หลักการทั่วไปของ"สติปัฏฐาน" โดย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ปยุตฺโต) 

***ผู้จัดทำ "มือใหม่หลวงพ่อเทียน" กราบขออภัยที่คลิปนี้มีความผิดพลาดในการใช้รูปภาพของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ปยุตฺโต) ที่สลับด้าน*** สำหรับผู้ที่สนใจฝึกฝนเจริญสติ (สติปัฏฐาน) ตามแนวทางของหลวงพ่อเทียน 1. การเริ่มต้นฝึกฝนในแนวทางของหลวงพ่อเทียน หากสะดวกหรือสนใจที่จะได้เรียนรู้โดยตรงกับครูอาจารย์ต่างๆ ก็ลอง search หาใน google ว่าสะดวกจะไปที่ไหน หรือลองดูจาก link นี้ facebook.com/Sanamnai/photos/a.365802240102946.108142.361998700483300/1319466311403196/?type=3 เป็นสถานที่ต่างๆ เพื่อการเรียนรู้ในแนวทางของหลวงพ่อเทียน 2. หรือหากจะเริ่มต้นฝึกฝนโดยดูคลิปต่างๆ จาก channel "มือใหม่หลวงพ่อเทียน" ก็ให้เข้าไปที่ [ส่วนที่ 1] ru-vid.com/group/PL85WQjF_Yosp_X82mqKLaEx2g-cIyvh5f ซึ่งจะรวบรวมประเด็นต่างๆ ที่มือใหม่ควรจะรู้ เราพยายามจัดเรียงลำดับของคลิปไว้ตามหมายเลข เพื่อลำดับความเข้าใจให้มือใหม่ไม่สับสน ไล่ดูไปเรื่อยๆ ตามลำดับที่เรียงไว้ ไม่เกินคลิปหมายเลข 7.8 หรือใกล้เคียงกันนั้น ก็จะเป็นการปูพื้นฐานจนเกือบครบถ้วนแล้ว ส่วนคลิปหลังจากนั้น ก็เป็นการขยายความบ้าง เป็นส่วนเสริมบ้าง หรือเป็นการตอกย้ำบ้าง เพราะฉะนั้น ไม่ได้หมายความว่า "มือใหม่" จะต้องดูคลิปใน [ส่วนที่ 1] จนหมดให้ครบถึงคลิปสุดท้าย แล้วจึงค่อยลงมือเริ่มฝึกฝน ไม่ใช่แบบนั้น!! คือ ดูไปเรื่อยๆ สัก 2-3 คลิป จนเริ่มรู้หลักการคร่าวๆ รู้วิธีฝึกคร่าวๆ แล้วก็เริ่มเอาวิธีการไปลงมือฝึกได้เลย แล้วพอว่างๆ ก็ค่อยๆ มาดูคลิปเพิ่มเติมไปเรื่อยๆ เมื่อพอจะเริ่มเข้าใจวิธีฝึก ก็ให้ลงมือฝึกฝนบ่อยๆ หากมีข้อสงสัยอะไร ก็ทิ้งคำถามไว้ที่ใต้คลิปนั้น เราก็จะพยายามหาคำแนะนำของครูอาจารย์มาช่วยคลี่คลายให้ 3. หรือหากมีเวลาพอสมควร พอที่จะดูคอร์สการบรรยายที่ยาวหน่อยได้ ก็อยากให้ดูการสอนกรรมฐานแบบเข้าใจง่ายใน [ส่วนที่ 2] ru-vid.com/group/PL85WQjF_Yosrqwu1E23iCftSJobZU6sK8 จะช่วยปูพื้นฐานอย่างละเอียด ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

🙏🙏🙏น้อมนมัสการด้วยจิตอันบริสุทธิ

จากคำบรรยายของท่าน.อ.ประยุทธฯ..ผมได้คิดเทคนิกฝึกสติ..สำหรับมือใหม่..โดย..ฝึกยิ้มทั้งจิตใจและใบหน้า.พร้อมกับรู้สึกต้วว่ากำลังยิ้มและมีความสุข..เป็นประจำทุกวัน..วันละสามครั้ง(เช้า..กลางวัน..เย็น).ครั้งละสามนาที..ทำต่อเนื่องประมาณ2-3สัปดาห์..จะรู้สึกว่า.จิตเป็นสุขมากขึ้น..บางครั้งจิตยิ้มขึ้นมาเอง..มีสุขเองโดยอัตโนมัติ..แสดงว่าเราสามารถ.ปรุงแต่งจิตของเราให้เป็นสุขได้..ท่านอ.ประยุทธฯ.ยังกล่าวว่า..การรักษาจิตให้เป็นสุขอยู่เสมอ..เป็นภาวะจิตใกล้.จิตนิพพาน..ครับ..ผมได้ทำแล้ว..ได้ผลครับ.จิตเป็นสุขโดยไม่อาศัยสิ่งภายนอกมากระตุ้น..ใครเชื่อ ก็ลองทำดู.ได้ผลประการใด..โปรดบอกด้วย.ครับ

