Hidden Ayutthaya [EP 41] : สำรวจบ้านพลูหลวง แขวงเมืองสุพรรณฯ เกี่ยวข้องอย่างไรกับ "สมเด็จพระเพทราชา" 

ผมเห็นด้วยครับ :)

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ การที่มารดาท่านเป็นแม่นมของโอรสกษัตริย์เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่าท่านก็เป็นพระราชวงศ์พระองค์หนึ่งเหมือนกัน ใครจะไปเอาคนนอกมาเป็นแม่นมให้โอรสกษัตริย์ ส่วนการเชื่อมโยงกับเมืองสุพรรณอาจเป็นอาจการดิสเครดิตโดยนัยว่าท่านอาจสืบเชื้อสายจากพวกคนเลี้ยงช้าง

เหนด้วยอย่างยิ่งคับ

คิดเหมือนกันครับ ถ้าเป็นชาวบ้านธรรมดาคงจะไต่เต้าขึ้นไปเป็นขุนนางกินตำแหน่งใหญ่โตและเป็นพระสหายสนิมพระเจ้าแผ่นดินได้ยาก ขนาดว่าลูกหลานของขุนนางเองยังไต่เต้าไปสู่ตำแหน่งสูงไม่ได้ง่าย และมีหรือที่หญิงชาวบ้านธรรมดาจะได้เป็นถึงแม่นมพระมหากษัตริย์

เหมือนเป็นการด้อยค่า กษัตริย์ราชวงส์เก่าเนาะ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ :)

เรื่องนี้มีผู้เชี่ยวชาญหลายท่านทำไว้ค่อนข้างเยอะเลยครับ อนาคตผมอาจนำเรื่องนี้มาเชื่อมโยงกับการสำรวจสถานที่ๆ เกี่ยวข้องได้ ขอบคุณครับ^^

ขอบคุณครับ^^

ขอบคุณครับผม^^

ขอบคุณครับ 🙂

ขอบคุณมากครับ🙂

ขอบคุณครับ :)

ขอบคุณครับ จะค่อยๆ ทยอยทำไปในแต่ละสถานที่ที่น่าสนใจครับผม 😅

ขอบคุณครับผม🙂

ขอบคุณครับ จะรีบปั่นละคร้าบบบ ^^

เป็นไปได้ครับ แต่ปริศนาคือทำไมต้องบ้านพลูหลวง เมืองสุพรรณฯ

ส่วนตัวผมว่า ชื่อนี้ลอยดื้อๆมาครับ เพื่อเสริมว่า พระเพทฯพื้นเพมาจากบ้านนอก ไม่ได้ มีเชื่อสายขุนนางเจ้าเมืองสุพรรณฯ กับ เจ้านายอยุธยาฯ

@@HiddenAyutthaya สุพรรณคือถิ่นเชื้อสายราชวงศ์อู่ทอง

@@patpat846 ราชวงศ์อู่ทอง อยู่ทางละโว้ ลพบุรี ครับ ถ้าสายสุพรรณ เป็นราชวงศ์สุพรรณภูมิ

@@jamesmusicful พระเจ้าอู่ทองที่สร้างกรุงศรีอยุธยาก็อพยพโยกย้ายมาจากทางสุพรรณมิใช่หรือคะ (ไม่ได้ปฏิเสธว่าลพบุรีไม่ใช่กลุ่มของละโว้อู่ทองนะคะ ...ก็มีญาติอยู่หลายเมืองไง )

ขอบคุณครับ :)

ใช่ครับ ในบันทึกของแกมป์เฟอร์ระบุว่าลูกสาวของพระเพทราชาก็เป็นบาทบริจาริกาเช่นเดียวกันด้วยครับ

ขอบคุณครับผม😊

ขอบคุณครับ :)

จริงๆ ชื่อราชวงศ์ต่างๆ ถูกนิยามโดยนักประวัติศาสตร์สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เพื่อการทำความเข้าใจในเชื้อสายของพระมหากษัตริย์แต่ละพระองค์ แต่ถ้าย้อนไปวมัยอยุธยา ผู้คนในสมัยนั้นไม่มีมุมมองการแบ่งราชวงศ์ของพระมหากษัตริย์แต่อย่างใดครับ

@@HiddenAyutthaya เหมือนว่าในสมัยรัตนโกสินทร์นักประวัติศาสตร์จะพยายามทำการชำระประวัติศาสตร์ของไทยแต่ละสมัยนะครับ แอดเคยได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับศิลาจารึกในสมัยสุโขทัยไหมครับว่าจริงๆแล้วอาจจะเป็นการจำลองมาก็ได้ซึ่งถูกสร้างขึ้นในยุคร.3-ร.4นี่เป็นประเด็นที่ผมรู้สึกคาใจมาถึงทุกวันนี้ครับ

