สมองเราบอกว่า "ตอนนี้" ไม่มีจริง 

สำหรับผมนะครับคิดว่าอย่างนี้.. ชีวิตของเรานั้นเป็นอดีตทั้งหมด. เพราะปัจจุบันเพียงขณะเดียวแล้วก็กลายเป็นอดีต(คือรับรู้ปุ๊บเป็นอดีตปั๊บไปเรื่อยๆ) ส่วนอนาคตไม่มีจริงครับเพราะอนาคตจะกลายเป็นปัจจุบันแป๊บนึงและเลื่อนไปกลายเป็นอดีตอย่างถาวร..ถ้าเป็นเรื่องสำคัญก็อยู่ในความทรงจำนานหน่อยแล้วก็ลืมเลือนไป ถ้าเรื่องธรรมดาอาจไม่จำเลยด้วยซ้ำ.ครับ

สุดยอดมากครับ เป็นอะไรที่น่าสนใจสุดๆ ถึงแม้มันจะทำให้เกิดข้อสงสัยต่างๆตามมา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆครับว่า ช่างเป็นอะไรที่น่าสนใจสุดๆไปเลยเช่นกัน ขอบคุณสำหรับความรู้และข้อมูลครับ 👍👍👍

เก็บมาฝากอีกนะครับ สนุกดี.., การตีความตามทฤษฎี ต่างคนก็ต่างมุมมองครับ.. , ผมชอบที่ผลงานมนการพยายามนำเสนอมากกว่าครับ

ตั้งแต่รู้จักช่องนี้.. ก็ไม่ดูช่องอื่นอีกเลยครับ รู้ลึก รู้จริง ข้อมูลครบถ้วน สมบูรณ์ที่สุดแล้ว 👍👍👍✌️✌️✌️

ทำคลิปถี่ๆนะครับ ผมชอบอะไรแบบนี้มาก หามาเยอะๆนะครับ ชอบ

ตามฟังทุกตอนเลยครับ เนืัอหาแน่นเหมือนเดิม ชอบตรงที่ย่อยหนังสือหลายๆเล่มมาให้เป็นเรื่องง่ายๆได้

อธิบายได้ดีมาก เลยครับ ชอบมาก

มาแว้วววว 👏👏👏👏

ดีครับมากสำหรับข้อมูล

รักแอดมากๆ ทำอีกเยอะๆนะครับ

มนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตใดๆมีญาณโดยสัญชาตครับ สัญชาตญาณการรับรู้ การคาดคะเน ความน่าจะเป็น (สิ่งที่มันควรจะเป็น) ความเป็นจริงที่เกิดขึ่น และสิ่งที่เหนือความคาดหมาย

ดีครับ นึกว่ามาตีประเด็นเล่นกับมุมมองการเดินทางของแสง แต่มีพีคตอนจบ อยากให้ทำ เดจาวู ครับ ผมมีประสบการณ์เดจาวูบ่อยตลอดทุกช่วงชีวิต

ผมดูคลิปจบแล้ว ขนลุกเลยครับ เป้นอะไรที่น่าทึ่งมากๆ

สุดยอดดด ที่สุด ตอนโยงเข้าโฆษณา😆🙏🤣👍

งง ตรง "เสียงของลูกบาสมาถึงช้ากว่าภาพ แต่เราเห็นมันพร้อมกับเสียงเพราะสมองประมวลผลให้เราเห็นและได้ยินพร้อมกัน แต่พอ ห่างออกไปเริ่มมาไม่พร้อมกันระยะห่างมากกว่าเดิม เพราะ สมองเริ่มแยกว่าเป็นคนละเหตุการณ์" แล้วถ้าเราใช้หลักการปกติ ที่คุ้นเคย เสียงกับภาพมันเดินทางเร็วไม่เท่ากัน แต่ระยะทางใกล้ๆ มันจะเดินทางถึงเราต่างกันแค่ หลักมิลลิเซคคัน ซึ่งความรู้สึกเราไม่สามารถละเอียดพอจะจับความต่างของเวลาระดับมิลลิวินาทีได้ เราเลยรู้สึกว่ามันพร้อมกัน พอห่างออกไป ระยะเวลาความต่างเพิ่มขึ้นเป็นหลักวินาที เราก็เริ่มรู้สึกได้ คือเค้าใช้อะไรมาตัดสินว่าทฤษฎีสมองประมวลให้เสียงกับภาพถึงพร้อมกันถูก

