LGBTQ+ อยากได้อะไรอีก? ในเมื่อประเทศไทยเปิดกว้างขนาดนี้แล้ว 

ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย 0731208522 บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด นะครับ ขอบพระคุณมากครับ

เราระวังการพูดคำที่ทำลายความรู้สึกเพื่อนสาวมากนะ แต่สิ่งหนึ่งที่เหล่า เกย์กะเทย เพื่อนต่างเพศ กลับเรียกเหมารวม นิยามพวกเราว่า" ชะนี "อันนี้ก็ขอร้องแทน พวกผู้หญิงทุกคนด้วยนะคะว่า ให้หยุดเรียกเถอะคะ คุณเห็นเราตลกหัวเราะ เชื่อเถอะเราไม่ได้ยินดี อยากให้เขาให้เกียรติคุณ คุณต้องให้เกียรติผู้อื่น เพศอื่นก่อนคะ เพศไหนๆก็ไม่ควรถูกเรียกด้วยคำสรรพนามเหยียดๆแบบนี้นะคะ ไม่ใช่เฉพาะ บุคคลหลากหลายทางเพศเท่านั้น

สวัสดีแฟน ๆ รายการทุกคนนะคะ ตอนนี้เป็นอีกตอนที่ท้าทายมากสำหรับลูกกอล์ฟและทีมงาน ยังไงดูแล้วหากมีอะไรแนะนำติชม หรืออยากร่วมถกถาม พิมพ์กันมาได้นะคะ แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้านะคะ 🙏

biological sex = เพศโดยชีววิทยา = เพศกำเนิด (เพศชาย เพศหญิง intersex) gender identity = อัตลักษณ์ทางเพศ = เรารับรู้ตัวเองเป็นเพศอะไร gender expression = การแสดงออกทางเพศ = ท่าที/การพูด/การแต่งตัว sexual orientation = รสนิยมทางเพศ = รู้สึกถูกดึงดูดโดยใคร ทั้ง4 อย่างอาจจะไม่สัมพันธ์กันเลยก็ได้ค่ะ เช่น เราเกิดมาเป็นเพศหญิง แต่เรารับรู้ว่าตัวเองไม่ได้รู้สึกอยากนิยามตัวเองเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงเลยซักทาง เลยเรียกตัวเองว่าเป็น non-binary แต่ก็ยังเอ็นจอยกับการแต่งชุดแสดงออกตามนิยามผู้หญิงของสังคม แล้วก็ถูกดึงดูดได้จากทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และอัตลักษณ์อื่นๆเรียกว่าเควียร์ก็ได้ ก็จะสรุปของเราได้ว่า biological sex = female gender identity = non-binary gender expression = feminine sexual orientation = queer ประมาณนี้ค่ะ ที่มา FB : De Unknown

ถ้ายกเลิอกเครื่องแบบนักเรียน มันอาจจะทำให้ สังคนคนรุ่นใหม่ ก้าวข้ามกรอบของ LGBTQ+ ไปได้ง่ายขึ้นนะ ให้เด็ก ได้เป็น ได้ใส่ สิ่งที่เขาต้องการ ตั้งแต่ต้น และขจัดกรอบเรื่องเพศออกไป

สังคมไทยดูเปิดกว้างมากๆในเรื่องเพศค่ะ แต่ต้องไม่ใช่ลูกหลานตัวเอง คือมันกว้างแค่เปลือกอะค่ะ ใครจะเป็นอะไรก็ก็เป็น ฉันไม่สนหรอก เพราะไม่ใช่เรื่องของฉัน แต่ถ้าเป็นคนในครอบครัวกลับไม่โอเค อย่างญาติเราเอง เขาไม่เคยแสดงออกว่ารังเกียจเพื่อนของลูกที่เป็นเกย์เลย แต่พอลูกพี่ลูกน้องเราcome outเขากลับรับไม่ได้มากๆ

Queer เป็น umbrella term หนึ่งของการให้นิยาม sexual orientation หรือรสนิยมทางเพศของตัวเองค่ะ ถ้าให้แปลจากหนังสือเรื่องนี้โดยเฉพาะ queer คือ นิยามกลุ่มบุคคลที่อยู่นอกเหนือบรรทัดฐานรสนิยมทางเพศแบบ heterosexuality(ชอบต่างเพศ)ของสังคม โดยรู้สึกดึงดูดได้จากหลายอัตลักษณ์ทางเพศ ถ้ายังงงๆถามมาหลังไมค์ได้เลยนะคะ เราresearchเรื่องนี้แล้วก็เขียน blog อยู่ (ชื่อว่า de unknown ในFB) ไม่ใช่แค่ queer แต่อธิบายถึงหลายๆidentityที่คนยังสับสนกันอยู่ด้วยค่ะะ

Queer ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ไม่สามารถระบุหรือนิยาม Catagory ตาม LGBT+ ครับ อย่างที่พี่ลูกกอล์ฟบอกคือ I am what I am ส่วน Pansexual ถึงจะดึงดูดทางเพศกับทุกคนได้โดยไม่สนเพศ

ซีรีส์วายไทยของค่ายนึงเอาเเต่ให้ดูฉากเอากันหรือจีบในเชิง18+เรารู้สึกว่ามันส่งผลต่อมุมมองคนอื่น ใช่มันอาจจะเห้ยฟินเขาจูบกันนู่นนั่นนี่ เเต่เราแอบรู้สึกว่ามันไม่ได้ทำให้คนมองเพศนี้ดีขึ้นเลย เเล้วบางคนอาจจะมองเพศนี้ผิดไปเลย ถ้าเค้าไม่ได้ดูเพราะฟินอะไรอย่างนั้น คหสตนะ ถ้าเราคิดผิดยังไงมาให้ความรู้เราได้นะ พร้อมรับฟัง🥺🙏

เป็นTopicที่คิดว่าต้องมีแน่ๆ และรอดูอยู่ แต่ไม่คิดว่าจะมาเร็วขนาดนี้ 555

อยากให้จัดถกถามเรื่องเฟมินิสต์ด้วยค่ะ อยากให้เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเมนสตรีมในสังคม

เพื่อนร่วมงานเราเป็นผู้หญิงที่รักผู้หญิง​ เมื่อเขาแต่งงาน​ คอรบครัวเขาอยากมีลูก​ ปทสวีเดนที่เราอยู่หากคนมีบุตรยากปันหาการตั้งครรถ์ถ้าเป็นบุตรคนแรกจะมีสวัสดิการช่วยเหลือทางการแพทย์ฟรีให้ครอบครัวทุกคนมีบุตรได้​ เขาเองก้อได้สิทธิรับสวัสดิการนั้น เมื่อคลอดลูก​สามีมีสิทธิลาคลอดออกไปช่วยผู้หญิงเลี้ยงดู​ เพื่อนร่วมงานเราผู้หญิงก้อใช้สิทธิลางานไปช่วยภรรยาไปดูแลลูก​ ในสังคมที่ทำงานของเราไม่เคยมีใครตั้งคำถามว่าทำไมเขาได้รับสิทธินั้นหล่ะ?? เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นเพศไหนคุณได้รับสิทธิเท่าเทียมกัน การปลูกฝังความคิดไม่แบ่งแยกเพศ​เขาเริ่มกันตั้งแต่ปฐมวัยนะคะโรงเรียน​ห้องน้ำเด็กจะไม่ถูกระบุว่าหญิ-ชาย​ ของเล่นก้อจะไม่ระบุแบ่งแยกบอกเด็กว่า​สีฟ้าผู้ชาย​ สีชมพูผู้หญิง​ เคารพในความต่างของผู้อื่น​ และไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น เด็กที่นี้อายุแค่8ขวบ​เขารณรงค์​ต่อสู้ให้สังคมตระหนักเห็นความต่างของผู้อื่นโดยการหยิบคู่ถุงเท้าที่ข้างแตกต่างกันมาใส่​ด้วยกัน​ คนในสังคมเริ่มตระหนักคิด​ ผู้ใหญ่อย่างเรายังใส่ถุงเท้าคนหล่ะข้างสีไปทำงานเลยคะ ทีวีนำเสนอรายการวิทยศาตร์​ช่วงเวลาที่เด็กและเยาชนดูร่วมกับครอบครัวให้เห็นว่า​การผิดเพศเป็นเรื่องธรรมชาติ​มากกกกกกกกกมิช่ายเกิดขึ้นแต่มนุษย์เท่านั้น​หรือเป็นเรื่องประหลาดในสังคม ขนาดปลาหมึกตัวผู้ยังชอบร่วมเพศกับตัวผู้​ ไม่สนใจตัวเมีย​ อันนี้เรื่องจริงนะคะ​ นักวิทยศาตร์ติดตามดูพฤติกรรม​ของปลาหมึกมาแล้ว สิ่งที่เราอยากเห็นในสังคมไทย​คือสิทธิความเท่าเทียม​สวัสดิการที่เท่ากันไม่ว่าคุณจะเป็นเพศไหนรสนิยมทางเพศจะเป็นอย่างไรและไม่ไปกล่าวล่วงละเมิดสิทธิในการเลือกเพศของผู้อื่น​

ประเทศไทยเปิดการยอมรับจริง แค่ในด้านหน้า แต่การยอมรับยังไม่เป็นรูปธรรมจริงๆ และอย่าง พรบ คู่ชีวิตก็ยังไม่สมบูรณ์ ที่ควรจะเป็นสักที ซึ่งเป็าก้าวแรก

