28 Moment "โคตรเหยียด" ในประวัติศาสตร์หนังของ Disney! 

ไม่ว่าจะยุคนี้หรือยุคไหน ดิสนีย์ก็แค่ทำตามกระแสสังคมให้ตัวเองอยู่ได้เท่านั้นแหละ ไม่ได้เป็นองค์กรณ์ที่มีอุดมการณ์หรือจุดยืนอะไร

สมัยก่อนคนคงไม่คิดถึงขนาดนั้น ยิ่งเป็นการเหยียดเชื้อชาติเนี่ยบางทีคนสร้างคงอยากจะตีแผ่อะไรที่คนมองแล้วอ๋อ ว่านี่คนดำ นี่เอเชียนะ โดยดึงจุดเด่นที่คิดไปเองว่าคนที่นั่นจะหน้าตาแบบนั้นหรือมีกิริยาแบบนั้นไปซะทุกคน / เรื่องแอเรียลเนี่ยเข้าใจอยู่ เด็กอายุแค่16 กำลังมีรักแรกเลย วัยต่อต้านครอบครัวพอดี / อย่างเบลก็พอเข้าใจ คนมีความรักบางทีต้องเปลี่ยนอะไรหลายอย่าง คนรอบตัวอสูรก็มีแต่คนรับใช้ คนที่มียศต่ำกว่า แต่พอมองคนที่รักก็เลยยอมเปิดใจเปลี่ยนตัวเอง เพราะมองว่าเบลทัดเทียมกับตนเอง (รักแท้แก้ไขทุกอย่างได้ไรงี้ ดูฝันหวานสำหรับเด็กดี แต่สำหรับเราก็โอเคนะ มันแนวรักๆอ่า)

ถ้ายุคก่อนดูเหยียด ยุคนี้ก็คือยุคแห่งการยัดเยียด เช่น การยัดเยียดดันทุรังเอานักแสดงผิวดำไปเล่นบทที่ดูยังไงก็ควรเป็นนักแสดงผิวขาวมากกว่า มีหลายเรื่องเลย ทั่วโลกมีการบ่นวิจารณ์กันหลายคนแล้ว ความเหมาะสมของตัวบทมันสำคัญกว่าการ "พยายาม" ใส่ความหลากหลายเข้าไปมากๆ ทั้งๆที่มันดูแล้วขัดๆกับเนื้อเรื่องนั้นๆ

เอ้อออออออ ไอ้ค่ายนี้แม่งไปสุดทุกทาง(ที่ไม่ค่อยดี)เลยเว้ยยย

พินอคคิโอ้ดูจะเป็นการเสียดสีสังคมมากกว่าการเหยียดนะ แต่ดิสนี่ย์มันสุดจริ๊ง ตอนนี้ก็สุดหมือนกันแต่สุดคนละทาง

จากคนที่ติดตามดิสนีย์มาตลอดตั้งแต่สมัยเด็ก แล้วได้ดูเรื่องเก่าๆหลายเรื่อง จะเรียกได้ว่าค่ายนี้คือเป็นตำนานที่เปรียบเสมือนกับแมลงสาบแห่งวงการสื่อโดยเฉพาะอนิเมชั่นเลย คืออะไรก็ตามที่เป็นค่านิยม เป็นกระแสหลักในตอนนั้นคือจัดไปหมด แล้วความเก่งอย่างหนึ่งของดิสนีย์คือ immersion หรือการนำเสนอที่คล้อยตามไปได้ง่าย ในช่วงที่สื่อยังมีแค่โทรทัศน์และโรงภาพยนตร์ การเข้าถึงสื่อเลยไม่ได้หลากหลายเหมือนในสมัยนี้ แม้ในช่วงที่ค่ายเกือบจะล้มละลาย ก็ยังหาจังหวะกลับมาแบบบทจะชวนเชื่อ บทจะยกตนเหนือกว่าชนชาติอื่นแบบสุดโต่งก็เอา พอถึงตอนนี้ สื่อต่างๆเข้าถึงง่ายขึ้นเยอะ ได้เห็นมุมมองของแต่ละเชื้อชาติในหลายแง่มุม ผู้คนก็เลยมองดิสนีย์กับผลงานก่อนๆว่าเป็นเหมือนความอัปยศที่ก่อขึ้นมา แล้วกระทั่งตอนนี้ ดิสนีย์ก็ยังเป็นแมลบสาบที่กว้านซื้อค่ายต่างๆมาในสังกัดตนเอง และตามกระแสความหลากหลายอย่างออกนอกหน้า(จนไปกระทบกับเส้นเรื่องหลักก็เอา) ขึ้นอยู่กับผู้คนแล้วที่จะเดินตามค่ายหรืิอจะถอยห่างออกมาเอง ซึ่งผลก็เริ่มเห็นชัดจากผลงานสองสามเรื่องที่ผ่านมานี่แหละ