ผมเป็นbig fan นะครับ ทำต่อไปเรื่อยๆนะครับ

แว่นตาใช้ดีไหมครับ

ขายเก่งสุดในสามโลก เป็นช่องที่ไล่ดูทุกตอนเลยครับ

แอดน่าจะทำเรื่องศาสนาพุทธกับวิทยาศาสตร์น่ะ ผมว่าน่าสนใจดีน่ะครับ

ตอนนี้สุดยอดมากๆๆๆ ครับ

อยากให้ทำ เนื้อหา เวลา ในซีรีส์ loki ss2 ด้วยครับ

เข้าโฆษณาได้เรียบเนียนกริ้บ 55555 ชอบครับบบ

เหมือนมีฮาคิสังเกตเลย สามารถทำนายอนาคตในระยะสั้นๆได้เนี่ย 555555

ไปหาข้อมูล​จากไหนนี่​ เทพสุด

อยากฟังเรื่อง เจตจำนงอิสระ ครับ

พี่อ่านหนังสือเรื่อง Power of now แล้วนำมาเล่าให้ฟังหน่อยครับ ผมอ่านแล้วไม่เข้าใจ เนื้อหาจะคล้ายๆกับที่พี่นำเสนอนี่แหละ และมีข้อมูลที่น่าสนใจมากครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

แค่ชื่อหัวข้อก็สุดยอดละครับ บ่งตรง

ขอเรื่อง free will ต่อเลยนะครับ please!!! ไปค้นประเด็นมาแล้วแอดเล่าน่าจะมันส์มาก

สมองเรามีขีดจำกัดอยู่มาก อะไรที่เร็วเกินไป ก็จะประมวลผลไม่ทัน เพราะการเดินทางของข้อมูล แม้ความเร็วสัญญาณไฟฟ้าใกล้แสง แต่เมื่อผ่านไซแนปส์เป็นทอดๆจะเกิดการดีเล ทำให้แยกแยะไม่ได้ ว่าใหนก่อนหลังเช่นภาพนิ่ง เมื่อผ่านตาเราเร็วเกิน25เฟรม/s ขนาดแสงวิ่งชนตาด้วยความเร็วแสง เมื่อเจอ การดีเล ของไซแนปส์ ก็แยกไม่ได้แล้วกลายเป็นภาพเคลื่อนไหว... ยิ่งเร็วกว่านี้ ยิ่งกลายเป็นเบลอ หรือยืดไปเลย...ส่วนเนื้อหาที่ กล่าวว่า ทุกๆการกระทำ เหมือนมีคำสั่งลึกลับ มากำหนด ก่อนที่สมองจะสั่งให้ความรู้สึกเรา อยากทำสิ่งใดๆนั่น..ช่างไปสอดคล้องกับความเชื่อที่ว่า มนุษย์ทุกคน มีหน่วยประมวลผล ความจำที่นอกเหนือสมองเรา.. เพราะในปัจจุบันนี้ นักวิทยาศาสตร์ยังไม่รู้เลยว่า ความจำทั่งหมดของสมอง เก็บไว้ในรูปแบบใหนอยู่ส่วนใดของสมอง... สมอง เป็นเพียง เครื่องรับส่งสัญญาณ และหน่วยประมวลผลสำรอง ที่รับคำสั่งจาก หน่วยประมวลผลหลักจากซักที่หนึ่ง อาจคล้าย ระบบคราว ขนาดใหญ่ ที่รับ ส่งและบันทึกข้อมูล ของสมองเราไว้หมด ในทุกการรับรู้ใดๆ เมื่อระบบหลักสั่งมา..การทดลองจึงจับสัญญาณ ได้ก่อนที่สมองจะประมวลคำสั่งนี้..สั่งการให้เรา รู้สึกอยาก กระทำใดๆ..แม้ดูเป็นรูปแบบมีลำดับก่อนหลัง เนื่องด้วยความ ดีเล และความรวดเร็วของชุดข้อมูล จึงแยกแยะ เศษเซี่ยววินาทีเหล่านี้ ไม่ได้เช่นกัน หรืออาจเป็นดั่งที่ ทางพุทธเชื่อว่า มนุษย์ มีกายหยาบกับกายละเอียด รวมกันอยู่..กายหยาบคือร่างกาย..กายละเอียดคือดวงจิต..ซึ่งในความเชื่อนี้ กายละเอียด จะคือเราอย่างแท้จริงกว่า กายหยาบ..ดังนั้น อาจเป็นได้ว่า กายละเอียด ส่งชุดคำสั่งใดๆมา ด้วยรูปแบบกระแสจิต มายังสมองที่เป็นกายหยาบ..จึงมีสัญญาณคำสั่ง ก่อนสมองสั่งให้ความรู้สึกของเราอยากทำสิ่งนั่นๆได้เช่นกันครับ