เราเคยคุยกับเพื่อนว่า "รักไม่มีเพศ" จริงๆ เหรอ คือหลายคนที่เป็นสาววายชอบบอกว่า เค้าไม่ใช่เกย์นะ แต่เค้าเป็นแค่ผู้ชายสองคนที่รักกัน งั้นก็แสดงว่าคุณมองว่าบนโลกนี้มีแค่สองเพศคือชายกับหญิงใช่มั้ย? แล้วถ้าบอกว่า "ฉันไม่ใช่เกย์ ฉันไม่ใช่เลสเบี้ยน ฉันไม่ใช่ไบเซ็กชวล แต่ฉันเป็นมนุษย์" มองเผินๆ ดูเหมือนจะสนับสนุนให้คนทุกคนเท่าเทียมกัน แต่มันก็เหมือนกับว่าคุณกำลังฝังกลบเพศวิถีของคนอื่นๆ ไปเลย ไม่ให้ความสำคัญกับเพศวิถีเค้าด้วยการบอกว่า "เราทุกคนเป็นมนุษย์" ทั้งๆ ที่ในโลกความเป็นจริงแล้ว LGBTQ+ ก็ยังต้องทนอยู่กับความไม่เท่าเทียมกันในสังคมอยู่ดี บางทีอาจจะถูกตัดโอกาสเพราะเพศวิถีด้วยซ้ำ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราก็คิดว่าทุกคนจะเลือกแปะป้ายหรือไม่แปะป้ายตัวเองก็ได้ จะนิยามหรือไม่นิยามตัวเองก็ได้นะ แล้วก็ไม่จำเป็นต้องไปจี้ถามใครต่อใครว่าเธอเป็นเพศอะไร มันเป็นสิทธิส่วนบุคคลว่าเค้าเต็มใจที่จะประกาศออกมามั้ยเท่านั้น

พูดถึงเรื่อง ตุ๊ดต้องตลก ในสื่อมันสร้างมาอย่างงั้นจริงๆ เวลาเห็นก็แบบทำไมคนพวกนี้ถึงเป็นได้แค่ตัวตลกในหนังบ้านเรา

เหมือนเคยได้ยินมาว่า Queer คือคนที่รักใครก็ได้แบบไม่จำกัดเพศนะคะ ♥ แบบ Ezra Miller

ส่วนตัวเข้าใจว่า Queer (เควียร์) คือการเรียกกว้าง ๆ ไม่จำกัดความ แบบเรียกรวมทุกคนที่มีความหลากหลายทางเพศ จะคล้ายๆกับ non binary อันนี้จะหมายถึง คนที่ไม่อยากให้ใครมานิยมว่าคือใคร ชอบใคร เพศอะไร ประมาณนี้ค่ะ

คือเข้าใจได้ว่า straight ก็มีความสงสัย แต่หลายๆครั้งมันไม่ได้มาพร้อมกับการตระหนักว่ากำลังยุ่งกับเรื่องบนเตียงของคนอื่น เรามีประสบการณ์ที่ทำงานเป็นตัวอย่าง ที่แรกมีผู้บริหารเป็นชาวต่างชาติ ตอนสัมภาษณ์งานด้วยมัน flow มาก จนเราตัดสินใจพูดถึงแฟนเก่าว่า she เขาก็ไม่ได้ทักอะไรเราเลย แต่มาวันนึงรองผู้บริหารที่เป็นคนไทยก็ถามแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยว่ามีแฟนเป็นผู้หญิงเหรอ เราก็ตอบว่าก็ใช่ แต่ก็เคยมีแฟนเป็นผู้ชายด้วย แล้วเขาก็พูดมาว่า ตกลงมีแฟนเพศไหนกันแน่ เราไม่โกรธเคืองผู้บริหารที่ไปเล่าให้ฟัง เพราะเขาคงคิดไม่ถึงว่าในสังคมไทยจะล้าหลังและผู้ร่วมงานเขาจะยังก้าวข้ามจุดนี้ไปไม่ได้ แต่การถามที่มีการตั้งธงในใจว่านี่มันไม่ปกติมันดูออก แล้วเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงมักไม่พอใจที่ถูกถาม ซึ่งอีกฝ่ายไม่รู้ตัวว่ากำลังแสดงอะไรออกมา ที่ทำงานปัจจุบัน เคยหลุดปากออกมาว่ามีแฟนเป็นผู้หญิง ทุกคนไม่มีปฏิกิริยาใดๆทั้งสิ้น ล่าสุดตัดผมสั้นและใช้คำลงท้ายว่าฮะอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งก็ยังใช้คำสรรพนามผู้หญิงเป็นปกติ แต่งตัวก็สาวบ้างทอมบอยบ้าง ไม่มีใครคิดจะถามเลยว่าเพศอะไร และถึงถามก็มั่นใจว่าคงถามดีๆให้เราสามารถอธิบายไปได้ดีๆเช่นกัน

ชอบสไตล์การถกของพี่ลูกกอล์ฟนะ. บางทีในวงสนทนาก็ต้องการคนที่มีลักษณะแบบนี้เหมือนกัน ขอบคุณรายการนี้นะคะ มีประโยชน์มากค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ

วันนี้เป็นตอนที่ทำให้เข้าใจเกี่ยวกับ LGBTQ+ มากขึ้นเลยละก็คิดได้ว่าจริงๆเราก็คือเราความชอบการแสดงออกต่างๆคือตัวของแต่ละคนต่อให้มีคำนิยามอีกกี่คำก็คงไม่หมดเพราะมันหลากหลายมากจริงๆ และก็เข้าใจพ่อหมอด้วยว่าเราไม่ได้เป็น LGBTQ+ บางทีการถามคำถามต่างๆเพราะอยากจะเข้าใจก็จะกลัวว่าถามได้ไหมจะกระทบจิตใจอีกฝ่ายรึเปล่าบางทีเราแค่อยากรู้อยากเข้าใจเขามากขึ้นแค่นั้นจริงๆ อีกอย่างคือเรื่องสิทธิต่างๆคือเราก็เก็ทเลยว่า LGBTQ+ แค่ต้องการสิทธิเหมือนคนทั่วไปที่มารองรับกับความหลากหลายทางเพศของเขาเพราะสังคมมันเปลี่ยนแล้วการมายึดติดกับเพศกำเนิดคือมันล้าหลังกว่าบริบทการใช้ชีวิตในสังคมมากแล้ว เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ

ยังคงยืนยันคำเดิมว่าชอบรายการนี้มาก ถ้ารายการมี 1 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้นก็พร้อมดูเหมือนมีคนมาแสดงความคิดเห็นในประเด็นที่เป็นปัญหาของสังคมเราอยู่บางทีเราก็เคยคิดเหมือนกันแต่น้อยคนมากที่จะมาถกประเด็นกับเราได้เหมือนทุกคนก็รู้ปัญหาคืออะไรแต่ก็ไม่สนใจก็ใช้ชีวิตรันชีวิตตามสังคมไป ตื่นมากินข้าวทำงานเย็นกลับบ้านหาแฟนปาร์ตี้อะไรไปแบบทำไมเราไม่ร่วมกันเปลี่ยนสังคมเราบ้างล่ะ

ถ้าเราเคารพกันที่ความเป็นมนุษย์เหมือนกัน เธอจะไม่ตั้งคำถามว่าเขาเป็นเพศอะไร มีรสนิยมเเบบไหน และเธอจะมองว่าเขามีสิทธิและเสรีภาพในทุกๆอย่างเหมือนที่เธอมี รวมไปถึงการให้เกียรติกัน เห็นอกเห็นใจซึ่งกันเเละกันด้วย //ขอบคุณที่ทำรายการดีดีมาให้ได้ชมนะคะ ทำให้เราเข้าใจมากขึ้นจริงๆว่าความไม่เท่าเทียมกัน มันมากกว่าการได้รับโอกาส แต่มันรวมถึงความเข้าใจกันของคนในสังคมด้วย เป็นกำลังใจให้อีพีต่อๆไปด้วยนะคะ

อยากให้วันหนึ่งสังคมเลิกแบ่งแยก LGBTQ+ ออกมาจากชายและหญิงด้วยซ้ำ เพราะในความเป็นจริงเราควรจะเป็นอะไรก็ได้โดยไม่ต้องถูกนิยามและตีกรอบ

โลกควรลบคำว่า ช ญ และอื่น ๆ ควรเหลือแค่คำว่า มนุษย์ และ คน

เราออกตัวเลยว่าเป็นหนึ่งใน "สาววาย" ค่ะ คือโชคดีที่พอเราเสพสื่อวายตั้งแต่เด็กจากฝั่งญี่ปุ่น เลยทำให้เราออกมาจากไอเดียที่ว่าชายต้องคู่หญิง พอโตขึ้นเราได้รับการ educate มาเรื่อยๆ สายตาเราที่มองสื่อพวกนี้ก็เปลี่ยนไป พอกลับไปอ่านการ์ตูนวายที่เคยชอบตอนเด็ก ก็เจอเรื่องบ้งๆเยอะมาก มีส่วนน้อยที่ยังโอเคอยู่ ทำให้เรามองว่า yaoi/BL เป็น category ที่แฟนซี เพราะส่วนใหญ่มันไม่สมจริงแถมยังสร้างปัญหาให้ comunity ซึ่งยุคนี้คนตระหนักมากขึ้น แต่สื่อวายกลับหยุดอยู่ที่เดิมไม่พัฒนาจากเมื่อสิบยี่สิบปีก่อน ไม่ทำให้คนเข้าใจ lgbtq+ แถมยังสร้าง stereotype แบบผิดๆ โดยเฉพาะสื่อในไทยทั้งนิยาย/ซีรีส์(not all) เลยดีใจมากๆที่พี่ลูกกอล์ฟยก topic นี้มาพูดด้วยค่ะ ยอมรับค่ะว่าตัวเราคงเลิกเป็น"สาววาย"ไม่ได้ แต่เราสามารถ educate และเลิกผลิตซ้ำสื่อที่ผิดๆกันได้นะคะ