ส่วนตัวเราคิดว่า ประเด็นที่เบลเปลี่ยนแปลงอสูร สื่อว่าผู้หญิงเท่านั้นที่จะเปลี่ยนแปลงผู้ชายที่ร้ายกาจได้ เราว่ามันไม่จริงซะทีเดียว เพราะมันค่อนข้างย้อนแย้งกับความชายเป็นใหญ่ที่ยังหลงเหลืออยู่ในสมัยนั้น และยังมีเหตุผลหลายๆอย่างที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของอสูรเช่นการรู้จักรักคนอื่น ความเมตตา แต่จริงๆเรื่องโฉมงามกับเจ้าชายอสูรก็มีแง่มุมที่โหดร้ายอยู่เช่น การกักขัง ชายเป็นใหญ่ ความแปลกแยก และยังมีอีกหลายประเด็นที่น่าเอามาวิเคราะห์ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ฮะ แต่สุภาพกันนิดนึงนะใจเราบาง🥹

ในสมัยนั้นอาจจะไม่ได้มองเรื่องการเหยียดเป็นเรื่องรุนแรงเหมือนยุคนี้ เพราะงั้นการ์ตูนยุคนั้นเลยมีการเหยียดเสียดสีค้อนข้างมาก ก็เหมือนตอนเราเด็กๆเวลาเจอเพื่อนก็ล้อบ้างไรบ้าง แต่ตอนนี้ใครเลิกล้อเพื่อนได้ เลิกได้นะ เพราะบางคนออ่นใหวมาก

ทุกวันนี้เอเชียเราโดนดูถูกหนักกว่าคนแอฟฟิกาอีกนะ แต่เสียงเรียกร้องเค้าดังกว่าคนเอเชียเยอะเลย

7:53 อดีตอาจเป็นอย่าง การ์ตูน พินอคคิโอ ส่วนปัจจุบันนั้นก็คงไม่พ้นแก็งค์รถตู้ลักพาตัวเด็กไปขอทาน หรือ ใช้แรงงานดีๆนี่แหละ

เป็นสิ่งที่สะท้อน ค่านิยมในยุคสมัยนั้น เรียกว่าจดหมายเหตุอเมริกาก็ได้ พวกการ์ตูน Propaganda ส่วนหนึ่งเป็นไฟลท์บังคับครับ เพราะดิสนีย์พึ่งจะเจ๊งหนักจาก Fantasia 1940 มา ก็เลยต้องทำ ในตอนนั้น คนอาจไม่คิดอะไร หรือคิดแหละแต่แค่ไม่มีสิทธิ์มีเสียง หรือเป็นองค์ความรู้แบบยุคสมัยนี้ มันเคยเกิดขึ้นและมันน่ารังเกียจ เราก็ยอมรับมันแล้วก็เดินหน้าต่อไป แก้ไขสิ่งที่เราเคยเป็น

สำหรับเราคิดว่าที่แอเรียลแลกเสียงปัจจัยหลักอาจจะไม่ใช่แค่เพราะผู้ชายนะ จะเห็นได้ว่าตอนเปิดเรื่องมา แอเรียลพยายามจะสื่ออยู่ตลอดว่าตัวเองยากเป็นมนุษย์ อยากอยู่บนบก แอเรียลอาจจะอยากขึ้นไปบนโลกมนุษย์กับคนที่เธอรักก็ได้

Woke คืดการยัดเยียดค่านิยมครับ ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับการเหยียดเลย

การล้อเลียน กับ การเน้นอัตลักษณ์ให้เข้าใจทันที ... มันก็มีเส้นบางๆในตัวนิยามและมุมมอง

