ปกป้อง 4 สิ่งที่คนเป็นโรคหลงตัวเอง ต้องการจากคุณ 

ถ้าเคยเจอคนแบบนี้เราคือเพื่อนกันคะ

โอ่ว ใช่เลย

เหมือนกันค่ะฉันอยู่กับคนแบบนี้จนตัวเองจะเป็นโรคประสาทอยู่แล้วทุกวันนี้ไมเกรนขึ้น

จริงค่ะ ยิ่งถ้าเขารู้ว่าเราเอาเขาไปพูด เขาก็จะเก่งในการแก้ตัว กลับกลอกเรื่องราวให้เรากลายเป็นคนผิด คนไม่ดีในสายตาคนอื่น ขนาดเราไม่เอาเขาไปพูดถึง...ไม่เคยเอาไปพูดกับใครเลย แต่พอมีปัญหากัน เขาก็กลับโบ้ยความผิดมาที่เรา แถมยังฉลาดโบ้ยด้วยนะ คือ เรื่องที่มีปัญหาเป็นเป็นเรื่องที่เขาไปมี คสพ. กับคนอื่น แต่พอเขามาคุยเคลียร์กับเราเขากลับมาต่อว่าเราหาว่าเราทำเหมือนเขาเป็นเด็ก อะไรประมาณนี้ คือเขาฉลาดในการเบี่ยงประเด็น เพื่อเอาตัวรอด แล้วทำให้เรากลายเป็นคนผิดในสิ่งที่เขาโบ้ยมาให้เรา

ใันใช่จริงๆ อยู่กันมาตั้งนานเพิ่งรู้ เอ้อ

yes

เคยเจอพวกหลงตัวเองมาแล้ว ร้ายมาก

ทำยังไงหรือครับ

แร้วผ่านมาได้ยังไงคะ ตอนนี้ตกอยุ่ในอาการนี้เลยคะ ไม่รุ้จะเริ่มต้นใหม่ยังไง

@@user-bn5hb9mt9n ทางเดียวคือ อยู่ห่างๆคนพวกนี้ให้มากที่สุด อย่าเก็บเอาสิ่งที่เขาพูดเขาคิดมาคิดตาม คนพวกนี้คิดว่าตัวเองรู้หมดทุกอย่าง เหยียบย่ำคนอื่นให้ต่ำลง ถ้ามีศัตรูเป็นคนพวกนี้ หนีค่ะ อย่าได้เข้าใกล้ จะได้ประโยชน์ได้กับคนพวกนี้ก็ต่อเมื่ออยู่ต่ำกว่าเรา ตามที่เราอ่านๆข้อมูลมาและเจอเองกับตัว คนที่เป็นเขาไม่รู้ตัวว่าเป็น คนอยู่ใกล้พลอยรู้สึกตกต่ำไปด้วย

สถานการณ์เดียวกันเลยค่ะ

ของเราอาจจะเบากว่าเพราะคนเป็นคือพี่สาวเรา

พี่สาวก็เป็นค่าแต่เราออกห่างมาแล้วมีความสุขขึ้นเยอะเลยค่า​@@pannipataweesakcharoenphol

หลงรักเธอไปแล้ว ทำงัยได้ครับ..

เจออยู่ค่ะ เหมือนกันเลย เขาป่วยค่ะ พยายามออกห่างไปดีแล้ว

สาวน้อย กาสะลอง ขอบคุณที่ติดตามรับชมนะคะ การที่จะปลีกตัวจากบุคคลเหล่านี้ ทำได้ไม่ง่ายเลยจริงๆค่ะ แต่ก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณ สาวน้อย กาสะลอง อย่าท้อแท้หมดหวังนะคะ พยายามยืนหยัดในความเป็นตัวตนของคุณนะคะ และหวังว่าบุคคลคนนั้นจะเลิกกดดันความรู้สึกของคุณไปในวันหนึ่ง แต่ยิ่งถ้าบุคคลคนนั้นเป็นบุคคลใกล้ตัว คุณก็ยิ่งจะต้องไม่ลืมที่จะปลอบใจตนเองอยู่เสมอนะคะ เพราะเขาอาจจะทราบจุดอ่อนของเรา และพยายามทำให้เราเสียใจอยู่บ่อยๆได้ ดังนั้นขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้คุณนะคะ ขอให้ก้าวผ่านอุปสรรค ความทุกข์ใจทุกสิ่งไปให้ได้นะคะ