เรานิยามตัวเองว่าเป็นเลสเบี้ยนค่ะ แต่ว่าเราเคยคบผู้ชายมาก่อนพอเล่าให้คนคุยฟังบางคนเขาก็เหมือนจะแบบแกไม่ใช่เลสเบี้ยน แฮนโหร่ววววว555555555555555555555555 ไม่ได้ born to be lesbian ก็จริง แต่ชั้นมาค้นพบตัวเองตอนหลังไม่ได้เหรอ งงอ่า ก็คบผู้ชายแล้วมันไม่ใช่อ่า ตอนนี้ขี้เกียจตอบละเวลาใครถามก็จะตอบว่าชอบผู้หญิงสวยๆแต่งหน้าค่ะ จบนะ😢 แล้วก็อีกอย่างที่อึดอัดคือเวลาโดนเรียกว่าชะนีค่ะ เราพยายามให้เกียรติทุกคนแต่กลับโดนเรียกว่าชะนี งงอีกแล้ว

เป็นผู้ชาย ที่เคยคบผู้หญิง สาวประเภทสอง และทอม บอกตรงๆว่าช่วงกระแสการนิยามตัวตน นิยามเพศตัวเองเข้ามาหนักๆ แทบเป็นบ้า ตามหาว่า 'เราเป็นอะไรวะ' เพราะคนถามเราเยอะมาก คงเพราะประวัติแฟนแต่ละคนที่คบมา พอผ่านพ้นไปจนไม่ใส่ใจสังคม มองย้อนไปในอดีตที่ผ่านมา เราก็แค่คบคนที่เรามีความรู้สึก Romantic กับ Love เขาแค่นั้นเอง ผมเป็นแค่ผู้ชายคนนึง หรืออาจเป็นแค่คนๆนึง ที่กล้ารักใครจากความรู้สึกเท่านั้นเอง

เป็นtopicที่ดีมากๆๆเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังเผชิญเลยนะคะ แอบอยากให้เชิญชวนคนที่งานสื่อมาคุยบ้างค่ะ นักข่าวอะไรงี้

เท่าที่เคยได้ยินมานะคะ L-ผญที่ชอบผญ G-ผชที่ชอบผช B-ผญ/ผช ที่ชอบ ผญ/ผช (ชอบเพียง2เพศ) T-คนที่ข้ามเพศ อาทิ ผญที่อยากเป็นผู้ชายเลย หรือผชที่อยากเป็นผญเลย Q-คนที่สามารถคบได้ในทุกๆเพศเลย คบผญ/ผช/เกย์/กะเทย/Tran สามารถคบได้หมดเลย

ผมอยู่ในกลุ่มผู้ชายก็ไม่ได้ ผมอยู่ในกลุ่มเกย์ก็โดนเหยีดว่าไม่ชักเจน ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่น แล้วอีกอย่างนึงผมเป็นอิสลามด้วย อยู่กลุ่มใหนก็ไม่มีที่ยืน วันไหนมีคุยสนทนาอีกผมขอเข้าร่วมด้วยได้ไหม จนไม่รู้ว่าจะอยู่ตรงไหนของสังคม

“ปฏิบัติกับเรา เหมือนเราบอกว่าเราชอบข้าวไข่เจียว” -ชอบซีนนี้มากเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้ทีมงานนะคะ

พึ่งรู้ว่านิยามเพศเพิ่มเยอะขึ้นมาก respect ทุกท่านครับ แต่ตราบใดที่ยังอยู่ในรัฐ"ประยวยหัวคุด"ไม่มีทางเปิดรับ 100% ทั้งโอกาสและทางเลือก เพราะอย่าลืมประชาธิปไตย = อิสระและความเท่าเทียมทุกมิติ

จิ๊บพูดดีมากกกก ประเทศเรายังนิยามทุกอย่างแคบ มันไม่ใช่แค่เรื่องเพศ มันไปถึงกรอบความคิดทัศนคติศาสนาการเมือง เหมือนมิติของ2ขั้ว คือเหมือนฉันคิด กับต่างกับที่ฉันคิด

LGBTQ 🏳️‍🌈 บางคนนิยามว่า q มาจาก questioning (ไม่แน่ใจ) หมายถึงยังไม่รู้น่าจะประมาณนี้นะคะ หรือ queer ที่แปลว่าแปลกประหลาด เหมือนมีเซ้นของการประชดการไม่แคร์ แบบก็เเล้วไงคุณจะมองว่าแปลกประหลาดแต่ฉัน ภูมิใจแบบนี้ ผิดประการใดก็ต้องขอโทษนะคะ

รักรายการนี้จริงๆทำให้เราได้เห็นคนในหลายๆมุม ทำให้คิดถึงคนอื่นมากขึ้นนะ ผมเป็นหนึ่งในคนที่ยังไม่ Come out ถ้าให้นิยามLGBTQ+ ผมอยากให้มองเรื่องการชอบใครรักใครเป็นเพียงแค่รสนิยม เหมือนที่พี่ลูกกอล์ฟพูดคือสิ่งที่ผมคิดมาตลอด พอพี่พูดมันทำงานมากๆและเข้าใจง่ายที่สุด มันเหมือนกับเราชอบสีอะไร เราชอบแต่งตัวแบบไหน เราชอบทานอาหารรสอะไร สิ่งเหล่านี้พอเราตอบไม่เห็นจะเป็นเรื่องใหญ่ แต่ทำไมหล่ะพอเป็นเรื่องรสนิยมทางเพศ แล้วเราเพียงชอบสีไม่เหมือนกับสีที่คุณชอบ ถึงต้องถูกแบ่งแยก จำแนกเป็นประเภทต่างๆมากมาย การที่คนส่วนมากชอบกินรสหวานแล้ววันหนึ่งคุณรู้ว่าผมชอบรสเค็ม ทำไมเราถึงต้องแปลกประหลาดหรือถูกปฏิบัติไม่เหมือนเดิมขึ้นมา เราเป็นเพียงคน"ปกติ"คนหนึ่งที่ต้องการความ"ปกติ"และสิทธิที่"ปกติ"เหมือนคนทั่วไปจริงๆ

ชื่นชมลูกกอล์ฟนะครับ ควบคุมการสนทนาได้ดี ตีประเด็นได้ชัดและแตกประเด็นได้ละเอียด ผมเชื่อว่าประเทศเราเปิดจริงๆในเรื่องนี้ แต่ความเข้าใจในเรื่อง LGBTQ+ ของคนส่วนใหญ่ยังน้อยมากจริงๆ เห็นมากว่าควรมี เวทีแบบนี้เยอะ ถี่ๆๆ ปลูกฝังความคิดทำความเข้าใจไปเรื่อยๆ ผมว่าวันนึงสังคมน่าจะมีรีแอคชั่นที่เปลี่ยนไปในทางบวกครับ

ขอบคุณ​Topic ดีๆค่ะ​ ครอบครัวเรามีลูกชายสามคน​ ทุกครั้งที่ท้อง​ คุยกับสามีทุกครั้งหลังจากรู้เพศ​ ไม่ว่าเค้าจะเป็นแบบใหน​ ขอให้เค้าคือเค้าเป็นตัวของตัวเอง​และไม่สร้างปัญหาให้สังคมพอ (ไม่เคยพูดว่าขอให้ลูกเป็นคนดีเลย)​ อันนี้คือความคิดของคนเป็นพ่อเป็นแม่แบบเรา​ ค่ะ

เฉยๆกับคนกลุ่มนี้นะ ไม่ได้คิดว่าแตกต่างไม่ได้รู้สึกว่าต้องไปทำความเข้าใจอะไร เป็นแค่คนคนนึงเท่านั้น ถ้าจะมีคู่คือคนรักกัน ไม่เกี่ยวอะไรกับเรา ทำไมต้องไปทำความเข้าใจ ผญ. ผช. ธรรมดาก็แตกต่างเราก็ไม่เห็นต้องทำความเข้าใจ แค่มองว่าคือคนคนนึงมันจบ จะชอบทำอะไรชอบใคร มันคือเรื่องส่วนตัว ที่ควรทำคือแก้กฏหมาย เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมดีกว่า ที่จะมาดีแต่พูดว่าเปิดแต่ไม่มีการรองรับ ยังมีสายตาว่างเขาแปลก หรือต้องยอมรับ ทำไมต้องยอมรับในเมื่อมันคือเรื่องปกติ

รายการดีมากๆเลยค่ะ ทำให้เราเข้าใจมากขึ้นจริงๆ จากที่คุณจิ๊บเล่าเรื่องโรงเรียนหญิงล้วนนี่นึกถึงตัวเองเลย เราเรียนหญิงล้วน การเห็นผู้หญิงคบทอมม หรือผู้หญิงคบผู้หญิงด้วยกันคือเรื่องปกติมากๆ พอเข้าสังคมทำงานได้มีการพูดคุยกันเรื่องนี้หลายๆคนชอบถามเรื่องแฟนทำนองว่าอ้าวงี้ไม่เคยคบผู้ชาย ก็เป็นดี้อ่ะดิ ตัวเองอธิบายบ่อยมากว่าไม่ ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้นแหละ แค่เคยคบ และชอบคนๆนั้น ทำไมต้องมีชื่อเรียกเพศด้วย น่าเศร้าค่ะที่คนไทยหลายๆคนยังคงยึดติดกับอะไรเดิมๆ ไม่มีการเอดดูเคตในเรื่องนี้กันจริงๆจังๆสักที พอมีคลิปนี้ออกมาก็ได้แต่หวังว่าพวกเขาเหล่านั้นจะตาสว่างแล้วเลิกกำหนดเพศ หรือรสนิยมทางเพศของคนอื่นได้แล้ว 2020 แล้วค่ะ พัฒนาบ้านเมืองไม่ได้ ก็พัฒนาสมองตัวเองกันบ้าง ขอบคุณสำหรับคลิปดีๆแบบนี้นะคะ ❤️