สมัยก่อนก็เหยียดซะ สมัยนี้ก็สุดโต่งเกิน บางทีสาวผิวสีก็ไม่น่าจะเป็น แอเรียล สโนวไวท์ นางฟ้าในพิน็อคคิโอ้ นะ ในทุกๆเรื่องมันมีความเหมาะสม ไม่ใช่ว่าใครก็ได้สักแต่ว่าอยากทำก็ทำ

มันเป็นเรื่องของสภาพแวดล้อม สังคมวัฒนธรรม ที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา ไม่สามารถไปตัดสินถูกผิด ถ้าจะเอาทัศนคติของสมัย 2000s ไปตัดสินว่า ทัศนคติสมัย 1900s ผิด จะแน่ใจได้อย่างไรว่าต่อไปคนในอนาคตยุค 2100 จะไม่คิดเช่นนี้กับคนในยุค 2000 ต้นๆ อย่างเรา

Disney ตัวตนจริง ๆ ในอดีตคือเหยียดนะครับ พอมาทำสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตน มันก็ต้องฝืน ดู Fake ก็เลยเจ๊งไงครับ เรื่อง Snow White มี Sensei คนหนึ่งเคยให้ความเห็นไว้น่าสนใจมากเลย "เค้ามองว่ามันเป็นเรื่องของพวกผิดมนุษย์ โดยถามกลับว่า ถ้าเป็นคุณเจอศพผู้หญิงที่ไม่รู้จัก นอนตายอยู่ในโลง คุณจะอยู่รึจะเผ่น ? ในเรื่องเล่าว่าเจ้าชายที่โผล่มาตอนจบ จุมพิตศพของสโนว์ไวท์ นั่นก็แปลว่าเจ้าชายจิตวิปริตชอยรักกับศพ" จริงไหมครับ เราต้องมองวรรณกรรมให้ลึกซึ้งครับ

คนพากย์คลิปพูดไม่ชัดรึเปล่าคะ เสียงพากย์เหมือนคำโดนตัดห้วน ๆ แล้่วก็ฟังไม่ค่อยชัดบางคำ อยากให้มีคำบรรยายคลิปเพิ่มเข้ามาหน่อยค่า คอนเท้นท์น่าสนใจแต่เราฟังไม่จบ ไม่ค่อยรู้เรื่อง

เรื่องจูบโดยไม่ยินยอมเนี่ย ผมว่ามันใกล้เคียงกับการผายปอดมากกว่านะครับ ยังไงก็ทำเพื่อคลายคำสาป มั้งนะ ว่าแต่เจ้าชายเขาทำเพื่อคลายคำสาปหรือความต้องการส่วนตัวหว่า เรื่องผิวสีเนี่ย เซนซิทีปในฝั่งตะวันตกสินะครับ ถ้าเขามองเอเชียเป็นแมว แสดงว่าแมวเอเชียดังมากใช่ไหมครับสมัยนั้น

สมัยก่อน ฝรั่งชอบเหมาว่า ไทย จีน เวียดนามฯลฯ เป็นคนกลุ่มเดียวกัน และมีวัฒนธรรมเหมือนกัน (ส่วนญี่ปุ่น ฝรั่งจะแยกไว้อีกระดับ และให้การยอมรับมากว่า เพราะถือเป็นคนเอเชียที่ต่อกรกับฝรั่งได้) ทั้งที่จริงๆ แล้วมันมีความแตกต่างกันเยอะเลย มายุคนี้ น่าดีใจ ที่ฝรั่งแยกจีนกับไทยออกแล้ว

คนที่ พยายามยัดเยียดแนวคิดความเหยียดน่าจะเป็นคนทำคอนเท้นนี้มากกว่า ดูหลายๆอย่างมันแทบไม่ได้สื่อถึงการเหยียดหรืออะไรแบบนี้ คนที่ใส่แนวคิดว่าเหยียดคือ คนทำคอนเท้น

แต่ก่อนโคตรเหยียดเดี๋ยวนี้โคตรยัดเหยีด

ธุรกิจเเละทุนนิยมล่วนๆ ตามกระเเส ทั้งเหยียดทั้งสนับสนุน

ถูกใจปก🖕😂 ตอนเด็ก:ไม่คิดอะไร ตอนโต:มันเหมาะสมกับเด็กหรอ?

