หลวงพ่อปราโมทย์​อธิบายสภาวะลักษณะของนิพาน..รูปนามการทำวิปัสสนา​และการรักษาศีล 

@@SubinPaiserhao อนุโมทนาครับผมสังสมสุตะมากๆเป็นเห็นอย่างหนึ่งสู่การบรรลุธรรมได้ครับ

@@kanjanarangsiphong3525 อนุโมทนา​ตรับผมถ้าอยู่ไมาไกลชลบุรี.. เข้าไปกราบหลวงพ่อที่วัดจะปิติมากครับผม.. สาธุครับ

@@su999 อนุโมทนา​บุญร่วมกันครับหากอยู่ไม่ไกลชลบุรี​หาโอกาส​ไปกราบหลวงพ่อด้วยตนเองและรับฟังหลวงพ่อสดๆที่วัด.. ปิติมากๆครับสถานที่ดีจริงๆพลังงานบวกจากเพื่อนๆที่ไปสัมผัสได้ด้วยกายรู้ได้ด้วยใจจริงๆเลยครับ.. สาธุครับ

@@AdfDtyy อนุโมทนา​สาธุครับ.. บารมีมีพร้อมโอกาสมีแล้วชาตินี้จะเป็นชาติที่ดีที่สุดที่ไปพบพระพุทธศาสนาและพ่อแม่ครูอาจารย์ที่ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบคอยแนะนำครับ

การเกิดปรากฏขึ้นมาของ อริยมรรคมีองค์แปด คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ เส้นทางเจโตวิมุตติ และ เส้นทางปัญญาวิมุตติ (การเกิดปรากฏขึ้นมาของเส้นทาง เจโตวิมุตติ ละนันทิ เจริญอานาปานสติ (ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ สัมมาสมาธิ สมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 รูปภพ) ( สมถะ วิปัสสนา อานาปานสติ เป็นการเกิดปรากฏขึ้นมาของ สัมมาสมาธิ สมาธิอรูปสัญญา อรูปภพ ) (สมาธิสัญญาเวทยิตนิโรธ กามภพ ) การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สัมมาสมาธิ สมาธิรูปสัญญา สมาธิอรูปสัญญา และ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ สมาธิสัญญาเวทยิตนิโรธ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ วิมุตติญาณทัศนะ คือ ผู้รู้ในการหลุดพ้น นิพพาน นั่นเองค่ะ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ ปฏิจสมุปบาท สายดับ นั่นเองค่ะ คือ การเกิดปรากฏขึ้นมาของ นิโรธ ใน อริยสัจสี่ นั่นเองค่ะ (ปฏิจจสมุปบาท สายดับ คือ นิพพาน เพราะความดับลงแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้ ดังนี้ ) นิโรธ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้นมาแล้ว เกิด เสื่อม ดับ อนัตตา เนตังมะมะ เนโสหมัสสมิ นะเมโสอัตตา / พระพุทธเจ้าท่านทรงบอกสอนไว้ให้รู้ตามว่า ( มีอยู่นะ ) อสังขตธรรม คุณสมบัติ ไม่ปรากฏมีการเกิด ไม่ปรากฏมีการเสื่อม เมื่อตั้งอยู่ไม่มีภาวะอย่างอื่นปรากฏ เกิดไม่มี เสื่อมย่อมไม่มี เสื่อมไม่มี ดับย่อมไม่มี ดับไม่มี อนัตตาย่อมไม่มี อนัตตาไม่มี เนตังมะมะ เนโสหมัสสมิ นะเมโสอัตตาย่อมไม่มี

@@siria3746 ผมเคยได้ไปกราบหลวงพ่อท่านที่ชลบุรีและได้ฟังธรรมใกล้ๆท่าน.. ปติทุกครับเลยครับพลังงานบวกจากหลวงพ่อและญาติธรรม​ที่บริเวณวัดช่วยทำให้จิตใจสงบเป็นสมาธิดีมากครับ... ลองไปกราบสักการะ​ท่านดูครับที่วัดสวนสันติธรรม​ อ.ศรีราชา​ จ.ชลบุรี.. ได้ครับผม

@@THERAIN.3260 ครับอนุโมทนา​ครับผม

@@Tunhapapai อนุโมทนา​ด้วยครับหลวงพ่อบรรยายธรรมได้กระจ่างแจ่มแจ้งฟังเข้าใจง่ายดีครับนับว่าพวกเราโชคดีที่พบฟังธรรมะบรรยายของท่าน..สาธุครับ

@@เดียวดายคนหาคู่ ผมภูมิธรรมยังไม่ถึงขั้นกล้าที่จะบอกว่าอะไรถูกอะไรผิดครับผม... จอนอบรับฟังไว้ศึกษาหาจ้อมูลเพิ่มอีกที่นะครับ.. รู้แค่ว่าสภาวะเต็มโลกธาตุไท่มีการเคลื่อนมาเคลื่อนไปสงบสันติเป็นหนึ่งไม่มีสภาวะไตรลักษณ์.. ขอบคุณ​มากครับผม.. ยินดีแลกเปลี่ยนปนฝระสบการณ์​เพื่อพัฒนาตนเองและคนอื่นได้พ้นทุกข์​ถาวรได้สักวันหนึ่งในขาตินี้ครับ... สาธุครับผม

