เมื่อตัดขาดกับ Narcissist ไม่ได้ จะอยู่ร่วมกันอย่างไรดี 

เหมือนกัน แม่เป็นโรคนี้ โครตเป็นพิษ

เหนื่อยมากจริงๆค่ะ ตัวเราเองก็เป็นซึมเศร้า สู่กับตัวเองก็ยากอยู่แล้วค่ะ

โห!!!!! เราว่าเราเจอกับแฟนตัวเอง ก็ว่ายากละนะ นี่แม่เทอเลยอะ สู้ๆนะคะ

หัวอกเดียวกันเลยครับ แม่ผมก็เป็น

ถูกหมดค่ะไม่มียารักษาหรือคะ

บางคน อยู่มาตลอดซีวิต ยังไม่รู้เลย

จริงมากครับ ผมโดนแม่กระทำแบบนี้มาทั้งชีวิต เขาไปยุแย่ให้พี่ๆน้องผม มาทะเลาะกัน แล้วเขาดูไม่สำนึกผิดเลย แถมมีหลายครั้งด้วย

ใช่คะโดนมาเหมือนกัน😢

หนีเลย คนประเภทนี้กลัวตายคะ

ใช่กัดไม่ปล่อยจริงจริง😅คนแบบนี้รอเวรกรรมสนองกลับอย่างเดียว

Barbarian 12 สวัสดีค่ะ ดิฉันเข้าใจดีเลยค่ะว่าบุคคลเหล่านี้จะพยายามทำทุกวิถีทาง ที่จะทำให้เราไม่มีความสุข ไม่ทราบว่าระดับความสัมพันธ์ของคุณกับเขาเป็นอย่างไรคะ ยังสามารถพูดคุยกันได้บ้างหากจำเป็นหรือปล่าวคะ หรือว่าไม่สามารถพูดคุยกันได้เลย ดิฉันคิดว่าบุคคลคนนั้นคงพยายามที่จะทำให้คุณโมโห และเขาก็คงจะยิ่งได้ใจ เพราะรู้ว่าจะทำให้คุณโมโหได้ ส่วนตัวดิฉันคิดว่าการไม่พยายามไปสนใจและอาจพยายามพูดคุยด้วยเหตุผล โดยอาจจะยอมบอกเขาไปตรงๆว่าหากคุณทำอะไรที่เขาไม่ชอบใจ ก็ต้องโทษด้วย (บุคคลเหล่านี้ คาดหวังว่าตนเองต้องถูกต้องเสมอ เก่งและดีที่สุดเสมอ) เพราะฉะนั้น หากเขาได้ยินคำขอโทษของคุณ มันอาจทำให้เขาตกอยู่ในวังวน ว่าคุณยอมรับผิดและคล้อยตามเขาไปในที่สุด ปล่อยให้เขามโนในสิ่งที่เขาต้องการไป แต่ในขณะเดียวกัน คุณก็พยายามที่จะเอาตัวเองออกมาจากคนคนนี้ให้ได้มากที่สุด หรือจะเรียกว่าการGray rockก็ได้ค่ะ คือการปล่อยวาง ไม่สนใจใดๆ อย่างที่คุณพยายามทำอยู่ แต่ดูเหมือนเขาจะยังพยายามตอแยกับคุณอย่างไม่ลดละ ซึ่งก็อาจมาจากความต้องการที่จะเอาชนะคุณ ดังนั้นหากคุณลองบอกขอโทษเขาไป ดิฉันหวังว่ามันอาจจะทำให้เขาเลิกที่จะมาตอแยกับคุณสักทีนะคะ และในขณะเดียวกันก็พยายามเซฟตัวเอง โดยการหลีกเลี่ยงที่จะพบเจอให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ค่ะ หลายๆคนต้องถึงกับย้ายที่ทำงาน ย้ายที่อยู่ เพราะทนความคิดร้ายของบุคคลเหล่านี้ไม่ไหว ดังนั้นดิฉันหวังว่า หากคุณใช้วิธีไม่ยุ่งเกี่ยวโต้ตอบก็แล้ว ยังไม่ได้ผล คุณอาจจะต้องลองใช้วิธีทำดี เออออให้เขาได้วางใจไป แต่ในขณะเดียวกัน คุณก็ห่างหายออกมา ไม่สนใจ ไม่ตอบโต้ คิดเสียว่าเขาไม่มีตัวตน แต่แน่นอนเขาก็จะพยายามมาวนเวียน ขอความช่วยเหลือ มาทำให้รำคาญใจ แต่ก็ขอให้คุณบ่ายเบี่ยงไปดีๆ หรือไม่ตอบโต้ให้ได้มากที่สุดนะคะ มันอาจเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก แต่ก็ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ บุคคลเหล่านี้แท้จริงแล้วไม่มีความสุข ดังนั้นเขาจึงพยายามก่อกวนเรา แต่หากเรายังคงไม่หวั่นไหว ยังคงสงบอยู่ได้ ก็ได้แต่หวังว่าบุคคลเหล่านี้ก็จะแพ้ภัยตัวเองไปในที่สุดนะคะ ขอให้คุณสู้ๆค่ะ