18:37 เรื่องเจ้าชายอสูรก็เกินไปหน่อยมะ ถ้าสมมุติมันสร้างชาย-ชาย หญิง-หญิงมา จะไม่ด่าหรอว่าสร้างค่านิยมให้ว่าจะเข้าใจต้องเป็นเพศเดียวกันเท่านั้น ในเรื่องเจ้าชายมันรักผู้หญิงตามรสนิยมเพศของเขา แล้วหาคนที่เข้าใจเขา แทบไม่ต่างจากyสมัยนี้ที่บางเรื่องตัวเอกชอบผู้ชายแล้วหาคนที่เข้าใจในตัวเอง จะดราม่าเรื่องนี้ก็ได้แหละแต่โฟกัสเรื่องรสนิยมเพศมันเอิ่มอะ ต่อให้เปลี่ยนเพศแต่เมจเสจของเรื่องคือ การที่คนที่ไม่สนอะไรเริ่มเรียนรู้และเปิดใจที่ละน้อยก็ไม่เปลี่ยน คนที่โฟกัสอคติชาย-หญิงทุกเรื่องเลยปะ แบบหลายเรื่องผู้หญิงเข้ามาเป็นความสดใส เปลี่ยนแปลงตัว แน่นอนเนื้อเรื่องแบบนี้yก็มี หรือพอเปลี่ยนเพศแล้วมันไม่ด่า? เจ้าชายกักขังเบลไว้ยังน่าเอามาเป็นประเด็นกว่าเลย

Disney เป็นบริษัท ขนาดยักษ์ นโยบายหลายอย่างเป็นเรื่องทางการเมืองในแต่ล่ะยุคสมัย เป็นเรื่องธรรมดามาก ไม่ใช่เรื่องน่าอับอาย หรือ เหยียดอะไรหรอก .. ทั้งหนัง ทั้งการ์ตูน และ โฆษณา รวมถึงหนังสือ ทุกสื่อเลยแหละ ต้องทำตามนโยบายทางการเมืองของ อเมริกาเป็นหลัก... ยุคนี้เสียอีกการเหยียด คนที่คิดต่างมันช่างรุนแรงกว่ากระสุนปืน..เพราะ มันมาทุกรูปแบบ..อย่างหนัง หรือ การ์ตูนสมัยก่อนมีฉาก สูบบุหรี่กันเยอะก็ถูกตัดออกไปหลังปี 2000 แต่ยุคนี้กลับมองว่าเป็นเสรี..ให้เอามาออกได้..ความพอดี ความเป็นธรรม การบูลลี่ เหยียดคือ ..?? ตามใจกรู..ใช่ไหม..มาตรฐานใครตั้ง ?? ไม่มีความพอดีในความพอดีจริงๆหรอกครับ..มันขึ้นอยู่กับว่า คุณมองเป็นบวก หรือ ลบ แค่นั้น...

สยามมีสแคทรู้สึกเฉยๆ รู้สึกว่าน่ารักดี มีดนตรีไทยก็น่ารัก คาแรกเตอร์แค่ทำให้ดูเป็นตัวร้ายเฉยๆแหละ

ตอนเราเด็กเราดูด้วยความสนุก พอโตขึ้น เรียนรู้ และมาตีความ ขอให้ดูกันที่เจตนา ลองคิดดูเล่นว่า ปัจจุบันไปยังอนาคต จะเป็นแบบไหนกันนะ

ทำคลิปออกมาบ่อยๆนะคะ ชอบมาก👏

ผมว่าคุณเเยกไม่ออกระหว่างเหยียดกับสะท้อนสังคมนะ มันมีทั้งคู่

เริ่มพอเก็ทละทำไมพี่โตแกไม่ให้ลูกแกดูทุกอย่างของ Disney

ขอบคุณมากเลย❤ คุณ กบน่ารัก🎉

กำลังรอคลิปใหม่จากช่องนี้เลย สวัสดีปีใหม่นะคะ

จูบให้ฟื้นนี่ผมมองว่าเป้าหมายมันไปทางช่วยชีวิตนะครับ ไม่น่าเอามารวมกับบังคับขืนใจ 555

18:30 ความรักทำให้คนเปลี่ยนได้ (ก็ถูกแล้ว หนิ)