ชอบมากครับผม

สนุกดี

ชอบเรื่องแนวนี้ครับ

คิดถึงหนูน้อยอนาคิน (ดาร์ทเวเดอร์ตอนเด็ก) อ.ไควกอนว่า เขาไม่ได้เห็นอนาคต แต่มีตอบสนองที่รวดเร็วมากกว่าคนทั่วไป จนเหมือนเห็นอนาคต

พึ่งติดตามไม่นานชอบมากครับ

สวัสดีค่ะแอด แล้วจิต กับสมอง อะไร เดินทางเร็วกว่ากันคะ คือคำถามค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

อีกข้อหนึ่งตามมา: สมมติว่ามันยังไม่ดับไป แต่เป็นช่วงเวลาของการ "ทรงอยู่" เหตุการณ์ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะทรงอยู่ หรือพูดอีกทีว่า "เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นกับสิ่งที่มีอยู่ ก็เกิดขึ้นในขณะปัจจุบันของพวกมัน" เหตุการณ์นั้นไม่ได้เกิดในอดีต ไม่ได้เกิดขึ้นในอนาคต แต่ต้องเกิดขึ้นใน ปัจจุบันของมันเท่านั้น

ผมก็เคยเหตุการณ์แบบนี้บ่อยๆครับ โดยเฉพาะช่วงเช้าๆเวลาผมตื่นมาแบบสลึมสลือกึ่งหลับกึ่งตื่นและคิดจะหันไปหยิบมืถือมาดูว่ากี่โมงแล้ว มันจะมีภาพเหมือนผมหลับในฝันลางๆว่าหันไปพลิกมือถือมาดูจนรู้เวลาเป็นตัวเลขในหัวผมแล้วทั้งๆที่ผมยังนอนหันหลังท่าเดิมอยู่เลย เหมือนสมองผมมันรู้ล่วงหน้าและจดจำสิ่งที่ผมทำเป็นประจำทุกวันน่ะครับ ผมมีอาการแบบนี้บ่อยมาก

ขอถามได้ไหมครับ ทำไมผมเห็นวงกลมขาวในวงสีเขียวแบบไม่เหลื่อมออกไปข้างนอก หรือสมองผมมีปัญหา อันนี้ไม่เอาฮานะอันนี้จริงจังครับผมลองหลายทีละ

ก็ว่า ตอนเรียนเรื่องระบบประสานในร่างกาย ว่าทำไมสมองสั่งขยับเท้าตัวเองได้เร็วจัง ทั้งๆที่อยู่ห่างกัน สมองคำนวนเอาไว้แล้วนี้เอง แล้วอะไรเป็นตัวกำหนดสมองหล่ะทีนี้

ขอบคุณครับ

ขออนุญาตแชร์ครับ

ชอบมากเลยครับ พอพูดถึง free will แล้วปวดหัวกับแนวปรัชญาเลย

เรื่องที่พี่นำเสนอมันลึกซึ้ง คอนเท้นดีดีแบบนี้.คนกลุ่มนึงที่เสพถึง ศรัธทาในความนำเสนอ .ขอถาม .อยากทำยูทูป.เพื่อเลี้ยงชีพ.รักกับมัน .หรือเราต้องทำอาชืพอื่นควบคุ่ไปด้วย .ความฝันมักไม่ค่อยสร้างเงินมากพอ

สารสื่อประสาท​ในสมองของเรา​ neurotransmitters สามาร​ ส่งข้อมูล​ได้ใกล้เคียงกับความเร็ว​แสงไหมครับ?

สนใจซื้อแว่น..ทำไง?

