EP. 219 อยากเป็นสัปเหร่อ ?? ต้องทำอย่างไร? เตรียมตัวอย่างไร?เรียนรู้อะไร?? 

่๑. อันดับแรก เข้าไปหาเจ้าอาวาสวัดในหมู่บ้าน ๒. ถ้ามีงานศพ เกิดขึ้น ..ให้อาสา เข้าไปช่วยพิธี ตั้งแต่ตนจนเสร็จพิธีฯ ๓. ศึกษา เรียนรู้ ก่อนว่า ขึ้นตอนของพิธีการ ในวัดเขาทำกันอย่างไร พิธีที่เมรุ เขาทำกันอย่างไร ๔. หมั่นฝึกระสบการณ์ เรียนรู้่ ซักถาม จดจำ ขึ้นตอน ต่าง ๆ ให้ขึ้นใจ ครับ

ข❤ขอขอบคุณ มากครับ สำหรับการแนะนำให้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ในพิธีการ เมื่อมีศพเข้ามาวัด จำนำมาใช้บริการ ให้เจ้าภาพ พอใจการ จัดให้ขอขอบคุณมากครับ อาจารย์ มีความสุขครับผม

อนุโมทนาร่วมกันครับผม

ครับผม

ขอบคุณครับ

085 625 3949 ผู้กองอ๊อฟ

ru-vid.com/video/%D0%B2%D0%B8%D0%B4%D0%B5%D0%BE-lMVOV1kM3uw.html

พรุ่งนี้จะดูให้นะครับ ที่ทำงาน ดูที่บ้านแล้วไม่มีครับผม

@@user-fv3qo1fe9e ครับ.