ผมมองว่ามันไม่ใช่การเหยียดนะ สมัยก่อนเขาคงจะอยากนำเสนอเชื้อชาติต่างๆ แต่เขาไม่มีความรู้ความเข้าใจในด้านประเพณีวัฒนธรรมเท่ากับสมัยนี้เลย มันเลยแสดงแดงออกผ่านบริบทตามยุคตามสมัยนั้นๆ ทั้งสิ่งที่ดีสิ่งไม่ดีเพื่อให้เป็นความชัดเจนว่า เรากำลังกล่าวถึงคนชนชาตินั้นๆ

12:14คนเอเชียในตัวแมว นี้มันเหยียดหรอก็แมววิเชียรมาศเป็นแมวของไทยฝั่งเอเชียการเสนอรูปลักษณ์ให้เป็นเอเชียก็ไม่เห็นจะเลวร้ายอะไร

ถ้าดิสนีย์อยู่ในแฮรี่พอตเตอร์ คงได้อยู่บ้านสิลิธเธอร์ลีน

ดูตอนเด็กๆก็ไม่ได้คิดอะไรเยอะขนาดนี้อ่ะ วิจารณ์ได้ทุกอย่างเนาะคนเรา

12:03 เพลงประกอบฉากผมรู้ชื่อเพลงชื่อว่า disney land เซนเซอร์ไว้ชื่อเพลงจริงของมันคือการลบ sney ออกแทนด้วย xie เป็นเพลงพวกอเมริกาใต้ที่เหยียดผิวบางคนนะ

เงินอยู่ที่ไหน บริษัทก็ไปทางนั้นนั่นแหละ ปกติครับ

งานละเอียดมากค่ะ ชอบ

12:31 แมวไทย siam cat ตอนแรกตกใจเลย นึกว่าจะเหยียดไทยซะแล้ว แต่เบี้ยวไปนิดนึงเหยียดจีนแทนน 😢😢😢

อย่าว่าแต่สังคมมองนอกเลย เอาของเมืองไทยก่อนทุกวันนี้หนังตลกไทยยังใช้รูปลักษมาล้อเป็นเรื่องตลกอยู่เลย อ้วนบ้าง ดำบ้าง

เทพมากนะ ที่สามารถ Woke ไปด้วยเหยียดไปด้วยในเวลาเดียวกัน

ผมสังเกตนะว่า คิงหลุยส์มีสำเนียงการพูดต่างจากตัวละครอื่น

มุมมองและแนวคิดของคนในแต่ละยุคมันไม่เหมือนกัน การเอาเลนต์ของปัจจุบันไปส่องเรื่องราวในอดีต มันออกจะไม่ยุติธรรมนะผมว่า

ห้ามคนทำภาพยนตร์ไม่ได้ ก็แค่ไม่ดู ไม่ชอบก็ไม่ดู มีความบันเทิงอื่นมากมายให้เลือกดู ไม่ได้มีแต่ภาพยนตร์ของวอลดิสนีย์

บางอันก็เหยียดจริง บางอันก็โอเวอร์ มันแค่สะท้อนบริบทและค่านิยมของสังคมสมัย ๆ หนึ่ง

มันก็ไม่ต่างอะไรกับคนสมัยนี้หรอก แอนตี้นู้นนี่เอาแต่ความคิดตัวเองเป็นใหญ่ เป็นไปได้อยากให้โลกมันล้มสลายไปเลยจะได้ไม่ต้องมาทนทุกข์กับเรื่องพวกนี้ นับวันยิ่งห่างไกลจากคำว่ามนุษย์

เดี๋ยวนี้ก็เหยียดในคราบการ Woke ครับ

บริษัทที่โครตจะสตอ ตอน คนสร้างback to the future ขอเงินทำหนังบอกไม่ชอบบท เพราะมีฉากแม่ชอบลูก ไม่เหมาะให้เด็กดู ตัดมาปัจจุบัน ลูกฆ่าพ่อพ่อฆ่าลูก คืออะไร

บางอันมันก็ดูเหยียดจริง แต่บางอันผมว่ามันเป็นความประสาทกินของชาวโว้คมากกว่า

แต่ก่อนโคตรเหยียด เดี๋ยวนี้โคตรเลอะเทอะ 😂🎉

ต้องยอมรับยุคสมัยก่อนใครบูลลี่ชนเผ่าที่ดูเหมือนมีความอ่อนด้อยกว่า เป็นคนที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นคนที่อยู่สังคมชั้นสูง อยู่เหนือกว่า ผมจำได้สมัยยุค80-90 เด็กนักเรียนมักจะจับกลุ่มนินทรา คนที่ไม่เข้าพวกหรือคนที่เพื่อนน้อยกันเป็นเรื่องปกติ โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของคนที่ถูกนิทราหรือสมัยนี้เขาเรียกว่าการบูลลี่