ชอบเรื่องสมองมากพี่

รอนานหลายวันเลยนะแอด 🥰🥰

อยากให้ทำเรื่องแสงสีฟ้า แว่นกันแสงสีฟ้าจำเป็นจริงหรือ

สมองทำงานตลอดเวลา (พวกเขาก็คงวัดคลื่นว่ามันมีการทำงานเข้มขึ้นมาหน่อย มากกว่าการไม่ได้ทำอะไร) มันก็เริ่มทำงานตั้งแต่ที่คิดว่าจะกดตอนไหนดี สุดท้ายมันก็สั่งให้มือกดลงไป ในกราฟชี้ว่า ตอนสมองยังไม่สั่งให้กด สุดท้าย จิตสำนึก กดช้ากว่าที่สมองได้เริ่มต้นทำงาน นานพอสมควรในกราฟ จิตไม่ได้เริ่มทำงานพร้อมสมอง พยายามให้เป็นนัยว่า จิตไม่รู้คำว่าตอนนี้ แต่ข้อสรุปของเราคือ ไม่ใช่ครับ

ชอบตอนขายแว่นมากครับ

สนุกดีครับ อยากให้ทำเรื่อง พาเซโบ เอฟเฟค จัง เพราะเคยเห็นการทดลอง เอาคนมากินสไปร์ แต่ คนกินดันยังคิดว่ากินโค้กอยู่ แปลกมาก รวมไปถึงพวกที่กินยาผีบอกแล้วบอกอาการดีขึ้น พอกินยาที่ รพ กลับจะเป็นจะตาย

สวัสดี อาจารย์, ผมดูทุกเรื่องวิทยาศาสตร์ของคุณพบว่า คุณอธิบายได้เข้าใจดีมากเลย, ผมอยากให้คุณอธิบายเลื่องหลุมดำว่า มันคืออะไร,เกิดขึ้นได้อย่างไร, มีจริงหรือไม่. อีกอย่างผมยังไม่เข้าใจเลยว่า สมมุติ หลุมดำหนึ่งอยู่ไกลจากโลก 90 ปีแสง แล้วนักดาราศาสตร์เค้าใช้อะไรดู หลืใช้อะไรตรวดจิ่งรู้ได้ว่า มีหลุมดำอยู่ไกล 90 ปีแสง. เพราะผมเข้าใจแบบง่ายๆว่า ก่อนเราจะมองเห็นวัตถุอะไรนั้น ต้องอาใสแสงคือ แสงไปกระทบใส่วัตถุแล้วสะท้อนมาหาดวงตาเรา จิ่งพาให้เรามองเห็นวัตถุนั้นได้, เมื่อกลับมาพูดถึงหลุมดำผมเลยไม่เข้าใจว่า เราจะใช้ก้อง หลื เครื่องมือมองเห็นได้อย่างไรเมื่อมันอยู่ไกล 90 ปีแสง เพราะก่อนที่เราจะมองเห็นเราต้องใช้แสง หลื คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าย่างหนิ่งส่งไปแล้ว รอมันสะท้อนกลับมา เราจิ่งจะรับรู้ หลื มองเห็นได้, แต่ถ้าเป็นแบบนี้แสง หลื คลื่นต้องใช้เวลาไป 90 ปี กลับมา 90 ปี รวมเป็น 180 ปี ดั่งนั้น เราต้องได้รอจนถึง 180 ปี จิ่งจะมองเห็นหลุมดำย่างนี้แม่นหลืบ่ หลื ย่างไงแท้ ช่วยทำคลิปอธิบายหลักการของเลื่องนี้ให้หน่อย

ทำเรื่อง butterfly effectหน่อยครับ

ถ้าเรา ฝึกจิตใต้สำนึก ให้เก่งได้ เราก็จะสามารถ ทำให้สมอง คาดการณ์ อนาคตได้ดียิ่งขึ้น จิตใต้สำนึกเนี้ยคงคล้ายกับAi สิน่ะ คงคล้ายๆกับ พลังของ โงกุน DB super จิตสัมผัสที่แท้จริงแบบวิทยาศาสตร์จริงด้วย

ตอนนี้(ปัจจุบันขณะ*มีอยู่หรือไม่มีอยู่ สมมติเรียก*ความว่าง,ไม่มีอะไรเลย พุทธะตรัสว่า*รู้*สมมติแรกที่พูดตอบสาวก..ที่ถาม ..เห็นอะไร..รู้อะไร..ท่านบรรลุธรรมอะไร..รู้.ท่ามกลาง*ความว่างนั่นแหละ*ต้องรู้เอง*(ปัจจัตตัง)แค่นั้น..