@@thebodyandsoul_bygiftparichat ความสัมพันธ์คือ ผมกับบ้านมัน ตอนนี้ไม่ถูกกันตั้งแต่ วันที่ 9 มี.ค. ที่ผ่านมา ของผมนี่ มันพยามสร้างเรื่องราว ให้ลูสาวมาสร้างความสัมพันธ์กับผม และ ให้เมียมาเป็นตัวป่วน ในความสัมพันธ์ โดยมีมันหัวหน้าครอบครัว คอยบงการอยู่เบี้องหลัง ในวันที่ผมเห็น ตัวตนที่แท้จริงของมัน ผมก็คิดย้อนถึง เรื่องราวที่ผ่านมา ผมก็ได้คำตอบ ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับตัวผม คือ มันเป็นคนบงการทั้งหมด วันที่มันแจ้งตร.มันว่าผม คิดไปเองทั้งเพ ทำให้ผมไม่แน่ใจในความจริง ในสิ่งที่เกิดขึ้น(ตอนนั้นผมยังไม่เคยรู้จักโรค npd ) มันคือพฤติกรรมแก็สไลท์ติ้งนั่นเอง มาปั่นหัวผม พอตอนนี้ผมเห็นตัวตนที่แท้จริง มันกลัวถูกเปิดโปงมั้งผมว่า มันเลยลุกผมหนัก ใส่รัายป้ายสีผมสารพัด แต่ผมไม่โต้ตอบ อีกอย่างคับ มันพยายามเลียนแบบบุคลิกผม ต้องการทำลายตัวผม และ ก็อบปี้ไปเป็นของมันเอง ที่ผมรู้เพราะผมนึกย้อนกลับไป สิ่งที่มันเคยทำกับผม ผมดูคลิปของคุณกิ๊บ ผมเลยได้รู้ทันมัน ว่าสิ่งที่มันทำคืออะไร แต่ปัญหาคือ ผมจะต้องทำอย่างไร ที่จะได้ชีวิตอันสงบสุข กลับคืนมา ผมแจ้งความได้มั้ย เพื่อเป็นหลักฐาน ว่ามีการคุกคามจากคนพวกนี้ ช่วยชี้แนะทางรอดให้ผมด้วย

@@0855882044 ถ้าผมเป็นคุณ ผมฆ่ามันตายไปแล้ว

ผมคนเป็ฯแม่เลยละ เครียดทุกวัน เจอคำพูดแย่ๆทุกวัน

ถ้าเป็นแค่เพื่อนก็ถอยออกมา

Npd เขาไม่ค่อยไปหาหมอนะครับ ถ้าไปหาเพราะเครียด หรือซึมเศร้าก็อาจเป็นไปได้ แต่พฤติกรรมบางอย่าง ที่คล้าย npd ก็อาจไม่ใช่ก็ได้ หรือเป็นโรคอื่นก็ได้ อย่าง bpd ก็มีอาการคล้ายครับ แต่ bpd จะมีโอกาสยอมรับในตัวโรคมากกว่า และมีการเข้าอกเข้าใจคน มากกว่า

ได้เลยค่ะ คำว่า 'เอ็มแพท' ที่ว่า สะกดดังนี้ค่ะ 'Empath'

