กินยาเยอะ กลัวเป็นโรคไต หยุดยาบ้างได้ไหม? 

ยินดีมากค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ดีใจที่ได้เป็นประโยชน์ค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณค่ะ แนะนำได้นะคะ

จนม

bird - Hatyai ขอบคุณมากครับ

ยินดีมากๆค่ะที่คลิปนี้มีประโยชน์

ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณค่ะ อยากให้หยิบเรื่องอะไรมาเล่า แนะนำได้นะคะ

ขอบคุณค่ะ ถ้าเป็นยากลุ่มนี้ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องไตนะคะ แต่อาจมีปัญหาอื่น เช่น มึนๆ ง่วงๆ ปวดหัว คลื่นไส้ อะไรประมาณนี้มากกว่าค่ะ

ได้ความมากๆครับ

ขอบคุณมากค่ะ ดีใจที่คลิปนี้มีประโยชน์ค่ะ

Fatma Kratad ขอบคุณเภสัช. ทิพย์ที่แนะนำครับ มนูญ

ขอบคุณค่า ^_^

@@pharmatips9699 ครับ..คุณทิพ..มีid line.ไหมครับ.จะปรึกษาเรื่องยา

สามารถโพสถามถามไว้ในนี้ได้เลยค่ะ หรือไปที่เพจ facebook.com/PharmaTipsStory

ยินดีค่า

ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ ^_^

ขอบคุณค่ะ อยากให้อธิบายเรื่องไหนเพิ่มแนะนำมาได้นะคะ ยินดีอย่างยิ่งค่ะ

ขอบคุณค่ะ^_^

:)

เมื่อไรที่สงสัยว่าอาจเกิดผลข้างเคียงจากยาก็ปรึกษาคุณหมอหรือเภสัชกรที่ รพ ที่เรารักษาประจำได้เสมอนะคะ

ขอบคุณค่ะ

1.อาการชาควรปรึกษาแพทย์ดีกว่าค่ะว่าเกิดจากอะไร 2. ไอบูโพรเฟ่น เป็นยากลุ่ม NSAIDs หากทานติดต่อกันนานๆ ต้องระวังเรื่องไตเหมือนกันค่ะ 3. โทฟาโก้ มีฤทธิ์หดหลอดเลือด อาจทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนอื่นไม่ดี. (ทำให้ชาได้ด้วยนะคะหากทานเยอะนานๆ) ไม่ควรทานทุกวันค่ะ หากปวดเป็นประจำควรปรึกษาแพทย์หาสาเหตุ หรือพิจารณายาอื่นด้วยค่ะ. อยากให้ไปฟังคลิปที่พูดถึงยาไมเกรนเพิ่มด้วยนะคะ ru-vid.com/video/%D0%B2%D0%B8%D0%B4%D0%B5%D0%BE-pTgGmYAt1bM.html

ยินดีค่ะ เป็นกำลังใจนะคะ

ขอบคุณค่า

ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ขออนุญาติถามก่อนว่าสาเหตุที่ทำให้ต้องกินยาระบายเพราะเหตุใดคะ โดยถ้าเป็นคนปกติทั่วไป มักจะไม่แนะนำให้กินประจำ กินเท่าที่จำเป็นเท่านั้นค่ะ มิฉะนั้นลำไส้จะคุ้นชินกับการถูกกระตุ้นด้วยยาถึงจะถ่ายได้ ถ้าไม่กินยาคราวนี้ก็จะถ่ายไม่ออก แต่ก็ยังมีคนไข้บางกลุ่มที่บางครั้งอาจจำเป็นต้องกินยาระบายประจำค่ะ ขึ้นอยู่กับภาวะโรคประจำตัวด้วยค่ะ

ยาตัวนี้มีผลข้างเคียงเรื่องไตน้อยมากค่ะ

ขอบคุณค่ะ >

ยาล้างไตส่วนใหญ่ที่คนไข้ชอบไปซื้อตามร้านยามากินเอง มักจะกินแล้วทำให้ปัสสาวะมีสี คนไข้เข้าใจว่ามันช่วยล้างสิ่งที่อยู่ในไตออกมา. แต่จริงแล้วมันคือ ยาแก้ปวดที่มีสี เมื่อกินเข้าไปเมื่อปัสสาวะออกมาจึงมีสีด้วย แต่ไม่ได้ช่วยล้างไตอย่างที่เข้าใจกันค่ะ

Pharma.Tips (เภสัชฯ ทิพย์หยิบมาเล่า) ขอบคุณค่ะ ถ้าช่วยไม่ได้ แต่ยาประเภทนี้มีขายแม้แต่ในร้านขายยา ทางองค์กรมีมาตรการควบคุมยาประเภทนี้อย่างไรคะ