แต่ก่อนเราตอนเด็ก เพศสภาพเราคือ ผญ แต่ว่าข้างในแล้วเรากลับไม่รู้สึกอย่างนั้น เรามีความรู้สึกว่าเราสนใจ ผญ ด้วยกันเอง เราไม่อยากใส่กระโปรง เราไม่ชอบเล่นอะไรที่เป็นของผู้หญิง เราชอบเล่นปืน เล่นต่อสู้ ฟันดาบ อยากใส่กางเกงไปเรียน แต่แล้วฝันมันก็สลายเมื่อเราโดนจับแต่งตัวเป็นดรัมเมเยอร์ เรารู้เลยทันทีว่าครอบครัวของเราไม่โอเค ทำให้ตอนเด็กเราจะกลัวเสียงกลองแต๊กมาก เราวิ่งไปหลบใต้โต๊ะเรียนเพราะไม่อยากถูกจับแต่งตัว ตั้งแต่นั้นมาต้องไว้ผมยาว ทำตัวเป็น ผญ แต่ก็ยังคงความแมนไว้ คนรอบตัวถามเป็นทอมหรอ เมื่อโดนล้อว่าทอมจะโกรธมาก เพราะเรารู้สึกว่าเราไม่ใช่ทอม ต่อมาเมื่อถึงตอนมัธยมเราก็ชอบ ผญ มาตลอด แต่ไม่กล้าบอกใคร เรากลัว กลัวไปหมด กลัวเพื่อนรับไม่ได้ จึงปิดไว้แล้วมาบอกตอนมัธยมปลาย ซึ่งเพื่อน ๆ ก็รู้นานแล้วแต่แค่รอให้เราบอก พออายุ 20 เรา come out กับที่บ้าน เราโดนหนักมาก โดนแม่ด่าสารพัดทั้ง ผิดปกติ ผิดเพศ วิกลจริต ถ้าตายไม่ต้องเผาแม่ ซึ่งแม่ก็ให้ญาติมาบอกมาสอนเราว่าสิ่งที่เราเป็นนั้นทำให้พ่อแม่เสียใจ กลับมาได้ไหม ซึ่งเราเกิดคำถามในใจ เราจะกลับไปได้ยังไง เราไม่เคยเปลี่ยนไป แต่เราแค่ปิดบังเราแค่ไม่บอก ผลการกระทำนี้ทำให้เราไม่สามารถสนิทใจกับแม่และญาติฝั่งแม่ได้เหมือนเดิม ต่อมาคือสิ่งที่สงสัย เรารู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่เลสเบี้ยนเพราะไม่ได้รู้สึกว่าเราเป็นผญ พอเราได้ดูคลิปพี่เกรซที่สัมภาษณ์กับพี่วู้ดดี้ วินาทีนั้นเรารู้เลยว่าตัวเองเป็น Transgender แน่ ๆ นี่คือสิ่งที่ตามหามาตลอด เราไม่พอใจกับคำว่าทอมเพราะเราไม่ใช่ เราคือผู้ชายที่มาเกิดในร่างผู้หญิง เราจึงเข้าใจความรู้สึกอึดอัดของพี่เกรซและอีกสิบปีเราจะเข้ากระบวนการแบบพี่เกรซ แต่ตอนนี้ขอเรียนให้จบ มีการมีงานทำก่อน ตอนนี้คงต้องใช้ชีวิตในร่างผญต่อไป ถึงแม้ครอบครัวจะไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร เรามีความสุขกับตัวเอง ขอแชร์มุมมอง lgbtq+ อีก สำหรับเราคำว่า Queer คือคนที่ไม่มีนิยามว่าตัวเองจะเป็น l g b t แต่เราคือเรา เราจะเป็นอะไรก็ได้ จะชอบอะไรก็ได้ ไม่จำกัด ไม่ตีกรอบ สำหรับเรื่องความรู้เรื่อง lgbt ในหนังสือกระทรวงของไทยไม่มีเลย ในหนังสือยังระบุอยู่เลยว่านอกจาก ชญ คือผิดปกติ ทำให้สร้างค่านิยมที่ผิดของสังคม พ่อแม่เข้าใจผิด ด่าลูกตีลูก เพราะไม่มีความรู้ในเรื่องนี้ ถ้าอยากแก้ค่านิยมสังคมต้องเริ่มแก้ที่หนังสือเรียนสุขศึกษาให้เด็กรุ่นใหม่มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศจะสามารถลดเรื่องการบูลลี่เพศของคนในโรงเรียนได้ ต่อมาคือประเด็น รุกรับของเกย์ว่าทำไมคนชอบถาม เราคิดอย่างนี้ ขอยกตัวอย่าง คู่ ชญ เราสามารถจำแนกได้จากลักษณะของบุคคลได้ว่า คนที่ musculine จะเป็นคนกระทำ คนที่เป็น feminine จะเป็นคนถูกกระทำ และ ทอมดี้ ทอมเป็น musculine ดี้เป็น feminine คือบริบทมันชัดว่าคนไหนโพอะไร แต่ในเกย์ คือผช ทั้งคู่ เลยสงสัย แต่แท้จริงแล้วเป็นความคิดที่ล้าหลังมาก เพราะไม่ว่าจะเรื่องบนเตียงทั้งสองฝ่ายสามารถผลัดกันทำได้ ไม่ว่าใน ชญ ก็ผลัดกันทำ อยู่ที่ความพอใจของคู่นั้น ต่อมาคือประเด็นที่พี่เกรซบอกว่า พ่อแม่โอเคที่มีเพื่อนเป็น แต่ไม่โอเคที่ลูกเป็น อันนี้แม่เราก็มีเพื่อนเป็นตุ๊ดแต่ไม่โอเคที่เราชอบผญ เค้ายังไม่เข้าใจและไม่มีความรู้ อยากฝากไว้สุดท้าย สังคมไทยที่เปิดกว้างไม่ใช่การเปิดกว้างด้วยความเข้าใจ แต่เป็นการเปิดกว้างเพราะการทำใจต่างหาก #อยากฝากไว้ พี่ลูกกอล์ฟน่าจะเข้าใจ ถ้าเราไม่ประสบความสำเร็จ พ่อแม่คงไม่ยอมรับเรา ทำไมเราต้องพิสูจน์ตัวเองมากกว่า cis gender ทั้งที่เราก็เป็นมนุษย์คนนึงเหมือนกับคนอื่น

ชอบบรรยากาศของรายการมากครับ ชอบการถกถามและการวิพากษ์ที่สุภาพ ชอบที่ทุกคนต่างเปิดใจและฟังกันจริงๆ แต่จะดีมากครับถ้าทดลองนำบุคคลที่มีแนวคิดแตกต่างกันสองกลุ่มมาลองถกถาม เพื่อให้ทุกคนได้เห็นลักษณะการวิพากษ์ การแลกเปลี่ยนแนวคิด การให้เหตุผลต่างๆ ในข้อกล่าวอ้างตัวเอง และผมอยากแนะนำประเด็น “แนวคิดเกี่ยวกับระบบการศึกษา วัฒนธรรมโรงเรียน แนวคิดของนักเรียนและครู” และที่อยากฟังอย่างยิ่งจริงๆ ครับ อยากเห็นและฟังประเด็นระบบการประเมินครูและนะหเรียนครับ

ขอบคุณที่เลือกรูป LGBTQ+ students are not stranger! นะคะ หวังว่าจะเห็นถึงปัญหานี้ว่ายังมีในสังคมค่ะ 💖✨

ทำให้คนที่ไม่เคยรูัเรื่องเกีี่ยวกับคนที่ต่างกับเรามากขึ้นเยอะเลย ผมผู้ชายแท้ ผมชอบนะคนต่างกับเรา ยิ่งมาคุยกันมันต่างความคิดมันทำให้เราได้ความรู้มากขึ้นทำให้เราได้เข้าใจมากขึ้นเยอะ ขอบคุณครับ

ร่วมสนับสนุนเรียบร้อยค่ะ ชอบในการถกคอนเท้นแบบนี้มาก อยากให้ทำต่อไปเรื่อยๆ เป็นกำลังใจให้ จากคนที่คิดนอกกรอบตั้งแต่เด็ก กลายเป็นคนแปลกเพราะคิดและทำอะไรไม่ตามสังคมนิยมมาตลอด

เราอยากลองฟังมุมมองของคนอื่นเกี่ยวกับเรื่องของการนับถือและไม่นับถือศาสนาค่ะ

เราเป็​นผู้หญิง ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม ก็จะมีเพื่อน​เป็น​ LGBT อยู่เรื่อยๆ ทุกช่วงเวลาชีวิต เวลาเราได้ยินเพื่อนผู้ชาย​ชอบเล่นมุกแกล้ง LGBT แบบ สายเหลือง ระเบิดถังขี้ ฯลฯ เราเป็นผญ ไม่ได้เป็น​คนโดนเอง ฟังแล้วยังรู้สึกแย่มากๆ แต่สิ่งที่เราเห็นคือ คนอื่นๆ ขำ ทุกคน enjoy แม้แต่เพื่อน LGBT คนนั้น บางทีก็ขำหรือเล่นตัวเองไปด้วย​เหมือนกัน​ ทำให้เรางงว่า หรือเป็นเราก็คิดมากไปเองคนเดียว เราเป็นคนที่ไม่จอยกับมุกพวกล้ออัตลักษณ์​ เพศสภาพ หรือแนวแบบตลกไทยชอบเล่นอะ เราคิดว่า คนเราควรจะมีอารมณ์​ขัน หรือสนุกได้ โดยที่ไม่ทำร้ายความรู้สึก​คนอื่นมั้ย ถึงแม้เค้าจะไม่ได้พูดออกมา ว่าเค้าไม่โอเครึเปล่า​

ดูแล้วนึกถึงซีรี่ย์​ฝรั่งชื่อ​Everything's gonna be okay(น่าจะ) เป็นเรื่องที่นำเสนอความหลากหลายไม่ว่าจะเป็นทางเพศ​แล้วก็ความผิดปกติ​ทางร่างกายได้ดีมาก​ ตัวละครมีความหลากหลายและเป็นตัวของตัวเอง​ เนื้อเรื่องจะเป็นแนวครอบครัวและก็ความเข้าใจกันและกัน​