@@thebodyandsoul_bygiftparichat ขอบคุณมากๆนะคะ ^^

นั่นสิ

ลุกมาน เหมือนเดิม สวัสดีค่ะ ถ้าจะให้พูดกันตามตรง โรคที่อยู่ในหมวดหมู่ของความผิดปกติทางบุคลิกภาพนั้น ค่อนข้างจะรักษายาก เพราะนิสัยและแนวคิดของเรา เป็นสิ่งที่ถูกปลูกฝังติดตัวเรามานาน แต่ก็ไม่ใช่จะเป็นไปไม่ได้เสียทีเดียว มันก็ยังมีความเป็นไปได้ที่จะสามารถรักษา เปลี่ยนแปลงให้ความคิดแนวคิด ความประพฤติกลับมาดีขึ้นได้ โดยสิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงคือ สาเหตุของโรค ซึ่งถ้าไม่ใช่เพราะความผิดปกติที่มาจากการทำงานของสมอง เช่นในกรณีของบางบุคคลที่สมองส่วนคิดวิเคราะห์ทำงานได้ไม่เต็มที่ ความสามารถในการเรียนรู้ รวมถึงสติสัมปชัญญะ ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น และการคิดทบทวนเหตุผลต่างๆทำงานไม่ดีพอ (ตัวอย่างเช่น โรคทางสมองบางประเภท รวมถึงบุคคลที่มีลักษณะของ ADHD, Psychopathy หรือบุคคลที่มีปัญหาในการเข้าใจอารมณ์ เป็นต้น) ก็อาจทำให้การรักษานั้นยากขึ้น แต่ในสาเหตุที่สอง ซึ่งอาจมาจากความรู้สึก ความทรงจำและการถูกเลี้ยงดูในวัยเด็ก หรือแผลใจ ที่เคยเกิดขึ้น ซึ่งส่วนนี้เราอาจจะพยายามทำการรักษาได้โดยการไปพบจิตแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อพูดคุยด้วยเทคนิคการบำบัดต่างๆ ตามที่ผู้เชี่ยวชาญเห็นสมควร เพื่อที่จะช่วยกล่อมเกลา ให้แผลใจที่เคยเกิดขึ้นนั้น ได้รับการยอมรับ ปล่อยวางและจัดการกับแนวคิดที่มีอยู่ให้ถูกวิธี โดยเน้นการเล่าและพูดคุยถึงรอยร้าวในวัยเด็ก ความทุกข์ที่ไม่เคยได้รับการจัดการยอมรับ และจากนั้นก็พยายามหันมาเข้าใจและปรับปรุงความคิดตนเอง โดยการเรียนรู้ที่จะเข้าใจให้ได้ว่า คนอื่นก็มีความรู้สึก และเราก็ไม่สามารถไปควบคุมผู้อื่นได้ หันมาเรียนรู้ที่จะไม่แข่งขันกับผู้อื่น เรียนรู้ที่จะหันมาคิดดีกับตนเอง ไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับผู้อื่น ยอมรับให้ได้ว่าทุกคนมีข้อด้อยและตัวเราก็เช่นกัน ซึ่งเมื่อเราเข้าใจและเห็นใจตัวเราเองมากขึ้น เราก็อาจจะเข้าใจและมีความสามารถที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับบุคคลรอบข้างได้ ดังนั้น การลองเข้าไปพบผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำปรึกษาก็อาจช่วยให้พฤติกรรมหลงตัวเองดีขึ้นได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ความตั้งใจ และความสามารถในการยอมรับข้อเสียของตนเองให้ได้ ความซื่อสัตย์ด้วยใจจริง ในการต้องการที่จะพัฒนาตนเอง ก็จะเป็นอีกแรงผลักดันที่จะทำให้การรักษาอาการทางบุคลิกภาพเป็นไปได้ง่ายมากขึ้นค่ะ อาการทางความคิดเหล่านี้อาจต้องใช้ความพยายามในการเปลี่ยนแปลงรักษา แต่ก็ไม่มีคำว่าสายในการที่จะปรับปรุงตนเองค่ะ

ขอบคุนมากคับหมอ

แค่พี่คิดว่าจะหายยังไง แถมชื่อโปรไฟล์พี่ก็แสดงออกถึงความถ่อมตนแล้ว ผมคิดว่า พี่ไม่ได้เป็นหรอกครับ คนที่เป็นนาซิสสิส จะไม่คิดว่าตัวเองเป็นโรคแต่จะคิดว่าตัวเองสำคัญกว่าคนอื่นตลอดเวลา คนพวกที่เป็น สำหรับคนพวกนั้นแล้ว ใครที่จะเลือกจะออกจากชีวิตเขา สิ่งที่คนพวกนั้นจะพูดตอบก็คือ ‘ไปสิ ไม่มีกูมึงก็อยู่ไม่ได้ ไม่มีปัญญาอยู่เองหรอก’ หรือ ‘ก็ไปสิ กูมีคนอื่นรออีกตั้งเยอะ’ ประมาณนี้ครับ