โอเค...ถึงแม้หลายข้อพยายามตีความให้เหยียด บางข้อกลางๆ แต่ส่วนใหญ่ก็เหยียด

บางอันก้อดูเหยียดแหล่ะ แต่บางอันก้อคิดว่า คิดมากกันไปมั้ง ถ้าไม่ทำงั้นจะให้ทำไง คนก้ออ่อนไหวกันจิงๆ

ในส่วนของ song of the south น่าจะมองได้อีกมุมคือเค้าพยายามปลูกฝังคนยุคใหม่(ในสมัยนั้น) ให้เลิกแบ่งแยกเพราะถ้าสะท้อนความจริงก็คงหดหู่ หนังเรื่องนี้ก็น่าจะมาถูกทางแล้วนะ

มันก็เป็นแค่ค่านิยมในมุมมองของสายตาคนแต่ง คนวาดในแต่ละสมัยเท่านั้นเอง

Si Am เป็นคนสยามแต่ที่เอามานำเสนอนี่มันสำเนียงคนจีนชัดๆ

งานศิลปะคือสิ่งหนึ่งที่บันทึกประวัติศาสตร์โดยเฉพาะค่านิยมคนสมัยนั้น ค่านิยมมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ อย่างการศึกษาวรรณคดีสุนทรภู่ถึงจะมีข้อวิจารณ์มากมายแต่ก็เป็นค่านิยมจริงที่คนสมัยนั้นคิดกัน

ทำไมเหมือนเคยดูแทบทุกเรื่องทุกตอนเลยครับ ดูในทีวีตอนเด็กๆ 🤔🤔

Mother goose goes to Hollywood มีอีกฉากครับ ที่คนปาพายไปแล้วลอยไปโดนหน้าหญิงเลี้ยงแกะจนเป็นหน้าดำปากแดง

พวกผู้ใหญ่เริ่มไปไกลแล้ว

ผมว่ามันคือการล้อเลียน ที่มาจากค่านิยมสมัยนั้น โอ้วว แล้วตอนนี้เป็นไง

เราคิดว่ามันก็ไม่แฟร์ในการตัดสินโดยใช้เลนส์มุมมองของคนปัจจุบันกับอดีต ค่านิยมเป็นเรื่องของยุคสมัย สิ่งที่ดีสนี้ทำในอดีตคือมุมมองของคนที่ไม่ได้มีความคิดแบบคนในยุคปัจจุบัน

12:40 รู้หรือเปล่าว่าแมวตัวนี้อ่ะมีการเหยียดคนไทยด้วยเพราะว่าหนูไปเห็นในข่าวบันเทิงมาเค้าบอกว่าแมวสองตัวเนี่ยมันมีอีกตัวหนึ่งชื่อว่า สและตัวหนึ่งมีชื่อว่าหยาม เอามารวมกันได้สยามซึ่งมันเหยียดมาก18:38รู้สึกว่าชาตินี้พิการหรือคนอินเดียเพราะว่ารู้หรือไม่ว่าฝรั่งอ่ะคุณชอบดื่มชาปล่อยเขาไม่สามารถทำชาได้ซึ่งเท่าที่สามารถทำช้าแต่คิดจริงแต่เค้าอ่ะไปปลูกในอินเดียซึ่งแต่เค้าไม่ให้ดื่มแต่ถ้าคนอินเดียอยากจะดื่มจริงๆก็ต้องดื่มจากถ้วยรู้สึกว่าฉ ามนี้เหยียดมาก