เชิญชวนทำบุญกฐิน-ผ้าป่า --------------- สุโข ปุญญัสสะ อุจจะโย การสั่งสมบุญ นำสุขมาให้ พี่น้อง พุทธศาสนิกชน คนใจบุญทั้งหลาย วันนี้เป็นวันที่เรา จะได้บำเพ็ญทานบารมี ด้วยการบริจาคปัจจัยตามกำลังศรัทธาของท่าน เป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี ณ วัดแห่งนี้ร่วมกัน ซึ่งพิธีการสำคัญดังกล่าวนั้น จะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ โอกาสไม่มีแขนไม่มีขา จะได้ก้าวมาหาผู้หลับใหล แต่โอกาสมีให้กับคนทั่วไป เหตุไฉนท่านมัวรอขอโอกาส โอกาสในการเป็นเจ้าภาพกฐินสามัคคีร่วมกันนั้น ใน 1 ปี มีเพียงครั้งเดียว วัดเดียว เดือนเดียว ครั้งเดียว เท่านั้น เวลาและวารี มิได้มี ไว้คอยใคร รถเมล์ และเรือไฟ จำต้องไป ตามเวลา โอ้เอ้ อืดอาด มักจะพลาด ปรารถนา พลาดแล้ว จะโศกา อนิจจา เราตัดสินใจช้าไป ขอเรียนเชิญพุทธศาสนิกชนทุกท่าน เป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี ร่วมกัน แจ้งความจำนงค์ได้ที่คณะกรรมการของวัด หรือท่านสะดวก ก็นำไปติดยอดปัจจัยที่ตนเงินได้เลยครับ เชิญทำบุญกันได้ไม่จำกัด สักกี่บาททำได้ดังใจหวัง อย่ามัวทำบุญกันเพลินเกินกำลัง การแบ่งบ่ายทำบุญเป็นคุณดี เพราะบุญนี้จะชูชุบอุปถัมภ์ เชิญท่านสาธุคนงาม เชิญท่านทำบุญเถิดประเสริฐดี บุญกฐินนั้น เป็นบุญที่ยิ่งใหญ่ และสำคัญ ก็เพราะว่า บุญกฐิน เป็นบุญที่ประกอบด้วย 1. บุญเสียสละ ทุกคนเสียสละปัจจัย เสียสละเวลา เสียทุกอย่าง เพื่อทำบุญครั้งนี้ จงรีบสะสม อบรมบุญทาน ในเมื่อชีวัน เรายังไม่ตาย อย่ามัวกอดรัด สมบัติอยู่เลย โอ้ญาติโยมเอ๋ย อย่ามัวคิดอาลัย กับสมบัตินอกกาย มันไม่จีรังกาล 2. บุญสามัคคี บุญนี้ ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องอาศัยคนจำนวนมากร่วมมือกัน ดังคำโบราณที่ว่า พี่รู้สอง น้องรู้หนึ่ง พึ่งพาอาศัยกันและกัน สุขาสังฆัสสะ สามัคคี ความสามัคคี นำสุขมาให้ ไม้กระดานประสาน สามัคคี ตะปูทำหน้าที่ดีหรือไม่ มนุษย์เราเอาอย่างบ้างเป็นไร คงจะได้คฤหาสน์ ชาติมั่นคง 3. บุญน้ำใจ ต่างคนต่างช่วยเหลือกัน คนละไม้คนละมือ แบ่งปันกัน ช่วยกันหยิบ ช่วยกันจับ ช่วยกันแบก ช่วยกันหาม น้ำเอ๋ยน้ำใจ จะมากน้อยเพียงไหนใครเขาว่า แม้น้อยนิดก็ซาบซึ้งติดตรึงตรา ขอเพียงอย่าแห้งหายสิ้นไมตรี ผูกน้ำใดไหนเล่าเท่าน้ำจิต เพียงน้อยนิดปรอยไปคล้ายสายฝน ใครได้รับก็ยิ้มชื่นรื่นกมล ความทุกข์ทนแทบมลายหายสิ้นไป 4. บุญกตัญญู เป็นคุณธรรมพื้นฐานที่ของการทำความดี ทั้งปวง โดยเฉพาะชาวพุทธเราเกิดมาใต้ร่มใบบุญพระพุทธศาสนา เป็นเนื้อนาบุญอันเลิศ ดังนั้น เราจึงไม่เสียชาติเกิด ที่ได้พบกับพระพุทธศาสนา หน้าที่หลักของชาวพุทธเราก็คือ ตอบแทนคุณพระศาสนา ใน ๒ ประการที่สำคัญคือ ๑. นำธรรมไปประพฤติปฏิบัติ ๒. ถวายการอุปถัมภ์บำรุงพระพุทธศาสนา ดังคำพูดที่ว่า เกิดมาในดินแทน ต้องทนแทนคุณแผ่นดิน แทนคุณศาสนา แทนคุณกษัตรา แทนคุณค่าน้ำนม กตัญญูญกตเวทีนี้ดีเลิศ เป็นเครื่องเชิดชูสง่า ชูราศี เป็นเครื่องหมายบอกให้รู้ว่าผู้ดี ถ้าใครมีแล้วดีเลิศประเสริฐเอย 5. บุญศักดิ์สิทธิ์ เพราะบุญจะรักษาผู้ทำบุญ ให้มีความสุขกันถ้วนหน้า ไม่ว่าจะบริจาคมากหรือบริจาคนน้อย ได้รับบุญเท่ากัน ..สุขใจ อิ่มเอมใจ ปลื้มใจ เหมือนกัน ทุกประการ บุญเป็นเครื่องถึงซึ่งชาติหน้า บุญนำพาพบสุขทุกสถาน บุญเป็นเครื่องถึงซึ่งนิพพาน บุญบันดาลสารพัดสวัสดี เมื่อทำบุญกฐิน มีอานิสงส์มากมายอย่างนี้ จึงขอเชิญชวน ศรัทธาสาธุชน คนใจบุญทั้งหลาย ร่วมบริจาคกันตามศรัทธานะครับ เก็บเงินทีละน้อย เก็บบ่อยๆ ก็เป็นพัน เก็บบุญก็เช่นกัน เก็บทุกวันก็หลายบุญ เก็บเงินทีละพัน เก็บทุกวันก็เป็นหมื่น เก็บบุญทุกวันคืน ก็เป็นหมื่นบารมี สวัสดีครับ............

ขอขอบคุณอาจารย์ครับ

ขออนุโมทนาด้วยครับการตั้งใจที่ดีเป็นสิ่งที่ถูกต้องคงมีสักวันครับ

@@user-fv3qo1fe9e ขอขอบคุณมากนะคับ

ผมพยายามถามเหมือนกันครับ แต่ละท่านใช้บทไหน ปรากฏว่า หลากหลายมากครับ สำหรับผม แนะให้ใช้บท คาถายมทูต หรือหัวใจพระอภิธรรม ก็พอครับ สัง วิ ธา ปุ กะ ยะ ปะ ครับ

ขออนุโมทนาร่วมกันครับ..