สาธุ...ครับ

สาธุ สาธุ สาธุ

กราบสาธุ

สาธุค่ะ

ท่านสมเด็จฯเป็นเสาหลักในพระพุทธศาสนา กราบพระนักปราชญ์ผู้ ปรีชาญาณ

3 ก. พ. 66 ฟังธรรมโดยความรู้สึกตัว และ ไม่ปรุงแต่ง สาธุ สาธุ สาธุ ครับ

🙏​🙏​🙏​

กราบสาธุสาธุเจ้าค้าโยมนากราบธรรม

....ตามความเข้าใจส่วนตัว...หลักการของการเจริญสติปัฏฐาน๔ คือ มีสติตามรู้รูปและนาม ให้เห็นความเป็นไตรลักษณ์ (อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา) เป็นเพียงปรากฏการณ์ของเหตุ-ปัจจัย เพื่อการถ่ายถอนความเป็นตัวตน บุคคลเราเขา เมื่อสติตามรู้ทันเมื่อรับกระทบอารมณ์ ถ้ารับอารมณ์โดยมีสติตามรู้ทัน คือ เมื่อกระทบอารมณ์แล้ววางไม่ยึดมั่นปรุงแต่งให้เป็นกิเลส .....พระอรหันต์ มีสติบริบูรณ์ คือ มีสติรู้ทันอารมณ์ทุกทวาร ทุกขณะจิต อารมณ์ที่มากระทบจึงเป็นเพียงปรากฏการณ์ไม่ใช่ตัวตนบุคคล เรา เขา ไม่ใช่ของเรา ของเขา จิตจึงวาง ไม่ยึดไม่ปรุงแต่งเป็นอารมณ์ให้เป็นความโลภ ความโกรธ หรือความหลง

น้อมกราบพระรัตนตรัย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ฯ พร้อมอนุโมทนาสาธุการในบุญกุศลธรรมทานครับ

น้อมกราบด้วยเศียรเกล้า สาธุ สาธุ สาธุ 🙏🙏🙏

น้อมกราบอนุโมทนาสาธุในพระธรรมโอวาท เจ้าค่ะ

ชวลิต ฉวีอังกาบนมัสการพระคุณท่านสาธุ

กราบนมัสการพระคุณเจ้า🙏🙏🙏

กราบสาธุ ขอนอบน้อมบูชาพระรัตนตรัย

การฝึกจิตมิใช่เฉพาะจะรู้แต่จิตตัวเองต้องฝึกให้รู้ถึงจิตของผู้อื่นด้วย จึงนับเข้าใจในจืตที่แท้จริง หลวงพ่อแสง

