[Live] สอนได้ยังไงว่าพระอนาคามีกับพระพุทธเจ้ากลับมาเกิดได้?  

ออกกฎหมายออกมาเลย พระต้องจบ เปรียญธรรม 9 ประโยค สอนได้ เทศน์ได้ จะได้สอนไม่ผิด

ท่านสอนไม่เพี้ยนเลย ติดตามท่านมานาน ไม่เพี้ยน ตามพระธรรมวินัย เลย

จริงที่สุดค่ะ เราฟังจากคลิปมาตลอดสองเดือน ทุกวันเช้าเย็น ฟังง่ายเข้าใจที่สุดแล้ว จนคิดอยากจะไปกราบหลวงตาที่อุบลฯเลยค่ะ

ครับเข้าใจง่ายครับสอนว่าพระฉันข้าวกลางคืนได้ไม่ผิดลองย้อนไปหาดูคลิปเก่าได้ไพรวัลย์ยังต้องออกมาท้วงเลย

อนาคามี แปลว่า ผู้ไม่มาเกิดอีก หมายความว่าจะไม่กลับมาเกิดในกามาวจรภูมิอีก แต่จะเกิดใน พรหมโลก อีกครั้งเดียวหรือหลายครั้งก็ได้ (เกิดในพรหมโลกหลายครั้ง เช่น อุทธังโสโต อกนิฏฐคามี) แล้วจะบรรลุอรหันต์แล้วนิพพานบนพรหมโลกนั้น ผู้ไม่มาสู่กามภพอีก, เป็นชื่อพระ อริยบุคคลชั้นที่ ๓ ใน ๔ ชั้น คือ พระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์, เรียกสั้น ๆ ว่า พระอนาคา ก็มี. น. โลกทั้ง ๓ ทางพระพุทธศาสนาหมายความถึง กามภพ คือภพของผู้ที่ติดอยู่ในกาม ตั้งแต่ ฉกามาพจรลงมาถึงนรกภูมิ, รูปภพ คือภพของพรหมที่มีรูป, อรูปภพ คือภพของพรหมที่ไม่มีรูป, ทางวรรณคดีหมายความถึง สวรรค์ มนุษยโลก และบาดาล. ภูมิ 4 (ชั้นแห่งจิต, ระดับจิตใจ, ระดับชีวิต 1. กามาวจรภูมิ (ชั้นที่ท่องเที่ยวอยู่ในกาม, ระดับจิตใจที่ยังปรารภกามเป็นอารมณ์ คือยังเกี่ยวข้องกับกามคุณ, ระดับจิตใจของสัตว์ในกามภพทั้ง 11 ชั้น 2. รูปาวจรภูมิ (ชั้นที่ท่องเที่ยวอยู่ในรูป, ระดับจิตใจที่ปรารภรูปธรรมเป็นอารมณ์, ระดับจิตใจของท่านผู้ได้ฌานหรือผู้อยู่ในรูปภพทั้ง 16 ชั้น 3. อรูปาวจรภูมิ (ชั้นที่ท่องเที่ยวอยู่ในอรูป, ระดับจิตใจที่ปรารภอรูปธรรมเป็นอารมณ์, ระดับจิตใจของท่านผู้ได้อรูปฌาน หรือผู้อยู่ในอรูปภพทั้ง 4 ชั้น 4. โลกุตตรภูมิ (ชั้นที่พ้นจากโลก, ระดับแห่งโลกุตตรธรรม, ระดับจิตใจของพระอริยเจ้าอันพ้นแล้วจากโลกียภูมิ 3 ข้างต้น ข้อนี้ในบาลีที่มาเรียกว่า อปริยาปันนภูมิ. การละสังโยชน์ อนาคามี เป็นชื่อเรียกพระอริยบุคคลขั้นที่ ๓ จากทั้งหมด ๔ ขั้นคือ ได้แก่ โสดาบัน สกทาคามี อนาคามี อรหันต์ พระอนาคามีเป็นผู้ละสังโยชน์เบื้องต่ำ (โอรัมภาคิยสังโยชน์) ทั้ง ๕ ประการได้แล้ว ยังเหลือสังโยชน์เบื้องสูง (อุทธัมภาคิยสังโยชน์) อีก ๕ ประการ คือ 1. รูปราคะ หมายถึง ความพอใจในรูปฌาน หรือ รูปธรรมอันประณีต หรือ ความพอใจในรูปภพ 2. อรูปราคะ หมายถึง ความพอใจในอรูปฌาน หรือ พอใจในอรูปธรรม เช่น ความรู้ เป็นต้น หรือ ความพอใจในอรูปภพ 3. มานะ หมายถึง ความสำคัญตนว่าเป็นนั่นเป็นนี่ เช่น เป็นพระอนาคามี (แม้ว่าจะเป็นจริงๆ) เป็นต้น 4. อุทธัจจะ คือ ความฟุ้งของจิต 5. อวิชชา คือ ความไม่รู้แจ้ง อนึ่งพึงเข้าใจว่า แม้สังโยชน์เบื้องสูงบางข้อจะมีชื่อเหมือนกิเลสอย่างหยาบที่ยังมีในปถุชน (ผู้ยังไม่เป็นบรรลุเป็นพระอริยบุคคล) เช่น มานะ อุทธัจจะ หรือ อวิชชา แต่สังโยชน์เบื้องสูงอันเป็นกิเลสที่ยังหลงเหลืออยู่ในจิตใจของพระอนาคามีนั้น เป็นกิเลสที่ละเอียดกว่าของปถุชนอย่างมาก สรุปพระอนาคามี หมายถึง การตัดกิเลส กามาวจรภูมิ (ชั้นที่ท่องเที่ยวอยู่ในกาม, ระดับจิตใจที่ยังปรารภกามเป็นอารมณ์ คือยังเกี่ยวข้องกับกามคุณ, ระดับจิตใจของสัตว์ในกามภพทั้ง 11 ชั้น ไม่ได้หมายความว่าพระพุทธเจ้าจะไม่กลับมาจุติบนโลกมนุษย์อีก เพื่อจะบรรลุพระโสดาบัน ปรินิพพาน ฝากถามหลวงพ่อพระสิ้นคิด เคยสอบนักธรรมตรีหรือเปล่า พระที่ผ่านการสอบนักธรรม จะเป็นพระสายนิกายมหายาน ส่วนธรรมยุตย์จะสอบสนามเปรียนธรรม พระสายนิกายมหายานส่วนใหญ่จะเรียนถึง นักธรรมตรี เทียบเท่า ม.3 นักธรรมโท เทียบเท่า ม.4, ม.5 นักธรรมเอก เทียบเท่า ม.ุ6 การสอบนักธรรมตรี จะยากกว่านักธรรมโท และนักธรรมเอก จะต้องเรียนพระไตรปิฎกทั้งหมด พระอนาคามี ใช่ว่าจะกลับมาเกิดไม่ได้ ถ้ายังมีกิเลสอยู่ สมมุติพระรูปนั้นหลงในกิเลส เช่น แอบแซบกับสีกา หรือแม่ชีสาว ก็คือไม่สามารถตัดกิเลสได้ก็เป็นพระอนาคามี ให้คุณศึกษาจะได้เข้าใจ

