฟังจนจบ รู้เลยว่าต้องการช่วยเกษตรกรจริงๆ และเข้าใจปัญหาจริงๆ

เวลา ที่พรรค อนาคตใหม่แต่ละคนออกมาพูดอะไร เราเหมือนได้ ความรู้เพิ่มเติม เหมือนว่าเราถูกปิดบังความจริงไม่ให้รู้อะไรเลย อนาคตใหม่นี่เขา ข้อมูลแน่นและจริง99.99

พูดทิ้งท้ายได้ดีมากต้องคนที่ทำจริงๆคนที่ล้มเหลวจริงไม่ใช่เอานักการเมืองมาพูดพูดโดน.ใจ

ชอบ ฟังคนนี้ทีไร ได้ความรู้ทุกครั้ง สาระล้วนๆ ไม่มีน้ำ ไม่พาดพิง เหมือน สส บางคน

เกษตรอินทรีย์ แนะนำ รายการ ไป เชิญ อ. โจนจันได มาครับ แน่นอนที่สุดคนนี้ ครบทุกอย่าง

สุดท้ายผู้บริโภคเป็นคนกำหนด เกษตรกรผลิตตามตลาด คนกินอยากกินผัก-ผลไม้อินทรีย์ แต่ก็ยังเลือกหยิบผัก ผลไม้สวย ๆ ที่ราคาไม่แพง

ขอให้อนาคตใหม่ออกตัวเรื่องเกษตรเคมีให้แรงกว่านี้ ที่ผ่านมาออกตัวยังไม่แรงก็ให้มันผ่านไป แต่ต้องมาพูดเรื่องนี้แบบขยี้ซ้ำๆๆๆ

ชอบคุณพิธามากรุ้จริงเรื่องเกษตร

หลายคอมเม้นต์เหมือนฟังคุณพิธาพูดไม่หมดหรืออย่างไร คือเค้าก็สื่ออยู่ว่ามันทำจริงยาก คือรัฐต้องหนุนหลายประเด็นมาก ดินมันก็พังไปหมดแล้ว ต้องใช้เวลากว่าสามปี แต่มันเป็นเทรนด์โลก ถ้าเราไม่เริ่มเลย เทรนด์โลกก็จะกดดันให้เราต้องทำไม่วันใดก็วันหนึ่ง เพราะมันจะส่งออกไม่ได้ เค้าไม่เอา คืออยากให้เกษตรกรบ้านเราไม่จนและพัฒนาอาชีพยั่งยืน รัฐควรทำมากกว่านี้ มันมีตัวอย่างประเทศที่เค้าทำได้มากมาย ที่รัฐจะอุ้มเกษตรกรโดยเอาภาษีภาคอุตสาหกรรมมาหนุน พอส่งออกได้มากขึ้นๆ ยังไงก็ไม่ขาดทุน ได้กันทุกฝ่ายทั้งรัฐและเกษตรกร พลัสสุขภาพประชาชนและสิ่งแวดล้อม ยอมคุณทิมบทสัมภาษณ์นี้พูดครอบคลุมจริงๆ

อยากมีนายกที่มีกระบวนการคิดแบบนี้

นาทีที่ 10.40 ขณะที่เราเข้มงวดกับเกษตรกรของเราแต่เราละเลยกับเกษตรกรจากต่างประเทศ ..