@@pharmatips9699 ช

@@dillidill6214 ยาเหล่านี้ขึ้นทะเบียนเป็นยาแก้ปวดค่ะ ไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นยาล้างไต หรือฟอกไต คงต้องช่วยกันทำความเข้าใจกับประชาชนให้กว้างขึ้นค่ะ (ซึ่งยังมีความเข้าใจผิดกันอีกมากค่ะ)

เบื้องต้น แนะนำลองลดมากินแค่ 25 mg ดูก่อนก็น่าจะพอค่ะ เพราะแค่ 25 mg ก็แก้ปวดได้ดีแล้วค่ะ และจะได้ลดผลข้างเคียงเรื่องไตด้วยค่ะ. และที่กินเฉพาะเวลาปวดก็ช่วยได้มากเลยค่ะ

คุณชรินทร์คุมน้ำตาลได้ดีมากค่ะ เมื่อน้ำตาลในเลือดคุมได้ดี เราก็มีความเสี่ยงพอๆกับคนที่ไม่ได้เป็นเบาหวานเลยค่ะ อวัยวะภายในก็จะเสื่อมช้ากว่าคนที่มีน้ำตาลในเลือดสูงนานๆค่ะ ส่วนการกินมะระขี้นกเสริมนั้นหากอยู่ในปริมาณที่พอดี ไม่มากจนเกินไปก็อาจจะพอได้ค่ะ แต่อย่างไรก็ควรปรึกษาแพทย์ด้วยนะคะ

เนื่องจากอาหารเสริมส่วนใหญ่ จะไม่ได้มีกระบวนการวิจัยและติดตามผลการใช้ที่เข้มข้นก่อนผลิตออกขายเหมือนกับยาค่ะ. ดังนั้นอาหารเสริมส่วนใหญ่จึงมักอ้างอิงเฉพาะสรรพคุณ (ตามทฤษฎี) แต่ไม่มีรายงานผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นให้เราทราบอย่างเป็นทางการค่ะ แนะนำว่าก่อนใช้ควรประเมินตนเองว่ามีโรคประจำตัวอะไรที่ต้องระวังหรือไม่ หากมีควรหลีกเลี่ยงอาหารเสริมที่ไม่มีการวิจัยและรายงานแน่ชัด แต่หากเป็นคนสุขภาพดีและจำเป็นต้องใช้ แนะนำใช้ในระยะสั้นและหมั่นสังเกตความผิดปกติตนเองอยู่เสมอค่ะ

วิตามินถ้าทานในปริมาณไม่เกินที่แนะนำต่อวัน ก็ไม่ต้องกังวลค่ะ แต่ถ้าทานมากเกินกว่าที่แนะนำต่อวันก็ต้องระวังเรื่องการสะสมค่ะ โดยเฉพาะวิตามินที่ละลายในไขมัน เช่น วิตามิน A, D, E K มีโอกาสสะสมได้มากกว่าชนิดที่ละลายในน้ำ ก็ต้องระวังเรื่องผลข้างเคียงของการได้รับวิตามินเกินขนาดค่ะ

PharmaTips * เภสัชฯทิพย์หยิบมาเล่า ขอบคุณค่ะ บางทีกินวิตามินมื้อนึงหลายตัวพร้อมกันเช่น coQ10 fish oil. วิตามินC. วิตามิน B12 , collagen จะเป็นไรไหมคะ อันตรายต่อตับไตไหมคะ นอกจากต้องระวังเรื่องการสะสม

ขอทราบชื่อยาด้วยค่ะว่าทานตัวไหนอยู่ค่ะ

ยาแก้ปวดไมเกรน ควรใช้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็นค่ะ. เพราะจากลุ่ม ergotamine (เออโกตามีน) จะทำให้หลอดเลือดที่ขยายหดตัวค่ะ. หากใช้ยาเกินขนาดที่กำหนดต่อเนื่องกันนานๆ ก็จะทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆได้ไม่ดี ก็อาจทำให้เกิดความผิดปกติได้ค่ะ

ขึ้นอยู่กับกับชนิดของยาและผักที่รับประทานะค่ะ ยากับอาหารบางชนิดอาจมีผลต่อกันได้ค่ะ. หรือผู้ป่วยโรคไตบางรายก็ต้องระวังการทานผักบางชนิดค่ะ. แนะนำปรึกษานักโภชนาการประจำโรงพยาบาลที่รักษาอยู่ก็ได้นะคะ