ชอบรายการแบบนี้ครับ รายการที่นั้งคุยกันด้วยเหตุผล เปิดใจรับฟังคนอื่น ฟังทั้งเหตุและฟังทั้งผล และไม่จำกัดหัวข้อที่จะเอามาคุย

ดูรายการถกถามแล้วชอบมากค่ะ ได้มีการมาเรียนรู้และแลกเปลี่ยนความเห็นกันในประเด็นสังคมต่างๆ +พี่ลูกกอล์ฟก็มีการขมวดปมสรุปให้อีกทีทำให้เข้าใจมากขึ้นค่ะ ส่วนประเด็นต่อไปที่อยากให้มีการถกถามคือปิตาธิปไตย สังคมชายเป็นใหญ่หรือเฟมินิสต์ค่ะ ขอบคุณสำหรับการแชร์ความรู้มากๆค่ะ จะติดตามดูคอนเทนท์ดีๆต่อไปนะคะ เป็นกำลังให้ค่ะ 💚

ขอบคุณที่ยกประเด็นนี้ขึ้นมาพูดนะคะ เป็นเรื่องที่ยังต้อง educate กันต่อไป ส่วนตัวมองว่า นิยามตัวตนตามตัวอักษรยังจำเป็นอยู่ในสังคมที่ความเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศต่ำ หรือสังคมที่ยังยึดถือค่านิยมแบบสองเพศไว้ (แค่ ช/ญ) เพราะทำให้เราไม่รู้สึกโดดเดี่ยว แปลกแยก ชั้นไม่เป็นแบบนี้อยู่คนเดียวนะ สร้าง community ให้เกาะไว้อย่างหลวมๆ ได้ แต่ก็เข้าใจดีว่าแต่ละคำไม่สามารถอธิบายตัวตนของเราในทุกแง่มุมได้ทั้งหมด เพราะฉะนั้นกรอบคิด 3 ข้อนี้ 1.อัตลักษณ์ทางเพศ (เรามองตัวเราเป็นเพศอะไร) ซึ่งอาจจะตรงหรือไม่ตรงตามเพศกำเนิดก็ได้ 2. การแสดงออกของเราเป็นแบบไหน (การแสดงออกทางเนื้อตัวร่างกาย ลักษณะภายนอก การแต่งตัว เป็นต้น) 3. และรสนิยมทางเพศ (รู้สึกดึงดูดทางกาย กับทางใจกับเพศอะไร และสองอย่างนี้ไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกัน และไม่ต้องมีก็ได้เช่นกัน อย่างที่คุณ) จึงสำคัญต่อการทำความเข้าใจความหลากหลายทางเพศ ยกตัวอย่าง 1. เรามองตัวเองว่า เราเป็นผู้หญิง (และตรงกับเพศกำเนิดของเรา) 2. มีการแสดงออกที่ผสมระหว่างชายกับหญิง พูดง่ายๆ ก็คงประมาณ ตรงกลางระหว่างแต่งแมนกับแต่งหวาน และ 3.เราดึงดูดได้ทั้งชายและหญิง นั่นคือรู้สึกรัก/ชอบ และมีเพศสัมพันธ์ได้กับทั้งชายและหญิง ดังนั้นคำนิยามที่เราสบายใจที่สุด ณ ตอนนี้คือ bisexual ใดใดก็แล้วแต่ gender is fluid ทั้งสามข้อข้างต้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อกาลเวลาผ่านไปค่ะ ปล. แลกเปลี่ยนกันได้นะถ้าเราเข้าใจอะไรผิด อยากเสริมอะไรเพิ่มเติมก็ยินดีค่ะ

หมอโอ๊คเคยพูดในรายการนึงว่าเค้าไม่ชอบการไปเหมารวมว่าคนแบบนี้จะต้องเป็นแบบนี้แบบนั้น เช่น ตุ๊ดส์จะต้องชอบแต่งตัวหรือทำงานบันเทิง ทำไมตุ๊ดส์จะเป็นหมอเป็นนักวิทยาศาสตร์หรือทำตัวเนิร์ดๆบ้างไม่ได้เหรอ มันคือจริงมาก ปล. แอบสงสารพี่แอ้มที่ขอความเมตตา 5555 น่ารัก เข้าใจพี่เค้านะ คือให้ถามพี่แกสงสัยก็ถามแหละ

โอยย ชอบอะ ดูแล้วได้อะไรกลับมาทบทวน คิดตกตะกอนได้เยอะมาก เดวจะไล่ตามดูให้หมดทุกถกเรย ปล.ชั้นไปอยู่ไหนมาเนี่ยรายการดีดีอย่างนี้ พูดแล้วเขิลเบย>< ขอบคุณอีกครั้ง

ทุกวันนี้เรายังตั้งคำถามเลยว่าเราเป็นอะไร Qของเราคือ question มันเป็นคำถามที่ยังเป็นตัวเองอยู่เลย😂 เราโตมากับหญิง ชาย พ่อไม่ชอบทอม แต่เข้าใจเรา แต่ไม่ชอบ เราก็ไม่ได้ชอบใครที่หน้าตาชอบที่ความคิด ทัศนคติ เราเป็นติ่งนะมองคนที่เป็นไอดอลคือชอบ อยากได้บลาๆ แต่ผู้ชายที่ชอบคือความคิดความพยายามมากกว่า แล้วเราก็คบผู้หญิง เพราะเราชอบเขาแค่นั้นเอง จะเวย์ไหนคือเราอยู่กับความรู้สึก มากกว่าหน้าตาหรือเพศสภาพอ่ะ ที่มันรู้สึกคือวันที่เราบอกเรารุก แล้วทุกคนบอกเรารับด้วยกายภาพ นิสัย ซึ่งเราคิดว่าเราเป็นคนที่เป็นคนจัดการอะไรดีอ่ะ เราไม่เคยอยากรับ ไม่เคยตัดสินด้วยว่ารับต้องสาว ต้องตาม แต่เราเป็นรุกเพราะเรามองว่าเราชอบตามใจ ชอบจีบก่อน ชอบดูแล เราตามใจเราเอาใจเก่งซึ่งใช่เราเป็นแบบนั้น แต่เราไม่ได้เคยโดนในเรื่องนู่นนี่มาอ่ะ เราไม่รู้ว่ารุกกับรับรู้สึกยังไง แต่ถ้าให้เราคิด เราชอบอยู่ข้างบนชอบทำให้ มากกว่า🤷🏻‍♀️

จะเป็นไปได้ไหม ? ถ้าสักวันนึงโลกของเรา จะเลิกใช้ “คำนำหน้านาม” แบบถาวร !

แนะนำหนังเกย์จีน ที่ไม่ได้เน้นคนหน้าตาดี ตัวละครในเรื่องเป็น วัยทอง เนื้อเรื่องน่าสนใจ เขาพยายามเล่าถึงสังคมจีน ผู้ชายที่แต่งงานมีลูกแล้วแต่พบว่าตนมีความสุขที่อยู่กับผู้ชายคนนึง ชื่อเรื่อง Suk suk ซุกที่เขา สุขที่ใจ

พ่อหมอปิดได้ดีมาก สุดท้ายการเดินไปข้างหน้าของสังคมนี้คือการ educate ซึ่งการ educate มันต้องเกิดจากการพร้อมให้คนอื่นเข้าใจด้วย เราเชื่อว่าความเข้าใจ LGBTQ+ อย่างลึกซึ้งจะดีกว่าแค่การที่บอกว่าทำตัวปกติกับฉันแค่นั้นพอ และให้สิทธิ์กับฉันอย่างเท่ากับคนอื่น เราเข้าใจว่าความเข้าใจใน LGBTQ+ มันไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลยกับคนถาม แต่เราเชื่อว่าการขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลง คนที่มีอำนาจในการเปลี่ยนแปลง หรือทุกคนในสังคม ต้องมีความรู้ความเข้าใจใน LGBTQ+ และเมื่อถึงวันนั้น วันที่ทุกคนเท่าเทียมกันจริง ๆ เราว่าถ้า LGBTQ+ จะมาบอกว่าไม่ต้องถามอะไรมาก ทำตัวปกติกับฉันก็นั้นพอ เป็นสิ่งที่เหมาะสมกับเวลานั้น

ตอนนี้อยากให้มีการสมรสเท่าเทียมกัน ไม่ใช่จำกัดแค่ชายหญิงเท่านั้น อยากให้กว้างมากกว่านี้ตอนนี้ยังรู้สึกว่าประเทศไทยยังเปิดกว้างน้อยไป บ้างคนยังเหยียดเพศอยู่แล้วบ้างครั้งผู้ชายแต่งใส่กระโปรงออกจากบ้านยังมีคนมองด้วยสายตาแบบเหยียดๆอยู่ ส่วนตัวเราว่าทุกคนมีความเท่าเทียมกันหมดไม่อยากให้มีการเหยียดเพศ

เราไม่ชอบการตีกรอบเลยว่าเราเป็นอะไร เราต่างคนต่างก็เป็นมนุษย์คนนึง ทำไมการมีรสนิยมที่ไม่เหมือนคนอื่นๆถึงต้องกลายเป็นสิ่งผิดปกติ แล้วสิ่งที่ปกติคืออะไร ใครเป็นคนกำหนดว่าชายต้องคู่กับหญิง เราแค่เกิดมาเพื่อเป็นตัวของตัวเราเอง

อยากเสนอให้คุณลูกกอล์ฟลดความเป็นครูลงหน่อย อยากให้เป็นการถกถามกันมากกว่า ไม่ใช่การสั่งสอนกัน