คุณทิมพูดดีมาก 30 นาที ได้ทั้งต้นเหตุ ปัญหา และแนวทางแก้ไข โดยเฉพาะเรื่องการเก็บภาษี และสนับสนุนการทำเกษตรเชิงนิเวศ ซึ่งเป็นแนวทางที่รัฐบาลนี้คิดไม่ออกแน่ๆ และคงไม่ทำถ้ายังมีสุริยะ นั่งเป็นประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย ชอบทิ้งท้ายที่บอกว่าควรเอาเกษตรอำเภอ เกษตรกร มาพูด ปล. พิธีกรทำไมชอบพูดแทรก เสียอรรถรสมาก 😂😂

ชอบๆคุณพิมพูดดีคุณพีธีกรก็น่ารัก รัฐบาลเถื่อนชุดนี้ออกไปเลย

อย่างหล่อ มาดผู้บริหารหนุ่มเลย

ขอบคุณค่ะสำหรับข้อมูลดีๆ จากประสบการณ์ที่โตมาจากครอบครัวเกษตกรค่ะ

คนเก่งของรัฐบาลนี้ ความคิดไม่ได้ครึ่ง คุณพิธาเลย

กินสารเคมีให้ดูหน่อยครับ ถ้ากินได้คนไม่ได้พืชก็กินได้แน่นอน แต่นี่นำไปเจือจางแล้วให้พืชกิน คนก็กินต่อแน่นอนว่าไม่เห็นผลใน ปีสองปีแต่ตายอย่างช้าๆแน่นอน

กลไกด้วยคับ คนส่วนใหญ่ ไม่มีช่องทางขายก็จะเลือกปลูกส่งล้ง ล้งให้เมล็ดพันธุ์และปุ๋ย ยา ดังนั้นคนปลูกจึงคิดแค่ปลูกให้ได้ นน.เยอะๆคับ ส่วนคนที่ปลูกอินทรย์ คือคนที่รู้จักหาช่องทางการขาย และสร้างตลาดเอง และพฤติกรรมการบริโภคคนไทยเวลาซื้อผักผลไม่ที่ตลาดก็จะซื้อผลไม้ที่ หวาน และผักที่ใบสวย เท่านั้น ดังนั้น เกษตรอินทรีย์ จึงเป็นเกษตรทางเลือก จริงๆคับ

Green Thailand ความคิดเยี่ยมยอดค่ะ อยากให้คนที่รู้จริง ศึกษาปัญหาทางการเกษตรอย่างแท้จริงอย่างคุณพิธาเป็นรมต.เกษตร

สุดยอดเลยพิธา

ชอบมากค่ะ ❤️❤️

สุดยอด จริง คนนี้

จุดเริ่มของทุกสิ่ง คือ ตลาดครับสำคัญที่สุด มีดีมานย่อมมีซับพลายเสมอ

คนนี้ เก่งจริง

เยี่ยม🌍🌍🌍

เคมี ไม่ใช่ผู้ร้าย "ความเกินไป"คือปัญหา คือสาเหตุ

ขอท้าละกันครับไองานวิจัยที่มอนซานโต้อ้างว่าไม่มีอันตรายอะ แล้วให้คนที่เชื่องานวิจัยชุดนี้เอามาผสมน้ำกินตามปริมาณที่คุณคิดว่าไม่อันตรายต่อชีวิตตามงานวิจัยนั้น กินมันทุกวันๆ ถ้าไม่ตายผมจะเชื่อ ขึ้นชื่อว่าเคมีไม่ต้องอะไรมาก หญ้ายังตายแล้วคนตายได้ไง งานวิจัยพวกนี้ใช้เงินทำเองทั้งนั้น คนที่ตายแล้วเป็นพันอันนี้สิเห็น ถ้าไม่มีผลประโยชน์กันแบนไปนานแล้วที่ยื้อตอนนี้คือมีอะไรเบื้องหลังมากกว่านี้เยอะข้อเสนอผลประโยชน์กัน สมัยโบราณไม่เห็นต้องมีเคมีเลย ทุกวันนี้อะไรก็เคมีสะดวกๆ ติดสะดวกไงละไม่มีไม่ได้

อินทรีย์ดีจริง แต่ทุกอย่างมันขับเคลื่อนตามกลไกตลาด ถ้ามีคนซื้อต้องมีคนทำขายแน่นอน ลองย้อนกลับมาคิดดูที่วันนี้ที่อินทรีย์ไม่เกิดเพราะคนส่วนมากเลือกของสวยราคาถูกไง ลองถามตัวเองดูทุกวันนี้เลือกซื้อผักอินทรีย์หรือเลือกผักสวยราคาถูก