จะว่าไงดี แยกทีละประเด็นละกันนะ ก่อนอื่นเลย ถามว่าที่ว่ามาส่วนใหญ่เนี่ย ดูเหยียดไหม ยอมรับว่าใช่ เหยียดจริง แต่ในขณะเดียวกันจะไปโทษดิสนีย์อย่างเดียวไม่ได้ เพราะต้องยอมรับอย่างนึงว่า สำหรับสมัยนั้น มันค่อนข้างจะเป็น 'ค่านิยมสามัญ' สำหรับสังคมอเมริกาที่ในตอนนั้นคนขาวเป็นใหญ่กว่าจริง ๆ และสังคมยังกำหนดบทบาทหน้าที่ชายหญิงแยกจากกันค่อนข้างชัดเจนโดยใช้ความปิตานำอยู่เป็นส่วนใหญ่ และทัศนคติมุมมองของคนต่างเชื้อชาติ ไม่ว่าจะคนดำ อินเดียนแดง หรือแม้แต่คนเอเชีย ยังเป็นแบบนั้นอยู่ (ส่วนหนึ่งก็อิทธิพลจากสงครามโลก ที่ต้องสร้างโฆษณาชวนเชื่อแก่ประชาชน) ส่วนบางเรื่องที่มันเป็นเรื่องที่อ้างอิงจากนิทานพื้นบ้าน เช่น สโนว์ไวท์ เจ้าหญิงนิทรา อันที่จริงต้องบอกว่าเรื่องจูบเนี่ย คงจะเป็นการหาทางลงที่ดีที่สุดแล้วสำหรับยุคนั้น เพราะถ้าต้องเอาตามต้นฉบับนิทานกริมม์จริง ๆ ถ้าจะให้เจ้าชายป้อนยาสโนว์ไวท์ปากต่อปากแล้วไปล้างแค้นราชินีทีหลัง (ซึ่งปัจจุบันการป้อนยาปากต่อปากกับคนที่หมดสติก็ใช่จะเวิร์คแถมดีไม่ดีอันตรายด้วย) หรือเจ้าหญิงนิทรา จริง ๆ ไม่ใช่การจูบ แต่เป็นข่มขืนจนท้องแล้วคลอดเด็กออกมาเลียนิ้วจนหนามหลุดถึงฟื้น แบบนั้นรับกันได้มั้ยล่ะ... มันเป็นเรื่องของยุคสมัย มันง่ายมากที่จะเอาตรรกะคนสมัยนี้ไปโวยวายกับคนสมัยก่อนว่าไม่ยุติธรรม ใช่ มันคงทำได้และใคร ๆ ก็ทำได้แม้แต่เด็กอนุบาลสอง แต่ถ้าเป็นเช่นนั้น ดีไม่ดีเด็กในอนาคตหากไม่ชอบใจค่านิยมโว้คของคนสมัยนี้ขึ้นมา พวกเขาก็คงทำแบบเราได้เช่นกัน (ถ้าคิดว่าจะไม่มีทาง? อย่าลืมว่าคนสมัยก่อนเขาก็คิดกับคนรุ่นเราแบบนั้นเหมือนกันนะเออ)

เห็นคลิปนี้แล้วตาสว่างเลย😢

หะ? เหยียด? นี่มันคลิป woke ชัดๆ

ทุกสิ่งด้านดาร์กตนเสมอ แล้วแต่คนในแต่ละสมัยจะมองยังไง

ชาวอาหรับและชาวแอฟริกันในสมัยนั้น: 👁️👁️ (วดฟ)

21:56 ถ้าผิวสีขาวเหมือนกันก็ต้องเรียกว่านะแต่ทำไมต้องเป็นผิวดำรับใช้ผิวขาวด้วยอ่ะถ้าเป็นผิวเขารับใช้ผิวขาวเหมือนกันนะเพราะให้อภัยได้ใช่ไหม

เอาจริงป่ะ พึ่งมารู้จักเจ้าหญิงจริงๆคือตอนอยู่มหาลัยแล้วอะ ตอนเด็กก็เคยดูนะแต่แป๊บเดียวแล้วเลิกเพราะไม่ใช้แนว เจ้าชายไรไร้สาระ ไม่อยากเป็นเจ้าหญิง ไม่ชอบสีชมพู เบียวอยากจะเป็นขบวนการ 5 สีอย่างเดียวเลย อยากเป็นตัวสีแดงไม่ก็สีดำ

เรื่อง beauty and the beast มองว่าไม่ได้อะไรขนาดนั้นนะ 555

ตัวจันไรเลย ดิสนี่ย์ 55555 แต่ก็ดูนะ

แล้วเพลงแมวสีสวาทก็คือเต็มตต.เลย

มันWoke เพราะมันยัดเหยียดแต่มันมากเกินไป จนกลายเป็นความWoke แม่งมันเลยได้ชื่อว่าWoke Disney +

