อุตสาหกรรมผ้าไทย ยังไปต่อในเวทีโลกได้หรือไม่ ? | ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง 

ขออภัยสำหรับการออกไม่เสียงไม่ชัดในบางช่วงของทีน่านะคะ เนื่องจากกำลังอยู่ระหว่างการรักษาด้านทันตกรรมค่ะ เร่งฝึกฝนให้กลับมาปกติโดยไวนะคะ ขอบพระคุณสำหรับการติดตามค่ะ...🙏🙏

อยากเสนอ ให้ทำการวิจัยและพัฒนาเพื่อผลิตเครื่องทอผ้าค่ะ เอาเครื่องทอผ้ามาแทนที่แรงงานคนค่ะ ทำงบให้อยู่เครื่องละไม่เกิน 70,000-90,000 บาท โดยเป็นเครื่องทอ ขนาดสำหรับธุรกิจครอบครัวที่ ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์โดยโหลดเอาลายผ้าเพื่อทอตามรูปแบบ ออกแบบเครื่องทอที่สามารถใส่ด้ายจำนวน 10 สี (ยิ่งมากยิ่งดี) แต่ 10 สีคิดว่าเหลือเฟือสำหรับกาทอผ้า 1 ผืน. หรือจะทำแบบยิ่งสามารถทอได้หลายสี ราคาเครื่องทอก็จะสูงขึ้นก็ได้ค่ะ และอยากจะเสนอให้ทำวิจัยเครื่องย้อมสีเส้นใยผ้าค่ะ โดยหลักการควบคุมเช่นเดียวกัน คือใช้คอมพิวเตอร์ มีการตวงสีที่ได้มาตรฐาน การผสมสีที่อุณหภูมิควบคุมคงที่ ถ้าผลิตเครื่องทั้งสองรวมกัน ให้ได้ราคาที่ไม่เกิน 120,000 บาท. แล้วทำโครงการ่วมกับ ธนาคารเพื่อการเกษตร เพื่อให้โอกาสในการกู้ยืมเงินมาลงทุน. แบบนี้ มันจะช่วยยกระดับการผลิต และเสริมความพร้อมหากมีการเพิ่มออเดอร์ ปรึกษาฝ่ายวิศวะและไอทีดูค่ะ คิดว่าเค้าทำได้ ถ้าสามารถทำเนื้อผ้าไหมให้ นุ่ม ลื่น และไม่หดตัว คิดว่าน่าจะเพิ่มยอดขายได้หลายเท่า ทำเครื่องทอผ้า ระดับธุรกิจครอบครัวค่ะ แบบนี้ดี เรามีหน่วยวิจัยผลิต สแตนแลสมั้ย? ถ้าใช้สแตนแลส + พลาสติดอย่างดี (แบบทำจักรเย็บผ้า) + ระบบควบคุมคอมพิวเตอร์. ศึกษาวิจัยเส้นใยขนาดต่าวๆ เพื่อที่จะได้เครื่องทอผ้าที่ปรับทอขนาดเส้นใยที่มีขนาดต่างกันได้ ไม่ใช่ทำมาเพื่อทอเส้นไหมอย่างเดียว. คือทำแล้วจบ ไม่ต้องกลัวล้าสมัย หรือตกรุ่น

มันแพ้ตั้งแต่ค่าแรง 300 บาทแล้ว

เป็นกำลังใจให้คุณจีร่านะครัล

ผ้าไทยของเรามีเอกลักษณ์ ถ้าพัฒนา ดีไซน์และสามารถทำให้เป็นที่นิยมได้ ก็น่าจะต่อยอดให้เป็นแฟชั่นระดับสูงได้

เราไม่ควรไปสนใจอุสาหกรรม fast fashion ที่เขามองหาแค่แรงงานราคาถูกไร้ฝีมือ เราควรสร้างแบรนด์ไฮเอน มีแบรนด์ของตัวเอง

😊🪄🪙🙏🏽

🥰🇹🇭