ทำไมถึงมีคำนิยาม ว่าฉันเป็นLGBTQ+🏳️‍🌈 ทั้งๆที่ต้องการความเท่าเทียม เหมือนกับคนทุกเพศ แล้วทำต้องตีตราตนเอง ว่าเป็นLGBTQ+ด้วย!? ทำไมต้องแปลกแยก คุณเท่าเทียมกันอยู่เดิมแล้ว เหมือนกับการเป็นสิ่งใหม่ แต่บอกว่าอยากได้สิ่งเดิม เข้าใจได้แต่จะตีตราตนเองทำไม คุณนะเป็นสิ่งเดิมแต่ต้นแล้ว เธอจะเกิดมาเพศอะไรก็ตาม ทำตัวแต่งตัวยังไงก็ตาม มนุษย์ก็สืบพันธุ์กัลไปกัลมามันมีแค่นั่น คนหนึ่งคนรักหรือชอบใครก็ได้ LGBTQ+เท่ากับไร้ความหมายเลย จะบอกคนอื่นมาฉันเป็นเกย์ทำไม ทั้งๆที่ผู้ชายชอบใครก็ได้ ฉันอยากให้คำนิยามLGBTQ+หายไป แล้วให้ทุกคนเรียกชายและหญิงแทน เพราะทั้งโลกมันมีแค่สองเพศนี่แหละ ชายอยากเป็นหญิง หญิงอยากเป็นชาย ถ้าเป็นเรื่องกฎหมาย ยึดหลักประชาธิปไตร ก็จะมีกฎหมายในส่วนนี้ตามมาเอง ส่วนคนที่มีโครโมโซมxy,xxที่ผิดแปลกไป ก็เป็นทั้งชายและทั้งหญิงควบ มันเป็นสภาพทางร่างกาย ไม่จำเป็นจะต้องตีตราว่าเป็นLGBTQ+ก็ได้

พึ่งได้เข้ามาดูค่ะและสะดุดกับคำว่า "Asexuality" มากตอนได้ยินและรู้ความหมายขนลุกมากจะร้องให้ออกมาเฉยเลย เราอายุ 35+ แต่กับไม่เข้าใจตัวเองมาตลอด ทำไมเราเป็นแบบนี้เรารู้สึกดีกับแฟน(ทุกคนที่ผ่านมา) แต่ถึงเวลาที่จะไปถึงขั้นนั้นรู้สึกไม่อยากทำจนมีปัญหาและเลิกลากันไป แต่ตอนนี้แต่งงานแล้วนะคะ มีลูกแล้ว แต่ยอมรับว่าไม่ได้รู้สึกชอบกับการมี sex เหมือนแค่ต้องทำเป็นหน้าที่ ตัวแฟนเองก็เฟลกับเราในเรื่องนี้...ตัวเองก็กลัวครอบครัวมีปัญหาได้แต่โทษตัวเอง เพราะเราก็ไม่เข้าใจตัวเอง จนทำให้ทุกอย่างเริ่มมีปัญหาจริงๆ ถ้าเรารู้ว่าเราเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกเราคงไม่ดึงใครเข้ามาในชีวิต ทุกข์ทั้งแฟนและตัวเราเอง

อย่างตัวผมเอง ผมเป็นผู้หญิงโดยกำเนิด แต่โดยส่วนตัวเราตัดผมแบบผู้ชายการแต่งกายแบบผู้ชายเราพูดครับเราแทนตัวเองว่าผม และเราเองก็คบได้หมดเราไม่ได้คบใครที่เพศแต่เราเลือกคบเขาที่จิตใจมุมมองความคิดความเข้าใจ แต่บางคนเขาจะให้คำนิยามเราว่าเราเป็นทอม แล้วพอเขาเห็นเราคบกับผู้ชายเขาก็จะถามเราว่าสรุปเราเป็นอะไร ซึ่งเราไม่ได้นิยามว่าเราเป็นอะไร เราแค่ชอบที่จะเป็นแบบนี้ เราก็จะเลือกตอบเขาว่าเราเป็นเราแต่พอเราเลือกที่จะตอบไปแบบนั้นเราก็จะเจอกับสายตาที่มองว่าเราแปลก ซึ่งตรงจุดนี้ทำให้เราอยากรู้มากว่าการที่ภายนอกเราชอบที่จะเป็นผู้ชายแต่เราก็ยังมีแฟนเป็นผู้ชายเนี้ยเราดูแปลกหรือมันดูไม่โอเครึเปล่า

หวังว่าวันหนึ่ง "คำนิยาม" จะเหลือแค่เพียงใช้ในทางชีวภาพ โครงสร้างร่างกาย เพื่ออธิบายโครงสร้างร่างกายที่แตกต่างกันเพียงอย่างเดียว ส่วนตัวมองว่า การแสดงออก รสนิยม การได้รับความดึงดูด และอื่นๆอีกหลายอย่างของมนุษย์ไม่ควรถูกแบ่งแยกด้วย "คำนิยาม" ใดๆ (ในที่นี้คือ LGBTQ+) เช่น การกรอกแบบฟอร์มต่างๆ ควรนำคำว่า "เพศ" ออกจากการแบบฟอร์ม หรือเปลี่ยนเป็นคำอื่นที่บ่งบอกโครงสร้างร่างกายที่ต่างกัน หากจำเป็น ตัวอย่าง เพื่อการรักษาหรือกิจกรรมใดๆที่สมรรถภาพมีผลอย่างการลงแข่งกีฬาบ้างชนิด คำนำหน้าชื่อก็อาจจะต้องเลิกใช้ทั้งหมดทั้ง "นาย นาง นางสาว" เรียกกันว่า คุณ หรือชื่อเฉยๆก็น่าจะเพียงพอแล้ว

26.05 ชอบมากเลยค่ะ สังคมไทยไม่ได้มรการถูกปลูกฝังมากับความหลากหลายแต่ถูกฝังมากับแม่พิมพ์นิยม ที่ถ้าใครไม่ใช่แม่พิมพ์นั้นคือคนนั้นแปลกแยก นี่เป็นคนนึงที่โตมาด้วยความรู้สึกว่าเราแตกต่างในแง่ทางลบ ไม่ใช่คอนฟลิกต์เรื่องเพศแต่คือเป็นเรื่องตัวตน สังคมไทยควรยอมรับและมองว่าความหลากหลายไม่ใช่เรื่องผิดได้แล้ว มนุษย์ทุกคนไม่มีใครที่เหมือนกัน ต่อให้มีโครโมโซมเหมือนกันยี่สิบสองคู่ครึ่งก็ๆยังแตกต่างกันอยู่ดี

เราชอบฟังรายการนี้นะคะ และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราอยากให้ทุกคนรอบข้างฟัง รู้และเข้าใจ เราโดนคำถามมาตลอดว่าชอบ ผญ หรือ ผช

ชอบการคุยกันเปิดอกของทีมนี้มาก เป็นคลิปที่สมควรดู สำหรับทุกคนที่สนใจ ไม่ใช่แค่สำหรับstraight แต่ยังรวมถึงชาวคอมมิวนิตี้เดียวกันด้วยเพื่อให้เข้าใจกันและกันมากยิ่งขึ้นและตัดสินกันและกันให้น้อยลง

ได้เรียนรู้อะไรเยอะมากจริงๆ ค่ะ ขอบคุณที่ทำคลิปนี้ออกมานะคะ

สนับสนุนให้ทำออกมาตลอดชีวิตเลยนะครับ รู้สึกว่าพอได้ดูรายการแบบนี้แล้ว รอยหยักในสมองผมได้ใช้งานมากขึ้น ขอบคุณมากครับ

ผมแค่รู้สึกว่าเค้าเป็นเพื่อนคนนึงมากกว่า มันยากเกินความเข้าใจของผมนะและผมชอบรับได้นะ แต่สงสารเพื่อนๆที่โดนปฏิบัติไม่ถูกมากกว่าเพราะที่บ้านไม่เข้าใจมากกว่า ผมมีเพื่อนๆที่แบบนี้เยอะนะ

เป็นคนที่ไม่เคยมองเรื่องเพศเลย คบได้ทั้งผู้ชายผู้หญิง เพื่อนหลายคนชอบทักว่าเป็น"ไส้เดือนหรอ ทำไมมีหลายเพศจัง" คือเราเป็นเรา ทุกครั้งไม่ว่าคบหรือคุยกับใคร เราก็ยังเป็นเราเหมือนเดิม เราแค่ชอบคนคนนั้น ไม่ว่าเขาจะเป็นเพศอะไรก็ตาม เคยคุยกับคนนึง ตอนนั้นทุกอย่างกำลังไปได้ดี แน่นอนว่าเราบอกสิ่งที่เป็นเราไปทั้งหมดแล้ว แรกๆเขาก็เหมือนยอมรับ แต่จู่ๆก็มาบอกเราว่าคงเข้ากันไม่ได้ เพราะเขาไม่รู้ว่าจะต้องระวังใครบ้าง เราเหมือนคนที่ไม่ว่าใครก็ได้หมด เราเองก็พยายามอธิบายแล้ว แต่สุดท้ายเขาก็ไปอยู่ดี ปัจจุบันแต่งงาน มีลูกชาย1คน และแน่นอนว่าแฟนเรารู้เรื่องทุกอย่าง เราไม่ได้รักที่เป็นผู้ชาย แต่รักคนนี้เพราะตัวของเขาเอง เคยคุยกับแฟนว่าถ้าวันนึงลูกชายเรารู้สึกไม่อยากเป็นไปตามเพศสภาพของลูก แฟนจะทำยังไง แฟนบอกว่า "เราก็ต้องคอยอยู่ข้างเขา คอยซัพพอร์ตในสิ่งลูกเลือกตามสมควร เราต้องเป็นเบาะคอยลดแรงกระแทกจากภายนอกให้กับลูก ให้กำลังใจกันทุกวัน" เราว่าเราเลือกคนไม่ผิดหรอก😊