สุดยอดเลย

ตั้งแต่เริ่ม จิตมันก็มี สติสัมปชัญญะที่สมบูรณ์ดี และมันก็ไม่ได้หลับไปในขณะที่ยังไม่ได้กด ตอนสมองเริ่มทำงานช่วงแรก ในกราฟเขียนว่ามันกำลังดูความพร้อม (บางอย่างเพื่อจะสั่งให้มือกด) เจ้าจิตสำนึกก็รู้สึกตัวดี มันอยู่ในความพร้อมเหมือนกัน แต่การทำงานของมันตอนนี้คือ เรียกง่ายๆ "กำลังโลเล" พอสมองเปลี่ยนตอนนี้มาเป็นสั่งให้กด มือก็กดจิตก็รู้ว่ากด การทำงานของจิต มันก็มีตอนนี้ของมันอยู่ตลอดเวลา เราเน้นว่า จิตมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ดี มันไม่ได้หลับไปตอนใดๆ มันก็ทำงานตั้งแต่ต้นคือ โลเล แล้วสุดท้ายก็กด ข้อสรุปทั้งสองอย่างของ Eagleman และ Benjamin Libet พยายามแสดงให้เห็นว่า จิตเข้าใจผิดว่า เหตุการณ์ไม่พร้อมกันมาเป็นเหตุการณ์ที่พร้อมกันได้ และ จิตต้องรอสมองสั่งการก่อนการตัดสินใจ แต่สำหรับแล้ว มันไม่มีเหตุผลพอที่จะไปบอกว่า "การรู้สึกว่าเป็นตอนนี้ของสติสัมปชัญญะ มันจะไม่มีอยู่จริง

มีความขายเก่ง👍

ตอนเดาะลูกบาส 30 เมตรแล้วเสียงมาทีหลังผมร้อง เห้ยเลย

มีคำถามนอกเรื่องสักหน่อยครับ เป็นคำถามทางวิทยาศาสตร์ที่ผมอยากทราบมานานแล้ว ถ้าหากเราโดนปืนยิงใส่แล้วเราเคลื่อนที่ได้เร็วมากๆ มากจนเราเห็นลูกกระสุนปืนเหมือนจะหยุดนิ่งอยู่กับที่ เราจะสามารถหยิบลูกกระสุนปืนนั้นได้ไหม หรือเราสามารถมาเดินผ่านลูกกระสุนนั้นได้แบบสบายๆเหมือนเดินผ่านก้อนเหล็กเล็กๆที่หรือเปล่า

ขอบคุณครับ สมองตัวแสบ

สวัสดีครับ แบบนี้จะพูดว่าสมองทำงานแบบคลื่นได้มั้ย เพราะมันประมวลผลแบบทุกระยะห่าง80มิลลิวินาที

โอโห้ เป็นอะไรที่น่าคิดมากๆครับ แล้วอะไร คือ อะไรเนี้ย แล้วทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ อย่างนี้ แล้ว อะไรเกิดก่อน หลังวะเนี้ย

อยากให้อธิบาย ตอนตบยุงอ่ะครับ แบบ สมองเรา เดาไว้ก่อนไหม ว่ายุงจะปินไปตรงไหน ถึงค่อยตบ 555

ตรงๆเลยครับ​ แว่นเหลืองมันไม่เข้ากับรายการเลยครับ​ มันแปลก​

ชอบมากครับ,ถ้าคุณพิธีกรหรือใครก็ตามเข้าใจคำสอนของพระศาสดาอย่างลึกซึ้ง...จะเข้าคลิปนี้ได้ดี,และชอบคลิปนี้เหมือนที่ผมชอบ..ขอบคุณครับที่ทำคลิปดีๆแบบนี้ออกมาเรื่อยๆ..

ในศตวรรติที่7 มีคณาจารย์พุทธศาสนาฝ่ายฝ่ายมหายานที่โด่งดังมากรูปหนึ่งได้อธิบายหลัก สุญญตา พุทธเจ้าออกมาคล้ายๆลักษณะแบบนี้ เช่น ความยาว กับ ความสั้น ไม่มีสถานะจริง (ไม่มีสถานะจริงในความหมาย อนัตตา สุญญตา)..ความยาว ความสั้น เป็นความสมดุลระหว่า2วัตถุมาเปรียบเที่ยบกัน จึงเกิดมีสั้นมียาวขึ้น แต่เมื่อไปเทียบกับสิ่งที่3 สิ่งที่ยาวกว่าอีก สิ่งนั้นกลายเป็นของสั้นไปเลย.. ทิศเหนือ ทิศใต้ ก็เหมือนกัน ถ้าอยู่ในประเทศหนึ่งก็มีค่าตามนั้น แต่พอไปเทียบอีกประเทศที่ติดกัน ทิศเหนือเรากลายเป็น ทิศใต้อีกประเทศทันที..ความชั่วความดีความยึดถือต่างๆก็มีลักษณะแนวนี้ อยู่ที่สังคมให้ค่าไม่เหมือนกัน..สรุปทุกสิ่งไม่มี (สถานะจริงอนัตตา สุญญา) แต่มีอยู่เสมือนจริงในลักษณะ มายากาล เพราะปัญหาความทุกข์ความร้อน ความยึดมั่นถือมั่นที่จะเกิดขึ้น ก็มาจาก สมองเราเห็นผิด (อวิชชา) คิดว่ามีว่าเป็น (สถานะจริง อัตตา) นีเองเป็นเหตุเกิดของทุกข์ทั้งปวง.