ผมก็กำลังเจอคนแบบนี้อยู่ครับ..55

โชคดีมาหเลยที่หลุดพ้นได้ เรากำลังหาทางอยู่คับ😢

เลิกได้เลิกค่ะ คนประเภทนี้ไม่มีความเห็นอกเห็นใจคนอื่น เจ้าคิดเจ้าแค้น โกหก ( ประสบการณ์ตรงค่ะ)

@@mayuree72 ถูก

เหมือนกันเลยครับ ล้าใจ สูญเสียความเป็นส่วนตัวจากเคยมั่นใจกลายเป็นคล้ายๆสมองเบรอไปเลยและไปตัดความสัมพันธ์ของคนรอบข้างที่เราคบหาดีๆเหมือนมันจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้เราเป็นทุกข์แล้วจะขโมยความสุขของเราไปใส่แทนจ้องแต่จะกัดเราโชคร้ายกับตัวเองและเพื่อนๆจริงๆครับที่มาเจอกับคนพวกโรคจิตรวิปริตนาร์ชิชิสต์ประเภทนี้ใด้แต่ภาวนาให้กลุ่มคนที่หวังดีช่วยให้หลุดพ้นจากวงจรโรคจิตรนาชิสต์ด้วยเถิด สาธๆๆๆๆ

Narc เก่งเรื่องหว่านล้อมคนให้ฟังตัวเองพูดด้วย ทึ่งจริงๆ ในความมั่นใจในตนเองของ narc ติวสอบ​ให้เขา แต่พาตัวเองและคณะร่วงหมด แต่ๆๆ ข้อสอบมีปัญหานะ ไม่ใช่เค้าทำผิด หัวร้อนใหญ่เลย​ 5555

ตอนนี้ผมก็เจอคนแบบนี้อยู่..เพลียใจมาก.