คุณพิธานพูดดีมาก👏👏

น่าจะเชิญเกษตรกรจริงๆมาดีกว่า

บุรีรัมย์เกษตรอินทรีย์ได้ผลดีข้าวได้ผดีเทียบเท่าสารเคมีบอกเลยอยากตายผ่อนส่งก้อเชิญแค่ขายให้คนในชุมชนก้อไม่พอกินแล้วจ้า

อยากให้มานั่งตำแหน่งรัฐมนตรีเกษตร มีอำนาจคิดและวางแผนนโยบายในระดับประเทศ ยกระดับเกษตรกรไทย

รู้ไหมทำไมคนจึงเลือกเกษตรอินทรีย์ เพื่อสุขภาพเพื่อสภาพแวดล้อมที่สมดุล และโลกอนาคตคนไม่อยากตายเพราะร่างกายสะสมเคมีตกค้างจากพืช ผัก สะสมนานวันเข้าจนเกิดโรค ถ้าเกษตรเคมีต้นทุนต่ำ กำไรงามจริงๆก็ควรจะนึกถึง ต้นทุนทางด้านร่างกายที่มีโรคภัยไข้เจ็บ*ค่ารักษาใน รพ. คงมากกว่าหลายเท่าตัว ร่างกายก็คงไม่ต่างจากดินที่สะสมเคมีไว้เช่นกัน

ใช่ประเทศไทยมันมากกว่ากทม.กทม.ไม่ใช่ทั้งหมดของของเทศไทย สุดยอดคำพูดทิ้งท้าย

ทำระบบน้ำ ปรับพื้นที่ให้เป็นมาตรฐาน ก็เกาถูกที่คันแล้วครับ ต่อไปเกษตรกรจะเป็นผู้สร้างผลผลิตที่ดีได้

ผมละขำ ตอนปารีณาหัวเราะแซวเค้าเรื่อง เอาไฟเข้าที่ สปก.ไม่ได้ วันนี้ปารีณา ซวยเลย

แล้วการนำเข้าผัก ผลไม้จากต่างชาติ(จีน, เวียดนาม) ได้ผ่านการตรวจบ้างรึเปล่า ยกตัวอย่าง องุ่นไร้เมล็ด กิโลกรัมละ 70 บาท และหลาย ๆ อย่าง มันถูกมาก จนเกษตรอินทรีย์ หรือเกษตรกรไทยแทบจะไม่อยากทำเกษตรแล้ว

คุณ​ควรเป็น​นายก

ชอบสำเนียงคุณทิมมากๆค่ะ

ใช่เลยค่ะคุณทิม พิษณุโลก กำแพงเพชร ใช้สารเคมีเยอะมาก PBS ต้องเอาเช้าส้นติอโศก มา รายการตอบโจทย์ พูดเกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์ เรื่องเกษอินทรีย์อินทรีย์ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับชาวเกษตร อีกต่อไป

จนถึงขนาดนี้ยังถามอีกหรือว่าสมควรใช้สารเคมีหรือเปล่า คนตายกันเพราะสารเคมีสารพิษในอาหารสะสม ประเทศอื่นๆ เขาแบนกันหมดแล้ว

เคยคิดหรือไม่ในอดีตที่ผ่านมาก่อนมีสารเคมีบรรพบุรุษท่านทำอย่างไรถึงทำเกษตรแบบปลอดภัยส่งเมล็ดพันธ์ให้พวกคุณมีพืชผักกินถึงทุกวันนี้ ..ที่ดินผมทำเกษตรก็ไม่เคยใช้สารเคมีแต่ก็ไม่เห็นเดือดร้อนเลย..ปัญหาคือเราคิดไม่ออกหรือไม่คิด