รักษาได้ค่ะ แต่จะหายขาดไหมขึ้นอยู่กับอาการของแต่ละคน มีปัจจัยที่เกี่ยวข้องหลายอย่างค่ะ อย่างไรถ้าสงสัยว่ามีอาการผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์นะคะ

@@pharmatips9699 ขอบคุณคุณหมอนะคะ

ทั่วไปถ้าในคนสุขภาพปกติสามารถทานได้ต่อเนื่องค่ะ แต่ถ้าท่านใดมีโรคประจำตัว แนะนำปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทานจะดีกว่าค่ะ

โรคไทรอยด์ อาจพบอาการอื่นร่วมด้วยได้ แต่สามารถควบคุมอาการให้เป็นปกติได้นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

@@pharmatips9699 จ้า..ขอบคุณคร้า..เภสัช..หากมีปัญหาเรื่องยา..จะได้มาเรียนถาม..เภสัชจ้า..

ยินดีเลยค่า ^_^

อิอิ เจอบ่อยค่ะ แต่เมื่อทราบปัญหาแล้ว เรามาเริ่มต้นใหม่ได้นะคะ

แก้วมันร้าวไปแล้ว 5555

ปกติยาฆ่าเชื้อทั่วไป กินเพียงระยะสั้นๆ 5-7 วัน โอกาสเสี่ยงก็น้อยค่ะ (แต่ก็ขึ้นกับโรคประจำตัว และปัจจัยเสี่ยงอื่นๆที่ผู้ป่วยกำลังเป็นอยู่ด้วยค่ะ) ทั้งนี้ยาแต่ละชนิดก็มีความเสี่ยงมากน้อยต่างกัน คุณหมอจะพิจารณาปัจจัยเสี่ยงของผู้ป่วยแต่ละรายก่อนสั่งยาอยู่แล้วค่ะ หากบางภาวะที่จำเป็นต้องใช้นานๆ คุณหมอก็มักจะมีการประเมินดูให้เป็นระยะๆ ในยาที่มีความเสี่ยงสูงด้วยค่ะ

มีค่ะ แนะนำปรึกษาคุณหมอเพื่อสั่งใช้ยาที่เหมาะสมกับคนไข้ดีกว่านะคะ

PharmaTips * เภสัชฯทิพย์หยิบมาเล่า ขอบคุณค่ะ. แต่อีก 3 เดือน ถึงจะครบวันนัดค่ะ. คือท้องผูกมากค่ะ. รบกวนคุณเภสัช แนะนำได้ไหมค่ะ. (คือจะทานเแคช่วงที่ยังไม่ได้พบหมออ่ะค่ะ.) 🙏

ยาแก้แพ้ หรือยาภูมิแพ้ที่ส่วนใหญ่พบกินทุกวันนั้น อาจไม่ได้มีความเสี่ยงต่อไตให้เสื่อมลง แต่ก็อาจพบผลข้างเคียง เช่น ง่วงซึม ปากแห้ง คอแห้ง เสมหะและน้ำมูกเหนียวข้น ท้องผูก ปัสสาวะขัดในผู้ชาย ซึ่งอาจระวังการใช้ในผู้ป่วยโรคต้อหิน และโรคต่อมลูกหมากโต ซึ่งผลข้างเคียงของยาแก้แพ้แต่ละรุ่นก็มีมากน้อยต่างกัน จึงควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ด้วยค่ะ

กาบาเพนติน ไม่ค่อบพบปัญหาเรื่องไตค่ะ แต่อาจจะมีผลข้างเคียง มึนงง วิงเวียน ง่วงๆ ในช่วงแรกๆของการกินยาค่ะ แต่พอกินต่อเนื่องสักพัก อาการวิงเวียนจะค่อยๆดีขึ้นค่ะ

ขอบคุณมากๆครับ

ไทลินอล ตัวยาจริงๆก็คือ พาราเซตามอล ซึ่งหากใช้มากๆเป็นเวลานานๆ ก็ต้องระวังเรื่องตับค่ะ โดยทั่วไปไม่ควรเกิน 5 เม็ดต่อวัน (นน. 60 กก. แนะนำที่ 1 เม็ดพอค่ะ หากปวดมากจริงๆก็ไม่ควรเกิน 1 เม็ดครึ่งค่ะ) และไม่ควรใช้ติดต่อกันเกิน 5 วัน ลองดูคลิปเกี่ยวกับพาราเซตามอลที่เคยทำไว้นะคะ ru-vid.com/video/%D0%B2%D0%B8%D0%B4%D0%B5%D0%BE-e_azSKw_Iuc.html