ทำแล้ว ลองหาดูนะครับผม

studio.ru-vid.comFx_TDp8ACjY/commentsstudio.ru-vid.comFx_TDp8ACjY/comments

เจ้าหน้าที่ประจำเมรุ ก็พอได้ครับ

ข้าพเจ้า ขอบูชาคุณ เจ้าที่ เจ้าทาง เทพาอารักษ์ เครื่องบูชานี้... และขออนุญาตนำไปประกอบพิธีฌาปนกิจ โปรดเมตตาอนุญาตด้วยเทอญ ก็พอได้ครับ

เป็นการที่สามารถหัวเราะได้ครั้งแรกเลย หลังพ่อเสีย

ไม่ใช่หลวงพี่ท่านแบกขึ้นหรอก หลวงพี่อีกองค์มาช่วยยก บอก เอ้า ไอ้นี่ก็จะแบกเอง มันยกไหวที่ไหนล่ะ XD (เข้าตัวผมเต็ม ว่านี่ ขนาดโลงเปล่า)

ขออนุโมทนา สาธุ ครับ

ถูกต้องครับ

ใช้ครับ สมัยนี้ หาคนสืบทอดยาก โดยมาก ไม่ทำครับ

ขอบคุณมากครับผมถ้าอนุรักษ์ษาไว้คงดีครับ

ที่มา/ความหมาย ของ สัปเหร่อ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 ได้ให้ความหมายสำหรับคำว่า สัปเหร่อ (อ่านว่า สับ-ปะ-เหร่อ) แปลว่า น. ผู้ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการศพตั้งแต่ทำพิธีมัดตราสัง จนกระทั่งนำศพไปฝังหรือเผา อ. ทวีศักดิ์ วรฤทธิ์เรืองอุไร เรื่อง ‘สัปเหร่อกับการจัดการศพของชุมชน’ ได้กล่าวไว้ว่า สัปเหร่อ หมายถึง ผู้ที่ทำหน้าที่แปรสภาพสังขารร่างกายของคนที่ตายไปแล้วให้สูญสลายไปจากโลกอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะด้วยการฝังซากศพไปในดิน หรือเผาให้มอดไหม้ด้วยไฟ โดยอาจมีวิธีเฉพาะ หนังสือประเพณีเนื่องในการตาย ของ พระยาอนุมานราชธน สันนิษฐานว่า คำว่า ‘สัปเหร่อ’ มาจากคำว่า สัปบุรุษ แปลว่าคนดี ซึ่งในภาษาเขมรจะออกเสียงว่า สัปเหร่อ อ้างอิง พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) ป.ธ. 9 ราชบัณฑิต พจนานุกรมเพื่อการศึกษา ภาษาบาลี สัตบุรุษ หรือสัตตบุรุษ (อ่านว่า สัดบุหรุด) แปลว่า คนดี คนสงบ คนที่พร้อมมูลด้วยธรรม สัตบุรุษ หมายถึงคนที่มีคุณธรรม คนที่เป็นสัมมาทิฐิ คนที่ประพฤติธรรมเป็นปกติ