ตอนมหาลัย.นอนหอรวม นอนขดหน้าห้องน้ำ. อ่านเรื่องความเร็วแสง จากหนังสือยืมมาจากห้องสมุด อ่านเงียบๆเกรงใจเพื่อนที่นอนรวมกัน .ตอนนี้นอนพังยุทุปก่อนนอนแทน. แสง อะตอม อุณหภูมิ แรง เวลา ชีวิตการรับรุ้. อะตอมของน้ำกับคาบอน.ต่างกันที่พันทะคอนวาเร้นของอิเลกตรอนไหม อะตอมทุกธาตุต่างกันตรงไหน

ดีครับ

การปรับแก้ของสมอง แหม่ผมละชอบจริงๆ

รัก Ophtus ❤

แสดงว่าทุกๆครั้งที่ฉันกำลังเศร้าหรือมีความสุขในตอนนี้แสดงว่าแท้จริงแล้วความเศร้าและความสุขของฉันในตอนนี้มันผ่านไปแล้วแต่ฉันเพิ่งเศร้ากับอดีตในไม่กี่มิลลิวินาที

อืมมม สุดยอดจริงๆ

ทำไม flash lag illusion ผมมองมันตรงวงกลมไม่เหลื่อมเลย ใครเป็นมั่ง?

ไม่เคยคิดถึงข้อเท็จจริงนี้เลย😳 ตอนนี้ที่ไม่มีอยู่จริง มีแต่อดีต

ฟ้าผ่า เห็นภาพก่อน พอสักหนึ่งวินาทีก็ได้ยินเสียงดังตามมาเชื่อว่าเสียงคืออดีตเพราะเดินทางช้ากว่าภาพ สมองที่กำลังคิดอยู่ตอนนี้เป็นอดีตไหมเพราะว่ายังไม่รู้จะคิดอะไร

ความคิดเห็นจาก การวิเคราะห์ส่วนตัว ผม สรุปว่า ไม่ใช่ แต่ ไม่ ขอแสดงบทยกกล่าวอ้างหักล้างนิยามและทฤษฏีครับ โดย เหตุผลส่วนตัวครับ

วันนี้เพิ่งได้มาต่อ: ย้อนสักนิดไปที่หลักการที่ว่า คำว่าปัจจุบันหรือตอนนี้ มันเคลื่อนไปข้างหน้าตลอดเวลา ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ ส่วนใหญ่แล้วมันจะ "เกิดขึ้น", "ทรงอยู่", และ "ดับไป" มันอาจใช้เวลาในแต่ละขั้นตอน นาน หรือ สั้นๆ ก็แล้วแต่คุณลักษณะเฉพาะตัวของพวกมัน แต่เฉพาะตัวของทุกสิ่งที่ถือว่ามีอยู่ มันต้องมีเกิดขึ้นก่อน, ถัดมาเป็นทรงอยู่, และ อาจจะนานแล้วก็ดับไป มันไม่ทำทั้ง 3 อย่างในขณะเดียวกัน (เพราะว่า เท่าที่เราพบ มันทำไม่ได้)

ชอบตรงที่ ตอนนี้ แล้ววกเข้าแสงสีฟ้า ขายยา เนียนดี 555

ใครเป็นบ้างตอนตื่นนอนละอยากนอนต่อ แต่นอนไม่หลับจะรู้สึกว่าเราคิดอะไรไปเรื่อยหลายเรื่องมาก นานถึง 20 30 นาทีแต่พอมาดูนาฬิกาเพิ่งผ่านไป 5 นาทีเอง