Lidapha Songsai ถ้าคุณหมอตรวจแล้วเบาหวานและความดันไม่สูงมาก ร่วมกับคนไข้คุมอาหาร ออกกำลังกายแล้วคุมอาการเองได้ก็มีโอกาสไม่ต้องกินยาก็ได้ค่ะ แต่ถ้าเบาหวานหรือความดันยังสูงคุมไม่ได้ การกินยาสม่ำเสมอเพื่อควมคุมอาการไว้ก็จะช่วยชะลอไตเสื่อมได้นะคะ

กินยาตัวไหนพอจะระบุชื่อยาได้ไหมคะ เพราะแต่ละตัวมีผลมากน้อยต่างกันค่ะ และขึ้นกับสภาวะโรคประจำตัวของผู้ป่วยแต่ละคนด้วยค่ะ แต่เบื้องต้นแค่ 2 สัปดาห์และหยุดยาแล้วความเสี่ยงก็อาจไม่มากค่ะ (ยกเว้นผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงเรื่องไตอยู่เดิมค่ะ) ต้องพิจารณาเป็นรายๆไปค่ะ

@@pharmatips9699 ยากลุ่ม nsaid ครับ

ยากลุ่มเอนเสด ถ้าเดิมไม่มีความเสี่ยงเรื่องไต ก็กินต่อเนื่อง(ประมาณนึง)ได้นะคะ เช่น หมอกระดูก บางโรค หรือบางกรณีก็จำเป็นต้องให้ผู้ป่วยกินต่อเนื่องเพื่อลดการอักเสบ บวม แดง ร้อน ของกล้ามเนื้อ/กระดูกนานประมาณนึง(แล้วแต่คนค่ะ). แต่ก่อนสั่งยาคุณหมอก็จะประเมินค่าไตก่อนว่าปกติหรือไม่ค่ะ ถึงจะให้กินนาน แต่ถ้าเราไปซื้อยากินเอง หรือ แค่ปวดเล็กน้อยก็ควรกินเท่าที่จำเป็นค่ะ

กรณีลืมกินยา ก็จะทำให้ควบคุมอาการได้ไม่ดีค่ะ แต่อย่างไรก็ตามมันก็มีทางออกเมื่อเราลืมจริงๆนะคะ เช่น ถ้าเป็นยาความดันส่วนใหญ่ไม่ได้มีปัญหากัดกระเพาะ ดังนั้นให้กินทันทีที่นึกได้ก็ได้ค่ะ หรือตื่นมา แต่งตัวเสร็จกินเลยไม่ต้องรอมื้ออาหารก็ได้ค่ะ แต่ถ้าเป็นยาอื่นลองปรีกษาเภสัชกรใกล้บ้านดูอีกทีนะคะ เพราะยาแต่ละตัวมีรายลเอียดการใช้ที่แตกต่างกันค่ะ

โรคเดียวกันค่ะ นึ่กินมา35ปีแล้วปัจจุปันก็กินอยู่ ตรวจวัดค่าตับ ค่าไตปกติค่ะ

แคลเซี่ยมรับประทานระยะยาวอาจไม่ต้องกังวลเท่าไหร่ แต่ตัวยาข้อเข่าเสื่อมแก้ปวดที่คุณประภัสสรถาม อาจต้องขอดูชื่อยาก่อนนะคะเพราะยังไม่ชัดเจนว่าเป็นกลุ่มใด ถ้าเป็นพวกยาบำรุงน้ำในข้อก็กินระยะยาวได้ แต่ถ้าเป็นพวกกลุ่มแก้ปวด NSAIDs อาจต้องระวังเรื่องไตค่ะ

ขออภัยนะคะ เภสัชทิพย์อาจไม่ถนัดเรื่องสมุนไพร แต่โดยพื้นฐาน การเกิดผลข้างเคียงของยาอาจขึ้นกับปริมาณที่ได้รับ (ความเข้มข้น / ระยะเวลาที่ได้รับต่อเนื่อง) นอกจากนี้ขึ้นกับสภาวะร่างกายอื่นๆ ด้วย เช่น โรคประจำตัวที่เป็นอยู่ ยาประจำตัวที่ใช้อยู่ เพราะบางครั้งสมุนไพรอาจไม่ได้มีผลด้านลบโดยตรงกับเรา แต่อาจมาตีกับโรคที่เราเป็นอยู่ หรือยาที่เราใช้อยู่ได้ค่ะ