เดี้ยวเราจะไปอธิบายนิยามของ LGBTQ​+ รวมถึงอีกคำนิยามมากมายที่อยู่ใน + เดี้ยวเราจะไปอธิบายไว้ในทวิตเตอร์ของพี่ลูกกอฟนะว่าคำนิิยามและประวัติหรือความเป็นมาของคำนิยามต่างๆนะ เดี้ยวเราขออนุญาต​ไปแปะไว้ในทวิตของพี่ลูกกอฟนะครับ

เมื่อก่อน queer เป็น slur ค่ะ ถ้าาได้ดู the umbrella academy จะมีฉากที่ลุงของเดฟเรียกเคลาส์ว่าเควียร์ที่ฉากในยุค60s ในเชิงดูถูก เหมือนกับคำว่า dike ที่เหมือนคำหยาบเรียกเลสเบี้ยน แต่ปัจจุบันคคอมมิวนิตี้เหมือนพยายาม own that word to take away that power ค่ะ คล้ายกับเฟมทวิตในปัจจุบัน จริงๆมันก็แปลตรงๆว่าพวกผิดเพศทำนองนี้ มักจะใช้กับชชในอดีต แต่ปัจจุบันเคลมกลับมาเป็นไอเดนทิตี้แล้วค่ะ เควียร์คืออะไรที่ตรงข้ามเสตรทไม่ว่าจะลงในแคทตากอรี่ไหนก็ตาม และPansexsual อย่าง Viola ใน Sex education (ซึ่งเรื่องนี้พูดถึง bisexual, asexual อยู่ด้วย ถ้าอยากเริ่มเรียนรู้แบบสนุกๆก็ดูได้) เป็นคนที่ถูกดึงดูดได้ทุกเพศรักใครก็ได้ไม่ได้สนใจเหมือนพี่จิ๊บ Nonbinary ก็คนที่ไม่สนเจนเดอร์นอร์มที่มีสองเพศ(binary) ทั้งนี้การไม่นิยามเพศก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรแต่ต้องเคารพกับคนที่ระบุเพราะว่ามันสำคัญกับเขามาก ในหลายๆครั้งครอบครัวของคนนั้นๆหรือสังมักจะทำให้เขาไม่รู้สึก ligit มีตัวตัวในสังคม การระบุเพศจะช่วยในเรื่องของการยอมรับตัวตนของตัวเองของตัวคนในคอมมิวนิตี้ด้วย การก้ามข้ามผ่านความสับสน การถูกปฏิเสธความเป็นตัวเอง สำหรับคนบางคนมันยากมากๆ ดังนั้นการที่ในวันนึงเขา own คำๆนั้น มันทำให้รู้สึก pride หลังจากถูก shame มาตลอดชีวิตค่ะ จริงๆอยากให้ค้นคำว่า internal homophobia, gender dysphoria พวกนี้ค่ะ คนใน LGBTQ+ COMMUNITY มักจะมีปัญหาเรื่อง mental health และหลายครั้งถูกเรียกว่า Survivor ด้วย

สื่อละครบ้านเราอะ ต้องรีเซทได้แล้ว วนยุแต่แนวเดิมๆ ประเทศอื่นเขาไปถึงไหนกันแล้ว

ชอบประเด็นนี้มากเลย เราก้เป็น 1 ใน LGBTQ+ ที่ยังไม่เข้าใจอะไรหลายๆอย่าง และอยากทำความเข้าใจกับคนในทุกๆเพศ อยากให้มีประเด็นนี้อีกต่อไป น่าจะเป็นการขับเคลื่อนเรื่องของความหลากหลายทางเพศให้กับคนทุกๆเพศได้เข้าใจมากขึ้น 😆

EPนี้ มากกว่าการเรียนรู้เรื่อง LGBTQ+ คือการนั่งพิจารณาตัวเองถึงตัวตนเราจริงๆ ว่า เราเป็นอะไร พอเข้าใจตัวเองแล้ว ก็ค่อยพยายามเข้าใจคนรอบข้างเราต่อไป

คนเราไปหาคำนิยาม​ คำจำกัดความให้สิ่งที่ตัวเองไม่รู้และแตกต่างไปจากที่ตนเข้าใจ​ โดยจริงๆแล้วไม่จำเป็นต้องไปนิยามมันเลย​ แค่เค้าเปนเค้า​ เราเป็นเรา​ อยากให้ทุกคนเข้าใจ​ เพราะผมเป็นผชที่มีรสนิยมชอบทอมหรือผญที่มีลุคห้าวๆ​ ไม่รู้จะเรียกตัวเองว่าอะไร​ แต่ตัวเองชอบแบบนี้​ ขอบคุณสำหรับพื้นที่ดีๆที่ให้ได้มาแชร์ครับ

แฟนเราเคยถามเหมือนกัน ยายป๋อมแป๋ม เอมตามใจตุ๊ด หรืออีกหลายๆคน เป็นตุ๊ดหรือเกย์ ถ้าเป็นตุ๊ดทำไมไม่แต่งหญิง ถ้าเป็นเกย์ทำไมกริยาเหมือนตุ๊ด กูไม่รู้จะตอบมึงแบบไหนเหมือนกัน มันแล้วแต่เค้าเถอะ แฟนเราแค่สงสัยนะไม่เกลียดเพศ

ชอบๆรายการนี้ค่ะ. ทุกๆเทปให้ข้อคิดมุมมอง. มากๆ. เปิดหูและเปิดตามากๆ.

ไม่เห็นจะเปิดกว้างตรงไหน สังเกตุตอนสมัครงานที่ไทยยังจำกัด เพศชาย/หญิง ถ้าเป็นที่ฝรั่งเศสนายจ้าง ไม่มีสิทธิ์เลือกเพศลูกจ้างด้วยซ้ำนะ

โอยยยยยย ดีงามมาก เป็นคลิปที่ดีมาก ชอบรายการนี้เป็นตัวอย่างที่ดีในการถกเถียง เคารพ รับฟัง หาจุดร่วม รักเลยยยย

ไม่เคยเปิดกว้างเลย นี่ขนาดเป็นผู้ชายแท้ๆที่เดทกับทราน ยังโดนเหยียดเลย5555+

เป็นTopicที่ดีมาก ในเมื่อโลกเราพัฒนามาขนาดนี้ ตรรกะคนเราก็ควรพัฒนาตาม การตัดสินใครในมุมมองที่เเคบบวกกับตรรกะป่วยๆเลิกเนาะ555

ตอนนี้ยังรู้สึกว่า สังคมภายใน LGBTQ+ เอง หรือสังคมภายนอก เปิดรับแล้วเหมือนกันนะคะ แต่เหมือนได้รับการยอมรับอย่างเดียวคือ เกย์ ในขณะที่เลสเบี้ยนจะไม่มีพื้นที่ในสังคมเหมือนเกย์เลยค่ะ อาจจะไม่ถูกยอมรับด้วยซ้ำ

รัก ❤️ สิ่งที่ได้จาก content นี้คือเราทุกคนควรมองคนด้วยกัน ด้วยความเมตตากัน โดยไม่มีพรมแดนของเพศสภาพใดๆ สื่อสารกันด้วยความเข้าใจ คือเข้าไปในใจแล้วเอาใจเขามาใส่ใจเราให้มากๆ สังคมจะน่าอยู่ขึ้น สิ่งดีๆไม่ได้เกิดจากจำกัดความว่าเราใช้อวัยวะเพศทำอะไร สิ่งดีๆ เริ่มจากที่ใจ เปิดใจให้กว้าง และเมตตากันกันและกัน สร้างสรรค์ให้เกิดสิ่งดีงามในสังคม ไม่รู้ว่า comment ผิดประเด็นไหม แต่ใจรับสารได้แบบนี้จริงๆ ค่ะ ❤️🙏

สำหรับเราเราคิดว่าจะเป็นLGBTQ+หรือจะเป็นชายหรือหญิง หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่สำคัญอย่าลืมความเป็นมนุษย์ จะเป็นอะไรก็ได้ แต่อย่าลืมความเป็นตัวเอง

ขอบคุณจริง ๆ ค่ะที่ทำคลิปนี้ขึ้นมา จริง ๆ ตอนเด็กเราเคยโดนเรียกว่า"ทอม"นะคะ แค่เพราะเราตัดสั้นและซอยปลาย(ผมหนา)และด้วยบุคลิกแบบลุย ๆ ห้าว(เรื่องบุคลิกเราคิดว่าอาจจะมาเพราะที่บ้านมีพี่น้องผู้ชายซะส่วนใหญ่เลยได้รับอิทธิพลมา) แต่เวลามีคนมาเรียกเราว่าทอม เรารู้สึกไม่ชอบมาก ๆ เลย เพราะเรารู้ว่าเราไม่ใช่อ่ะ เราแค่ชอบผู้หญิงแต่เราไม่ได้แอ็คเหมือนผู้ชาย พอโตขึ้นเราถึงเพิ่งรู้ว่า ญxญ มันคือ lesbian ไม่ว่าจะทอมดี้หรือใดมันก็คือญxญแค่นั้น เราก็เลยนิยามตัวเองแบบนั้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แต่สุดท้ายเราในตอนนี้ไม่ได้นิยามอะไรตัวเองเลยเพราะเราแค่รู้สึกว่าเราจะอยู่กับคนที่เราอยากจะอยู่ เราจะรักกับคนที่เราอยากจะรัก ไม่ว่าเพศสภาพเขาจะเป็นแบบไหน ปล.เรามีเพื่อนที่พ่อแม่โอเคนะคะกับการที่ลูกมีเพื่อนอยู่ในกลุ่มความหลากหลายทางเพศแต่ถ้าลูกตัวเองเป็นจะไม่โอเคและแอนตี้มาก ๆ แอนตี้แบบสั่งให้เลิกเป็น ปล2.สำหรับคนที่เป็นเพศตรง ๆ นะคะถ้าอยากรู้อะไร สงสัยอะไร*กรุณา*ถามด้วยความniceนะคะ เราจะบอกคุณทุกอย่างที่คุณอยากจะรู้ อยากจะเข้าใจ สุดท้ายคือเราไม่ได้อยากได้การแบ่งเลยแยกค่ะ คนทุกคนคือคนเท่ากัน ปล3.เราเคยล้ออะไรต่าง ๆ ที่ชxช ว่าสายเหลือง เราขออภัยในคำพูดที่เราเคยพูดออกไปโดยไร้ความยั้งคิด