สำหรับผมมี แค่อดีตกับปัจจุบันครับ

พี่เป็นคนอุดรป่าวครับ

เข้าใจอย่างนี้ ฝึกวิปัสสนาได้เลยครับ

เฉียบอีกแล้วนะครับบ

สมองเป็นตัวแปลในเรื่องของเวลาในจิตสำนึกใช่มั้ยครับ แบบนี้แสดงว่าเวลาก็สามารถช้าลงในในจิตสำนึกเราใช่มั้ยครับหรือเร็วได้ เหมือนเวลาเราทำอะไรน่าเบื่อเวลามันจะยาวนาน และถ้าเรามีความสุขทุกอย่างจะผ่านไปไวมากแบบนี้ก็น่าจะเกิดจากสมองด้วยใช่มั้ยครับ

มิลลิวินาทีที่แล้ว555

สมองก็เชื่อไม่ได้นะครับยกตัวอย่างคนติดบุหรี่สัญญากับตัวเองว่าจะเลิกสูบบุหรี่ สุดท้ายเป็นยังไงเรื่องนี้คนสูบบุหรี่รู้ดีครับ ว่าแต่แอดมินสูบบุหรี่ป่ะครับ

เรื่องภาพเดาะบาส ที่ระยะห่างออกไปเรื่อย ๆ นี่ ส่วนตัวผมคิดว่ามันคือข้อจำกัดด้านการรับรู้ทางเสียงของมนุษย์แต่ละคนด้วยรึป่าวครับ อย่างเด็ก คนหนุ่มสาว คนแก่ หรือตัวแปรที่มากลบเสียงเดาะบาสด้วย (กรณีถ้าแถวนั้นมีเสียงที่กดังกว่าขึ้นมา) เพราะถ้าถึงตอนนั้นสมองน่าจะไม่มีผลในการประมวลเรื่องการรับรู้ละล่ะครับ คงเห็นเป็นภาพอย่างเดียว แต่กับเด็ก คนหนุ่มสาว คนสายตาสั้น~ยาว คนแก่ หรือคนที่เชี่ยวชาญด้านการมองจากระยะไกล หรือเชี่ยวชาญการฟังเสียงจากระยะไกลเค้าก็ต้องมีการรับรู้ที่ได้เปรียบกว่าอยู่มาก สรุปที่ผมจะพูดก็คือ การรับรู้ทั้งภาพและเสียงพวกนี้ มันน่าจะฝึกกันได้อ่ะครับ ต่อให้ illusory trust effect มันจะมีเหมือนกันหมดในมนุษย์ทุกคน แต่ผมว่าแต่ละครจะมีความสามารถที่พิเศษกว่าคนอื่น ซึ่งมาจากการฝึก หรือพรสวรรค์ส่วนตัวนะครับ

ดูไปเกร็งไป เขาจะโฆษณาแว่นตอนไหนนะ

อันสุดท้ายไม่น่าใช่ เพราะ พอจะตัดสินใจกดปุ่ม มันต้องไปมองนาฬิกา แล้วก็ประมวลผลเป็นเวลา แล้วก็มาจำ มันเลยจำเวลาที่ช้ากว่าคลื่นสมอง แบบนี้น่าจะถูกต้องกว่านะครับ

สวัสดีครับคุณเอกราช

จะเข้าใจจักรวาล ต้องเข้าใจตัวเอง ก่อน ในฐานะผู้สังเกตเท่านั้น หรือถ้าอยากปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระลองใช้หลักธรรมมะ ขันธ์ 5

Lorentz Transformation มันก็คล้ายๆกับ Euclidean Transformation ที่เด็กๆใช้กัน แต่มันมีการ "ยืดและหดของ เวลาและระยะทาง" อยู่ในนั้นด้วยครับ เอาล่ะ ผมสรุปให้ฟังเลยว่า "มันเป็น Transformation ที่ไร้ประโยชน์" มันไม่มีที่ใช้ครับ เอาไปใช้จริงๆก็ไม่ได้ มันเองก็มีข้อขัดแย้งอยู่ภายในตัวของมันเอง เอาแค่นี้นะครับ แต่ว่า.. มีข้อหนึ่ง..