หน้าปกอย่างตึง😂🤣🤣

พอดูจากข่องแก่เกินเกรียนแล้วมาดูช่องนี้ต่อคือแบบ...ช่องนั้นพูดซีเรียสและขยี้เต็มกว่าเยอะ

หารู้ไม่ว่า เจ้าของดิสนีย์เป็นชาวยิว

ค่ายนี้น่าจะล้มศลายไวๆเนอะ😊

ดิสนีย์นี่สมกับเป็นองค์กรแสวงหาผลกำไรจริงๆ ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน อะไรที่กำลังเป็นกระแสในสังคม ไม่รอดพี่แกหมด555

จริงๆแล้ว ชื่อ goofy ในตอนที่เราเป็นเด็กชื่อ goofy แม่งโคตรปกติเลย แบบไม่รู้ความหมายของมัน แต่พอมาตอนโต คำว่า goofy ใช้ด่าในเกม ตอนแรกก็งงนะ คือมึงจะเอาตัวการ์ตูนมาด่าใส่คนอื่นทำ พอลองไปค้นเท่านั้นแหละ ความคิดเปลี่ยนเลย เพราะแม่งไม่ใช่ชื่อที่ตั้งแล้วไม่ความหมายแน่ๆ แสดงว่าคนตั้งแม่งรู้ความหมาย เพราะ goofyแปล ว่า โง่

ดิสนีย์ไม่ต่างจากปลิง ที่คอยดูดเงินจากกระแสต่างๆ

12:44 แอบไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ค่ะ ส่วนตัวไม่เคยดูเรื่องนี้นะคะ รู้เท่าเจ้าของช่องเอามาพูดเลย แมวเป็นแมวเอเชีย ซึ่งเรามองว่ามันเป็นการดึงคาร์แรคเตอร์ของตัวละคร(ส่วนตัวกำลังเรียนและศึกษาเรื่องนี้) มากกว่า แอบไม่เข้าใจว่าจุดนี้เหยียดยังไง ปล. ใครอยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องนี้ลองมาคุยกันได้นะคะ

ปัจจุบันมีแต่คนผิวสีเต็ม disney ก็น่าจะพอใจละนะ

รู้สึกหลายๆ อย่างมันเหมือนการเสียดสีมากกว่า ส่วนคนที่จะตัดสินคือคนดู

18:01 ไม่ได้แค่การ์ตูนหรอกหนังหลายๆเรื่องก็ทำแบบนี้

Disney actually stole animation idea from someone

ชอบหนัง woke มากใช่มั้ย จงบอกชื่อหนังถูกใจ woke ที่ประสบความสำเร็จมาสัก 10 ชื่อซิ

คิดเยอะไปหรือเปล่า

เรามองว่าเป็นเรื่องค่านิยมในสมัยนั้น ของพวกนี้มันเป็นไปตามสมัย แต่เราว่าแตกต่างจากบาร์บี้มากๆ

เสียงเอคเฟคเหยียดรูears มากครับ

ถ้าไม่มีอินเดียแดง คงไม่รูจักใบยาสูบ และไม่มีการต่อยอดเป็นซิการ์ด้วย

บางเรื่องก็สุดโต่งไป

"บ้างที่หนังอาจจะเปลี่ยนเล็กน้อยนะครับ"

ความปลอมก็คือความปลอมดิสนีย์เห็นอะไรเป็นที่นิยมก็ไหลไป ไม่คิดหน้าหลังแต่ผมว่าสมัยนี้มันแย่ยิ่งกว่านะ เพราะบางอย่างมันไม่สนุกเลย หนังไม่สนุกก็จบแล้วไหม ตั้งประเด็นว่าต้องมี LGBTQ+ นะ ต้องมีฉากหญิงแกร่งนะ แล้วแบบนี้ plot มันก็ถูกล็อกไปไหนไม่ได้ปะ สิ่งที่นำเสนอก็แค่แสดงจุดยืน เพราะแบบนี้ MCU มันถึงได้เสื่อมไง อยากแทรกหญิงแกร่งแทรกคนดำ เหอะช้าไป 10 ปีนะดิสนี่ย์ไปดูญี่ปุ่นโน้น เขาทำมานานแล้วพวกแกมันปลอมเปลือก

ไม่เคารพต้นฉบับ นิทานกริม มันต้องดาร์ดกว่านี้

มิกกี้เมาส์ก็เอาเรื่องเหมือนกันนะ