ดูดีมาก

คิดตามได้เลย

พูดง่าย ทำยากครับท่าน

คนเก่งไม่มีโอกาศครับ

ประเทศไทยเจริญก้าวหน้าทางด้านการเกษตร แต่ไม่เคยพัฒนาด้านเทคโนโลยีเลย เกษตรกรหลายคนต้องการเทคโนโลยี จึงต้องเร่งผลผลิตทางการเกษตร ทั้งใช้ปุ๋ยเคมี ใช้ยาฆ่าแมลง ยาฆ่าหญ้า ใช้เครื่องจักรทางการเกษตร เพื่อให้ได้ผลผลิตเยอะและเร็ว ได้เงินเยอะจนสามารถซื้อเทคโนโลยีต่างๆ ได้ เช่น สมาร์ทโฟน รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณอำนวยความสะดวกต่างๆ ไทยจึงไม่อาจมองข้ามการผลิตเทคโนโลยีที่ทันสมัย ควบคู่ไปกับการทำเกษตรอินทรี มิฉะนั้นเกษตรกรส่วนใหญ่ไม่อาจปรับตัวไปทำเกษตรอินทรีย์ได้เลย ผมจะบอกว่า คนที่ทำเกษตรอินทรีสำเร็จ คือคนที่ไม่ค่อยมีกิเลสใดๆ แต่คนที่เค้าไม่เลือกทำอินทรีย์ ก็เพราะเค้ามีกิเลสยังอยากได้อยากมีเทคโนโลยี ดังนั้นถ้าไทยยังไม่ผลิตเทคโนโลยีที่ทันสมัยได้เอง ย่อมเป็นไปได้ยากที่เกษตรกรส่วนใหญ่จะหันมาทำเกษตรอินทรีย์

ผมเป็นเกษตกรคับ...บางพื้นมันก็ต้องใช้คับอย่างไร่ของผมไม่ใช้คับ..แต่บางพื้นที่ไม่ใช้ก็ไม่ได้ผลผลิดคับ

ออกกฎควบคุมเคมีซิครับ ให้มีโทษทางอาญา ถ้าใช้แล้วแพร่กระจายไปแปลงของคนอื่น คนที่ทำอินทรีย์ทำไมต้องปกป้องตัวเองทั้งที่ไม่ได้เบียดเบียนใคร

ไม่ดีม้าง​ แล้วนายทุนสารเคมีที่หนุนผมล่ะ​ เค้าจะขาดทุนนา​ ผลประโยชน์​ต้องมาก่อนสุขภาพ​สิ....

ส่วนหนึ่่งก็เกิดจากน้ำครับ ปมคุยกับชาวนาบางคนที่แถบอีสานล่าง เค้าทดลองไม่ได้ เพราะไม่มีน้ำให้ลองผิดลองถูก ถ้าพลาดก็จบ

ฟังเถอะครับ ประยุทธ์ อย่างน้อยก็เอาให้สส ของท่านฟัง

ถามตัวเราเอง ในฐานะคนกินคนซื้อ.. ถ้ารู้ว่ามีสารตกค้าง เราจะกล้ามั้ย ยังไงเราก็ไม่กล้ากิน

น่าสงสารประเทศนี้ที่คนเก่งไม่ได้บริหารประเทศ คนบริหารเป็นแค่ ทหารแก่ๆ

ทำไมเขามีแนวคิดดีจัง น่าจะเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่มามีอำนาจในการบริหารงานบ้างนะ ประเทศไม่ก้าวหน้าเพราะคนไทยไม่ยอมปรับทัศนะคติเดิมๆที่แย่ๆ ต้องรอให้ trend โลก มา disruption ก่อนเหรอ ถึงเวลานั้นก็สายเกินไปแล้วนะ