กำลังเจออยู่ค่ะ😅😅

สวัสดีค่ะ เป็นสิ่งที่ดีมากๆเลยค่ะ ที่คุณมีความต้องการที่จะปรับปรุงตนเองและเข้าใจผู้อื่นให้มากขึ้น อันนี้ถือเป็นข้อดี ที่ดิฉันมองว่าคุณอาจจะสามารถปรับปรุงบุคลิกและพัฒนาความรู้สึกได้ง่ายขึ้น เพราะก่อนจะแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับตัวเราเอง เราต้องกล้าที่จะยอมรับและมองหาข้อด้อยในตัวเราเองก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งคุณมองเห็นถึงข้อเสียที่คิดว่าตนเองควรพัฒนาและปรับปรุง อันนี้ดีมากค่ะ จริงๆแล้วการที่เราเงียบๆ ก็ไม่ได้เป็นการแสดงออกในทางลบเสมอไปหรอกจริงไหมคะ บางคนอาจจะเป็นคนเงียบๆ เป็นคนไม่ค่อยพูด แต่เมื่อได้พูดคุยด้วยก็รู้สึกว่าเป็นคนมีความคิดเห็นน่าสนใจ ไม่ได้โกรธหรือไม่ชอบผู้อื่นแต่อย่างใด หรือบางทีเราอาจจะเจอเรื่องรบกวนใจ ไม่ต้องการพูดคุย ก็เป็นไปได้เช่นกัน หากเราลองเลือกที่จะ ยอมรับคนอื่นในแบบที่เขาเป็น และตัวเราปรับเปลี่ยนตัวเราใหม่ในแง่ที่ว่า เราอาจไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับความรู้สึกของบุคคลอื่นๆเสมอไป เพราะเราไม่ทราบได้เลยว่าคนอื่นๆเขาจะคิดเกี่ยวกับเราหรือไม่ หรือเขาอาจจะคิดแล้วเขาก็ไม่ได้สนใจ เพราะต่างคนก็มีความคิดเป็นของตัวเอง ในขณะเดียวกัน การกระทำของบุคคลอื่นก็ไม่ได้มีผลต่อความรู้สึกของเราเช่นกัน จริงไหมคะ เว้นแต่ว่าเราเอาใจเราไปจดจ่อ ไปเก็บมาตีความหมายให้กลายเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับเรา แบบนี้ เราก็คงจะมีหลายเรื่องมาให้คิดน่าดู (ถ้าจะใช้หลัก CBTหรือพวกการจัดการกับความคิด เราก็ต้องพยายามให้เหตุผลกับตัวเอง ว่าทำไมเราจึงไม่ควรทำพฤติกรรมที่เราควรปรับปรุง (Cognitive changes) และเมื่อให้เหตุผลกับตัวเองแล้ว ก็หันมาปรับเปลี่ยนอารมณ์ของเรา (Emotional changes) และปรับเปลี่ยนการกระทำของเราในท้ายที่สุด (Behaviour changes) ยกตัวอย่างเช่น หากเราชอบแข่งขันกับผู้อื่น เรารู้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี และเราควรพยายามบอกกับตนเองถึงข้อเสียของการกระทำนั้นๆ ดังนั้นเราจึงควรจัดการกับความคิดโดยการบอกตัวเอง ถึงข้อเสียของพฤติกรรมนั้น Ex. ตัวเขาไม่ใช่ตัวเรา จะมาให้เป็นเหมือนกันได้อย่างไร (changing your cognition, your perspective) เมื่อเข้าใจเช่นนั้นแล้ว เมื่อเราเห็นว่าเพื่อนเก่งกว่าเราก็จะต้องพยายามนึกถึงความคิดใหม่ของเราให้ได้ว่า ข้อดีของการไม่แข่งขันคืออะไร เราไม่ต้องเหนื่อย คอยทำตามใคร และอารมณ์ของคุณก็ควรจะต้องปล่อยวางลงเมื่อเห็นคนอื่นประสบความสำเร็จ พยายามไม่โกรธ ไม่คิด (changing your emotion) ให้โฟกัสที่เหตุผลที่คุณบอกตัวเอง แล้วการกระทำก็จะเปลี่ยน นั่นคือคุณก็ไม่ทำกิจกรรมนั้นๆแข่งกับคนอื่น (finally you change your behaviour ) เพราะแต่ละคนก็มีเรื่องราว มีความคิดแตกต่างกันไป เราควบคุมคนอื่นไม่ได้มาก และถึงเราจะพยายามควบคุมคนอื่นได้ พยายามสร้างการกระทำที่ดึงดูดความสนใจ แต่เราจะทำสิ่งเหล่านั้นไปเพื่ออะไร อยากให้คุุณNot Max ลองพยายามทบทวนดูค่ะ และหากคุณNot Max มีความรู้สึกว่ามีอาการของโรคหลงตัวเอง ดิฉันขอสอบถามถึงประสบการณ์ในช่วงวัยเด็กนิดนึงนะคะ คุณมีความรู้สึกแบบนี้มานานแล้วหรือยังคะ เคยรู้สึกว่าจะต้องทำทุกอย่างให้ดีกว่า(หรือเหมือน)กับคนอื่น เพื่ออะไร(หรือเพื่อเอาใจใคร) และถ้าคุณทำไม่ได้ดั่งใจ ผลกระทบจะเป็นอย่างไร คุณรู้สึกกับตนเองอย่างไร เพราะความคิดของเราอาจมีผลมาจากการถูกเลี้ยงดูได้มากพอสมควร ไม่ทราบว่า ประสบการณ์ในวัยเด็กพอจะเกี่ยวโยงกับความรู้สึกของคุณบ้างไหมคะ อยากให้คุณลองทบทวนความรู้สึกในวัยเด็กดูค่ะ เพราะบางทีวัยเด็กที่ถูกกดดันก็มีผล ต่อความคิดของเราเมื่อโตขึ้น และการที่จะแก้แนวคิดของเรา เราคงจะต้องทบทวนรากฐานการถูกเลี้ยงดูของเราก่อน เพื่อที่จะเข้าใจถึงปัญหาที่เรามี หากเรารู้สึกว่าต้องแข่งขัน เพื่อให้ผู้ปกครองมาชื่นชมเรา แน่นอนเราก็จะเคยชินกับการกระทำนั้นๆ ดังนั้นก็ต้องมาปรับเปลี่ยนใหม่โดยการปล่อยวางความต้องการเพอร์เฟคนั้นลง ดิฉันขอฟังความรู้สึกในช่วงวัยเด็ก หรือเหตุผลที่ทำไมคุณถึงต้องแสดงพฤติกรรมของโรคหลงตนเอง หากคุณพอจะอธิบายให้ฟังได้ เราจะได้มาดูกันว่า คุณพอจะปรับเปลี่ยนความคิดตรงไหนได้บ้าง การกระทำใดบ้างที่คุณควรปรับปรุง เพื่อที่คุณจะได้สานความสัมพันธ์กับบุคคลรอบข้างได้อย่างมีความสุขมากขึ้นนะคะ การปรับปรุงตัวเองทำได้ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ

@@thebodyandsoul_bygiftparichat ขอบคุณพี่หมอมากนะคับ😁🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏 ความรู้สึกตอนเป็นโรคนี้ผมก็เริ่มจำไม่ได้แล้วคับ เพราะพอรู้ตัวและยอมรับ มันเหมือนตื่นจากฝันอะไรสักอย่างจริงๆ อาจจะเป็นเพราะผมไม่อยากจะนึกถึงมันด้วย แต่ก็พอจะอธิบายความแตกต่างได้คับ ตอนเป็น ผมจะคิดและสร้างภาพแทบจะทุกนาทีคับ มันจะต้องไม่มีด้านมืด หรือความหน้าอายให้ใครเห็น มันจะเหนื่อยมากๆ เพราะต้องคงบุคคลิค ไว้ตลอดเวลา ตอนนี้ สมองมันสบายมากจริงๆ ผมเริ่มคุยกับพี่ แล้วก็แสดงตัวตนได้ธรรมชาติมากๆคับ ผมคิดอะไรน้อยลงหลายเท่า ตอนเป็น ผมมองว่าตัวเองควบคุมความรู้สึกนึกคิดตัวเองได้ อย่าง ถ้าผมเศร้าจากอะไรสักอย่าง ผมจะรีเซ็ตตัวเองได้เร็ว เพราะคิดว่า ของแค่นี้ควบคุมได้ง่ายๆ ตอนนี้ ผมพยายามไม่คิดอะไรเลย ผมทำไปโดยไม่คิดอะไร เป็นธรรมชาติ เพราะผมกลัวว่าถ้าผมคิดจะควบคุมอะไรอีก ผมอาจจะคิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้าอีก ช่วงนี้ ผมก็เริ่มล้างสมองตัวเองทุกครั้งเวลาคิดจะทำอะไรที่เป็นอาการของโรคนี้ อย่าง พยายามคิดอะไรหลายอย่างพร้อมกัน พยายามไม่แสดงความรู้สึก พยายามเพอร์เฟ็ค พอผมทำตัวปกติ มันรู้ได้เลยว่า โคตรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร สบายจริงๆคับ บางครั้ง แค่อยู่ต่อหน้ากล้อง หรือกล้องวงจรปิด ก็สร้างภาพได้คับ ผมคงจะอธิบายทั้งหมดเองไม่ได้ เพราะความจำมันเลือนลางมากจริงๆ ปัญหาของผมที่เหลืออยู่คงจะเป็นวิธีเข้ากับคนอื่นคับ เพราะเมื่อก่อนผมใส่หน้ากากตลอดเวลา และพยายามเข้ากับทุกคน ทำให้ผมไม่รู้วิธีหาเรื่องคุย หรือต่อประโยค มันค่อนข้างยากคับ ถึงจะพยายามคุยกับคนในครอบครัวมากขึ้นแล้ว ถึงตัวเองจะธรรมชาติแต่ก็ยังไม่รู้วิธีทำให้คนอื่นมีความสุขคับ

Not Max ดีใจที่ได้ยินค่ะ ว่าคุณเห็นถึงข้อดีของการปล่อยวาง และเป็นตัวของตัวเองค่ะ นี่คือคุณสมบัติของคำว่า ความมั่นใจในตัวเอง หากคุณมั่นใจในการกระทำที่ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร ไม่ว่าคุณจะทำพลาด คุณจะทำดี คุณไม่ต้องคอยพะวง ว่าใครจะคิดยังไง คุณก็คงจะมีความสุขแล้วในะระดับหนึ่ง ส่วนบุคคลรอบข้าง เขาก็จะรับรู้ความรู้สึกจากที่คุณมีต่อตัวเองนี่แหละค่ะ หากคุณไม่กังวล คนอื่นก็จะไม่กังวล แต่หากเราเสแสร้งว่าเราไม่กังวล ความไม่กังวลของเรามันก็จะแสดงออกมา ในแบบที่อึดอัด ในแบบที่ไม่เป็นธรรมชาติ คนอื่นก็จะพลอยรู้สึกไปด้วยได้ หรือถึงแม้เขาจะไม่รู้สึก เราก็รู้สึกต่อตัวเองอยู่ดี เพราะฉะนั้นขอเป็นกำลังใจให้ ให้คุณซื่อสัตย์กับตัวเองต่อไปนะคะ เป็นตัวตนของตัวเอง ฝึกบ่อยๆ ให้เป็นคนปล่อยวาง ฝึกให้คิดดีๆกับตัวเอง และคิดหวังดีกับผู้อื่น แต่แน่นอน เราก็ไม่ลืมขอบเขตของสิ่งที่เราชอบและไม่ชอบ หากการกระทำไหนที่เราไม่ชอบในตัวบุคคลอื่น ก็เรียนรู้ที่จะบอกออกไปตรงๆ การกระทำใดที่เราไม่ชอบในตัวเรา หรือมีใครบอกให้เราปรับปรุง เราก็ปรับปรุง ดิฉันเชื่อว่า หากพยายามปรับปรุง พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ บุคคลรอบข้างคุณก็จะรู้สึกดีไปกับคุณด้วย และเมื่อคุณมีความสุขกับการเป็นตัวของตัวเอง บุคคลรอบข้างเขาก็จะรู้สึกได้ และมีความสุขกับคุณไปด้วยค่ะ อดีตหรือวัยเด็กที่ทำให้คนๆนึงสร้างเกราะมาปกปิดตัวเอง มันจะไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว เมื่อบุคคลคนนั้นเข้มแข็งพอที่จะปล่อยวาง แล้วก็ใช้คำว่า"ช่างมัน" ไปบ้าง กับสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น ชีวิตก็จะมีความสุขขึ้นนะคะ ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ

@@thebodyandsoul_bygiftparichat ขอบคุณพี่หมอมากๆๆๆๆจริงๆคับ ผมจะพยายามคิดทบทวนทุกอย่าง และหลุดจากอาการพวกนี้ให้ได้คับ 😁😁😁😁😁😁😁😁😁😁😁😁😁😁 🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏 ขอบคุณสำหรับคำแนะนำมากๆคับ ผมจะได้สบายขึ้นและให้คนรอบข้างหายอึดอัดสักที😁

@@tedtx1602 พอดีคนที่เจออยุ่ตอนนี้เขาเปนคะ อยากจะรุ้ถึงความรุ้สึกนึกคิดของเขาคะ อัดอัดและเครียดมากคะที่เขามากดดันเรา พี่จะพอให้คำตอบได้ไหมคะ อยากถามกับคนที่เปนโดยตรงคะ

วิธีนี้อาจยากและใช้เวลานานมากหน่อย คือ ทำให้ชีวิตเราประสบความสำเร็จแบบมากๆครับ เดี๋ยวมันหายจากชีวิตเราเอง

ขอบคุณที่ติดตามรับชมนะคะ และดีใจที่ข้อมูลมีประโยชน์ต่อคุณผู้ฟังค่ะ ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้กับคุณในทุกๆเรื่องค่ะ

สวัสดีค่ะ ขออภัยที่มาตอบช้านะคะ หากมีอะไรที่ดิฉันให้คำตอบได้ สามารถเขียนอีเมล์เข้ามาปรึกษากันได้ที่ wethebodyandsoul@gmail.com ค่ะ ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ขอขอบคุณที่ติดตามรับชมค่ะ

สวัสดีค่ะ ขอขอบคุณที่ติดตามและสนใจต้องการสั่งซื้อหนังสือEbookนะคะ โดยหน้งสือ Ebook It's all about Me... เป็นบทความสั้นๆ ที่ดิฉันเขียนขึ้น เกี่ยวกับโรคหลงตัวเองในแบบคร่าวๆ จัดจำหน่ายในราคา 59 บาท สามารถสั่งซื้อได้ผ่านทางลิ๊งค์ ของทางGoogle Play นี้เลยค่ะ play.google.com/store/books/details?id=c4LnDwAAQBAJ แต่เนื่องด้วยหนังสือ ตรวจเจอคำสะกดตกหล่นพอสมควร ดิฉันต้องขออภัยในข้อผิดพลาดไว้ ณที่นี้ด้วยนะคะ และขอเปิดให้คุณผู้อ่าน อ่านฟรี เพียงส่งอีเมล์ มาที่ wethebodyandsoul@gmail.com โดยระบุหัวข้อว่า "สนใจหนังสือ It's all about Me" เพียงเท่านี้ ดิฉันจะจัดส่งลิ้งค์ เพื่อเข้าสู่ไฟล์หนังสือ ได้เลยค่ะ ขอขอบคุณที่สนใจ และติดตามรับชมกันค่ะ

จะช่วยได้มากไหมครับ

ดูคลับไฟร์​เดย์​เชฟป้อมนะคะ

ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างค่ะ

​@@user-hf4th6bf2vคิดว่าดีขึ้นค่ะหรืออาจจะเป็นเราที่เกิดความเคยชินสามวันดีสี่วันใข้😂

แชร์การปรับตัวได้??ค่ะ เพราะมีญาติเป็นสงสารมาก

​@@user-hf4th6bf2vยากค่ะแต่ส่วนตัวพูดก็ผิดไม่พูดก็ผิด ยกยอชื่นชมอย่าเถียงเดี๋ยวมันก็ผ่าน แล้วฟังรายการต่างๆเพื่อให้กำลังใจตัวเองให้ผ่านเวลานั้นให้ใด้ สู้ไปด้วยกันนะค่ะ