@@user-cc4cd3mq7k เป็น​วัตรปฏิบัติ​ของทั่วไป​ครับ​เพราะ​พระหาอาหาร​เองไม่ได้​เจตนา​ที่ห้ามคือไม่ให้เป็น​ภาระ​ของโยมและดัดนิสัย​ของพระไปด้วย คืออาจจะผิดวินัยหรือข้อห้ามที่บัญญัติ​ไว้แต่ไม่ใช่​เป็น​บาป​กรรมขนาดนั้น เหมือน​กรณี​มังสะ​10อย่างก่อนจะมีข้อห้าม​ก็​มาจาก​โลกะวัชระ​ ไม่ใช่ว่าสิ่งเหล่านี้​จะกีดขวาง​การบรรลุธรรม​

ออกกฎหมายออกมาเลย พระต้องจบ เปรียญธรรม 9 ประโยค สอนได้ เทศน์ได้ จะได้สอนไม่ผิด

ผมสนใจตั้งแต่เห็นคำว่าพระสิ้นคิดแล้วครับ..ไม่ผิดหวังจริงๆ

หลวงตาน่าจะไปโปรดสัตว์หน่อย

@@user-ex9ev9un4k ใช่แล้วคะ เสียเวลาปฎิบัติ ตั้งแต่เด็กจนโต เพื่อให้หลุดพ้น เมื่อพ้นกิเลสตัณหา ทั้งปวงแล้ว ไปแล้ว จะย้อนมาทูโทน เกิดแก่เจ็บตายอีก ใครจะปฎิบัติ

คนเราอ่ะนะ..ไม่มีอะไรให้ค้นหาแล้วจะมาทำไม..เว้นแต่จะเป็นองค์อื่น.นั่นก็อีกเรื่อง

รัยคะวงๆ