น้อมกราบสาธๆๆเจ้าค่ะ

“ในทางจิตใจเป็นอนิสิต คือไม่ขึ้นต่อสิ่งใด ไม่ยึดมั่นถือมันสิ่งใดในโลก อันนี้ก็คือลักษณะที่เป็นอิสระนั่นเอง ถ้าคนที่ปฏิบัติสติปัฏฐานได้ถึงขนาดนี้ รู้เข้าใจจิตใจ รู้เข้าใจชีวิตตนเองแล้ว มันอยู่กับตัวเองได้ ซึ่งเป็นปัญหาของยุคปัจุบัน คนจำนวนมากมีปัญหาความว้าเหว่ในจิตใจ ใจพร่อง ใจโหว่ ใจกลวง เมื่อใจกลวง ใจโหว่ ใจว้าเหว่ อ้างว้าง ก็เลยมีภาวะหนีตัวเอง …..อยู่กับตัวเองไม่ได้ ไม่มีความสุข เมื่ออยู่กับตัวเองไม่ได้ก็หนีตัวเอง ไปหวังความสุขจากที่อื่น ไปหาความสุข ต้องขึ้นต่อผู้อื่น ความสุขของตนต้องไปฝากไว้ขึ้นต่อสิ่งภายนอก จะขึ้นต่อคนอื่น ขึ้นต่อสิ่งอื่น ขึ้นต่อรูป รส กลิ่น เสียง อะไรต่างๆ ภายนอก เพราะฉะนั้น คนที่ปฏิบัติตามหลักสติปัฏฐานก็มีลักษณะที่ เมื่อไม่ขึ้นต่อสิ่งใดก็เป็นอิสระ อยู่กับตัวเองได้ เต็มใน ไม่หวังเอาจากใคร ไม่ฝากสุขทุกข์ไว้ที่ไหนๆ แต่มีสุขได้ในตนเองตลอดเวลา หรือในอีกนัยหนึ่ง ท่านบอกว่าไม่ต้องฝากสุขทุกข์ไว้กับตัณหาและทิฐิ คนธรรมดานี่ต้องฝากความสุขทุกข์ไว้กับตัณหาและ ความสุขของเรานี่ขึ้นต่อตัณหา หรือความปรารถนา ปรารถนาสิ่งนู้นสิ่งนี้แล้วก็ไปขวนขวายดิ้นรนทะยานอยากเพื่อให้ได้สิ่งนั้น ถ้าสิ่งนั้นตรงกับค.ปรารถนา ตัณหาก็พาสุขมาให้ ทิฐิ คือค.ยึดมั่นหลงไปตามสมมุติบัญญัติ เราก็ยึดถือมั่นหมายในสมมุตบัญญัติ เป็นสิ่งนั้น เป็นคนนั้น เป็นสิ่งที่เราชอบ อันนั้น อันนี้ ยึดไปตามสมมุตบัญญัติ แล้วสุขทุกข์ของเราก็ฝากไว้กับสมมุติบัญญัติที่เรายึดถือนั่นแหละ มันก็พาเราไป ฉะนั้น ตัณหาและทิฐินี้ จึงเป็นตัวกำกับเราฝากสุขทุกข์ไว้กับตัณหาและทิฐินั้น …พอเรารู้ทันด้วยสติปัฏฐานแล้ว เราสามารถที่จะเป็นอิสระจากตัณหาและทิฐิ มีค.สุขจากการสงบรำงับ ในเมื่อกิเลสเหล่านั้น ค.ร้อนรุ่มภายในต่างๆมันสงบรำงับไป กลับอยู่เป็นสุขสบายด้วยตนเอง ด้วยค.รู้ ด้วยค.เข้าใจ ด้วยญาณ ด้วยสตินี้ สติปัฏฐานเป็นผลอยู่ในตัวพร้อมกับการปฏิบัติไปเลย เกิดสติเกิดญาณนั้น ผลเกิดมาด้วยทันทีในตัว ไม่ต้องรอผล ถ้าเราหวังผลจากตัณหาทิฐินี้ เราจะต้องรอ เราจะต้อถูกทรมานด้วยตัณหาและทิฐินั้นตลอดเวลาจนกว่าเราจะได้สำเร็จสมค.มุ่งหมาย ตอนก่อนนั้นก็ต้องล่อด้วยค.หวัง อยู่ด้วยค.หวัง ฝากค.สุขและค.หวัง รอค.สำเร็จ บางทีก็อยู่ด้วยค.ทรมาน ก็จะไม่สุขไม่สมจนกระทั่งจนได้สำเร็จสิ่งที่ตัณหาและทิฐิวาดภาพไว้ข้างหน้า แต่หากปฏิบัติสติปัฏฐาน ค.สุขเกิดขึ้นพร้อมการปฏิบัตินั้น มีปัญญารู้ทั่วชัดสว่างไสว มีค.สงบมีค…แจ่มใจ สดชื่นเบิกบานอยู่ภายใน ฉะนั้น สติปัฐฏานให้ผลทั้งในแง่ปัญญา คือความรู้ ค.เข้าใจตามค.เป็นจริง แม้แต่ในชีวิตประจำวันที่รับรู้ข้อมูลเข้ามา เป็นข้อมูลที่สำหรับปัญญาและสติจะใช้ประโยชน์ จิตใจนั้น เมื่อมีสติกำกับอยู่ มีปัญญารู้เท่าทัน ก็ไม่มีกิเลสเข้ามาทำให้ขุ่นมันเศร้าหมอง หรือเป็นจิตใจที่สกปรก ที่ชัดเจนก็คือค.เป็นอิสระ อยู่ลำพังจิตใจก็มีค.สุข มีอิสระด้วยค.รู้แจ้งเข้าใจค.จริง ไม่ขึ้นต่อปัจจัยภายนอกที่จะมีค.สุข หรือว่าค.สุขของตนไม่ต้องขึ้นต่อสิ่งภายนอก ก็เลยเป็นการพ้นปัญหา เป็นการไร้ทุกข์ มีสภาพจิตที่โปล่งเบา ผ่อนคลาย สงบ สดชื่น ผ่องใส เบิกบานได้ ถ้าปฏิบัติตลอดเวลา ภาวะจิตนี้ก็มีอยู่ได้ตลอดเวลาเช่นเดียวกัน ถ้าคนที่มีสติปัฏฐาน ปฏิบัติอย่างนี้เป็นฐานอยู่แล้ว ไปดำรงชีวิตอยู่ในโลก แม้จะไปได้รับอันตรายหรือโทษจากเรื่องตัณทิฐิของตนเอง ซึ่งเรายังเป็นปุถุชน เราก็ยังมีที่พักพิง คือเวลาไหนที่มันเบียดเบียนเรา จากปัญหาเหล่านั้น จากกิเลสวุ่นวาย เราก็มาพักด้วยสติปัฏฐานนี้" สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป. อ. ปยุตฺโต) ที่มา ru-vid.com/video/%D0%B2%D0%B8%D0%B4%D0%B5%D0%BE-Vu1Wt3RvjXo.html