@@user-ww3kh2wb9p เขาพิสูจน์อายุแล้วครับศิลาจารึก ระบุตามสมัยนั่นแหละ แต่วรมัน กับราม มีความหมายเดียวกันครับ เป็นคนละภาษา รามาธิบดี เป็นลูกพี่ลูกน้องกับ อินทรชัยวรมันหรืออินทรวรมันที่ 4 (ศรินราชหรืออินทรวรมันที่ 3 เป็นพี่ของพ่อในรามาธิบดีที่ 1 *ลุง* ซึ่งทั้งคู่เป็นลูกของคำแหงพระรามแห่งสลวงสองแคว มีน้องเล็กสุดมีชื่อในจารึกหลักที่ 2 คือมหาเถระศรีศรัทธา ก่อนบวชท่านครองสองแควหลังคำแหงพระรามสิ้น ส่วนคำแหงพระราม เป็นบุตรชายคนเดียวของ พ่อขุนผาเมืองและนางสิงขรเทวี คนนี้จึงได้ครองอาณาจักรสลวงสองแควของพ่อขุนผาเมือง รามาธิบดีที่ 1 จึงมีศักดิ์เป็น อา ของชัยวรมมันที่ 9 แต่อายุไม่น่าจะมากกว่า เมื่อแตงหวานฆ่าชัย 9 เคลมเมืองพระนครแล้วปราบขอมขาวที่ต่อต้านเอาพวกจามปามาเป็นขุนนางแทนทำลายพุทธศาสนา อยุธยาจึงเป็นใจกลางของอารยธรรมใหม่ ขอม+สยาม โดยสมบูรณ์ โดยลูกหลานสายคำแหงพระราม คุม 4 เมืองสำคัญนี้ขณะ ตั้งอยุธยา คืออยุธยา พิษณุโลกสองแคว สุพรรณบุรี และนครศรีธรรมราช จนกลายเป็น 4 ราชวงศ์หลัก) วรมัน มาจาก วรมันเทวะ เป็นชื่อของกษัตริย์ ในราชวงศ์โมริยะ ในลำดับที่ 7 ผู้ที่น่าจะเป็นต้นวงศ์ ตระกูลวรมันนี้ ถือพุทธศาสนามหายาน ตั้งแต่ลำดับที่ 3 -9 จนถูกพวกฮินดูไศวะ ยึดอำนาจ หลานเหลน วรมันเทวะจึงเริ่มขนพระธาตุ หนีสงครามศาสนามาอาเซียน สร้างอาณาจักรพนมฟูนัน พนมฟูนันจึงเป็นอินเดียอพยพ ที่เอาพุทธมหายานเข้ามา เมื่อพนมฟูนัน/วรมันล่ม แตกเป็น ศรีวิชัย เจนละ ทวารวดี จามปา และพยูหรือศรีเกษตร(พม่า) ด้วยลูกหลานขึ้นเป็นเอกราชาใครมัน ชาวเสียนสยามจึงเริ่มมีอำนาจชิงพื้นที่สลับกันไปมา จนผสมกลมกลืนที่อยุธยา ราม คือ พระโพธิสัตว์ ครับ รามอวตารพิทักษ์พุทธศาสนา คือใจความสำคัญ ของ ทวารวดี(กำแพงล้อมรอบ+ประตูเข้าออก) อันเป็นเขต เทวาลัยจำลอง ของสยาม มีพระสยามเทวาธิราชปกป้องเมือง คือรากเหง้าของคติเมืองหลวงของประเทศไทย พุทธมหายาน ส่วนพุทธเถระวาท มาทีหลัง ไปสืบมาจากหลังกาวงศ์ หนุมานชาญฤทธิ์ ช่วยพระรามรบ จึงนิยมในใจกลางของพุทธศาสนา กลายเป็นโขนไทย ที่ดังไกลระดับโลก พระเพทราชา น่าจะสายสุพรรณ แต่เดิมสายสุพรรณเป็นสายเขยร่วมเมืองอู่ทองกับรามาธิบดีที่ 1 เท่านั้น แต่สายนี้รบเก่ง และรามาธิบดีสิ้นก่อน จึงถูกกินเรียบผ่านการผูกสาย มาถูกวงศ์อู่ทองชิงเอาก่อนสมัยแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ จนวุ่นวายชิงคืน ตามมาด้วยวงศ์สุโขทัยมาเป็นใหญ่หลังเสียกรุง แต่สายนี้ก็ยังเป็นแม่นม และพระเจ้าเสือก็ยังมีเชื้อ พระนารายณ์อยู่ การแบ่งราชวงศ์เป็นการกำหนดลำดับให้เข้าใจง่ายๆ ตามหลักฐานร่วมสมัย มีการใช้ชื่อแบบนี้จริงๆ ครับ ไม่ใช่เขียนขึ้นเองภายหลัง การสถาปนากษัตริย์ จะต้องระบุตระกูลตัวเอง ในพิธี ว่าเป็นใครมาจากไหน เขาก็เอามาลำดับ เป็นวงศ์ไป ตามแบบวิชาการร่วมสมัย ปวศ. ในยุคหลัง ล่าข้อมูลกันละเอียดขึ้นจึงเห็นความสัมพัน