หลวงตามหาบัวก็เคยพูดครับ นิพพานคือนิพพานไม่ใช่ทั้งอัตตาและอนัตตา

@@ไม่มีตัวตน-ย9ต สู้ไปด้วยกันครับภาวนาจนกว่าจิตตนเองจะเข้าสู้สภาวะนั้นได้.. เราก็จะเขื่อจิตเราเองได้อย่างสนิทใจ... สาธุ​ครับ​ผม

@user-tm5wp8rd5f ถ้าอ้างถึง“นิพพาน” ต้องเอาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้ามาอ้าง “นิพพาน”นี้นั้น ท่านมีกล่าวไว้ ใน“นิพพานสูตร๑” “นิพพานสูตร๒” “นิพพานสูตร๓” “นิพพานสูตร๔” หาอ่านเอาเองเถอะ คำที่กล่าวว่า “นิพพานเป็นอนัตตา” นั้น ขอยกเอาคำสอนของพระพุทธองค์ที่ว่า “สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์ ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา” มาอ้าง ในหมื่นโลกธาตุแสนโกฎิจักรวาล มีธรรมอยู่สองอย่างเท่านั้น คือสังขาร และนิพพาน ฉะนั้นแล้ว ธรรมทั้งปวงก็หมายรวมทั้งสังขารและนิพพาน ถ้าพระพุทธองค์จะทรงแสดงว่า สังขารเท่านั้นที่เป็นอนัตตา คำสอนต้องว่า “สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์ สังขารทั้งปวงเป็นอนัตตา” ครูบาอาจารย์หลวงปู่หลวงตาทั้งหลายที่พูดผิดจากนี้ แสดงว่า ท่านไม่รู้เรื่อง ไม่เคยเห็นพระนิพพานเท่านั้นเอง พวกท่านยังเป็นปุถุชนกันอยู่

@@pornanant9558 ข้อมูลนี้ชอบมากครับผม.. สาธุครับ

@@pornanant9558 ขอยพีะคุณมากนะครับสำหรับข้อมูลขอรับฟังไว้ก่อนนะครับ... ผมภาวนาเพียงเล็กน้อยยังไม่ถึงไหน.. น้อมรับทุกๆความคิดเห็นไว้มาศึกษาเรียนรู้ต่อเพิ่มครับ.. สาธุครับ

@@pingpongnon คุณใช้คำว่า“ภาวนา” ที่ชื่อว่า“ภาวนา”เพราะมีความหมายและลักษณะและสภาวะว่า ๑. ธรรมทั้งหลายที่เกิดในภาวนานั้นไม่ล่วงเลยกัน ๒. อินทรีย์ทั้งหลายมีรสเป็นอย่างเดียวกัน ๓. นำความเพียรที่สมควรแก่ธรรมนั้นเข้าไป ๔. ปฏิบัติด้วยความสม่ำเสมอ การที่พระพุทธเจ้าของพวกเราทั้งหลายมาตรัสรู้ธรรมได้ ก็ต้องสะสมบารมีมา๔อสงไขยบวกอีกแสนมหากัป ระยะเวลา๑มหากัป ก็เท่ากับโลกถูกทำลายไป๑ครั้ง ทั้งหมดเท่ากับเวลาที่นับไม่ได้๔ครั้งบวกด้วยระยะเวลาที่โลกถูกทำลายไปหนึ่งแสนหน พระธรรมคำสั่งสอนนั้นจึงกว้างใหญ่ไพศาลลึกล้ำลึกซึ้งสุดที่จะพรรณนา เปรียบประดุจมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ถ้ากระโดดลงไปเลยก็มีแต่ตายสถานเดียว จึงต้องสร้างเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่เพื่อแล่นไปจากฝั่งนี้(สังขาร)ไปฝั่งนั้น(นิพพาน) การต่อเรือเพื่อข้ามโอฆะอันกว้างใหญ่นี้ ต้องเริ่มต้นจากการศึกษาพระธรรมวินัยให้จำได้และรู้เข้าใจก่อน หลังจากนั้นก็สำรวมให้เปฃ็นศีลขึ้นมา แล้วอบรมจิตและปัญญา ถ้ายังไม่รู้อะไรเลย แล้วหลับตาภาวนา พุทธโท เลย ก็จมน้ำตายอย่างเดียวครับ

@@pornanant9558 ขอบพระคุณมากๆครับสำหรับข้อความที่แนะนำามาครับผม.. สาธุครับ

@@กิตติศักดิ์รุ่งระวี-ฆ3ด ครับนิพานต้องอาศัยพ่อแม่ครูอาจารย์.. ท่านมาเล่ามาบอกให้เรารับรู้ไว้ก่อนปัจจุบันผมยังฝึกภาวนาแบยตกๆหล่นๆอยู่ครับแค่ไปฟังพระเหล่าให้ฟังก็ปลื่มปิติม่กแล้ว .สาธุครับ

@@hashimaweeraya6809 มีวาสนา​ต่อหลวงพ่อได้รับฟังธรรมของท่าน.. แล้วนำไปปฏิบัติยิ่งมีบารมีในภพรี้ขาตินี้จนถึวที่สุดได้ครับขออนุโมธนาด้วยอีกแรกครับผม