นะน้อมจิตกราบอนุโมทนาสาธุในธรรม สาธุสาธุสาธุ

🙏🏼🌸 น้อมกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ เจ้าค่ะ 🙏🏼💫 สวัสดีค่ะทีมงาน และญาติธรรม 🙏🏼💞 น้อมอนุโมทนาบุญ และขอแบ่งปันนะเจ้าคะ (คะ) ✨ขอน้อมจิตอธิษฐาน ให้ชาวโลกทั้งสาม มีสันติธรรม สู่ สุข ปราศจาคโรคภัยไข้เจ็บ ความยากจน และ การทะเลาะ วิวาทบาทหมาง ให้ทุกมิติทั่วทั้งจักรวาลได้รับฟังธรรมะจากครูบาอาจารย์ ที่พระคุณเจ้า ญาติธรรม และ โยม (ดิฉัน) ได้แชร์วน และต่อไป สาธุ ✨ ขอญาติธรรม พ้นจาก วงจร การเกิด ดับ ทุกประการ ไปนิพพาน สุขสันต์นิรันดร์ เทอญ

กราบสาธุๆๆค่ะ

ขอนอบน้อมกราบสักการะองค์สมเด็จ น้อมสักการะหลวงพ่อครับ สาธุมงคลธรรมมงคลชีวิตรับผม

กราบสาธุเจ้าค่ะ🙏🙏🙏

กราบพระอาจารครับ หลับตาฟังรู้ ลืมตาเห็นครับ สาธุ สาธุ

สาทุ🙏🙏🙏

กราบนมัสการสาธุๆๆครับ

ชัดเจนมากครับ เหมาะสำหรับผู้ฝึกจิตมากครับ

อนุโมทนา สาธุค่ะ

กราบสาธุ พระคุณเจ้า🙏🙏🙏🙏🙏,จะต้องทำให้ได้เจ้าค่ะ💪💪💪💪💪💪💪😊😊😊😊😊💐💐💐💐💐💐💐💐

❤ ❤ สาธุ

สาธุ​สาธุ​สาธุ​โมทนา​ครับ​

สาธุในธรรมค่ะ

สาธุ ขอรับ

สาธุ ค่ะ ฟังท่าน สาธยายแล้ว เข้าใจง่าย..เป็นขั้นเป็นตอน

กราบอนุโมทนาสาธุครับ

ขออนุโมทนา สาธุ พระธรรมคำสอนครับ สาธุ สาธุ สาธุ

🙏🙏🙏

❤❤❤

กราบสาธุเจ้าค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ.

กราบอนุโมทนาบุญค่ะ

กราบอนุโมทนา

กราบสาธุ เจ้าค่ะ

🙏🏻🙏🏻🙏🏻

สาธุๆๆๆพระรัตนตรัย

สาธุๆ

ชัดเจนเขาใจดี... ส่วนมากใช้แต่บาลีทำให้เข้าใจยาก...

อนุโมทนาสาธุครับ

กราบสาธุค่ะ

กราบขอบคุณคะ

ดีีๆๆ

กราบสาธุสาธุบูชาธรรมอันประเสริฐแรง

นะโมตัสสะ

❤จะมีสติอยู่ตลอดเวลาคงยากจิตดิ้นไปตลอดย้งกว่าลิง🎉🎉🎉

กราบสาธุในธรรมเทศนาของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯครับ🙏🙏

น้อมกราบนมัสการหลวงพ่อสมเด็จเจ้าค่ะ

นานานารึผู้ติดตามสาธุสาธุ

กายในกาย คือ อะไรครับ

โฆษณาเยอะไปพึ่ .จะรีบรวยไปไหน ฟังไม่รู้เรื่องเลยหากินกับธรรมะ

🙏🙏🙏🙇‍♂

กราบสาธุ

สาธุค่ะ

🙏🙏🙏

สาธุค่ะ

กราบสาธุ