ต่อไปขอเรื่องชายเป็นใหญ่ได้มั้ยคะ ต่อจากประเด็นที่ต้องหาคนที่เป็นรุกรับอ่ะค่ะ เพราะสังคมไทยยังติดกรอบคู่รักว่าต้องมีหนึ่งคนแสดงความเป็นชาย อีกคนแสดงความเป็นหญิง ซึ่ง2อย่างนี้กดทับทุกเพศค่ะรวมถึงผู้ชาย

อยากดูเพิ่มอีกเยอะมาก ๆ ค่ะ มันดีมาก และทุกคนคุยได้สนุกมาก พูดจริงมากที่เสตรทอยากเข้าไปทำความเข้าใจนะ แต่ก็จะถูกตวาดออกมาแบบนั้น อย่างไรก็เข้าใจทุกคนเลยค่ะ อยากให้มีอีก คลิปนี้ดีมาก ๆ ค่ะ

อยากให้ถกถามเรื่องเฟมินิสต์หน่อยค่ะ เรื่องน่าสนใจ

ชอบมากครับที่พูดถึงเรื่อง privilage มันลึกกว่าการถกเถียงมากๆ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ

อันนี้ขออนุญาตแชร์ได้มั้ยคะ เราโดนแปะป้ายว่าเป็น L เพราะตัดผมสั้น ท่าทางเราก็เหมือนผู้ชายด้วย เราเหนื่อยกับการตอบมากๆว่า เป็นทอมปะเนี่ย เป็นเลสเหรอ จนเลิกตอบคำถามพวกนี้ไปเลย แต่ในช่วงฝึกสอน เราก็มีโอกาสสอนนักเรียนเรื่องนี้ แต่ก็แอบโดนตำหนิว่า สอนได้ แต่อย่าทำให้เขาเบี่ยงเบน กลายเป็นเราผิดที่สอน ซึ่งเราคุยประเด็นกับเด็กๆ เด็กๆบอกว่า มันเป็นสิทธิของหนูที่จะเลือกอยู่แล้ว การที่ครูสอนไม่ได้ทำให้เราเบี่ยงเบนเลย ในวงการศึกษายังมีความเชื่อพวกนี้อยู่เยอะ อาจจะเป็นผลมาจากการสอนจิตวิทยาแบบผิดๆด้วย

ถ้าสังคมเปิดใจรับฟังกันแบบนี้คงไม่ตีกัน ชอบรายการโต้ะกลมแบบนี้มาก

ซีรีย์วายไม่ได้นำเสนอความเป็นเกย์ค่ะ ตัวสาววายบางคนยังไม่ยอมรับเลยค่ะ5555 ((มันจึงเกิดคำว่า boys love/yaoi เพื่อลดทอนความเป็นเกย์ลง))

จริงๆสังคมมันบีบ​ มันสร้างค่านิยม​ ให้เราต้องเป็นแบบนี้​ ทั้งๆบางทีเราอยากจะเป็นอีกแบบ​ แสดงอาการ​ แสดง​อารมณ์​อีกแบบ​ แต่เราทำไม่ได้​ ถามว่าเพราะอะไร​ เพราะว่าถ้าเราเปลี่ยนไป​ เราจะโดนตัดสินหรือโดนสงสัยทันที​ ว่าทำไม​ เพราะอะไร​ นู้นนี่นั้นต่างๆ​ บางทีเราอึดอัด​ เราไม่ได้อยากจะแรดๆกรี๊ด​ๆ​ ตลกขบขัน​ บางทีก้ออยากเป็นตัวเองบ้าง​ แต่เป็นไม่ได้​

ทุกคนน่าจะใส่ชุดนักเรียนให้เหมือนกันหมดไม่ต้องแบ่งว่าชุดนี้สำหรับผู้หญิงชุดนี้สำหรับผู้ชายไว้ผมได้ตัดผมได้ ปล.ความคิดของเรานะ😊

ชอบรายการนี้นะ มีหลากหลาย หัวข้อดี สนับสนุน และเป็น กลจ ให้ ทีมงานจ้าาา

ชอบรายการนี้มากๆเลยค่ะ ดูแล้วได้ตกตะกอนความคิดตัวเองทุกครั้ง จนอยากจะเข้าไปร่วมแสดงความคิดเห็นและพูดคุยด้วยกับทุกหัวข้อเลย

8:53 พอเกรทยอกความหมายของ A ปุ๊ป เราว่าเราอยู่กลุ่ม A นะ

Topic : LGBTQ++ รอบหน้าอยากให้ชวน เขื่อน, ซานิ,โซฟี่, ยิปซีด้วยค่ะ จะได้การสนทนากว้างกว่านี้เยอะ คำว่า LGBTQ ส่วนมากคนจะให้ความสำคัญไปทาง เพศสภาพผู้ชาย แต่อยากให้ฟังด้านผู้หญิงด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ

เสียดายนิดนึงที่ไม่มีในมุมของเลสเบี้ยนมาถกด้วย แต่เข้าใจว่าคงหาไม่ได้ 55555555 -คำว่า queer สำหรับเราคือหมายถึงคนที่ไม่ได้ต้องการระบุเฉพาะเจาะจงว่าชอบอะไร ต่างกับเกย์ที่รู้กันว่าชอบผู้ชาย แต่เควียร์จะค่อนข้างกว้าง เหมือนเกย์เป็นสับเซ็ตอีกทีนึง -หลายคนคงไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมาเรียกระบุนู้นนี่เยอะแยะ จำก็ยาก ทำไมไม่มองเป็นแค่คนๆนึง นั่นเพราะมันจะเป็นการเบลอปัญหาที่คนกลุ่มนี้ต้องเจอนั่นเอง การที่เราบอกว่าแค่มองคนเหมือนกัน ก็จบแล้ว คือมันไม่ใช่แค่นั้น การบอกว่ามองทุกคนให้เท่าเทียมไม่ได้ทำให้ปัญหาความไม่เท่าเทียมหมดไป อีกทั้งยังเป็นการมองข้ามคนที่เขาต้องการระบุเพศของเขาเช่นกัน -เรื่องซีรี่วายนี่ถกได้อีกตอนเลยมั้ง 55555 ซีรี่วายของไทยพูดได้เลยว่าแค่ละครทำเงิน ไม่ได้เปิดกว้างและเข้าใจหรือตีแผ่อะไรทั้งนั้น ซ้ำยังตอกย้ำภาพจำผิดๆ stereotype ต่างๆ และลดทอนความเป็นเกย์เหลือแค่ "ผมก็แค่ผู้ชายที่ชอบผู้ชายเท่านั้น" -แม้แต่นักแสดงเกย์ ในซีรี่วายยังไม่เปิดโอกาสให้ด้วยซ้ำ ใช้สเตรทสองคนมาเล่นโดยที่ใช้ความเป็นเกย์ของเขามาหากินแต่ตัวนักแสดงยังไม่เข้าใจ อีกทั้งยังเหยียดเพศ แต่ไม่แปลกใจที่ขายได้ เพราะกลุ่มคนดูคือผู้หญิงสเตรทที่จิ้น ชช แต่ไม่ได้สนับสนุนมูฟเม้นของ lgbtq+ ใดๆ -อีกเรื่องคือการ come out ถ้าเจ้าตัวไม่ได้พูดเองว่าเขาเป็นอะไร เราไม่มีสิทธิ์ไปนิยามให้เขา ไม่มีสิทธิ์ไปจี้ให้เขาตอบหรือยอมรับออกมา มันเสียมารยาทมากๆ และเรื่องการถามว่ารุก-รับ ก็เหมือนถามคู่ชญ ว่าบนเตียงคุณเยกันท่าไหนบ้างนั่นแหละ เสียมารยามพอกัน ไม่ต้องไปอยากรู้มันเรื่องของเขา ถ้าคุณไม่ได้จะไปเยกับเขาก็ไม่ต้องถาม -เรื่องการ stereotype ว่าเป็นรุกต้องแมนเป็นรับต้องสาวอีก ออกจากกรอบความเป็นชาย-หญิงให้ได้ก่อน มันหลากหลายกว่านั้น ความแมสคิวลีนหรือเฟมินิมมันแค่การแสดงออก นิสัยภายนอกเท่านั้น -สังคมไทย มี lgbtq+ ในสังคมได้ แต่ห้ามเป็นคนในครอบครัว 555555 อันนี้ก็ควเป็นเรื่องปัญหาโครงสร้าง ที่ไม่มีสวัสดิการดีๆให้คนแก่ พ่อแม่จึงหวังว่าลูกจะต้องเป็นสเตรทแต่งงานมีลูกไว้เลี้ยงดูยามแก่แหละมั้ง -และอีกเรื่องที่อยากบอกคือใน lgbtq+ community เองก็ยังมีปัญหาของ hierarchy อยู่ และแน่นอนว่าเกย์ก็คือจุดสูงสุดอยู่แล้วจากความ male พรีวิลเลจ ปล. คุณจอนแปะมือเปลี่ยนผู้เล่นเลยหรอพอเป็นหัวข้อนี้ 555555555555 ปล.2 มุมกล้องแอบเปลี่ยนนะคะ จับแค่มุมแคบแล้วตัดสลับ ตอนก่อนๆยังจับภาพกว้างบ้าง ปล.3 ใครอยากแลกเปลี่ยนยังไงคุยกันได้นะคะ