ชอบไทอินตอนต้น555

มิน่าละ ทำไม สมองถึงสั่งว่า “เลี้ยงไก่ 2 ตัว” กับ “พอเพียง” จึงเป็น “เรื่องเดียวกัน” เพราะ สมองประมวลผลว่า “(ใกล้)เกษียณ(แล้วนะ)...(จะ)เลี้ยงไก่ 2 ตัว” นั้นถูกสมองประมวณผลก่อนแล้วจึงเก็บไว้ก่อน.... ต่อมา สมองอีกส่วนรับข้อมูลในหน่วยความจำเก่าที่เป็นการค้างคำสั่งที่ติด bug ในสมองว่า “(ถามตัวเองว่า)(ตอนนี้)เพียงพอเกษียณ(แล้วหรือ?)”....สุดท้ายทั้งสองคำสั่งจึงมาทันกันที่สมอง มาประมวณพร้อมกันจึงได้ออกมาเป็น “เลี้ยงไก่ 2 ตัว .... (เศรษฐกิจ)พอเพียง”

อยากเขียนเรื่องลูกศรเวลานิดนึง ถ้าเราอยู่ในจักรวาล ที่เล่นเทปย้อนกลับ กับจักรวาลนี้ เราก็จะพูดแบบเดียวกันนี้แหละ เอนโทรปี้ มีแต่ลดลง ระเบียบมีแต่จะเพิ่มขึ้น จักรวาลจะยุบลงไปบิ๊กยุบ เราจะไม่เคยเห็นน้ำแข็งละลายเป็นน้ำ หรือแก้วตกแตกกระจาย เห็นแต่น้ำรวมแข็งเป็นน้ำ ของรวมมากระจุกชิ้นสมบูรณ์ แล้วก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรพิเศษ นอกจากจะบอกได้แค่เพียงว่า เพราะเราอยู่ในจักวาลที่ลูกศรเวลา มันทำให้เอ็นโทรปี้ลดลง

จิตสำนึกของเรายังอยู่แค่ระดับ application ยังไม่ใช่ระดับ os จึงรู้ช้ากว่าสมอง ระดับ os คือจิตใต้สำนึก ร่างกายสมองเป็น hardware จิตเป็น software ถ้าสติเราเข้าถึงระดับ os ได้เราจะสามารถ hack ร่างกายได้คือ สามารถใช้ร่างกายได้เกินคนธรรมดา หรือใช้จิตใต้สำนึกเชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ ได้มากขึ้น

ปัจจุบันไม่มีจริง เพราะ อนาคตพุ่งมาหาเรา และ มาหาเราคือปัจจุบัน และผ่านเราไปเป็นอดีต

แทรกเพิ่มหน่อยนะครับ: ถ้ามันมีความสำคัญที่จะสอบสวนให้ได้ว่า เหตุการณ์ A หรือ เหตุการณ์ B เกิดขึ้นก่อนกันแน่ ในเมื่อเราเองก็ยอมรับว่ามันเกิดขึ้นได้ ทำให้เข้าใจผิดได้ เราก็ต้องทำการสอบสวน ก็เพียงว่า ผู้รับรู้ได้รับสัญญาณพร้อมกัน แต่สัญญาณจากเหตุการณ์ A และ เหตุการณ์ B มันเกิดขึ้นที่ไหน เมื่อพบว่า เหตุการณ์ A อยู่ไกลกว่า เหตุและผลของ "ปัญญาของมนุษย์" ทำให้เรารู้ความจริงว่า เหตุการณ์ A มันเกิดก่อนเหตุการณ์ B และก็ยอมรับได้ ไม่ใช่เรื่องแปลก การสอบสวนเรื่องแบบนี้อยู่ในเรื่อง Events as Seen (ไม่เคยมีใครพูดถึงมัน)

ไอน์สไตน์หลังจากได้ออกทฤษฏี Time Dilation มาแล้ว ก็มีพวกสัมพัทธภาพ พยายามอธิบายเสริมว่า คำว่า "ตอนนี้" ของแต่ละคนไม่ได้พร้อมกัน ซึ่งก็เป็นแนวคิดที่ผิดพลาดอีกอันหนึ่ง กับการพูดเรื่องนี้ พวกเขาพูดเรื่อง Events as Seen (ไม่ได้มีใครเขียนไว้ให้ชัดเจน ผมเขียนไว้ส่วนหนึ่ง เป็นของตัวเอง) Events as Seen จะเป็นเรื่องการประสบเหตุการณ์ของแต่ละคน (ที่อยู่คนละตำแหน่ง) จะประสบเหตุการณ์เดียวกันไม่พร้อมกัน อันนี้มันเนื่องจาก สัญญาณ หรือ แสง หรือ อะไรก็ตาม ที่จะเป็นตัวนำสัญญาณมายังผู้ประสบเหตุแต่ละคน ซึ่งอยู่ด้วย ระยะห่าง และหรือเส้นทางเดินสัญญาณที่ต่างกัน ทำให้พวกเขาประสบเหตุการณ์ไม่พร้อมกัน ข้อนี้เป็นจริง