ขอบคุณที่มีคนแบบคุณทิมอนาคตใหม่ของเกษตรกรไทย❤❤🇹🇭🇹🇭👍👍

พูดงายทำจริงยากลองลงไปทำเองสิคนละเรื่องเลย ปลูกน้อยทำได้ปลูกกินเอง ขายนิดหน่อยได้แต่ถ้าส่งออกมันไม่ได้ผล ทำนายังต้องฉีดยาฆ่าหญ่า จะถอนหรือตัดก็ไม่ไหว ขายฝันต่อไป

👍👍👏👏

ที่ผมมาทางรัฐบาลไม่เคยส่งเสริมอย่างจริงจัง​ ผมเชื่อว่าต่อไปเด็กรุ่นใหม่มาบริหารไม่นานผมว่าประเทศไทยเจริญขึ้นเเน่

เกษตรกรมองเห็นมานาน ใครปรับตัวก่อน คุมตลาดก่อน...

ต้องการคนอย่างคุณพิธาและคุณวราวิทย์

สนับสนุน​คับน่าจะเป็นรัฐมนตรี​กระทรวง​เกษตร​น่ะคับ

ยั่งยืน หมายความว่า ขายน้อยแต่ราคาดีรึป่าวครับ ถ้าราคาไม่ช่วย เกษตรอินทรีย์มันก็เหนื่อยแรงนะคร้บ

ก่คิดแบบนี้กะมังที่พวกนายทุนรวมหัวกับนักปกครองโบราณรวมกันกดหัว

ถ้าจะให้ทำเกษตร อินทรีย์ กันหมด คิดว่าผู้บริโภคจะรับราคาไหวหรอ ? เฉพาะข้าวสาร เกษตรอินทรีย์ ก็ปาเข้าไป ก.ก. 75-105 บาทแล้ว

อนาคตใหม่ควรเน้นการทำงานแบบนี้มากกว่า...

ใบท่อมฉีดไกลโฟเซต ไหมครับ กลัวมะเร็งแดกมาหกปีแล้ว

อยากให้ไอ้เฒ่านรกทั้งหลายมันเครื่องบินตกตายยกชุดแม่งหน้าด้านสุด

ฟังเหมือนมีความรู้ แต่ไม่มีความรู้แท้จริง น่าเสียดายจริงๆ ง่ายๆ ทำไมหมอเรียก ยาสมุนไพรว่าแพทย์ทางเลือก แล้วทำไมหมอถึงเลือกยาเคมีคือทางเลือกหลัก

ทำโรงเรือนให้ผักอยู่กางมุ้งให้ผักกันแมลงหน้าจะทำได้ทำเลย

เสียงแขกรับเชิญเบากว่าเสียงพิธีกรนะค่ะ

อยากได้คนแบบนี้มาคุมกระทรวงเกษตรเนาะ

คุณทิม เป็นเก่ง เสียดายไม่น่าอยู่กับธนาธรเลย

ทุกสิ่งทุกอย่างปากพูดได้จริงแต่ทำไม่ได้จริงทุกเรื่อง

ฝันเฟื่องไปแล้วมั่งเกษตรอินทรีย์ทำไม่ได้จริงๆหรอก

ถามคนบริโภคว่าอยากบริโภคอาหารแบบปลอดภัยดีต่อสุขภาพตัวเราเอารือไม่เดี่ยวเกษตรกรจัดให้แต่สำหรับความคิดผมแล้วต้องส่งเสริมเร่มด่วนให้เกษตรกรหันมาทำเกษตรอินทรีย์แบบผสมผสานดีกว่าทำเกษตรเชิงเดียว

มีแหล่งขายมีคนทำแน่นอนผมเป็น1ในนั้นปัจจุปันกลุ่มคนทำกันใด้แล้วไม่น้อย

มันเอามาขายประชาชนก็ไม่ต้องซื้อมาไช้เกรษตอินทรีดีกว่าปลอดภัยต่อคนปลูกและคนกิน