(๑)
สติปัฏฐานที่พระพุทธเจ้าสอน ทำได้จริง
แล้วตราบใดที่ยังมีคนเจริญสติปัฏฐาน
ความก้าวหน้าในธรรมะก็ยังมี
ปฏิบัติไปเรื่อยๆ มีสติ มีปัญญากำกับ
มรรคผลนิพพานไม่หนีไปไหน
เรียนสติปัฏฐานไป ง่ายกว่า
(๒)
สติปัฏฐาน ๔ เหมือนประตู ๔ ทิศ
เหมือนประตูเมือง
นึกภาพเมืองสมัยโบราณ
อย่างเมืองกรุงเทพฯ เมืองเวียงจันทน์ มีประตู ๔ ทิศ
เวลาเราจะเข้าเมือง เข้าทิศไหนก็ได้
เราเจริญสติปัญฐาน ๔ นี้
เราก็บรรลุมรรคผลด้วยสติปัฏฐานอันใดก็ได้
ไม่ใช่ว่าต้องทำ ๔ อย่างจึงจะบรรลุ
(๓)
เพราะอย่างนั้น เดินเส้นใดเส้นหนึ่งก็ได้
เท่าที่เราทำได้
ไม่ต้องตะเกียกตะกาย เอาบันไดมาต่อ
ปีนขึ้นไปทำกรรมฐานอะไรที่ยากๆ เกินกว่าความเป็นจริง
ง่ายๆ ก็คือกายกับใจ
เห็นกายมันหายใจ ใจเป็นคนดู
กายยืนเดินนั่งนอน ใจเป็นคนดู
รู้สึกไปเรื่อย มันไม่ใช่เราหรอกนะ
รู้สึกไป มันไม่เที่ยง มันไม่คงที่
หรือจิตเดี๋ยวก็สุข เดี๋ยวก็ทุกข์
เดี๋ยวก็ดี เดี๋ยวก็ร้าย
ดูไปอย่างนี้ ง่าย
ดูให้ต่อเนื่องไป
-- พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ศรีราชา
วันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๖๑ ไฟล์ 610715A ซีดีแผ่นที่ ๗๗
ติดตามข่าวสาร อ่านพระธรรมคำสอน และดาวน์โหลดไฟล์เสียง
เว็บไซต์ทางการ: www.dhamma.com
Facebook Page: dhammateachings
Instagram: dhammadotcom
Line : @dhammadotcom
21 окт 2024