@@user-sd9mn5im7f ข้อมูลคุณแน่นมากนะครับ แสดงว่าชอบศึกษาค้นคว้าปวส. เยี่ยมครับให้ข้อมูลได้ดี ว่างๆก็มาเม้นท์ในห้องนี้บ้างนะครับ ถือว่าเป็นการแชร์ความรู้ให้เพื่อนๆที่ชอบปวส.นะครับ

@@user-ww3kh2wb9p ส่วนหนึ่งที่จะใช้ชื่อราชวงศ์ใหม่ มีใจความสำคัญ 2 ส่วนครับ 1. มาจากทายาทสายฝ่าย ญ. เลยเอาชื่อราชวงศ์มาใช้ไม่ได้ ตรงๆ ระบบโบราณไม่ยอมรับ การสืบสายผ่านฝ่าย ญ. นับตระกูลตาม ฝ่ายพ่อเป็นหลัก บางคนสืบผ่านฝ่ายแม่ มักจะตั้งวงศ์ใหม่ เมื่อชิงอำนาจได้ 2.ไม่ได้รับความยอมรับ ในตระกูล (ราชวงศ์) แม้มีพ่อสืบวงศ์มาถูกต้องแต่ก็ไม่ได้รับการยอมรับ เช่น ลูกเมียน้อย เมียเก็บ เมียซุก .... กลัวไม่สมบารมี... โดยฝ่ายหญิงเป็นบุคคลที่ไม่เป็นที่ยอมรับหรือต่างเชื้อชาติ เป็นต้น ก็เลยตั้งวงศ์ใหม่สะเลย

ขอบคุณครับอาจารย์ คนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องบ้านพลูหลวง น่าจะเป็นบิดาของพระเพทราชาครับ

ขอภัยครับ เสียงเบาเกินไปหรือครับ

เสียงมันเบาๆ ดังๆ ครับผม ปรับปรุงเรื่องเสียงนี่ แจ่มเลยครับ

@@chatchai9111 ขอบคุณมากๆ ครับ ผมจะหาวิธีแก้ไขให้ระบบเสียงดีขึ้นครับ :)

ขอบคุณครับผม^^

โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นเชื้อสายอู่ทอง

@@patpat846 ขอบคุณครับ น่าสนใจมาก เพราะเหตุใดจึงมีเชื้อสายอู่ทองครับ

@@HiddenAyutthaya เพราะพระเจ้าอู่ทองผู้สร้างกรุงศรีอยุธยาย้ายเมืองมาจากสุพรรณบุรี...ก็น่าจะมีวงศ์ญาติเครือญาติฐานใหญ่ยังคงอยู่สุพรรณบุรีอีกกลุ่มหนึ่งน่ะค่ะ คงไม่ได้ย้ายไปหมดซะทีเดียว เพราะสุพรรณบุรีก็อุดมสมบูรณ์

โดยส่วนคิดว่ามีเชื้อสายราชวงศ์อู่ทองค่ะ (เพราะสุพรรณบุรีคือถิ่นเก่าของพระเจ้าอู่ทองก่อนย้ายไปสร้างเมืองใหม่ที่หนองโสน ... สุพรรณบุรีก็อู่ข้าวอู่น้ำอุดมสมบูรณ์ จะทิ้งไปอยุธยาหมดเสียก็น่าเสียอยู่นะคะ )

ก็ถูกครับผม ฮ่าๆๆ

ขอบคุณครับ^^

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ🙂

ขอบพระคุณขอรับ

ก็จากช่วงสงครามเจ้าอนุวงศ์นี่ล่ะครับ ที่กวาดประชากรมากันอย่างมากมาย เพื่อทดแทนประชากรที่ล้มตายจากโรคระบาดใหญ่ช่วง ร.2 ครับ

ก่อนหน้าจะเกิดศึกเจ้าอนุวงศ์ เกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ตอน ร.2 ทำคนตายไปเป็นหมื่นเลยครับ พอมามีสงครามตอน ร.3 ก็เป็นโอกาสดีท่จะกวาดต้อนผู้คนจากสงครามมาเติมจำนวนพลเมืองเพิ่มให้แก่สยามได้ด้วยครับ

ใช่เลยครับ🙂

อันนี้ไม่ถนัดเลยครับ ผมชอบการสำรวจภูมิสถานเทียบกับประวัติศาสตร์มากกว่า เรื่องเครื่องแต่งกายนี่ดูในภาพจิตรกรรมวัดยมที่เป็นกระบวนแห่สมัยสมเด็จพระนารายณ์ อันนั้นพอจะใกล้เคียงที่สุดละครับ ^^