สัตบุรุษ หมายถึงคนที่มีคุณธรรม คนที่เป็นสัมมาทิฐิ คนที่ประพฤติธรรมเป็นปกติ และคนที่จะเป็นสัปบุรุษ หรือสัตบุรุษ ต้องมีคุณธรรม 7 ประการ 1 ธัมมัญญุตา เป็นผู้รู้จักเหตุ 2 อัตถัญญุตา เป็นผู้รู้จักผล 3 อัตตัญญุตา เป็นผู้รู้จักตน 4 มัตตัญญุตา เป็นผู้รู้จักประมาณ 5 กาลัญญุตา เป็นผู้รู้จักกาล 6 ปริสัญญุตา เป็นผู้รู้จักหมู่คน 7 ปุคคลัญญุตา เป็นผู้รู้จักบุคคล พุทธศาสน์ ชุด คำวัด, วัดราชโอรสาราม กรุงเทพฯ พ.ศ. 2548 ว่ากันว่าอาชีพสัปเหร่อมีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้ว มีหลักฐานปรากฏในพระวินัย ที่พระพุทธเจ้าทรงห้ามพระภิกษุที่ไม่มีที่จำพรรษา ไปจำพรรษาในกระท่อมผี สาเหตุเนื่องจากมีชาวบ้านไปพบ และนำไปติเตียนต่าง ๆ นานา ด้วยเป็นภาพที่ไม่เหมาะสม มองดูคล้ายสัปเหร่อ หากตีความตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในพระวินัย จะเห็นว่า สัปเหร่อในสมัยพุทธกาล คงเป็นคนที่ดูแล้วไม่สำรวม ไม่สะอาดเรียบร้อย อาชีพ สัปเหร่อ มีการสืบทอดตำแหน่ง หรือเรียนวิชาความรู้จากสัปเหร่อรุ่นก่อน ๆ เรียกว่า พิธีประสิทธิเม ซึ่งต้องเรียนรู้วิธีการเบิกโลง และมัดตราสังให้ศพ

ปรากฏข่าวว่า มีเด็กผู้ชายบ้าง ผู้หญิงบ้าง ทำหน้าที่เป็นสัปเหร่อ แทนบิดา มารดา บ้าง เมื่อบิดามารดาถึงแก่กรรม หรือมีสาเหตุอื่น ก็ทำหน้าที่แทนกัน จนเป็นที่ฮือฮา ก็หลายคน หน้าที่ของสัปเหร่อ ในสมัยก่อนที่ยังมีการเผาศพแบบเชิงตะกอน ในการเผาแต่ละครั้งจะมีคนช่วยกันประมาณ 10 คน แต่เมื่อมีการเปลี่ยนเตาเผาจากเชิงตะกอนมาเป็นเตาเผาแบบปิด คือ เมรุ การจำกัดตัวบุคคลผู้รับหน้าที่เผาศพก็เกิดขึ้น เนื่องจากเมรุเป็นสมบัติที่มีราคาแพงของวัด คนที่จะมาดูแลเมรุจึงไม่ใช่ใครก็ได้ แต่ต้องเป็นคนที่เจ้าอาวาสและชาวบ้านยอมรับ การมีเมรุจึงนับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้สถานะของสัปเหร่อชัดเจนขึ้น หน้าที่ของสัปเหร่อในปัจจุบัน มีดังนี้ 1. เตรียมเมรุเผาศพ ทำความสะอาด,บริเวณ 2. ขอซื้อที่จากเทวดาเจ้าที่ชื่อ ‘ตากะลี ยายกะลา’ ก่อนการเผา,ควักเครื่องเซ่น 3. เปิดโลงและตัดด้ายที่มัดมือมัดเท้าของศพ 4. ล้างหน้าศพ ด้วยน้ำมะพร้าว 5. ดำเนินการเผา 6. ประสานญาติ การเก็บกระดูก 7. ให้คำแนะนำแก่ญาติ การเตรียมเครื่องพิธีเก็บกระดูก 8. ประสานวัด, การนิมนต์พระสงฆ์ทำพิธีฯ 9. อำนวยความสะดวก แก่เจ้าภาพเมื่อได้รับการประสาน

จรรยาบรรณ หรือความประพฤติที่สำคัญ ของผู้ปฏิบัติหน้าที่ ของงสัปเหร่อ 1. การไม่เลือกปฏิบัติ คนจน คนรวย มีฐานะ ไม่มีฐานะ 2. ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง คนนี้ชอบ คนนี้ไม่ชอบ 3. ทำด้วยความรับผิดชอบ ทำเต็มที่ ทำดีที่สุด 4. ตรวจตรา ความพร้อมของเตา,เมรุ ใส่ใจในรายละเอียด 5. ไม่เห็นแก่ประโยชน์, เรียกร้องผลประโยชน์อื่นใดจากเจ้าภาพ 6. เสียสละ เมื่อสมัครมาทำหน้าที่สัปเหร่อ 6. ควรหลีกเลี่ยงของมึนเมา เพื่อสร้างความมั่นใจแก่เจ้าภาพ เคยได้ยินมาว่า บางท่านดื่มเหล้าขณะปฏิบัติหน้าที่ ...สิ่งนี้เป็นอันตรายแก่อาชีพอย่างมาก