เภสัชทิพย์ไปเจอบางบทความที่พูดถึงข้อควรระวังไว้ด้วยน่าสนใจลองดูนะคะ xn--o3cdacwqkg3d4d7c0hc4d.blogspot.com/2014/07/1.html www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/226/%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%99-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89/

ขอบคุณค่ะ

รบกวนขอทราบชื่อยาได้ไหมคะ เพราะผลกระทบต่อไต แต่ละตัวก็ไม่เท่ากันค่ะ

เคยได้ยินหมอบอกว่าเป็นยาแก้อักเสบค่ะ

ในเบื้องต้นการดื่มน้ำตามมากๆก็เป็นสิ่งดีค่ะ แต่อย่างไรก็ตามก็อาจต้องระวังในบางโรคที่ต้องมีการจำกัดปริมาณน้ำค่ะ อาจปรึกษาแพทย์เพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคที่ท่านเป็นอยู่เพิ่มเติมด้วยว่ามีข้อห้ามหรือไม่จะยิ่งดีค่ะ

ยาฆ่าเชื้อไม่ค่อยพบปัญหากรดไหลย้อนนะคะ ส่วนยาแก้ปวดลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ (ยากลุ่ม NSAIDs) มักมีผลข้างเคียงระคายเคืองกระเพราะ อาจทำทำผู้ป่วยบางคนรู้สึก ปวดท้อง หรือแสบท้องได้ค่ะ

การกินแคลเซี่ยมไม่ทำให้เป็นโรคไตค่ะ สามารถรับประทานได้โดยเฉพาะผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนควรจะเสริมแคลเซียมไว้ เนื่องจากเมื่อฮอร์โมนลดลงก็จะมีโอกาสกระดูกพรุนได้ง่ายค่ะ

@@pharmatips9699ตัดมดลูกรังไข่ นานแล้วค่ะ คุณหมอให้ทานแคลเซี่ยมตั้งแต่นั้น ขอบคุณนะคะที่ให้ความรู้

ถ้าตัดรังไข่แล้วแนะนำกินต่อค่ะ เพราะฮอร์โมนจะยิ่งต่ำยิ่ง โอกาสกระดูกพรุนจะง่ายค่ะ

กินต่อเนื่องได้เลยค่ะ

ปกติการตรวจค่าตับ ค่าไต ถ้ามีโรคประจำตัวอยู่แล้วบางทีคุณหมอก็จะคอยเจาะเลือดตรวจเป็นระยะๆ อยู่แล้วค่ะ อาจลองสอบถามกับคุณหมอที่รักษาประจำก็ได้ค่ะ โดยค่าตับ ค่าไตนี้ตรวจได้ทั้ง รพ. และคลินิกค่ะ

@@pharmatips9699 คับผมขอบพระคุณมากครับ ผมถามมาหลายๆคลิบของคุณหมอๆไม่เคยตอบผมเลย ขอบคุณครับ

ทานต่อเนื่องได้ค่ะ

ค

ขอบคุณค่ะที่ให้ความรู้

ขอบคุณค่ะ

ทุกวันนี้ยังกินยาเบาหวานอยู่มั้ยคะ ที่น้ำตาลลดลงในเกณฑ์ปกติเพราะยาช่วยควบคุมอยู่ถ้าหยุดยาน้ำตาลก็จะสูงขึ้นมาอีกค่ะ

ขึ้นอยู่กับกับชนิดของยาค่ะ มีผลมากน้อยต่างกัน แต่คุณหมอจะทราบค่ะ และคอยเจาะเลือดตรวจดูเป็นระยะๆให้อยู่แล้วค่ะ. อย่างไรแล้วยาต้านก็ยังสามารถกินระยะยาวๆได้ค่ะและก็มีความจำเป็นต้องใช้ระยะยาว. คุณหมอจะช่วยดูให้เป็นระยะๆนะคะ ในส่วนคนไข้ก็รักษาสุขภาพด้วยก็จะช่วยได้ค่ะ

ยาเกาต์มีหลายชนิดค่ะ บางตัวกินเฉพาะเวลาปวด. เช่นยาลดอาการปวด อักเสบ. แต่บางตัวก็ต้องกินตลอด เช่น ยาที่ขับยูริค หรือลดกรดยูริค ขึ้นกับว่าตอนนั้นคุณหมอให้ยาตัวไหนมาค่ะ

ล

ยาคุมเลยีนแบบฮอร์โมนในร่างกายไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องไตค่ะ

แนะนำทานยาสม่ำเสมอนะคะ เพราะ หากคุมความดันสูงไม่ได้ หรือ น้ำตาลสูงนานๆ มีโดอกาสจะทำให้ไตเสื่อมได้มากกว่าค่ะ